ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2144 ปรนนิบัตินายท่านของข้า
พญามดแห่งความตายเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร ชายที่แข็งแกรงผู้นี้ไม่ใช่คนที่เขาจะสามารถรับมือได้
มู่เฉียนซีดึงมังกรวารีเอาไว้พลางกล่าวว่า “มังกรวารี ข้าบอกแล้วว่าเจ้าไม่ต้องทำเช่นนี้”
“มารยาทไม่อาจละเลยได้ เพราะท่านคืนนายของข้า และนี่ก็เป็นสิ่งที่มังกรวารีสมควรทำอยู่แล้วขอรับ”
อย่างไรเสีย ตอนนี้ทั้งสองคนนี้ไม่เห็นมันอยู่ในสายตาอย่างสิ้นเชิง หากไม่หนีไปตอนนี้ แล้วจะเป็นตอนไหนกันล่ะ?
พญามดแห่งความตายรีบพุ่งทะยานไปยังทางออกของเทือกเขาแห่งความตายด้วยความรวดเร็ว ถึงสีหน้าตอนอยู่ต่อหน้ามู่เฉียนซีก่อนหน้านี้จะดูดุร้ายเพียงใด แต่ตอนนี้กลับมีสีหน้าที่หวาดกลัวมากกว่าตอนนั้นเสียอีก
“นายท่านโปรดรอสักครู่ ข้ามังกรวารีจะไปบดขยี้มดตัวนั้นเสีย”
ร่างเงาสีฟ้าสว่างวาบ และมังกรวารีก็ไปปรากฏอยู่เบื้องหน้าพญามดแห่งความตายที่กำลังจะหลบหนีทันที
แววตาสีฟ้าที่เย็นยะเยือกคู่นั้นจ้องมองไปที่พญามดแห่งความตายอย่างเมินเฉย
คนผู้นั้นจ้องมองมันราวกับมดปลวกก็มิปาน สายตานี้ช่างเหมือนกับผู้แข็งแกร่งในสมัยโบราณอย่างไรอย่างนั้น
และสำหรับพญามดแห่งความตายแล้ว สีหน้าตอนนี้ของมันได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
มันรู้ตนเองว่าเป็นศัตรูของนายท่านผู้นี้ไม่ได้อย่างแน่นอน และด้วยเหตุนี้จึงทำได้เพียงแค่ทำตัวน่าเวทนาเท่านั้น
“นายท่าน ข้าไม่รู้มาก่อนว่ามนุษยผู้นั้นเป็นเจ้านายที่ท่านคอยปรนนิบัติอยู่ ฉะนั้นคนไม่รู้ถือว่าไม่มีความผิด! ท่านโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”
ปังงง!
พลังวิญญาณธาตุวารีอันน่าสะพรึงกลัวก่อตัวขึ้นระหว่างมือของมังกรวารี และเขาก็ได้ใช้มันกดร่างของพญามดแห่งความตายที่กำลังบินอยู่กลางอากาศอย่างรุนแรงเอาไว้ จนทำให้มันล่วงลงมาจากกลางท้องฟ้าราวกับสะเก็ดดาราก็มิปาน สุดท้ายแล้วมันก็ทำให้เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้นหลุมหนึ่ง!
พรวด!
พญามดแห่งความตายกระอักเลือดออกมา และรู้สึกเหมือนกับว่ากระดูกในร่างกายของมันจะหักไปหมดแล้ว
“นายท่าน ข้าผู้นี้เป็นถึงสัตว์ปีศาจแห่งความตายของนายท่านเทพมรณะ ซึ่งในตอนนี้นายท่านเทพมรณะก็ใกล้ที่จะคืนชีพขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้นายท่านผู้นั้นก็เป็นการดำรงอยู่ของผู้ทรงอำนาจที่เคยทำลายมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์มาก่อนอีกด้วย หากท่านเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมชั้นแนวหน้า ก็น่าจะรู้ว่าเจ้านายของข้านั้นยอดเยี่ยมมากเพียงใด ฉะนั้นทางที่ดีท่านควรจะให้เกียรตินายท่านของข้าจะดีกว่า?”
