ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2171 หนึ่งในสิบอัจฉริยะ
ที่เขาทำท่าประหลาดใจถึงขนาดนั้น ก็เป็นเพราะคนชุดดำที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ คนชุดดำผู้นี้ก็คือ…คือ…
มู่เฉียนซีมองตามไปเช่นกัน จากนั้นนางก็ได้เห็นชายที่สวมชุดคลุมสีดำสนิททั้งตัวคนหนึ่ง
เจี้ยนเจี้ยนกล่าวว่า “ลูกพี่มู่ ท่านนี่โชคดีจริง ๆ ท่านได้พบเขาแล้วล่ะ! คนผู้นี้ก็คืออันธพาลจางหยวนที่เป็นหนึ่งในสิบอัจฉริยะขอรับ”
“ในสนามแข่งขันแห่งนี้ ข้ายังไม่เคยพบเจอผู้ใดที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ได้เลย เจ้าสามารถเอาชนะคนเหล่านั้นได้ แสดงว่าเจ้ามีความสามารถที่ใช้ได้ทีเดียว หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ลงมืออย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาดทันที
แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแรงโน้มถ่วงเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าเช่นนี้ แต่เขาใช้เวลาไม่ถึงอึดใจ ก็สามารถเข้ามาใกล้กับมู่เฉียนซีได้แล้ว
หมัดที่เต็มไปด้วยพลังระเบิดอันรุนแรงได้พุ่งตรงเข้าจู่โจมมู่เฉียนซีในทันที
สมกับที่เป็นหนึ่งในสิบอัจฉริยะ พลังเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนสองกลุ่มก่อนหน้านี้จะสามารถเทียบเคียงได้เลย
มู่เฉียนซีกางพัดวิหคเฟิงหลิงออก จากนั้นพลังวิญญาณธาตุวายุก็รวมเข้าด้วยกัน
ทันใดนั้นพลังของสายลมที่รุนแรงพอจะฉีกทึ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ก็พุ่งเข้าใส่หมัดวายุของจางหยวน
ตูมมมม!
เมื่อพลังทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวก็ดังกึกก้องขึ้นมา พร้อมกับหิมะสีขาวที่ปลิวว่อนไปทั้ว ก่อนที่ทั้งสองคนจะถอยหลังออกไปพร้อมกัน
การปะทะกันครั้งแรกของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดคนหนึ่ง กับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดคนหนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะออกมาเสมอกันเช่นนี้
จางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวอย่างตรงประเด็นว่า “เจ้าแข็งแกร่งมากจริง ๆ”
แน่นอนว่าหลังจากนั้นจางหยวนก็เคลื่อนไหวอย่างจริงจัง และเพิ่มความเร็วในการโจมตีให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
“หมัดระเบิดอสนีบาต!”
และคราวนี้ เขาได้ใส่พลังทั้งหมดเข้าไปอย่างเต็มที่
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
มู่เฉียนซีกางพัดวิหคเฟิงหลิงออกมาอย่างกะทันหัน จากนั้นพัดวิหคเฟิงหลิงก็ได้ระเบิดพลังธาตุวายุอันทรงพลังจู่โจมศัตรู
ปัง ปัง ปัง!
สถานที่แห่งนี้แม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับทั่วไปยังย่างก้าวได้อย่างยากลำบาก แต่ทั้งสองคนกลับสามารถต่อสู้กันได้อย่างดุเดือดและรวดเร็วเป็นอย่างมาก
เจี้ยนเจี้ยนมองอย่างตกตะลึงพลางกล่าวว่า “นี่สิถึงเรียกว่าอัจฉริยะระดับแนวหน้า กว่าจะบุกทะลวงไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศนั้นยากลำบากมาก ดูเหมือนว่าข้าจะต้องกอดต้นขานั่นเอาไว้ให้มั่นถึงจะสามารถรอดไปได้ในแต่ละรอบ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดหูเปิดตาได้มากขึ้นด้วย”
ตูมมม โครมมม!
การต่อสู้ยิ่งดุเดือดมาขึ้นเรื่อย ๆ ทักษะหมัดของจางหยวนนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก แต่มู่เฉียนซีก็ใช้พลังธาตุวายุที่อ่อนพลิ้วเพื่อพิชิตความแข็งกระด้างนั้น
นางผลัดกันโจมตีกับจางหยวน และแรงระเบิดที่รุนแรงระลอกแล้วระลอกเล่าออกมา มันจึงทำให้ตอนนี้แขนของมู่เฉียนซีรู้สึกชาขึ้นมาเล็กน้อย
แน่นอนว่าทางจางหยวนก็ไม่ได้รู้สึกสบายเช่นกัน เพราะบนร่างกายมีบาดแผลที่เกิดจากพลังธาตุวายุอยู่นับไม่ถ้วนเลยทีเดียว
ยิ่งต่อสู้เขาก็ยิ่งตื่นเต้น ผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ต่างหากถึงจะเหมาะสมที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา
เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เข้ามาอีกสิ!”
ตูมมม โครมมม!
