ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2111 ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว
ในตอนที่พลังวิญญาณของมู่เฉียนซีถูกใช้ไปจนหมด พวกเขาก็ได้ลืมไปแล้วว่านางก็คือนักปรุงยาคนหนึ่งเช่นกัน
ถึงพลังวิญญาณจะหมดไปแล้ว แต่นางก็ยังมียาลูกกลอนอยู่!
ด้วยเหตุนี้มู่เฉียนซีจึงกลืนยาลูกกลอนลงไปขวดหนึ่งอย่างช่ำชอง
แววตาของว่านซือเยี่ยนจ้องเขม็งไปที่ยาขวดนั้น และปรารถนาที่จะจ้องยาขวดนั้นให้ทะลุไปเลยทีเดียว
“ยาลูกกลอนฟื้นฟูระดับสูงสุดของหอหมอปีศาจ ราคาเม็ดละหนึ่งหมื่นผนึกซวน หนึ่งขวดมีทั้งหมดสิบสองเม็ด และนางก็กินยามูลค่าหนึ่งแสนสองหมื่นผนึกซวนภายในอึดใจเดียวเท่านั้น” ว่านซือเยี่ยนกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
เมื่อได้ยินคำพูดของว่านซือเยี่ยน พวกเขาต่างก็ตกตะลึง
“หนึ่งแสนสองหมื่นหรือ! แม่นางมู่ยอมเสียมากเกินไปแล้ว”
“ไม่ใช่สิ! นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็น ว่าแต่ยาฟื้นฟูสามารถกินเช่นนี้ได้ด้วย”
“…”
และหลังจากนั้น พวกเขาก็เลือกที่จะหุบปากทันที
นั่นเป็นเพราะว่ากลิ่นอายบนร่างกายของนายน้อยมีบางอย่างที่เริ่มผิดปกติแล้ว!
ใช่แล้ว ตอนนี้ว่านซือเยี่ยนกำลังอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก ผู้หญิงคนนี้จะสิ้นเปลืองเกินไปแล้ว
และในตอนที่มู่เฉียนซีกลืนยาลงไปอีกสองขวด ว่านซือเยี่ยนก็รู้สึกว่าหัวใจของตนเองเริ่มกระตุก และหมัดก็กำแน่นขึ้น
เขาทนดูต่อไปไม่ไหวอีกแล้วจริง ๆ!
เดิมทีว่านซือเยี่ยนคิดว่าจะรอให้คนผู้นี้ฝืนทนต่อไปไม่ไหวจนขอให้เขาช่วยเหลือถึงค่อยออกโรง แต่ใครจะคิดเล่าว่าคนผู้นี้จะกินยาลูกกลอนอย่างบ้าคลั่งและฝืนมานานถึงเพียงนี้ได้
ในสายตาของว่านซือเยี่ยน ที่มู่เฉียนซีกลืนลงไปนั้นไม่ใช่ยาลูกกลอน แต่มันคือการใช้เงินไปอย่างบ้าคลั่งต่างหาก!
ร่างเงาสีทองสว่างวาบขึ้น ว่านซือเยี่ยนเริ่มลงมือโดยการพุ่งตรงไปยังราชาหมาป่าหิมะตัวนั้น และหลังจากนั้นลูกปัดสีทองเม็ดหนึ่งก็บินออกไปทันที
“โฮกกก!”
ราชาหมาป่าหิมะตัวนั้นร้องคำรามออกมา และลูกปัดสีทองเม็ดนั้นก็เจาะเข้าไปในดวงตาและทะลุออกไปจากหลังหัวของมันโดยตรง
ราชาหมาป่าหิมะถูกฆ่าตายในทันที ซึ่งมันก็ไม่มีแม้แต่โอกาสจะดิ้นรนเลยด้วยซ้ำ
ในเมื่อราชาหมาป่าถูกฆ่าตายไปแล้ว ฉะนั้นหมาป่าหิมะเหล่านี้จึงไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป และหลังจากนั้นพวกมันก็ล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว
นางยังต่อสู้ไม่สมใจอยากเลยนะ! มู่เฉียนซีมองไปทางว่านซือเยี่ยนด้วยความห่อเหี่ยวเล็กน้อย
แต่ว่านซือเยี่ยนกลับกล่าวว่า “ค่าบริการของนายน้อยอย่างข้านั้นแพงมาก แต่เห็นแก่ที่พวกเราร่วมทางกันมา ฉะนั้นข้าจะให้ส่วนลดกับเจ้า! และคิดค่าใช้จ่ายเพียงแค่ยาลูกกลอนฟื้นฟูหนึ่งร้อยขวดเท่านั้น”
“เจ้าเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่นเองแล้วยังจะมาเก็บเงินอีกหรือ ทำไมเจ้าถึงไม่หยุดทำสมาคมการค้า แล้วไปเป็นโจรเสียเลยล่ะ! ข้าไม่ให้หรอก” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยความโกรธเคือง
เดิมทีนางสามารถฝึกซ้อมกับเจ้าหมาป่าฝูงนั้นได้มากกว่านี้ แต่กลับถูกคนผู้นี้ทำลายสิ้นภายในชั่วพริบตา
นางยังไม่ได้คิดบัญชีกับเขาเลยนะ! คิดไม่ถึงเลยว่าเขายังจะมีหน้ามาเก็บเงินนางอีก?