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเมินเฉยราวกับไม่สนใจความสูงส่งของเทพเจ้าแห่งสวรรค์และโลกอย่างไรอย่างนั้น ในเมื่อพญามดแห่งความตายไม่มีทางเลือก มันจึงได้คิดจะเอาผู้ที่คอยสนับสนุนมันออกมาเพื่อทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว
ไม่มีผู้ใดที่ไม่หวาดกลัวเทพมรณะหรอก และแม้แต่ผู้อาวุโสที่เป็นอมตะของเผ่าคำสาปจอมหยิ่งผยองผู้นั้นเองก็เช่นเดียวกัน
“กล้ามาทำร้ายนายท่านของข้า ตายซะเถอะ!”
ภายในแววตาที่เย็นยะเยือกของมังกรวารีเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ทันทีที่โบกมือ ก็มีมังกรลึกลับสีฟ้าราวสายน้ำตัวหนึ่งปรากฏขึ้น และเจตนาฆ่านั้นก็ทำให้พญามดแห่งความตายรู้สึกหายใจไม่ออกจริง ๆ
“เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้! จะ…เจ้าไม่หวาดกลัวต่อพลังแห่งความตายของท่านเทพมรณะได้อย่างไร” พญามดแห่งความตายกล่าวอย่างมึนงง
ร่างเงาสีม่วงพุ่งทะยานออกมา “ที่เจ้าพูดว่าท่านเทพมรณะมันหมายความว่าอย่างไร? ไหนจะพูดเรื่องผู้ทำลายมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์อีก เขาคือผู้ใดกัน?”
“อันที่จริงข้าสัมผัสได้ถึงพลังของท่านเทพมรณะ มิเช่นนั้นพลังของข้าก็คงไม่เพิ่มขึ้นมาอย่างมากมายถึงเพียงนี้หรอก ฉะนั้นข้าจึงได้ระดมกำลังเหล่าลูกน้องของข้าเพื่อกลืนกินพลังชีวิตของที่นี่ จนทำให้ข้าสามารถทำลายผนึกออกมาได้อย่างไรล่ะ”
“อ๋อ! เช่นนั้นนายท่านของเจ้า ตอนนี้อยู่ที่ใดกันล่ะ?”
“ตำแหน่งในตอนนี้ของนายท่าน แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่สิ่งที่ข้าสามารถรับรู้ได้ แต่ขอเพียงแค่ข้าสามารถเลื่อนขั้นความสามารถโดยการเข่นฆ่าผู้คนที่อยู่โลกภายนอกมากมายเหล่านี้ เพื่อรอนายท่านที่อาจจะคืนชีพขึ้นมาได้ตลอดเวลา! และหากพวกท่านปล่อยข้าไป ในอนาคตข้าจะขอความเมตาจากนายท่าน ให้เขาปล่อยพวกท่านไปอย่างแน่นอน ”
เจ้ามดนี้สำหรับเทพมรณะนั้นแล้ว คงจะเป็นเพียงมดตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ควรค่าให้กล่าวถึงเลยด้วยซ้ำจริง ๆ และดูเหมือนว่าหากถามไปก็คงไม่ได้เรื่องอีกด้วย ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงกล่าวกับมังกรวารีว่า “มังกรวารี ฆ่าเจ้าหมอนี่ทิ้งไปซะ!”
“น้อมรับคำสั่ง นายท่านของข้า!”