ด้วยพลังในการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสอง ที่ต่อสู้อยู่ตรงนี้มาเป็นเวลานาน จึงเป็นการดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาจำนวนไม่น้อยเลย
พวกเขาเหล่านี้มีความคิดว่าในเมื่อยอดฝีมือต่อสู้กันขึ้นมา ก็มีแต่เฒ่าประมงได้กำไร ฉะนั้นพวกเขาจึงได้มุ่งหน้ามาประสมโรงด้วย
หากผู้แข็งแกร่งทั้งสองต่อสู้กันจนบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่แล้วละก็ บางทีพวกเขาอาจจะสามารถจัดการผู้แข็งแกร่งทั้งสองนี้ไปพร้อมกันเลยก็เป็นได้
หากเป็นเช่นนี้แล้วละก็ ในการแข่งขันต่อไปหลังจากนี้ พวกเขาจะลดผู้ที่แข็งแกร่งลงไปได้ถึงสองคนเลยทีเดียว
ในตอนที่พวกเขามาถึง ทุกคนต่างก็พากันตกตะลึงไม่น้อย “นั่นคือจางหยวน นี่เขาเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
“คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอะไรกัน เจ้ามองผิดไปแล้วล่ะ! นั่นมันแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดเองนะ”
“ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดหรือ เหตุใดถึงสามารถต่อสู้กับจางหยวนได้อย่างสูสีเช่นนี้ล่ะ! นี่มันจะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว”
ในเวลานี้ มีใครบางคนกระซิบกระซาบขึ้นมาว่า “ความสามารถระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูต อีกทั้งยังมีพลังในการต่อสู้อย่างก้าวกระโดดถึงหนึ่งขั้น ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ว่าเป็น…”
“ศิษย์พี่ ข้าว่าท่านทายไม่ผิดหรอก คนผู้นี้ก็คือมู่เฉินซีจริง ๆ!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เดิมทีคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่นางจะมาปรากฏตัวอยู่ในสนามแข่งขันของดินแดนทางทิศเหนือได้ คิดไม่ถึงเลยว่าไม่เพียงแต่นางจะปรากฏตัวขึ้นมาเท่านั้น แต่ยังต่อสู้อยู่กับจางหยวนอยู่ที่นี่ได้นานถึงขนาดนี้อีกด้วย ซึ่งมันทำให้เราได้รับประโยชน์ได้พอดี”
“ศิษย์พี่ หากมู่เฉินซีพ่ายแพ้ให้กับจางหยวนและตกรอบไปจะทำอย่างไรเล่าขอรับ?”
มีน้ำเสียงที่มืดมนดังขึ้นมา “แน่นอนว่าก่อนที่นางจะพ่ายแพ้ พวกเราจะต้องช่วยนางออกมาจากเงื้อมมือของจางหยวนให้ได้ก่อน หลังจากนั้นค่อย…”
อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่ทันได้รอจนกระทั่งมู่เฉินซีใกล้พ่ายแพ้ให้กับจางหยวน แต่พวกเขากลับได้เห็นจางหยวนตกอยู่ในอันตรายแทน
“ทักษะซิวหลัว!”
ภายใต้การจู่โจมของทักษะที่รวดเร็วของมู่เฉียนซี ก็ได้ทำให้ร่างของจางหยวนก็ลอยกระเด็นออกไป
พลังของทักษะนี้น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกว่าเลือดลมทั่วทั้งร่างกำลังไหลย้อนกลับเลยทีเดียว
แต่มู่เฉียนซีก็ไม่ให้โอกาสเขาได้พักหายใจ และเริ่มลงมืออีกครั้งทันที
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
พลังธาตุวายุพัดโหมกระหน่ำเข้ามา และคราวนี้ทำให้จางหยวนหมดหนทางที่จะหลบหลีกได้เลย
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
จางหยวนในเวลานี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะจากการยืนหยัดที่จะสกัดกั้นการโจมตีนี้เอาไว้
และแม้แต่ต้นคอของเขาก็มีบาดแผลด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่ก็ทำให้จางหยวนตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง
หากอีกฝ่ายใช้แรงเพิ่มขึ้นอีกสักสองสามส่วน คาดว่าศรีษะของเขาต้องตกลงไปอยู่บนพื้นแล้วเป็นแน่
จางหยวนผงะไปเล็กน้อย นี่อีกฝ่ายออมมือให้อย่างนั้นสินะ
“ศิษย์พี่ คิดไม่ถึงเลยว่ามู่เฉินซีจะชนะแล้ว? ชะ…เช่นนั้นพวกเรายังต้องลงมือหรือไม่?”
“แน่นอนว่าต้องลงมืออยู่แล้ว ถึงจะดูเหมือนว่ามู่เฉินซีชนะแล้ว แต่นางต่อสู้มานานขนาดนี้ พลังวิญญาณของนางก็น่าจะถูกผลาญไปจนหมดแล้ว แม้จะเป็นลูกธนูที่สุดแรงจะบินแล้ว แต่ก็ไม่อาจพลาดโอกาสเช่นนี้ไปได้ ลงมือเดี๋ยวนี้!”