มู่เฉียนซีกลืนยาลูกกลอนลงไปอีกขวดนึงด้วยความโมโห จากนั้นก็ดื่มยาน้ำลงไปอีกสองขวด และทำให้ตนเองอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
เมื่อว่านซือเยี่ยนได้เห็นสิ่งนี้ คิ้วของเขาขมวดเป็นปมขึ้นมาทันที
“ดูเหมือนว่าสำหรับเจ้าแล้ว ยาลูกกลอนและยาน้ำเหล่านี้ไม่มีค่ากับเจ้าเลย! เสนอราคามาเถอะ! ข้าต้องการยาลูกกลอนและยาน้ำที่อยู่ในตัวเจ้าทั้งหมด”
ว่านซือเยี่ยนรู้สึกว่า หากซื้อยาลูกกลอนและยาน้ำของนางมาแล้ว ก็จะทำให้นางไม่มีสิ่งของที่เอาไว้ใช้อย่างสิ้นเปลืองได้อีก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้ามียาลูกกลอนอยู่ในตัวค่อนข้างมากเลยนะ! นอกจากนี้ข้ายังไม่รับลงบัญญชีเอาไว้ก่อนด้วย ฉะนั้นข้าจึงเกรงว่าคุณชายว่านซื่อคงจะซื้อไว้ไม่ไหวหรอก”
“มีเท่าไร!”
“เห็นแก่ที่พวกเราออกเดินทางมาด้วยกัน ข้าจะลดให้ท่านครึ่งราคา! ทั้งหมดประมาณสิบล้านผนึกซวน เป็นอย่างไร?”
ว่านซือเยี่ยนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไม่สู้เจ้าไปปล้นไม่ดีกว่าหรือ!”
“ก็เหมือนกันนั่นแหละ!”
อย่างไรเสียว่านซือเยี่ยนก็ไม่สมหวังอยู่ดี และในยามนี้ค่ำคืนก็มืดมิดลงแล้ว ฉะนั้นเหล่าองครักษ์ต่างก็ผลัดกันปฏิบัติหน้าที่ ส่วนมู่เฉียนซีกับว่านซือเยี่ยนก็ต้องการที่จะพักผ่อนเช่นกัน
กระโจมที่มู่เฉียนซีนำติดตัวมาด้วยนั้นเรียบง่ายเป็นอย่างมาก แต่ทว่าทางฝั่งของว่านซือเยี่ยนนั้นกลับไม่เรียบง่ายเท่าไรนัก
กระโจมของเขา ทำให้คนมากกว่าสิบคนใช้เวลากว่าครึ่งชั่วยามถึงจะสามารถตั้งจนสำเร็จได้ อีกทั้งกระโจมนั้นของเขาก็มีสีทองอร่าม ที่เปล่งประกายแวววาว ตามรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาอีกด้วย
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกอย่างบ้าคลั่ง และนางก็กล่าวว่า “อยู่ข้างนอกยังทำตัวโอ้อวดถึงเพียงนี้ เจ้าไม่กลัวโดนปล้นหรืออย่างไร?”
