ท่านประธานที่รัก - ตอนที่ 500 ทะเบียนสมรส
ชู่จี้เข้าใจแล้ว ในเมื่อเป็นแฟนคลับตัวเอง งั้นเขาก็ต้องทำตัวรับผิดชอบที่เป็นไอดอล
ดูท่าทางน่าจะเป็นแฟนคลับตัวยงของเขาจริงๆ “ในเมื่อคุณชอบขนาดนั้น งั้นเดี๋ยวผมให้ตั๋วคุณละกันครับ” กับเพื่อนของซังอี๋ แล้วเป็นแฟนคลับตัวเองด้วย เขาจึงดูแลเป็นพิเศษ
หลี่เจียซินตาเป็นประกาย “จริงเหรอคะ?” เธอตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก แต่อยู่ต่อหน้าไอดอลตัวเอง เธอจะทำตัวตื่นเต้นเกินไปไม่ได้
“แน่นอนครับ” ชู่จี้พูดอย่างดูดี ความเป็นผู้ดีบนตัวเขาน่าหลงใหลจริงๆ
หลี่เจียซินสนใจแต่ชู่จี้ ไม่ได้คิดเลยว่าชู่จี้มาที่นี่ทำไม มาได้ยังไง สุดท้ายตอนจะไป หลี่เจียซินยังขอช่องทางติดต่อชู่จี้อีก ในใจคิดว่าโอกาสดีๆแบบนี้จะพลาดได้ยังไง
“ว้าว อี๋อี๋ ฉันมีความสุขมาก ฉันคิดว่าตัวเองกำลังฝันซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะได้ใกล้ชิดชู่จี้ขนาดนี้” เธอกระโดดโลดเต้น แววตามีแต่ความสุข
ซังอี๋กดไหล่ของเธอไว้ “พอแล้ว ฉันต้องกลับแล้ว ไว้เจอกันวันอื่น แกกลับไปทำใจดีๆแล้วกัน”
ซังอี๋เดินไปอีกฝั่งของถนน ชู่จี้จอดรถรอเธออยู่ “เพื่อนเธอน่าสนุกดี” ชู่จี้พูดเหมือนชม
“ยัยนั่นชอบนาย ตอนนี้ฉันยังไม่กล้าบอกเรื่องของเราเลย ฉันกลัว” ซังอี๋หันไปคาดเข็มขัดนิรภัย ไม่คิดเลยว่าอยู่ๆชู่จี้จะเอนตัวมาหา “ไว้ใจเถอะ ฉันจะจัดการความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นดีๆ เธอก็แค่ชอบฉันที่เป็นไอดอล”
ลมหายใจของเขาพ่นลงมาที่คอเธอ จนเธอรู้สึกขนลุก “ขอให้เป็นอย่างนั้น เพราะเสน่ห์ของนายเลย”
“ผู้ชายของเธอมีเสน่ห์มาโทษฉันเหรอ?” ชู่จี้เลิกคิ้วแล้วจุมพิตเธอ “เธอไม่เชื่อเสน่ห์ของตัวเองเหรอ?”
เขากลัวว่าผู้ชายคนอื่นจะมาแย่งซังอี๋ไปจากตัวเอง
“เธอไม่มั่นใจตัวเองหรือไม่มั่นใจฉันกันแน่?” เห็นเธอไม่พูดอะไร เขาจึงยื่นมือเข้าไปในเสื้อเธอ เธอมองเขาตาขวางแล้วเอามือเขาออก “เปล่า ฉันแค่ อาจจะเพราะลางสังหรณ์ของผู้หญิงมั้ง”
ชู่จี้ไม่ใส่ใจมากนัก “ไว้ใจนะครับ ในเมื่อฉันเลือกเธอแล้ว ไม่มีวันทิ้งเธอหรอก”
“อีกสองวัน เจียซินก็จะมาที่ฮวาเจิง ไม่นานก็ต้องรู้ความสัมพันธ์ของเรา”
“เธอกลัว?” ชู่จี้คิดว่าเธอไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์กับตัวเอง เลยผิดหวังเล็กน้อย
เธอรีบปิดปากเขาไว้ “แค่กลัวว่าเจียซินคิดมาก ขอให้ฉันคิดมากไปเองเถอะ”
จนกระทั่งตกดึก ซังอี๋ค่อยทำโจ๊กกิน เธอไม่กินอะไรเลย รู้สึกในลนลานผิดปกติ
ชู่จี้จึงต้องป้อนเธอกินด้วยตัวเอง “มากินหน่อย หิวแย่แล้ว ถ้าเธอยังเป็นห่วงอีก งั้นพรุ่งนี้เราไปจดทะเบียนสมรสกัน?”
เขาก็กำลังเป็นห่วงว่าผู้ชายคนอื่นจะมาแย่งซังอี๋พอดี
เห็นซังอี๋ไม่ตอบ เขาจึงคิดว่าตกลงแล้ว ขอแค่จดทะเบียนสมรส เธอก็หนีไปไหนไม่ได้แล้ว เห็นท่าทางที่งัวเงียของซังอี๋ ดูแล้วน่ารักมาก ใจเขาละลายทันที “มากินข้าว ฉันสั่งการไปแล้ว เดี๋ยวเราไปจดทะเบียนได้เลย”
ซังอี๋อ้าปากค้าง นี่กะทันหันเกินไป ถึงเมื่อวานเขาจะพูดกับเธอแล้ว แต่ตัวเองยังไม่ได้ตกลง ไม่คิดเลยว่าเขาจะไปจัดการแล้ว
“ถ้าเรามีทะเบียนสมรส คนอื่นก็จะไม่กล้าทำอะไรอีก เธอว่าใช่ไหม?”
