ท่านประธานที่รัก - ตอนที่ 446 เหมือนเธอตอนเด็กมาก
ซังหลินจวินยิ้มมองเธอ แสดงเจตนาชัดเจนแล้ว
เห็นเขาไม่เปลี่ยนใจ เฉินเฉียวจึงไม่ลังเลอีก
เพราะในหัวเธอไม่มีไอเดียวมากมายขนาดนั้น เธอเลยเอาโทรศัพท์ออกมาค้นดู
สังคมตอนนี้ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ แค่ค้นหาในอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นคำถามอะไรก็มีคำตอบทั้งนั้น
ดูในอินเทอร์เน็ต ความคิดแต่ละคิดไม่เหมือนกัน เฉินเฉียวเลื่อนลงไปดู ทั้งๆที่คำตอบก็โอเค แต่เธอกลับรู้สึกว่ามีที่ไหนแปลกๆ
คิดไปมา เฉินเฉียวเลยโพสต์ขอความช่วยเหลือ
เพื่อนคนต่างประเทศจะมาเที่ยวที่เป่ยเฉิง แต่ฉันไม่ค่อยรู้จักเป่ยเฉิง ไม่ทราบว่าในเป่ยเฉิงมีที่ไหนที่น่าเที่ยวบ้างคะ? รอค่ะ ต้องการด่วน
พอโพสต์ออกไปแล้ว ไม่นานเฉินเฉียวก็เห็นมีคนตอบเธอ
ผู้ใช้งาน : ในเมื่อผู้โพสต์จะแนะนำเพื่อนต่างชาติ งั้นก็ต้องไปโม่หลังสิ ที่นั่นมีก้อนหินที่แปลกประหลาด ข้างๆยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ชมวิวตอนเช้าเสร็จ ตอนเที่ยงก็ไปทานอาหารได้ ฉันกับเพื่อนที่อิตาลีเคยไป แนะนำไปค่ะ
เฉินเฉียวได้ยินคนพูดถึงโม่หลังครั้งแรก ถ้าไม่ใช่ผู้ใช้คนนี้ตอบเธอ เธอก็คงไม่รู้ว่าในเป่ยเฉิงมีที่แบบนี้ด้วย
พอลองค้นหาสถานที่นั้น เลยเห็นรูปถ่ายต่างๆที่สวยงาม เฉินเฉียวก็แอบวงสถานที่นี้ไว้เลย
เวลาเดินไปเรื่อยๆ ไม่นาน คนที่มาตอบก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ
สถานที่ต่างๆทั้งสวยทั้งมีของกินอร่อยๆ พวกเขาแนะนำมาเยอะมาก
จากนั้นเฉินเฉียวก็เริ่มจดสถานที่ต่างๆลองในโน้ตบุ๊ค หารูปถ่ายต่างๆแล้วทำเป็นพาวเวอร์พ้อย
รอซังหลินจวินเคลียร์งานเสร็จแล้ว เลยเห็นไฟล์งานที่เฉียวเฉียวส่งให้เขา
พอเปิดดู ความละเอียดที่ทำมาทำให้ซังหลินจวินว้าว
เพราะมีการจัดประเภทสถานที่ ร้านอาหารต่างๆเป็นระเบียบ ดูแล้วสบายตามาก
พอดูจบแล้ว ความคิดที่ซังหลินจวินแค่อยากให้เธอฆ่าเวลาหายไปทันที
ดูรูปภาพต่างๆในนั้น ไม่ลังเลที่จะใช้สถานที่พวกนี้ในแผนงานเลย
ซังหลินจวินใช้โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานโทรเรียกตานเหยียนเข้ามา
ตานเหยียนที่ไม่อยากไปรบกวนทั้งสองคน ไม่มีเลยว่าบอสจะเรียกเขาไปหา
จากนั้นก็เดินเข้าไปอย่างมึนงง
จากนั้นจึงเห็นบอสกำลังรอเอกสารจากเครื่องเอกสาร
ซังหลินจวินปริ้นงานเมื่อกี้ออกมาแล้วเอามาเรียงกัน รอตานเหยียนเดินมาหา จึงยื่นเอกสารให้เขา
“นี่เป็นสถานที่ของแผนงานสำคัญของบริษัทเรา ตานเหยียนนายไปจองโรงแรมกับร้านอาหารในนี้ ต้องจองที่ที่ดีที่สุด”
ตายเหยียนเห็นว่าเป็นงานที่สำคัญ ในใจเลยเกร็ง
จากนั้นก็รีบรับเอกสารมาถือไว้ เหมือนกลัวหายอย่างนั้น
“บอสซังครับ ผมต้องออกเงินเองหรือเปล่าครับ?” ตานเหยียนไม่เคยรับผิดชอบงานแบบนี้ ไม่รู้ว่าบอสมอบหมายงานนี้ให้เขา ซังหลินจวินไม่รู้จะตอบยังไง