พวกเขาไม่ต้องการให้มู่เฉินซีได้พักเพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณของตนเอง ฉะนั้นพวกเขาจึงลงมืออย่างรวดเร็ว
เจี้ยนเจี้ยนกล่าวว่า “นั่นคือฉินกัง เขาก็เป็นหนึ่งในสิบอัจฉริยะเช่นกัน!”
เมื่อเห็นว่าฉินกังลงมือ ก็มีคนมากมายรีบพุ่งทะยานเข้าไปด้วย เพื่อเตรียมที่จะฉวยโอกาสในช่วงที่ชุลมุนเช่นกัน แน่นอนว่าก็ยังมีคนบางส่วนที่รู้สึกว่ารอดูสถานการณ์ไปก่อนจะดีกว่า เพราะพลังในการต่อสู้ของมู่เฉินซีนั้นค่อนข้างน่าสะพรึงกลัวเลยทีเดียว
ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังถูกล้อมโจมตีอยู่นั้น นางก็ดื่มยาน้ำเพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณไปด้วย และหลบหลีกการโจมตีไปด้วย
หนึ่งขวด สองขวด…
พวกเขาผงะไปครู่หนึ่ง ความจริงแล้วนั่นคือยาน้ำ หรือว่าน้ำเปล่ากันแน่?
การฟื้นฟูพลังวิญญาณที่รวดเร็วถึงเพียงนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ผู้ใดก็สามารถที่จะทำมันได้
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“แย่แล้ว! คิดไม่ถึงเลยว่ามู่เฉินซีจะฟื้นฟูพลังได้เร็วถึงเพียงนี้” มีใครบางคนกล่าวขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ฟื้นฟูแล้วทำไมล่ะ? คิดว่าพวกเรามากมายขนาดนี้เป็นคนอ่อนแออย่างนั้นหรือ? ขวางนางเอาไว้!”
ปัง ปัง ปัง!
ในตอนที่พวกเขากำลังปะทะฝีมือกัน จางหยวนก็ลุกขึ้นมาได้แล้ว
ชายผู้นี้ก็เป็นคนที่แข็งแกร่งมากเช่นกัน เขากินยารักษาบาดแผลและเข้าสู่สนามรบเพื่อร่วมการต่อสู้อีกครั้งทันที
พวกเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เพราะคิดว่าจางหยวนจะมาช่วยพวกเขาในการจัดการกับมู่เฉินซี แต่ผลสุดท้ายหมัดของจางหยวนกลับพุ่งตรงมาทางพวกเขาแทน!
ปัง ปัง ปัง!
ทันทีที่หมัดถูกปล่อยออกไป ก็ทำให้หลายคนถูกโจมตีจนลอยละลิ่วไปไกลในทันที
พวกเขากล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “จางหยวน นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร? พวกเรากำลังช่วยเจ้าแก้แค้น แต่เจ้ากลับตอบแทนคุณด้วยความแค้น และมาลงมือกับพวกเราเช่นนี้อย่างนั้นหรือ?”
จางหยวนแสยะยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้าจางหยวนไม่ได้เป็นคนโง่ ข้ากับพวกเข้าไม่ได้สนิทสนมกัน พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรมาบอกว่าจะแก้แค้นให้ข้า ช่างน่าขันนัก! นี่คือคู่ต่อสู้ของข้า ยังไม่ถึงคราวให้พวกเจ้ามากมายมารังแกนางจนตกรอบไปเช่นนี้”
เจ้าคนโง่นี่! คิดไม่ถึงเลยว่าจะช่วยมู่เฉินซี พวกเขาได้แต่กร่นด่าอย่างโกรธเคืองอยู่ภายในใจ
“เช่นนั้นเจ้าก็ตกรอบไปพร้อมกับมู่เฉินซีเสียเถอะ!” พวกเขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ตูมมมม โครมมม!
มู่เฉียนซีหลบหลีกการโจมตีของพวกเขา จนมาถึงด้านข้างของจางหยวน
นางกล่าวว่า “จางหยวน เจ้าชอบน้ำผลไม้รสอะไรอย่างนั้นหรือ?”
จางหยวนผงะไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงที่น่าเชื่อถือมากในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เหตุใดถึงได้ถามคำถามแบบนี้ในเวลาต่อสู้อยู่เช่นนี้กันนะ?
จางหยวนกล่าวตอบว่า “รสผูเถามั้ง!”
ผลก็คือนางล้วงเข้าไปในมิติและหยิบเอาลูกกลอนและยาน้ำออกมา จากนั้นก็โยนไปให้เขาสองสามขวด ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว! พลางกล่าวว่า “อันนี้ฟื้นฟูพลังวิญญาณ อันนี้รักษาบาดแผล กินเข้าไปซะ! หากกินหมดแล้วข้ายังมีอีก ส่วนเจ้าพวกแมลงวันที่น่ารำคาญเหล่านี้ ถ้าเจ้าสามารถช่วยได้ มันจะช่วยข้าแก้ปัญหาได้มากเลยทีเดียว”
.
.