“กล้ามาปล้นว่านซือเยี่ยนอย่างข้าก็ลองดูสิ? หากกล้ามาปล้น ข้าก็จะทำให้พวกเขาสิ้นเนื้อประดาตัวไปเลย” ภายในดวงตาของว่านซือเยี่ยนฉายแววเย็นยะเยือกออกมา
หลังจากที่จัดการหมาป่าหิมะในช่วงครึ่งแรกของค่ำคืนเรียบร้อยแล้ว ช่วงเวลาค่ำคืนต่อจากนั้นก็เงียบสงบเป็นอย่างมาก
แสงแดดแรกแห่งรุ่งอรุณได้ส่องสว่างไปบนหิมะ พร้อมกับแสงสีทองที่เปล่งประกายเจิดจรัส
แน่นอนว่าสิ่งที่เปล่งประกายที่สุดก็คือว่านซือเยี่ยนผู้นี้ และเขาที่ยืนเจิดจ้าอยู่ข้างหน้าของมู่เฉียนซี ก็ได้ทำให้นางตาลายไปชั่วขณะ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ว่านซือเยี่ยน เจ้าควรจะดีใจที่เจ้าหน้าตางดงาม! มิเช่นนั้นหากเจ้าแต่งตัวเช่นนี้เดินไปบนท้องถนน คาดว่าจะต้องถูกทุบตีเป็นแน่”
“เพราะนายน้อยอย่างข้าหน้าตาดี ฉะนั้นจึงเหมาะสมที่จะแต่งกายอย่างงดงามเช่นนี้ เจ้าอิจฉาอย่างนั้นหรือ?” ว่านซือเยี่ยนกล่าวด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
“เหอะ ๆ ๆ! เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” มู่เฉียนซีหัวเราะเยาะ
ธารน้ำแข็งเหนือที่อยู่ในดินแดนทางทิศเหนือของราชวงศ์ตงหวงนั้นเป็นสวรรค์สำหรับนักผจญภัยมากมาย นอกจากหมาป่าหิมะแล้วยังมีเจ้าตัวที่เป็นอันตรายอยู่อีกไม่น้อยเลยด้วย
เพียงแต่ความสามารถของมู่เฉียนซียังไม่เพียงพอ ฉะนั้นในการลงมือแต่ละครั้งทำให้นางใช้ยาลูกกลอนไปไม่น้อยเลยทีเดียว
ว่านซือเยี่ยนทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ เขาจึงกล่าวว่า “มู่เฉินซี เจ้ามาเพื่อช่วยข้าหายา! ฉะนั้นหลังจากนี้ไปเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เคลื่อนไหวใด ๆ อีกแล้ว”
“ข้าจะเคลื่อนไหวหรือไม่มันก็เป็นเรื่องของข้า นายน้อยเช่นเจ้าสนใจแม้แต่เรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?”
“ในเมื่อเจ้าไม่สามารถเอาชนะจนปลิดชีพสัตว์วิญญาณได้ ถึงจะสิ้นเปลืองพลังวิญญาณก็ช่างมันเถอะ แต่นี่มันยังสิ้นเปลืองยาด้วย!”
“ก็ข้ามียาลูกกลอนมากมายนี่นา! และหลังจากที่เจ้ากับหอหมอปีศาจของข้าร่วมมือกันแล้ว เจ้าอยากจะใช้ยาน้ำดื่มแทนน้ำหรืออยากจะใช้ยาลูกกลอนเล่นแทนเม็ดทรายก็ได้ทั้งนั้น! ตอนนี้เจ้ารู้ถึงประโยชน์ในการร่วมมือกับหอหมอปีศาจของข้าแล้วหรือยังล่ะ?” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ว่านซือเยี่ยนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้าของหอหมอปีศาจสิ้นเปลืองเช่นนี้ ข้าคงต้องพิจารณาให้ดีแล้วล่ะ ว่าหอหมอปีศาจเหมาะสมที่จะร่วมมือหรือไม่?”
มู่เฉียนซีไม่เพียงแต่ไม่พูดอะไรเท่านั้น นางยังคงทำเป็นไม่สนใจอะไรอีกด้วย
และเมื่อว่านซือเยี่ยนยิ่งเห็นมู่เฉียนซีสิ้นเปลืองยาลูกกลอนมากขึ้นเท่าไร แรงกดดันของเขาก็ยิ่งต่ำลงมากขึ้นเท่านั้น
ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นว่าบนกองหิมะกองหนึ่งนั้น มีดอกไม้สีเหลืองดอกเล็ก ๆ ดอกหนึ่งอยู่ ซึ่งมันดูแล้วธรรมดาเป็นอย่างมาก
แต่ทว่ามันกลับทำให้ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งประกาย และนางก็เคลื่อนไหวทันที
ว่านซือเยี่ยนเป็นคนที่ช่างสังเกตคนหนึ่ง ฉะนั้นเมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของมู่เฉียนซี เขาก็ไล่ตามร่างเงาของมู่เฉียนซีไปอย่างไม่พูดไม่จา
และเก็บเกี่ยวมันทันที!