แต่ก่อนเรื่องแบบนี้อวี้เฟยเป็นคนจัดการ เขาไม่เคยถามอะไรแบบนี้ เขาน่าจะจัดการเอง
อยู่ๆก็เจอคนที่พูดตรงๆแบบนี้ ซังหลินจวินแค่ไอเสียงเบา “นายเอาแผนงานนี้ให้การเงินดู จากนั้นก็ให้เขาอนุมัติค่าใช้จ่ายให้นาย เดี๋ยวฉันจะโทรไปบอกการเงินให้ นายไปทำเรื่องได้เลย”
บอสพูดชัดเจนแบบนี้ ตานเหยียนเลยจะถามอะไรอีกไม่ได้ พยักหน้าเข้าใจแล้วเดินออกไป
เฉินเฉียวที่ยืนดูอยู่ข้างๆก็งงเหมือนกัน
“หลินจวิน นายแน่ใจเหรอว่าช่วงนี้บริษัทจะไม่มีปัญหา? ฉันกังวลแปลกๆ”
เห็นผู้ช่วยคนใหม่ใสซื่อขนาดนี้ เฉินเฉียวกลัวว่าเขาอาจจะโดนหลอกแล้วขายบริษัท
ถึงเวลาหยวนเซิ่งของพวกเขาก็ซวยสิ
ซังหลินจวินนวดขมับ แล้วค่อยตอบว่า “ไม่หรอก เรื่องสำคัญฉันจะจัดการเอง ฉันเชื่อว่าเดี๋ยวเขาก็จะชินเอง”
หลินจวินพูดขนาดนี้แล้ว เฉินเฉียวเลยไม่สงสัยอีก
จากนั้นก็นั่งดูหลินจวินเคลียร์งานเบื่อๆ
ซังหลินจวินมองไปที่เฉินเฉียว ในใจมีความสุขมาก
ในมือปู้อี้เฉินถือที่อยู่เซิ่งโหรวที่เซิ่งยวี่ให้เมื่อกี้ เขาขมวดคิ้วแน่น กำลังคิดว่าควรไปหาเธอตอนนี้หรือเปล่า
ตอนที่กำลังลังเล อยู่ๆก็มีเสียงเด็กผู้หญิงดึงดูดความสนใจเขา
“พี่คะ พี่ว่าเสี่ยวฮุยน่ารักไหมคะ” เหมิงเหมิงที่ใส่ชุดนักเรียนที่ฟ้าขาวกำลังอุ้มน้องหมาขนฟูอยู่ ขนของน้องหมาเหลืองเล็กน้อย ไม่ใช่ขนจริงๆของมัน แต่เพราะมีฝุ่นเกาะ
ความจริงเหมิงเหมิงเป็นเด็กที่รักสะอาดมาก แต่พอเจอสัตว์ที่น่ารักแบบนี้ ควมรักสะอาดหายไปทันที
โยว่อีมองน้องสาวที่กำลังเล่นกับน้องหมา ในใจหมดคำพูดมาก
วันนี้โรงเรียนประกาศว่าอีกสองวันจะมีการประเมินโรงเรียน วันนี้เลยไม่มีเรียน แค่ทำความสะอาดเท่านั้น
โยว่อีเกลียดความรู้สึกที่ฝุ่นเกาะมากๆ เลยหนีออกจากห้องเรียน แล้วแอบพาน้องสาวมาด้วย
แต่ไม่คิดเลยว่า ระหว่างทางที่พวกเขากลับบ้านจะเจอน้องหมาตัวเล็ก น้องสาวจะอุ้มน้องหมากลับบ้านด้วย
ทีแรกอยากนั่งรถกลับไป ตอนนี้เลยต้องเดินกับน้องสาว
อยู่ๆก็มีเสียงรถมาจอด
“หนูน้อย จะนั่งรถด้วยไหม?”
“เราไม่นั่ง คุณแม่บอกแล้ว คนที่มาเรียกเราขึ้นรถระหว่างทางเป็นคนชั่ว”
โยว่อียังไม่ทันขอบคุณคนที่ผ่านมา พอได้ยินที่น้องสาวพูด ในใจเลยมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
คนคนนี้ไม่น่าจะตอแยกับเด็ก น้องสาวยังเด็กขนาดนี้ คงไม่ใส่ใจคำพูดเธอหรอก
อาจจะเหมือนกับที่เขาคิด คนที่นั่งอยู่ในรถเดินลงมา จากนั้นก็ก้มลงมาคุยกับพวกเขา “คุณลุงไม่ใช่คนชั่ว ลุงแค่ผ่านมาเฉยๆ ถ้าพวกหนูไม่เชื่อลุง ลุงเอาโทรศัพท์ให้พวกหนูก็ได้ ถึงเวลาพวกหนูก็โทรแจ้งตำรวจได้เลย”
“จริงเหรอคะ?” เหมิงเหมิงได้ยินว่าไม่ใช่คนชั่ว แล้วเธอก็เดินจนเหนื่อยแล้ว จึงทำหน้าดีใจ
ปู้อี้เฉินยิ้มแล้วพยักหน้าให้
กับเด็กผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายเฉินเฉียวตอนเด็ก เขาอธิบายไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง
เขาเคยมีรูปเฉินเฉียวตอนเด็ก