ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2167 มาถึงคนแรก
พวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยหมีหิมะฝูงหนึ่ง และมู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “อู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่ พวกเจ้าโจมตีพร้อมกัน โจมตีพวกมันให้คว่ำไปเลย หากพวกมันยอมช่วยเหลือแล้วค่อยว่ากันอีกที!”
“ได้เลย!”
“เจ้าค่ะ นายท่าน!”
“โจมตีเลย!”
ตูมมม โครมมม!
พวกเขาเริ่มลงมือทันที และนี่ก็ถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องก่อนการแข่งขันอีกด้วย
มีผู้คนมากมายที่มาถึงสถานที่ต่าง ๆ ของหมู่เกาะจี๋เป่ย และได้พบกับคนนำทางบางคน ถึงแม้ว่าสำนักใหญ่ต่าง ๆ จะรวมตัวกับมาเป็นกลุ่ม แต่ก็ถูกล่อลวงจนหัวหมุนเช่นกัน
หากพวกเขาถูกหลอกให้ไปถึงรังของสัตว์วิญญาณเหล่านั้น มันก็จะยิ่งแย่มากขึ้นไปอีก
และแน่นอนว่า การแข่งขันอัจฉริยะครั้งยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ตงหวงนั้นไม่ได้ถือว่าโหดร้ายมากจนเกินไปนัก เพราะโดยทั่วไปแล้วพวกเขาถูกล่อลวงให้เข้าไปในฝูงของสัตว์วิญญาณที่สามารถจัดการได้เท่านั้น
“คนหลอกลวง!”
“พวกเราถูกหลอกแล้ว!”
“…”
ถึงแม้ว่าจะถูกหลอกไปมาก แต่ก็ยังโชคดีกว่าทางด้านของมู่เฉียนซี ที่ต้องมาต่อสู้กับสัตว์เทพเช่นนี้!
และก็มีบางคนที่โชคดี ได้พบกับคนที่นำทางถูกต้องจริง ๆ
“ข้าสามารถนำทางให้พวกเจ้าได้ แต่ข้าต้องการที่จะดูป้ายประจำตัวการแข่งขันของพวกเจ้าก่อน!”
“ตกลง!”
หลังจากที่ตรวจดูป้ายชื่อแล้ว เมื่อพบว่าไม่มีคนที่ชื่อว่ามู่เฉินซี เขาจึงได้รับปากที่จะเป็นคนนำทางให้
ซึ่งมู่เฉียนซีไม่ได้รับรู้เรื่องทั้งหมดเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย และเวลานี้นางกับเหล่าสัตว์เทพของนางก็เอาชนะสัตว์เทพไปได้หลายตัวแล้ว
สิ่งนี้ทำให้หมีหิมะเหล่านั้นโมโหเป็นอย่างมาก เจ้าพวกนี้จะวิปลาสเกินไปแล้ว
มู่เฉียนซีสอบถามพวกมันเกี่ยวกับเรื่องสถานที่แข่งขัน ซึ่งพวกมันก็แสดงออกว่าไม่รู้
อย่างน้อยที่สุดภายในขอบเขตที่พวกมันสามารถรับรู้ได้ ก็ไม่มีมนุษย์คนใดเคลื่อนไหวอยู่ในเกาะเหล่านั้นเลย
“ข้ารับประกันว่า พวกเราไม่ได้หลอกพวกเจ้าอย่างแน่นอน แน่นอนจริง ๆ!”
สัตว์เทพตัวหนึ่งมีขอบเขตในการรับรู้ที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก ซึ่งขั้นตอนต่อไปนางก็เพียงแค่ต้องออกไปจากอาณาเขตนี้ และไปหาสัตว์เทพอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง
หากค่อย ๆ หาไปตามอาณาเขตเช่นนี้ต่อไป นางไม่เชื่อหรอกว่าจะหามันไม่เจอ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อู๋ตี้ เสี่ยวโม่โม่ เสี่ยวหง พวกเราไปกันเถอะ!”
