ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2174 เลือกกลุ่มที่สอง
ในเวลานี้ มีการแจ้งเตือนของการแข่งขันปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
“หากคู่ต่อสู้ที่พ่ายแพ้ยอมเข้าร่วมกลุ่มอย่างสมัครใจ จะสามารถเปลี่ยนเพื่อนร่วมกลุ่มได้!”
เมื่อกำจัดคนที่อ่อนแอให้ตกรอบไป และเปลี่ยนเพื่อนรวมกลุ่มเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่า ก็จะยิ่งทำให้กลุ่มแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก
ฉินกังกล่าวว่า “มู่เฉินซี ยะ…อย่า…”
“ถึงอย่างไรข้าก็เป็นถึงหนึ่งในสิบอัจฉริยะของดินแดนทางทิศเหนือ ทั้งยังเป็นอัจฉริยะผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดคนหนึ่ง ข้าเก่งกาจกว่าเจ้าพวกคนธรรมดาที่เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับแปดทั้งสองคนรวมกันเสียอีก! เจ้าลองพิจารณาถึงการเปลี่ยนคนดูหน่อยสิ เมื่อถึงเวลานั้นอยากจะกวาดล้างกลุ่มอื่นอีกสองกลุ่มก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว!” ฉินกังกล่าวอย่างรีบร้อน
ฉัวะ ฉัวะ!
มีดวายุทิ้งรอยแผลลึกไว้บนที่ต้นขาของเขา จนทำให้เลือดสด ๆ พุ่งกระฉูดออกมา
ตึงง!
ฉินกังที่ไม่อาจยืนอย่างมั่นคงได้อีกต่อไป พลันล้มลงไปบนพื้นทันที
“คนฉลาดไม่ควรที่จะพูดจาไม่ดีกับเพื่อนของข้าที่นี่ นอกจากนี้คนธรรมดาหรือ? ตอนที่เจ้าอายุเท่าพวกเขา เจ้าน่าจะยังไม่มีความสามารถเช่นนี้เลยกระมัง? แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงได้มาพูดเช่นนี้กับพวกเขา” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“เจ้าลองดูให้ดี ๆ แม้ว่าจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับแปด แต่ก็สามารถเอาชนะศิษย์น้องของเจ้าคนนั้นได้ก็แล้วกัน”
มู่เฉียนซีมีความมั่นใจและปกป้องพวกเขา ซึ่งนี่ก็ทำให้เกิดความอบอุ่นขึ้นในหัวใจของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่าพวกเขาจะแยกจากกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาก็รู้ว่านางก็ยังคงเป็นนาง ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
กระบวนท่าของไป๋จิ่งเยว่และชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นรุนแรงมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าพวกเขาไม่อาจทำให้นางต้องผิดหวัง และจะไม่ปล่อยให้ผู้ใดมาดูถูกพวกเขาได้อีก
ฉัวะ!
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าผู้นั้นล้มฟุบลงไปบนพื้นทันที
ฉินกังแผดเสียงดังลั่น “ไอ้คนไร้ประโยชน์! แค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับแปดสองคนก็ยังสู้ไม่ได้เลย”
ความแตกต่างของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตเพียงระดับเดียว ก็มีพลังที่แตกต่างกันอย่างมากแล้ว และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเอาจำนวนคนมาชดเชยได้อีกด้วย
ถึงอย่างไรก็ตามศิษย์น้องของฉินกังก็ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว เขานั้นได้พ่ายแพ้ให้กับประสบการณ์ในการต่อสู้และความเชี่ยวชาญในการใช้ทักษะวิญญาณ ซึ่งในด้านเหล่านี้พวกเขาทั้งสองมีมากกว่าอัจฉริยะระดับเก้าผู้นี้เสียอีก
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่ฉินกังแล้วกล่าวว่า “เพื่อนในกลุ่มของเจ้าต่างก็ไปกันหมดแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ควรไปได้แล้วเช่นกัน!”
ฉินกังถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยพลังธาตุวายุอันบ้าคลั่ง และหลังจากที่กรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา เขาก็ถูกส่งออกไปทันที
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไปกันเถอะ! ยังต้องจัดการอีกสองกลุ่ม! ไปหาเหยื่อรายต่อไปกัน!”
มู่เฉียนซีถูกเสียงของการต่อสู้ดึงดูดให้เข้าไป และก็พลันเห็นว่าข้างหน้านั้นมีกลุ่มสองกลุ่มกำลังต่อสู้กันอยู่
“มารวมตัวกันอยู่สองกลุ่มพอดี หากจัดการพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน คงประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว!”