ว่านซือเยี่ยนไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคือยาอะไร แต่ในเมื่อมู่เฉียนซีชอบ มันก็ต้องเป็นสิ่งของที่มีค่าอยู่แล้ว
และตราบใดที่มันเป็นของมีค่า เขาก็ชอบทั้งนั้นแหละ!
เพราะนางประมาทไปชั่วขณะหนึ่ง จึงทำให้ว่านซือเยี่ยนชิงแย่งดอกเวยเสวี่ยธรรมดาดอกนี้ไปได้ และนั่นก็ทำให้มู่เฉียนซีโมโหมากจริง ๆ!
“เจ้ารู้หรือว่านี่คืออะไร? จะมาแย่งไปทำไม ส่งมานี่!”
ว่านซือเยี่ยนเก็บสมุนไพรวิญญาณนั้นเข้าไปในมิติด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “เป็นของข้า เหตุใดจะต้องส่งให้เจ้าด้วย”
“ว่านซือเยี่ยน ถึงเจ้าจะขี้เหนียวก็ช่างเถอะ แต่นี่ถึงกับมาแย่งของที่เพื่อนร่วมเดินทางของเจ้าชอบ คนอย่างเจ้ารอครองโสดไปตลอดชีวิตเสียเถอะ!”
“มู่เฉินซี เจ้าที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหราและสิ้นเปลืองขนาดนี้คงไม่มีผู้ใดเลี้ยงเจ้าได้หรอก ข้าว่าเจ้าจะขายไม่ออกเสียมากกว่า”
“ข้ามีคู่หมั้นแล้วเถอะ ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้คุณชายว่านซื่อมากังวลหรอก”
“เจ้าคิดว่าข้าไม่มีคู่หมั้นหรือไงกัน?”
“เจ้าจะให้หรือไม่ให้กันแน่?”
“ดอกไม้ดอกหนึ่ง จ่ายด้วยยาลูกกลอนสิบขวด”
“ได้ ตกลงรับข้อเสนอ!” แม้ว่าว่านซือเยี่ยนจะเป็นพ่อค้าหน้าเลือดจอมละโมบ แต่มู่เฉียนซีกลับตอบรับอย่างรวดเร็วมากอยู่ดี
และธุรกิจในคราวนี้ ก็ได้กำไรมากเลยทีเดียว
แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าไม่เจ็บปวดใจเลยแม้แต่น้อย ว่านซือเยี่ยนกลับรู้สึกว่าตนเองไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าไรนัก
อย่างไรเสียเมื่อไรที่มู่เฉียนซีเจอสมุนไพรวิญญาณ ว่านซือเยี่ยนก็จะต้องนำหน้าไปก้าวหนึ่งให้ได้
แม้ว่าความต้องการสมุนไพรวิญญาณของมู่เฉียนซีจะทำให้นางต้องนำเอายาลูกกลอนออกมา แต่นางก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้น่ารักมากเกินไป และนางก็ต้องการมันมาก ถึงมันจะไม่คุ้มค่าเลยสักนิดก็ตาม
ระหว่างทางมานี้ว่านซือเยี่ยนได้รับยาลูกกลอนมาไม่น้อยเลย แต่เขากลับรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มียาลูกกลอนมากมายราวกับหลุมลึกก็มิปาน ถึงจะขุดอย่างไรก็ไม่หมดเสียที
นี่มันบ้าไปแล้ว!
ถึงจะค้นพบสมุนไพรวิญญาณอื่น ๆ ไม่น้อย แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการกลับไม่เห็นแม้แต่เงา และหลังจากที่ผ่านไปหลายวัน อารมณ์ของว่านซือเยี่ยนกลับยิ่งแย่มากขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่าเขาจะขูดรีดเอายาลูกกลอนออกมาจากหลุมของมู่เฉียนซีไม่น้อยแล้ว แต่อารมณ์ของเขาก็ไม่ดีขึ้นเลย
“รายงานข้อมูลมันถูกต้องจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?” ว่านซือเยี่ยนกล่าวอย่างเย็นชา
“เรียนนายน้อย ถูกต้องแน่นอนขอรับ หากไม่ถูกต้อง พวกเราก็ไม่กล้าให้นายน้อยมาด้วยตนเองหรอกขอรับ” ลูกน้องของเขากล่าวตอบ
ตูมมม โครมมม!
ขณะนั้นเองก็มีเสียงต่อสู้ดังกึกก้องมาจากเบื้องหน้า
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เลิกทำหน้านิ่วคิ้วขมวดได้แล้ว ข้างหน้ามีคนอยู่ พวกเราไปสอบถามดูสักหน่อยเถอะ”
.