เวลานี้ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดก็ได้มาอยู่ในดินแดนของธารน้ำแข็งแล้วซึ่งทุกคนต่างก็ใช้วิธีการมากมายในการตามหาสถานที่แข่งขัน และมู่เฉียนซีก็ยังคงกำลังตามหาสัตว์เทพเพื่อถามทางต่อไป
วิธีการเช่นนี้ของนาง แน่นอนว่าเป็นหนทางที่ยากที่สุดหนทางหนึ่ง
สุดท้ายแล้วถึงผู้เข้าแข่งที่เข้าร่วมงานอัจฉริยะในคราวนี้ต่างก็มีพรสวรรค์ในการบำเพ็ญที่ยอดเยี่ยม แต่ทว่าการทำพันธสัญญากับสัตว์เทพทั้งสามตัวต่างไม่ใช่เรื่องที่ว่าผู้ใดก็สามารถทำได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นพลังจิตวิญญาณและกำลังทรัพย์ต่างก็เข้าไม่ถึงกันทั้งนั้น
แม้ว่าจะเป็นสำนักที่รวมกลุ่มมาด้วยกัน พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงอยู่ดี
หากทำเช่นนั้นแล้ว คาดว่ายังไม่ทันที่จะไปถึงสนามแข่งขัน พวกเขาก็คงถูกสัตว์เทพเหล่านี้ฉีกเป็นชิ้น ๆ อย่างแน่นอน
ทางเข้าของสนามแข่งขันในเวลานี้ มีคนกลุ่มหนึ่งกล่าวขึ้นมาว่า “นี่ก็จะพ้นวันแรกไปแล้ว ฟ้ากำลังจะมืดอยู่แล้วด้วย คิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่มีผู้ใดสามารถหาสถานที่แข่งขันเจอเลยสักคน! อัจฉริยะของดินแดนทางทิศเหนือนี่ไม่ได้เรื่องเลย! ยังด้อยกว่าอัจฉริยะจากดินแดนทางตอนกลางของพวกเราหลายขุมนัก”
“ใช่แล้ว! ข้าว่าหากเป็นฝ่าบาทหลินหลางคงมาถึงสนามแข่งขันนานแล้ว แต่ที่นี่กลับไม่มีมาเลยสักคนเดียว”
“…”
ตูมมม โครมมมม!
พวกของอู๋ตี้ต่อสู้กับหมีหิมะที่แข็งแกร่งมากกว่าตัวหนึ่ง ซึ่งหมีหิมะตัวนี้ใกล้ที่จะบรรลุเป็นสัตว์เทพระดับที่สามได้แล้ว
หากมันเป็นสัตว์เทพระดับสามได้เมื่อไร มันก็จะกลายเป็นเจ้าเหนือหัวของหมู่เกาะน้ำแข็งจี๋เป่ยแห่งนี้ทันที
ถึงจะเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือยากเช่นนี้ แต่เพราะพวกเขาทั้งสี่คนร่วมมือกัน จนในที่สุดก็ขังมันเอาไว้ได้
มันกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “นี่พวกเจ้าหมายความว่าอย่างไรกันแน่? ข้ากำลังนอนหลับอยู่ดี ๆ แต่พวกเจ้าก็ดันมาปลุกให้ข้าตื่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น ข้าจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้ารีบออกไปสักทีได้หรือไม่ มาบีบบังคับข้าเช่นนี้ ข้ากำลังจะเป็นบ้าอยู่แล้วนะ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ต้องขอโทษด้วยที่ข้าทำให้ท่านตื่น ข้าแค่อยากขอให้ท่านช่วยอะไรสักหน่อย ไม่ทราบว่าท่านจะยอมหรือไม่?”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้ามนุษย์ผู้นี้ช่างกล้าหาญเสียจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาขอให้สัตว์เทพช่วยเหลือ ลองพูดมาสิว่าเป็นเรื่องอะไร?”
