ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2169 ช่วยนางทำงาน
ตูมมม!
ยังไม่ทันรอให้พวกเขารู้สึกเสียใจมากพอ มู่เฉียนซีก็เริ่มเคลื่อนไหวกระบวนท่าต่อไปแล้ว
กระบวนท่านี้ทำให้พวกเขาบาดเจ็บสาหัสอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งมันก็ทำให้ค่ายกลถูกเปิดใช้งาน และพวกเขาก็ถูกย้ายไปยังจุดตกรอบในทันที
ต่อมาก็เริ่มมีคนทะยอยเข้ามาอีก แต่ทว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ไม่มีสมองเหมือนกับกลุ่มคนก่อนหน้านี้
เห็นได้ชัดว่ากลุ่มของพวกเขามาเป็นกลุ่มที่สาม แต่ผลปรากฏว่าตอนนี้เหลือเพียงหญิงสาวผู้นั้นเพียงคนเดียวเท่านั้น
ซึ่งนั่นก็มีความเป็นไปได้มากว่าหญิงสาวผู้นี้ได้จัดการกลุ่มคนก่อนหน้านี้ไปแล้ว ฉะนั้นนางต้องไม่ใช่ตัวละครที่จัดการได้อย่างง่ายดายแน่นอน
พวกเขาไม่ต้องการที่จะสู้กับมู่เฉียนซีแบบตัวต่อตัว และมู่เฉียนซีก็ไม่อยากที่จะลงมือเร็วเกินไปนัก ซึ่งคนเหล่านั้นไม่ได้เลือกที่จะเฝ้าอยู่ตรงปากทางเข้า แต่เลือกที่จะไปหลบซ่อนตัวแทน
มู่เฉียนซีไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน และเมื่อเวลาผ่านไป กำหนดเวลาของการแข่งขันอย่างเป็นทางการก็กำลังจะใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว
ในช่วงเวลานี้ มีคนกจำนวนไม่น้อยที่ได้มาถึงสนามแข่งขันแล้ว และแม้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะมาถึงสนามแข่งขันนี้ได้ แต่อัจฉริยะของราชวงศ์ตงหวงนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด เพราะอย่างไรเสียก็มีคนหลายหมื่นคนที่มาถึงสถานที่แห่งนี้ได้สำเร็จ
ในตอนที่เสียงระฆังเริ่มการแข่งขันดังขึ้น เกาะแห่งนี้ก็ถูกปิดเอาไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าไปได้ และไม่มีผู้ที่อยู่ภายนอกคนใดที่สามารถส่งผลกระทบต่อผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ภายในนี้ได้อีกด้วย
เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น การต่อสู้ก็ได้เปิดฉากขึ้นอย่างสมบูรณ์
บนเกาะน้ำแข็งแห่งนี้ ผู้แข็งแกร่งจะอยู่รอด ส่วนผู้ที่อ่อนแอก็จะตกรอบไป
ภายในสนามแข่งขันแห่งนี้ อัจฉริยะได้แสดงความสามารถในด้านที่ตนเองเชี่ยวชาญออกมา ซึ่งมันก็ทำให้ได้เห็นถึงฝีมือของผู้ฝึกฝนแขนงต่าง ๆ ที่มีอยู่ในราชวงศ์ตงหวง
มู่เฉียนซีสัมผัสได้ว่าตอนนี้แรงโน้มถ่วงทั้งหมดของพื้นที่แห่งนี้ได้ปรับเปลี่ยนไปอีกครั้ง ซึ่งคนที่เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนไปช้าลงไปมากทันที และเกือบที่จะได้รับบาดเจ็บจากคู่ต่อสู้ของตนเองแล้ว
“คิดไม่ถึงเลยว่าแรงโน้มถ่วงภายในนี้จะเปลี่ยนแปลงได้ด้วย ดูเหมือนว่าต้องรีบจัดการคู่ต่อสู้แล้วล่ะ!”