ทั้งสองกลุ่มพึ่งจะมาเผชิญหน้า และเริ่มต่อสู้กัน แน่นอนว่าจะต้องตัดสินผู้ชนะ ด้วยการทำให้อีกฝ่ายตกรอบไปอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มดุเดือดขึ้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า “จะรังเกียจหรือไม่ หากจะเพิ่มเข้าไปอีกสักกลุ่มหนึ่ง”
“เพิ่มเข้ามาอีกกลุ่มอย่างนั้นรึ เจ้าหมายความว่าอย่างไร? คิดอยากที่จะฉวยประโยชน์จากการที่คนทะเลาะกันราวเฒ่าประมงได้กำไรอย่างหรือ?” พวกเขาเตรียมการป้องกันขณะที่มองไปยังกลุ่มที่กำลังใกล้เข้ามา
“ความหมายของข้าก็คือ ให้พวกเจ้าทั้งสองกลุ่มเข้ามาสู้พร้อมกันเลยอย่างไรเล่า” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“สู้พร้อมกัน แบบสองต่อหนึ่ง เจ้าแน่ใจหรือ!?”
“ใช่แล้ว! หากพวกเจ้าทั้งสองกลุ่มเอาชนะพวกเราได้ หลังจากนั้นพวกเจ้าก็ตัดสินแพ้ชนะกันเอง เมื่อถึงตอนนี้ก็ถือว่าจัดการได้ไปถึงสองกลุ่มเลยมิใช่หรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวกับพวกเขา
นี่ก็ถือว่าไม่เลวเช่นกัน
พวกเขากล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าจะมั่นใจในความสามารถของตนเองมากเลยสินะ! เช่นนั้นก็ให้พวกเราได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของกลุ่มเด็กน้อยของพวกเจ้าหน่อยก็เถอะ! โจมตีได้!”
“ข้าจะช่วยให้พวกเจ้าสมความปรารถนาเอง!”
ผลปรากฏว่าทันทีที่ปะทะฝีมือ พวกเขาก็รู้สึกว่าคนกลุ่มนี้ช่างมีความแตกต่างกันอย่างมากจริง ๆ
พวกเขามีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุด แล้วยังมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดอีกด้วย ด้วยความแตกต่างที่มากเกินไปนี้ ไม่รู้เลยว่าพวกเขามารวมตัวกันได้อย่างไร?
ตูมมม!
มู่เฉียนซีเผชิญหน้ากับกลุ่มแรก ส่วนจางหยวนก็เผชิญหน้ากับกลุ่มที่สอง ไป๋จิ่งเยว่และชิงเสวียนป้องกันตนเอง และเจี้ยนเจี้ยนก็มีหน้าที่ลอบโจมตีทุกครั้งที่มีโอกาส
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!” มู่เฉียนซีเริ่มลงมือแล้ว
ตูมมม!
หากไม่เริ่มต่อสู้ก็คงไม่รู้ แต่ทันทีที่เริ่มต่อสู้ พวกเขาถึงได้รู้ว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดผู้นี้กล้าหาญมากเพียงใด
“จอมภูตพลังธาตุวายุ อีกทั้งพลังในการต่อสู้ที่ก้าวกระโดดอย่างวิปลาส ศิษย์พี่ นางก็คือมู่เฉินซี!”
“โอ้! ข้าไม่ได้สนใจที่จะเข้าร่วมงานแข่งขันอัจฉริยะครั้งยิ่งใหญ่ของดินแดนทางทิศใต้เลยด้วยซ้ำ จึงไม่เคยปะทะฝีมือกับเจ้ามาก่อน ฉะนั้นคราวนี้มาทำให้ข้าดูหน่อยเถอะว่า อัจฉริยะอันดับหนึ่งของดินแดนทางทิศใต้อย่างเจ้า จะยอดเยี่ยมมากเพียงใด!”
และอีกทางด้านหนึ่ง หลังจากที่คนจากกลุ่มที่สองได้ปะทะฝีมือกับจางหยวนแล้วจึงกล่าวขึ้นมาว่า “ที่แท้เจ้าก็คือจางหยวนหนึ่งในสิบอัจฉริยะของดินแดนทางทิศเหนือนี่เอง ข้าไม่เคยสนใจชื่อเสียงจอมปลอมที่ดูพิเศษกว่าผู้อื่นเช่นนี้เลย แต่ในเมื่อวันนี้ได้มาเจอแล้ว เช่นนั้นก็ทำให้ข้าได้รับรู้ถึงความสามารถของสิบอัจฉริยะหน่อยเถิด! ”
พวกเขาต่างก็เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดกันแล้วทั้งนั้น บวกกับการที่มีผู้ช่วยคนอื่น ๆ ก็ยิ่งทำให้การต่อสู้กับพวกเขาทั้งสองคน ถือได้ว่าเหลือเฟือเลยทีเดียว!
ตูมมม!
และการต่อสู้ระหว่างทั้งสามกลุ่มก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ตูมมม โครมมม!
“พลังวายุทำลาย จันทราหนาวเหน็บ!”
“ทักษะซิวหลัว!”