พญามดแห่งความตายหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง และกล่าวออกมาอย่างเหลือเชื่อว่า “ข้าพูดถึงตัวตนของข้าขนาดนี้แล้ว พวกเจ้ายังคิดที่จะฆ่าข้าอีกอย่างนั้นหรือ ยังกล้าฆ่า…”
ปังงง!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา และร่างของมันก็กลายเป็นผุยผงในทันที อีกทั้งพลังจิตวิญญาณของมันก็ถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน
การเคลื่อนไหวของมังกรวารีนั้นสะอาดหมดจดเป็นที่สุด
หลังจากที่พญามดแห่งความตายหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว มังกรวารีก็เดินมาถึงตรงหน้าของมู่เฉียนซี พลางกล่าววว่า “ร่างกายของนายท่านได้รับบาดเจ็บ นายท่านโปรดให้ข้ารักษาอาการบาดเจ็บของท่านด้วยขอรับ”
อาการบาดเจ็บที่นางได้รับตอนที่อยู่ในรังของกองทัพมดแห่งความตายก่อนหน้านี้ยังไม่ทันจะหายดี ก็ต้องมาถูกพญามดแห่งความตายที่คลายผนึกได้แล้วตามไล่ล่าอีก
หลังจากการต่อสู้อยู่หลายร้อยรอบ ก็ทำให้ทั่วทั้งร่างกายมีบาดแผลน้อยใหญ่อยู่นับไม่ถ้วนเต็มไปหมด
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าก็เป็นนักปรุงยาเช่นกัน แค่ใช้ยาในการรักษา เพียงไม่นานก็ดีขึ้นแล้ว”
“แต่ข้ามังกรวารีไม่อยากเห็นบาดแผลบนร่างกายของท่านเลยแม้แต่น้อย! นายท่านจะไม่ดูแลตนเองมากเกินไปแล้วนะขอรับ” มังกรวารีคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ตรงหน้ามู่เฉียนซีอีกครั้ง จากนั้นก็มองนางด้วยความอ่อนโยน จนทำให้มู่เฉียนซีไม่กล้าที่จะปฏิเสธเขาอีก
“เอาล่ะ! เช่นนั้นก็มอบให้เป็นหน้าที่ของมังกรวารีก็แล้วกัน”
พลังวิญญาณธาตุวารีได้ห่อหุ้มร่างกายของนางเอาไว้ และวิธีการรักษาบาดแผลด้วยพลังวิญญาณธาตุวารีของมังกรวารีนั้นก็ทำให้หายดีอย่างรวดเร็ว จนบาดแผลบนร่างกายของมู่เฉียนซีหายไปอย่างสมบูรณ์
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “สิ่งที่เจ้าหมอนั่นพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
“ไม่ใช่เรื่องจริงขอรับ ถึงเทพมรณะจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราได้อยู่ดี แต่เรื่องที่เจ้ามดตัวนั้นบอกว่าเจ้าหมอนั่นจะคืนชีพขึ้นมา อาจจะเป็นเรื่องจริงก็เป็นได้! เช่นนั้นนายท่านโปรดระวังตัวด้วยขอรับ” มังกรวารีกล่าว
“อื้ม! ข้าเข้าใจแล้ว!” มังกรวารีเมินเฉยต่อคำพูดของพญามดแห่งความตายตัวนั้นอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนางย่อมคาดเดาได้อยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน
ศัตรูของพวกมังกรวารี จะต้องเป็นคนอื่นแน่
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เช่นนั้นมังกรวารี พวกเราไปกันเถอะ!”
“ขอรับ นายท่าน!”
มังกรวารีนำทางอยู่ด้านหน้าของมู่เฉียนซี เพื่อทำให้มั่นใจว่าตลอดการทางของมู่เฉียนซีนั้นจะเป็นไปได้อย่างราบรื่น และแม้แต่ก้อนหินก็ถูกมังกรวารีกำจัดไปจนสิ้นซากเช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “มังกรวารี ข้าไม่ได้บอบบางขนาดนั้นเสียหน่อย!”