“รีบจัดการคู่ต่อสู้ และหาสถานที่รอที่ปลอดภัยสักที่หนึ่งเถอะ”
โดยปกติแล้วมู่เฉียนซีแทบที่จะไม่เคลื่อนไหวใด ๆ เลย เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนตาบอดมาหาเรื่องนางถึงที่เท่านั้น เพราะนางรู้สึกว่ายังหาคนที่คู่ควรต่อการเคลื่อนไหวของนางไม่เจอเลยจริง ๆ
และคาดว่าคู่ต่อสู้ที่สามารถทำให้นางสนใจได้นั้น คงจะมีแค่อัจริยะทั้งสิบของดินแดนทางทิศเหนือแห่งราชวงศ์ตงหวงเท่านั้น
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
มีลูกธนูนับไม่ถ้วนถูกยิงออกมาจากที่ลับตา และมู่เฉียนซีก็คือเป้าหมายของมัน
แรงโน้มถ่วงของที่นี่แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉะนั้นเมื่อใช้อาวุธลับในการโจมตี คนทั่วไปก็มักจะโดนกระบวนท่าเหล่านี้โจมดีได้อย่างง่ายดาย
มู่เฉียนซีรีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว และในเวลานี้ก็มีหอกจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่นางอีกครั้ง ในเมื่อกระบวนท่าแรกไม่สำเร็จ เช่นนั้นก็ปล่อยออกไปอีกกระบวนท่าหนึ่ง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธลับคนหนึ่งนั่นเอง
ในขณะที่มู่เฉียนซีหลบหลีก นางก็คว้าหอกยาวอันหนึ่งเอาไว้ได้และจากนั้นก็เหวี่ยงมันกลับไป!
ฉึก!
หอกยาวนั้นปักอยู่บนพื้นหิมะ และในเวลาเดียวกันมันยังแทงทะลุเสื้อผ้าของใครบางคนอีกด้วย
ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งกระโดดออกมา “น่าสนใจดีนี่ คิดไม่ถึงเลยว่าภายใต้สภาพของแรงโน้มถ่วงเช่นนี้ยังสามารถหลบหลีกอาวุธลับของข้าได้ นอกจากนี้ยังเป็นแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดอีกด้วย”
เขาพุ่งทะยานไปทางมู่เฉียนซี หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็เริ่มต่อสู้กัน และอาวุธลับของเขาก็โผล่ออกมาราวกับไม่มีที่สิ้นสุดเลยจริง ๆ
แต่สำหรับเรื่องอาวุธลับนั้น มู่เฉียนซีมีความเข้าใจเป็นอย่างดีเลยทีเดียว ฉะนั้นเขาจึงไม่มีข้อได้เปรียบมากเท่าไรนัก
คนผู้นี้เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าคนหนึ่ง ซึ่งต่างชั้นกับอัจฉริยะทั้งสิบมากมายนัก
แต่อย่างไรเสียอาวุธลับที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมนี้ ก็สามารถทำให้อัจฉริยะเหล่านั้นรู้สึกปวดหัวได้เช่นกัน แต่ก็น่าเสียดายที่ต้องมาเจอกับคนอย่างมู่เฉียนซี
ปัง ปัง ปัง!
พลังธาตุวายุพันธนาการเขาเอาไว้ได้แล้ว และด้วยการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า จึงทำให้เขาร่วงลงมาจากกลางอากาศและตกสู่พื้นดิน
การโจมตีของหญิงสาวเมื่อครู่นี้ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาเป็นอย่างมาก! ขณะนี้สีหน้าของเขามืดมนลง และจากนั้นก็เริ่มโจมตีอีกครั้ง
เขาได้พยายามทุ่มอย่างสุดตัวแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่ง่ายอยู่ดี เพราะหญิงสาวผู้นี้ไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ เลยแม้แต่น้อย
ตูมมม!
