ท่านประธานที่รัก - ตอนที่ 24 เราหย่ากันเถอะ
โชคดีที่เฉินเฉียวไม่หลงกลง่ายๆ“ ที่เราสองคนเจอกันในวันนั้น …นายก็รู้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด "
หรอ?ซังหลินจวินมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง "ฉันไม่เคยเข้าใจผิด"
คำไม่กี่คำ แต่กลับมีพลัง
เฉินเฉียวมองเขาด้วยความตะลึงและผุดความคิดที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
ผู้ชายคนนี้คงจะไม่…..
คิดไปได้ครึ่งหนึ่งเธอก็หยุด
เป็นไปไม่ได้
เธอแต่งงานแล้ว. และเขาคือซังหลินจวิน มีผู้หญิงตั้งมากมายให้เลือก
ซังหลินจวินไม่ได้พูดอะไรแต่หยิบโทรศัพท์กลับไป "แม่ครับ เธอหน้าบาง เรื่องจูบคุยแค่กับผมก็พอ"
เรื่องจูบอีกแล้ว!
เฉินเฉียวหันหน้ากลับ ทำเป็นหูทวนลม
“ โอเค งั้นลูกพาเธอกลับมาบ้าน ไม่ได้รังแกอะไรเธอใช่ไหม ยังไงซะอายุก็ปาไปสามสิบแล้ว จะแกล้งนิดแกล้งหน่อยคงไม่เป็นไร พาเธอกลับมาด้วย แถมยังนอนบนเตียงอีก ถ้าไม่ได้ทำอะไรเลย ฟังดูไม่ปกตินะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆฉันจะให้หมอเฉินพาลูกไปตรวจแผนกบุรุษเวช"
“……”เฉินเฉียวตะลึงอีกครั้งเมื่อได้ยิน รอเขาหันมา เธอมองผู้ชายคนนั้นแล้วตัดสินใจอธิบาย: "คุณนายคะ คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ"
เข้าใจผิดหรอ เข้าใจผิดอะไร "หญิงชราถาม
“ ฉันกับคุณซังไม่ได้เป็นแบบที่คุณหญิงคิด จริงๆแล้ว ระหว่างเราสองคนเป็นเรื่องเข้าใจผิด พวกเราเป็นแค่….เพื่อนธรรมดา"สี่คำสุดท้าย เฉินเฉียวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วเธอก็พบคำที่เหมาะสมกว่าสำหรับทั้งคู่
จริงๆถ้าจะให้พูดก็ไม่นับว่าเป็นเพื่อนธรรมดาหรอกค่ะ
“ พวกเธอนิจริงๆเลยนะจูบกันแล้วยังจะมาบอกว่าเป็นแค่เพื่อนอีก "หญิงชรากลับเข้าไปที่เรื่องนั้น
เหงื่อตก
กลับมาหัวข้อนี้อีกแล้ว
เฉินเฉียวละอายใจเป็นอย่างยิ่ง
ซังหลินจวินหยิบโทรศัพท์กลับไปแล้วไม่เปิดลำโพงอีก เขากระซิบสองสามคำในโทรศัพท์และวางสาย
สีหน้าดูบึ้งตึงกว่าตะกี้
“ พ่อ โกรธหรอ”ซังโย่วอีแสนรู้ ถือชามข้าวพลางถาม
ซังหลินจวินมองไปที่เขาจากนั้นมองไปที่ผู้หญิงข้างๆเขาเม้มริมฝีปากและไม่ตอบ
ผู้ชายคนนี้ธรรมดาก็ดูเหมือนจะอ่อนโยน แต่พอชักสีหน้าแล้วน่ากลัวชะมัด ไม่น่าล่ะ ซังโย่วถึงได้กลัว
แต่เขาไม่พอใจอะไรกัน?
เฉินเฉียว รู้สึกสับสนเล็กน้อยและเธอกินต่อไปไม่ลง เพียงกล่าว "คุณซังคะ ฉันอิ่มแล้ว"
ซังโย่วอีกินโจ๊กคำสุดท้าย“ ผมก็อิ่มแล้ว”
“ไปหยิบกระเป๋า แล้วให้คนขับรถส่งไปโรงเรียนนะ”ซังหลินจวินคุยกับเด็ก แต่ไม่ได้มองไปที่ เฉินเฉียว
ครับผมเด็กน้อยลงจากเก้าอี้ สวมรองเท้าแตะแล้วรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน
บนโต๊ะอาหารเหลือเพียงเฉินเฉียวกับซังหลินจวินสองคน
"ขอบคุณนะคะสำหรับเมื่อคืน ลำบากคุณแย่เลย"เฉินเฉียวพูดกับเขาอย่างสุภาพ
หลังจากนั้นโดยไม่รอให้ชายคนนั้นพูดอะไรเขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไป
แต่ก่อนที่เธอจะจากไปจู่ๆข้อมือของเธอก็ถูกฝ่ามือใหญ่คว้าไว้ ฝ่ามือของเขาร้อนและมีพลังทำให้ใจเธอว้าวุ่นอย่างไม่มีสาเหตุ เธอขัดขืน จะสะบัดออก
แต่เขาแรงเยอะมาก ข้อมือเธอโดนกำไว้จนเจ็บ สะบัดออกไม่หลุด