เธอหลงไปกับสายตาเขา ตอนนี้ในสายตามีแค่เขา
“ทั้งสองคนมาจดทะเบียนสมรสเหรอครับ?” พนักงานทะเบียนถาม
ซังอี๋เหงื่อไหลเต็มมือ เกร็งจนพูดอะไรไม่ออก พอรู้สึกได้ว่าซังอี๋เกร็ง ชู่จี้จึงจับมือเธอแน่นขึ้น แล้วให้ความอบอุ่นกับเธอ “ใช่ครับ”
“บัตรประจำตัวประชาชนกับทะเบียนบ้านพกมาหรือเปล่าครับ?”
ชู่จี้ให้อวี้เฟิงเป็นคนเอามาให้ พอเจ้าหน้าที่เห็นจึงเอ่ยว่า “นั่งที่นี่นะครับ ตอนถ่ายรูปยิ้มหวานๆนะครับ”
พอถ่ายรูปเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จึงประทับตราให้ แล้วยื่นให้ทั้งสอง “ยินดีด้วยนะครับ”
ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที
ซังอี๋รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันอยู่ ทะเบียนสมรสในมือหนักมาก ชื่อกับรูปถ่ายบนนั้นก็สวยผิดปกติ ทั้งหมดเหมือนไม่ใช่เรื่องจริงอย่างนั้น
“ทำไมเหรอ?” ชู่จี้คิดว่าซังอี๋เสียใจทีหลัง
อยู่ๆเธอก็พุ่งเข้าอ้อมกอดเขา ดีใจจนร้องไห้ “ฉันดีใจมาก เหมือนกำลังฝันเลย ได้เป็นเจ้าสาวของนาย ฉันมีความสุขมาก”
“เพราะฉะนั้น เราจัดงานแต่งได้แล้ว” เขายิ้มอ่อน เสียงพูดน่าหลงใหลมาก
อีกฝั่ง หลี่เจียซินกำลังลังเลว่าจะโทรหาชู่จี้ดีหรือเปล่า กลัวจะรบกวนเขาทำงาน แต่ก็หักห้ามความคิดถึงในใจไม่ได้ เธอลังเลมาก ถ้าโทรไปเขาบอกว่าไม่รู้จักตัวเองจะทำยังไง?
แต่ถ้าไม่โทรไป งั้นจะเก็บเบอร์โทรนี่ไว้มีประโยชน์อะไร?
เธอจึงตัดสินใจ แล้วกดโทรออก
“สวัสดีค่ะ……” ใจหลี่เจียซินเต้นแรงมาก กลัวว่าชู่จี้จะกดวางสาย
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?” อวี้เฟิงงง ตามหลักแล้ว อีกฝ่ายน่าจะพูดจุดประสงค์มาตรงๆเลย
เสียงน่าฟังมาก แต่นี่ไม่ใช่เสียงของชู่จี้ ตัวเองไร้เดียงสาจริงๆ คิดว่าชู่จี้จะให้เบอร์ตัวเองจริงๆ “ขอโทษนะคะ ฉันอาจจะโทรผิด”
อวี้เฟิงงงกว่าเดิม “คุณโทรหาใครครับ?”
“ฉันโทรหาคุณชู่จี้ค่ะ” หลี่เจียซินไม่คาดหวังเลย แค่ตอบไปอย่างนั้น
“บอสชู่? คุณมีธุระอะไรครับ? ถ้ามีโทรนัดได้ครับ” อวี้เฟิงพูดอย่างใจเย็น
ตาหลี่เจียซินเป็นประกาย “ฉันอยากถามว่า……นี่เป็นเบอร์ส่วนตัวของคุณชู่หรือเปล่าคะ?”
ปากอวี้เฟิงกระตุก “คือ……ไม่ทราบครับ คุณยังมีธุระอื่นไหมครับ?”
ประกายในดวงตาหม่นหมองลง “ไม่มีแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ” เธอวางสาย เธอผิดหวังมาก กว่าตัวเองจะได้ใกล้ชิดกับเทพบุตรชู่ ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะคิดไปเอง
เธอจึงโทรไปบ่นกับซังอี๋เรื่องนี้ อยากจะระบายอารมณ์ออกมา “อี๋อี๋ ฉันเสียใจมาก เบอร์ที่เทพบุตรชู่ให้ฉันเป็นเบอร์ส่วนกลาง ติดต่อเขาไม่ได้เลย”
“เหรอ? พวกเขาอาจจะยุ่งมั้ง? อย่าคิดมาก ครั้งหน้ายังมีโอกาสเจอกันอีก” ได้ยินเสียงที่ผิดหวังของเจียซิน ซังอี๋ก็รู้สึกไม่ดีไปด้วย เธอปลอบใจเจียซินว่าอย่าคิดมาก แต่ก็รู้สึกโชคดีที่ชู่จี้ไม่ได้ให้เบอร์ส่วนตัว