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องของมู่เฉียนซีแล้ว หมีหิมะก็กล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่าเคยมีมนุษย์เข้ามาในอาณาเขตของข้า และทำอะไรบางอย่าง แต่การเคลื่อนไหวของพวกเขาถือได้ว่าเล็กน้อยเท่านั้น ฉะนั้นข้าจึงไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร! หากพวกเจ้าอยากไปที่นั่นละก็ ข้าจะพาพวกเจ้าไปเอง”
หลังจากที่ค้นหาจากสัตว์วิญญาณติดต่อกันมาหลายกลุ่ม ในที่สุดก็หาเจอแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตกลง! เช่นนั้นต้องรบกวนท่านแล้ว”
“ข้าก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับพวกเจ้าเช่นกัน อีกอย่างความสามารถของพันธมิตรตัวน้อยของเจ้าก็ไม่เลวเลย และในเมื่อเจ้ามาขอความช่วยเหลือจากข้าอย่างจริงใจเช่นนี้ ข้าก็จะช่วยเจ้าอย่างเต็มที่เอง เรื่องเล็กน้อย!”
“ขึ้นมาบนตัวของข้าสิ จะให้แขนขาเล็ก ๆ นั่นของเจ้าเดินไปเองมันก็จะช้าเกินไปหน่อย!”
ความจริงแล้วมู่เฉียนซีไม่ได้เดินช้าเลย แต่เมื่อเทียบกับขายาว ๆ และความเร็วของหมีหิมะแล้วก็ถือว่าช้าเกินไปอยู่ดี
มู่เฉียนซีกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของหมีหิมะ หลังจากนั้นสัตว์เทพหมีหิมะก็กล่าวว่า “แม่สาวน้อยมนุษย์ นั่งให้ดี ๆ ล่ะ! ข้าจะเร่งความเร็วแล้ว!”
สวบสาบ…
ความเร็วของหมีหิมะนั้นเร็วมากจริง ๆ ทั้งเสื้อผ้าและเส้นผมของมู่เฉียนซีต่างก็ปลิวไปตามกระแสลมที่พัดพาเกล็ดหิมะลอยมา จนทำให้เหนือศรีษะของนางนั้นขาวโพลนไปเลยทีเดียว
บริเวณรอบนอกของเขตพื้นที่แข่งขันในเวลานี้ มีคนกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นตกใจว่า “แย่แล้ว! มีสัตว์เทพกำลังใกล้เข้ามา”
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีสัตว์เทพมาที่นี่ด้วย? หากพวกเราไม่ยั่วยุพวกมัน โดยปกติแล้วพวกมันก็จะไม่เริ่มโจมตีพวกเราก่อนมิใช่หรือ?”
“เป็นสัตว์เทพระดับสอง ที่ใกล้จะบรรลุเป็นระดับสามตัวหนึ่ง เฝ้าระวังไว้!”
พวกเขาเห็นสัตว์เทพหมีหิมะที่สูงใหญ่ตัวหนึ่งกำลังใกล้เข้ามาจากระยะไกล เพียงแต่พวกเขาค้นพบว่ามีใครบางคนอยู่บนตัวของสัตว์เทพหมีหิมะตัวนั้นด้วย ซึ่งก็คือหญิงสาวคนหนึ่งนั่นเอง
“มันก็คือที่นี่แหละ เจ้าดูสิ ข้างในนั้นมีมนุษย์คอยเฝ้าอยู่ ถูกหรือไม่!?”
มู่เฉียนซีมองไปทางพวกเขา มิติของที่นี่แตกต่างจากที่อื่นมาก และคนที่อยู่เบื้องหน้าเหล่านั้นก็แต่งตัวเหมือนกับองครักษ์สีเงินเป็นอย่างมากอีกด้วย ฉะนั้นพวกเขาน่าจะเป็นคนของราชวงศ์ตงหวงแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในที่สุดก็หาเจอแล้ว ต้องขอบคุณท่านมาก!”
หมีหิมะวางมู่เฉียนซีลง จากนั้นนางก็มองไปที่คนเฝ้าระวังเหล่านั้นพลางกล่าวว่า “ทุกท่าน หมีหิมะตัวนี้มาที่นี่เพื่อนำทางให้ข้าเท่านั้น เขาไม่โจมตีทุกท่านแน่นอน ทุกท่านโปรดวางใจ”
พวกเขารู้สึกประหลาดใจมาก หญิงผู้นี้มีความสามารถอะไรกันแน่? คิดไม่ถึงเลยว่าจะให้สัตว์เทพที่มีความสามารถเกือบถึงระดับสามเช่นนี้มาเป็นผู้นำทางให้กับนางได้
แม้ฟ้าจะมืดไปแล้ว แต่นางก็คือคนแรกที่มาถึงสนามแข่งขันของทางนี้
มู่เฉียนซีหยิบเอายาลูกกลอนขวดหนึ่งและยาน้ำอีกหลายขวดออกมาพลางกล่าวว่า “นี่คือถั่วหวาน เมื่อไรที่ท่านเบื่อก็กินมันได้ นี่คือยาน้ำ สามารถดื่มมันแทนน้ำได้เช่นกัน!”