มีเสียงสนั่นหวั่นไหวดังออกมา เขารู้สึกว่ากระดูกทั่วทั้งร่างกายแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ อีกทั้งผิวหนังยังถูกสายลมฉีกออกไปริ้ว ๆ จนเจ็บปวดไปหมดอีกด้วย
ใบพัดที่เย็นยะเยือกจี้ลงบนต้นคอของเขา จากนั้นมู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “ความสามารถของเจ้าไม่เลวเลย แต่เจ้ากลับเลือกคู่ต่อสู้ผิดคนเสียแล้วล่ะ”
“ใช่แล้วล่ะ! ข้าเลือกคู่ต่อสู้ผิดไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะคือมู่เฉินซี ข้าว่านะมู่เฉินซี ในดินแดนทางทิศใต้และดินแดนทางทิศตะวันออกไม่มีผู้ใดสามารถเป็นศัตรูกับเจ้าได้ และคาดว่าไม่น่าจะมีผู้ใดจัดการเจ้าได้ด้วย ฉะนั้นเจ้าสามารถผ่านด่านนี้ไปได้อย่างง่ายดาย แล้วเหตุใดเจ้าถึงต้องมาสร้างความวุ่นวายที่ดินแดนทางทิศเหนือ และมาทรมานพวกเราเช่นนี้ด้วยเล่า!” เขากล่าวด้วยสีหน้าที่ขมขื่น
“โอ้! ดูเหมือนว่าเจ้าจะฉลาดพอตัวเลยนี่ คิดไม่ถึงว่าจะคาดเดาสถานะของข้าได้ด้วย” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเฉยเมย
“ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตที่มีความวิปลาสเช่นนี้ ในข่าวลือของยุทธจักรมีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น เพียงแต่ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูต ทว่าการเลื่อนขั้นของเจ้าจะเร็วเกินไปแล้วนะ ในยุทธจักรมีคนบอกว่าเจ้าเป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับใกล้จะที่บรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตได้อยู่แล้ว ตอนที่ข้าเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูต ขอแค่มีความเร็วสักหนึ่งในสิบของเจ้าก็คงพอแล้วล่ะ”
ภายในเวลาครึ่งปีนี้นางก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าตอนนี้นางมีความสามารถเป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตเท่านั้น แต่กลับสามารถทำให้คนอิจฉาได้อย่างบ้าคลั่งเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “สิ่งที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าควรจะไปยังจุดตกรอบได้แล้วใช่หรือไม่?”
“เห็นแก่ที่ข้าชื่นชมตัวตนของเจ้ามากขนาดนี้ อีกทั้งยังจำเจ้าได้ ปล่อยข้าไปสักครั้งได้หรือไม่ ด้วยความสามารถของเจ้าก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีผู้ใดกล้ามาคุกคามเจ้าอีกแล้ว เพิ่มข้าไปอีกคนคงไม่เยอะไปหรอกกระมัง?” เขากล่าวพลางยิ้มเยาะออกมา
“แต่ข้ารู้สึกว่า เจ้าเป็นส่วนเกินมากกว่า!”
ในขณะที่เขากำลังคิดที่จะปล่อยอาวุธลับ ก็ได้มีมีดวายุตวัดลงไปที่ต้นแขนของเขาจนเกิดเป็นรอยแผล ซึ่งมันก็ทำให้ตอนนี้เขาเจ็บปวดจนไม่มีกำลังเหลืออีกแล้ว
มู่เฉียนซีหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า “มาถึงขนาดนี้ เจ้าเลิกออกอุบายต่อหน้าข้าได้แล้ว”
“กระบวนท่าสุดท้ายของข้าถูกเจ้ามองออกแล้ว แล้วข้าจะทำอะไรได้อีก ข้าก็สิ้นหวังมากเช่นกันนะ!”
พลังธาตุวายุเปลี่ยนเป็นอันตรายขึ้นมาทันที และเขาก็รู้ว่ามู่เฉินซีต้องการที่จะส่งเขาออกไปแน่นอน ฉะนั้นเขาจึงกล่าวว่า “มีอะไรก็เจรจากันได้ พวกเราเจรจากันได้นะ! มีเรื่องหนึ่งที่เจ้าต้องไม่รู้อย่างแน่นอน ข้าสามารถใช้ข้อมูลนี้ขอให้เจ้าปล่อยข้าไปได้หรือไม่!”