“ พ่อครับ ผมเสร็จแล้ว”ขณะนี้ซังโย่วอีสะพานกระเป๋าเดินมา
เขาจึงปล่อยมือ
เขาไม่ได้มองไปที่เฉินเฉียวแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปพร้อมกับ ซังโย่วอี
เด็กน้อยเดินไปสองก้าว นึกขึ้นได้หันกลับมามองเฉินเฉียวที่ยืนนิ่งและถามว่า: "พี่เฉียว ผมเลิกเรียนกลับมาแล้วยังจะเจออยู่ไหม "
เฉินเฉียววางมือไว้บนข้อมืออีกข้างที่ยังคงทิ้งความร้อนของชายคนนั้นอยู่ เธอกล่าว "ฉันก็จะไปแล้วเหมือนกัน
“ งั้นพวกเราแลกเบอร์โทรกันเถอะ”ซังโย่วอีอ้อน
แต่ยังไม่ทันที่เฉินเฉียวจะบอกบอก เด็กน้อยก็ถูกใครบางคนพาออกไป
ซังโย่วอีโกรธ บิดตัวไปมา"พ่อครับ ผมยังไม่ได้เบอร์พี่เฉียวเลย"
อืม
เบื่อจริงๆ แล้ววันหลังจะไปเล่นกับพี่เฉียวได้ยังไง "
จะเล่นอะไร ตั้งใจเรียนซะ "
“ พ่อหึงผมกับพี่เฉียวหรอ ไม่ต้องห่วง ถึงแม้ผมจะชอบพี่เฉียว แต่ผมก็ชอบพ่อเหมือนกัน คุณยายบอกว่าเป็นผู้ชายต้องใจกว้าง"
“……เป็นเอามากนะ
เฉินเฉียวมองไปที่ร่างด้านหลังทั้งคู่อย่างครุ่นคิดและเดินตามพวกเขาออกไปอย่างเงียบ ๆ
“ คุณเฉินคะ กระเป๋าคุณค่ะ”แม่บ้านนำกระเป๋ามาให้
เฉินเฉียวยิ้มและขอบคุณ
ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว โดยปกติหลี่ชิงจะต้องโทรตามเป็นร้อยสายแล้ว แต่ว่าจนถึงตอนนี้ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย น่าแปลก
เธอหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าปัดสองครั้งแล้วพึมพำว่า "อ้าว ทำไมจอดับ" หรือว่าแบตหมด"
เธอเปิดโทรศัพท์ แต่แบตเตอรี่เต็ม
กำลังจะโทรหาหลี่ชิง แต่มีสายเข้าซะก่อน
บนหน้าจอคำว่า 'ปู้อี้เฉิน' สามคำแวบขึ้นมา
เฉินเฉียวมองไปรอบ ๆ ห้องโถงและเห็นว่าไม่มีใครอยู่ก่อนที่จะรับโทรศัพท์
"ปู้อี้เฉิน เราหย่ากันเถอะ"เธอพูดโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่าย
เธอก็ไม่อยากคุยเรื่องนี้ในโทรศัพท์ แต่ว่าพอนึกถึงโหยวจิ้งหลีแล้วก็พูดไม่ออก เธอจึงทนไม่ได้ ไม่อยากจะเสียเวลากับเขาแม้แต่วินาทีเดียว
ซังหลินจวินเพิ่งส่งซังโย่วอีขึ้นรถ เดินเข้ามาพอดีกำลังจะขึ้นชั้นบนเขาได้ยินเข้าหยุดก้าวในทันทีแล้วมันไปมองเธอ
ร่างอันผอมเพรียวของเธอยืนหลังตรงอยู่ตรงนั้น มีความดื้อรั้น ตัวเธอสั่น มองจากด้านหลัง ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่อัดอั้นในใจ
เขาครุ่นคิดเล็กน้อยและก้าวต่อขึ้นไปชั้นบน
ปู้อี้เฉินถึงไม่ถึงว่าเฉินเฉียวจะพูดแบบนี้ออกมา เข้ากัดฟันพูด “เมื่อคืนเธอไปนอนกับผู้ชายคนไหนมา ทำไมล่ะ ผู้ชายข้างนอกทำให้เธอมีความสุขจน อยากจะหย่ากับฉันจนทนไม่ไหวเลยหรอไง "
“ช่างเหอะ”น้ำเสียงของเฉินเฉียวดูเย็นฉา"พร้อมตอนไหนก็บอก จะได้ไปเซ็นหย่า"
“ อยากเซ็นใบหย่าหรอ”ปู้อี้เฉินเริ่มหงุดหงิด“ เฉินเฉียว เธออย่าลืมตอนแรกที่ก้าวเข้ามาที่ตระกูลปู้สัญญาที่เซ็นไว้กับพ่อฉัน จะหย่าก็หย่าไปแต่จ่ายค่าชดเชยมาด้วยสามร้อยล้าน "
ปู้อี้เฉินไม่รู้ตัวเองเป็นอะไรไป โหยวจิ้งหลีไปฟ้องเขาเขาจึงอารมณ์เดือดจะไปเช็คบิลกับเฉินเฉียว
แต่พอกลับไปถึงบ้านพบกับบ้านที่ว่างเปล่า
เธอไม่อยู่
พอคิดว่าเธอไปมั่วกับชายคนอื่น เขาก็แทบจะปรี๊ดแตก เขาโทรหาเธอหลายครั้ง แต่ว่านังผู้หญิงคนนี้กลับปิดเครื่องใส่