หมีหิมะนั้นก็อยากรู้อย่างเห็นมากเช่นกัน “ข้าไม่สนใจของเล่นของมนุษย์อย่างพวกเจ้า เพียงแต่เห็นว่าเจ้ามอบของขวัญเหล่านี้ให้อย่างจริงใจ เช่นนั้นข้าจะรับไว้ก็แล้วกัน มนุษย์ตัวน้อยอย่างเจ้าจะได้ไม่เสียใจ”
“เจ้าค่ะ!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
มุมปากของทหารยามเหล่านั้นกระตุกขึ้นเล็กน้อย อย่ามารังแกเพราะคิดว่าพวกเขาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย!
ทั้งถั่วหวานเอย! ทั้งน้ำเอย!
แค่เห็นขวดยาเพียงแวบเดียว พวกเขาก็รู้แล้วว่ามันคือยาลูกกลอนและยาน้ำของหอหมอปีศาจ นอกจากนี้ราคาของมันยังไม่ใช่ถูก ๆ อีกด้วย
คิดไม่ถึงเลยว่าแม่นางน้อยผู้นี้จะมอบมันให้กับสัตว์เทพตัวหนึ่ง นี่นางเป็นลูกล้างลูกผลาญของตระกูลไหนกันแน่นะ?
มู่เฉียนซีโบกมือให้กับหมีหิมะตัวนั้น หลังจากนั้นก็เดินไปยังทางเข้า
“โปรดนำป้ายประจำตัวของเจ้าออกมาด้วย!”
ในตอนที่ลงสมัคร ก็จะได้รับป้ายประจำตัวมาคนละหนึ่งชิ้น
ซึ่งต้นฉบับของมันจะบันทึกชื่อ สถานะ และบันทึกว่าเป็นคนของสำนักหรือว่าเป็นผู้บำเพ็ญอิสระของบุคคลนั้นเอาไว้
มู่เฉียนซีหยิบป้ายประจำตัวออกมา หลังจากนั้นทหารยามเหล่านี้ก็ต้องการที่จะดูชื่อของมู่เฉียนซีด้วย
“ป้ายประจำตัวพวกเจ้าก็เห็นไปแล้วนี่ พวกเจ้าเป็นเพียงแค่ทหารยามที่คอยเฝ้าประตูเท่านั้น มีสิทธิ์อะไรที่ต้องการจะรู้ชื่อของข้าด้วย? หรือว่าหากไม่บอกชื่อกับพวกเจ้า พวกเจ้าก็จะไม่ให้ข้าเข้าไปอย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“พวกเราเพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น แม่นางโปรดให้ความร่วมมือด้วย!” พวกเขากล่าวอย่างหนักแน่น
มีคำสั่งจากฝ่าบาทหลินหลาง ให้ตรวจสอบชื่อของผู้เข้าแข่งขันที่ทางเข้า เพื่อที่จะค้นหาสาวน้อยที่ชื่อมู่เฉินซีคนนั้นให้เจอ
ประการแรกก็เพื่อที่จะยืนยันว่านางอยู่ที่สนามการแข่งขันใด ประการที่สองคือสร้างความยุ่งยากให้กับนาง และทำให้นางผ่านไปได้อย่างยากลำบากที่สุด
“เกิดอะไรขึ้น? เจ้ามนุษย์ เจ้าถูกคนเหล่านี้รังแกอย่างนั้นหรือ?”
น้ำเสียงที่ซื่อตรงเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทันใดนั้นทหารยามเหล่านั้นก็ได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่มหึมามาอยู่เบื้องหน้าของพวกเขาแล้ว
.