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีอันแข็งแกร่งที่ติดต่อกันของมู่เฉียนซี โจวชิ่งซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มที่หนึ่งก็รีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว และกล่าวด้วยความตกใจว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าความสามารถของเจ้าจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้”
ชื่อเสียงของมู่เฉินซีโด่งดังมากในดินแดนทางทิศใต้ และตอนแรกนางก็เป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดเท่านั้น แต่ทว่าในตอนนี้กลับเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดแล้ว
ด้วยพลังการต่อสู้แบบก้าวกระโดดถึงหนึ่งขั้นของนาง ทำให้กล่าวได้ว่านางสามารถต่อสู้กับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดได้แล้วนั่นเอง
แต่โจวชิ่งรู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้สามารถต่อสู้กับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดทั่วไปได้เท่านั้น หากคิดจะจัดการเขา มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย!
ความสามารถในการต่อสู้แบบก้าวกระโดดของนางถูกผู้คนยกย่องว่ายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก แต่ระดับความสามารถที่มั่นคงต่างหาก ถึงจะถือว่าเป็นพื้นฐานของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นจอมภูต
ในที่สุดเขาก็หาโอกาสได้แล้ว และทันทีที่โจวชิ่งออกกระบวนท่า กระบี่ก็เหวี่ยงไปทางมู่เฉียนซีในทันที
“คมกระบี่พิฆาต!”
แต่ทว่าในตอนที่กระบี่กำลังจะสัมผัสลงบนร่างกายของมู่เฉียนซี เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่านางจะหายไปเสียแล้ว
“แย่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะฟันได้แค่ภาพลวงตาเท่านั้น ช่างรวดเร็วเหลือเกิน”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก และอันตรายก็กำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว
“ศิษย์พี่ ระวัง!”
“ทักษะซิวหลัว!”
ปัง!
โชคดีที่ศิษย์น้องของเขาพุ่งออกมาขวางการโจมตีนี้เอาไว้ มันจึงทำให้คราวนี้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
เพียงแต่ศิษย์น้องของเขาผู้นั้น แน่นอนว่าต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสจนตกรอบไปอยู่แล้ว
“บัดซบเอ้ย!” โจวชิ่งกล่าวอย่างโกรธเคือง จากห้าคนตอนนี้เหลือเพียงแค่สี่คนแล้ว
หนึ่งในนั้นได้ง้างธนูออกมา และจากนั้นลูกธนูทั้งห้าลูก ก็ยิงมาทางมู่เฉียนซี
เจี้ยนเจี้ยนกันฟันกล่าวว่า “เป็นเพียงแค่มือธนูคนหนึ่งกล้ามาลอบโจมตีลูกพี่มู่ คอยดูข้าเถอะ!”
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือด แต่เนื่องจากว่าความเร็วของมู่เฉียนซีนั้นเร็วพอ จึงทำให้โจวชิ่งและคนอีกสองสามคนไม่สามารถแตะต้องตัวนางได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ถูกมู่เฉียนซีจัดการไปแล้วสองคน และถูกเจี้ยนเจี้ยนลอบโจมตีอีกหนึ่งคน นอกจากนี้ยังติดพันอยู่กับชิงเสวียนอีกหนึ่งคน ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือแค่เขาที่ต้องต่อสู้กับมู่เฉียนซีเพียงลำพัง ซึ่งมันก็ทำให้เหงื่อเม็ดใหญ่ที่ผุดขึ้นมาบนหน้าผากของเขาไหลรินราวกับสายน้ำอย่างไรอย่างนั้น
โจวชิ่งกล่าวว่า “มู่เฉินซี ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นคนออกมาจากทางดินแดนทางทิศใต้ แต่ความสามารถของอัจฉริยะจากดินแดนทางทิศใต้นั้นอ่อนแอเกินไป หากว่าเจ้าจัดการข้าไปแล้ว เกรงว่าสถานการณ์ของดินแดนทางทิศใต้จะไม่ค่อยดีนัก เจ้าแน่ใจว่าจะทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ หรือ?”
“ขะ…ข้าสามารถเข้ากลุ่มเจ้าได้หรือไม่?”
“ข้าจำเป็นที่จะต้องเอาเจ้าเข้ามาทำอะไร? หากจัดการพวกเจ้าทั้งสองกลุ่มได้แล้ว ข้าก็สามารถผ่านด่านไปได้ อีกทั้งเจ้าที่ไม่อยากตกรอบ กลับทำเย่อหยิ่งใส่ดินแดนทางทิศใต้ เช่นนั้นก็ขอโทษด้วย แต่ข้าไม่ซื้อมันหรอก!” มุมปากของมู่เฉียนซีแสยะยิ้มเย็นชาขึ้นมาเล็กน้อย และลงมืออย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
ความเร็วในการโจมตีของพลังธาตุวายุนั้นรวดเร็วมาก และยากที่เขาจะสามารถหลบได้พ้น ฉะนั้นร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บของเขาจึงถูกย้อมด้วยไปด้วยสีแดง
“ข้าจะสู้กับเจ้าเอง!” เขาแสร้งทำเป็นจะโจมตีเข้าใส่มู่เฉียนซี แต่ผลสุดท้ายกลับพุ่งทะยานไปหาไป๋จิ่งเยว่แทน