“แน่นอนว่านายท่านไม่ใช่สตรีที่บอบบางอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้มังกรวารีไม่ค่อยได้มีเวลามาคอยปรนนิบัตินายท่านอย่างดีเลย ในเมื่อตอนนี้ชิงเอาเวลามาได้แล้ว ฉะนั้นมังกรวารีย่อมต้องทำอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด และการคอยดูแลนายท่านก็เป็นภารกิจของมังกรวารีอยู่แล้วด้วย” มังกรวารีกล่าวอย่างเคร่งขรึม
สุ่ยจิงอิ๋งยังไม่สมบูรณ์ดี สิ่งที่ทำได้ทั้งหมดก็มีเพียงการป้องกันและเคลื่อนย้ายในยามวิกฤติเท่านั้น
เจ้าหนูอาถิงนั่นก็ยังไม่ยอมโตเสียที ถึงได้ไร้มารยาทเช่นนั้น
นิรันดร์แค่ไม่สร้างปัญหาให้นายท่านก็ถือว่าดีมากแล้ว และพิฆาตวิญญาณก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะเขานั้นไม่ใช่คนที่จะสามารถดูแลคนอื่นได้เลย แค่ไม่ทำร้ายนายท่านก็ถือว่าดีตั้งเท่าไรแล้ว
ส่วนมนุษย์คนอื่น จะสามารถมาเข้าใจเจ้านายของพวกเขาได้อย่างไร เพียงแค่คิด มังกรวารีก็ปวดใจยิ่งนัก เพราะไม่มีผู้ใดมาคอยดูแลเอาใจใส่ชีวิตของเจ้านายมาเป็นเวลานานมากแล้วนั่นเอง
มังกรวารีมองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่ข้ามังกรวารีเต็มใจที่จะทำ สามารถทำสิ่งเหล่านี้เพื่อนายท่านได้ มังกรวารีนั้นมีความสุขมากจริง ๆ”
มู่เฉียนซีสามารถสัมผัสได้ว่ามังกรวารีนั้นรู้สึกปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้นหลังจากนี้ไปคงต้องฝากมังกรวารีคอยดูแลข้าเสียแล้ว”
“นี่เป็นสิ่งที่ข้ามังกรวารีสมควรทำขอรับ”
เมื่อมู่เฉียนซีเดินออกมาจากเทือกเขาแห่งความตายแล้ว นางก็สูดหายใจเข้าลึก ถึงแม้ว่านางจะพบเจอกับเรื่องที่น่าหวาดเสียวถึงเพียงนี้ แต่ในที่สุดนางก็สามารถออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว
มู่เฉียนซีรู้สึกว่ามีกลิ่นอายกำลังใกล้เข้ามา ส่วนแววตาของมังกรวารีเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที และจากนั้นก็มายืนอยู่เคียงข้างมู่เฉียนซี
แสงสีทองอร่ามแวววาวนั้นดูคุ้นตานัก และถึงแม้ตัวคนจะยังไม่ทันเข้ามาใกล้ แต่มู่เฉียนซีก็เดาออกแล้วว่าคนที่มานั้นคือผู้ใดกันแน่ “นายน้อยว่านซื่อ ท่านไม่ได้ยุ่งอยู่กับการหาเงินหรอกหรือ เดินเล่นมาจนถึงที่นี่ได้อย่างไรกัน?”
“ข้าได้ยินข่าวมาว่า กองทัพมดแห่งความตายของเทือกเขาแห่งความตายก่อความวุ่นวาย จนไม่เหลือผู้รอดชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว ข้าก็แค่มาดูว่าเจ้าประสบภัยพิบัติจนตายไปแล้วจริงหรือไม่? แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้ายังมีชีวติอยู่ แถมยังสุขสบายดีอีกด้วย!” ว่านซือเยี่ยนกล่าวพลางมองไปยังมู่เฉียนซี
“อย่ามาหยาบคายกับนายท่าน” ในเวลานี้ น้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา
ว่านซือเยี่ยนเหลือบไปมองชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาและนิ่งสงบคนนั้น ก็พลันพบว่าเขาใช้สายตาที่เหมือนกับกำลังเตือนจ้องมองมองมาที่ตนอยู่
.