“มู่เฉินซี ลูกพี่มู่ โปรดเมตตาข้าด้วยเถิด ข้าไม่กล้าทำอีกแล้วขอรับ”
เพื่อที่จะไม่ถูกทำให้ตกรอบ เขาจึงต้องยอมร้องขอชีวิตอย่างไร้ยางอาย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พูดมาสิ! มันคือเรื่องอะไร?”
“ที่จริงแล้ว ตอนที่ข้าเข้ามาได้เจอกับลูกศิษย์ของสำนักกลุ่มหนึ่ง ข้าจึงแอบตามพวกเขาไป และหลังจากนั้นก็ได้ยินพวกเขาคุยกันว่าหากเจอมู่เฉินซี จะต้องทรมานเจ้าอย่างโหดเหี้ยมจนตาย! ที่สำคัญพวกเขาได้รับคำสั่งนี้มาจากทางราชวงศ์ตงหวง”
“เจ้าดูสิ นี่เพิ่งจะรอบคัดเลือกเท่านั้น แต่ทางราชวงศ์ตงหวงยังไม่ยอมผ่อนปรนให้เจ้าเลย เจ้านี่ก็ช่างโชคร้ายเสียจริงๆ! ไม่รู้ว่าจะสามารถไปจนถึงรอบสุดท้ายได้หรือไม่?”
มู่เฉียนซีสามารถคาดเดาได้อยู่แล้วว่าผู้ใดเป็นคนที่คิดจะทำเรื่องเช่นนี้ นางกล่าวว่า “เจ้ายังจำคนเหล่านั้นได้หรือไม่?”
“จำได้แน่นอนอยู่แล้ว!”
“ไปหาพวกเขา แล้วบอกพวกเขาว่าข้าอยู่ที่ใด จากนั้นก็ให้พวกเขามาจัดการข้าซะ! ข้าขี้เกียจเกินกว่าจะไปไล่หาพวกเขาทีละคนแล้วล่ะ ลองคิดดูแล้วเจ้ายังพอมีประโยชน์บ้างหรือไม่” มู่เฉียนซีกล่าว
คนผู้นี้กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “หรือพูดอีกอย่างว่า ลูกพี่มู่ยอมให้ข้ามีทางรอดแล้วใช่หรือไม่ มันดีมากเหลือเกิน สวรรค์ย่อมมีทางออกให้คนเราจริง ๆ”
มู่เฉียนซีปล่อยเขาไป เขาจึงกล่าวว่า “ลูกพี่มู่ ข้ามีชื่อว่าเจี้ยนเจี้ยน เรื่องที่ท่านสั่งให้ข้าทำเรื่องนี้ ท่านได้มาหาถูกคนแล้ว ข้าจะต้องทำงานให้ท่านได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน ข้าจะทำให้เจ้าพวกคนที่กล้ามาจัดการท่านแหล่านั้น กลายเป็นปลาที่ติดกับดัก และทำให้ท่านสามารถต้มยำทำแกงพวกเขาได้อย่างอิสระเลยขอรับ”
“ยังไม่รีบไปอีก!” มู่เฉียนซีกล่าว
“ใช่ ๆ ๆ ๆ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
เขารีบโกยแนบไปทันที แต่เนื่องจากแรงโน้มถ่วงของที่นี่มีมากเกินไป จึงทำให้เขาวิ่งได้ไม่เร็วเท่าไรนัก
เขาได้แต่บ่นพึมพำอยู่ภายในใจ หลังจากที่เขาหลุดพ้นจากคนวิปลาสผู้นี้แล้ว เขาจะหนีไปให้ไกลมากที่สุดเท่าที่จะไกลได้
เขาไม่มีทางช่วยนางทำงานหรอก เหตุใดต้องไปยั่วยุคนเหล่านั้นด้วยเล่า!
ในขณะที่เขากำลังจะวิ่งหนีไป ทันใดนั้นก็มีเสียงแหวกอากาศดังออกมา จากนั้นก็มีเสียง ฉึก! ดังขึ้น และเจี้ยนเจี้ยนก็สัมผัสได้ว่ามีเข็มบาง ๆ เล่มหนึ่งแทงเข้าไปในเนื้อของเขา
.