ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 559 อย่าคิดจะเล่นตุกติกกับฉัน
บทที่559 อย่าคิดจะเล่นตุกติกกับฉัน
“ไม่ใช่สิ เรื่องนี้ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ไม่รู้ว่าจ้าวยีฟานคิดจะเล่นตุกติกอะไรอีก เขาให้เงินเธอไปหลายสิบล้านแล้ว เพื่อให้เธอใช้จ่าย”เฉินเกอย่นคิ้ว
ความจริงแล้วเฉินเกอเองก็รู้สึกแปลกใจมาก เพราะตั้งแต่เข้าไปพัวพันกับเรื่องของตระกูลโม่ เฉินเกอก็รีบฝึกพลังของตัวเอง และหลีกหนีการใช้ชีวิตในเมืองหลวง
แต่พอกลับมา กลับต้องมาเจอกับเรื่องนี้พอดี เขามีลูกสาวแล้วจริงๆเหรอเนี่ย
เฉินเกอยังคงรับความจริงไม่ได้
ที่สำคัญลูกสาวคนนี้กลับเป็นลูกสาวของเขากับจ้าวยีฟานอีก
แล้วยังมีฉินหยากับพี่หลานอยู่ที่นี่ด้วย
ทำให้เฉินเกอปวดหัวมาก
ช่างเถอะ รอผลตรวจดีเอ็นเอออกมาก่อนค่อยว่ากัน
เฉินเกอเดินตามคุณปู่กับพ่อมายืนรอยู่ด้านนอกประตู
และจ้าวยีฟานอุ้มลูกเจาะเลือดตรวจดีเอ็นเออยู่ในห้อง
“ป้ายหยกนี้ ผมว่าคุณจ้าวถอดออกจากคอเด็กดีกว่านะครับ เด็กยังตัวเล็ก แขวนไว้จะเกิดอันตรายกับเด็กได้”
เด็กทารกตรงหน้ามีความเป็นไปได้ว่าจะลูกสาวของคุณชายเฉินเกอ ดังนั้นจะต้องปฏิบัติกับเธอดีๆ
พอเห็นป้ายหยกที่แขวนอยู่บนคอของเด็ก ในเวลาเดียวกัน บนคอของจ้าวยีฟานก็แขวนไว้เหมือนกัน
“เชอะ ฉันไม่ถอด นายจะเข้าใจอะไร รีบตรวจดีเอ็นเอ” จ้าวยีฟานพูด
คุณหมอไม่กล้าพูดมากอีก
สักพัก ผลตรวจดีเอ็นเอก็ออกมา
“เป็นยังไงบ้าง”
เฉินจิ้นตงกับเฉินเตี๋ยนชางรีบถามออกมา
“ขอแสดงความยินดีกับด้วยครับ ผลการตรวจดีเอ็นเอ เด็กคนนี้เป็นลูกของคุณชายเฉินเกอกับคุณจ้ายีฟานจริงๆครับ เป็นสายเลือดของตระกูลเฉินครับ” คุณหมอพูด
“หะ นี่… นี่เป็นเหลนสาวของฉันจริงๆเหรอ”เฉินเตี๋ยนชางมีสีหน้าดีใจ
มีแค่เฉินเสี่ยวกับหยางยู่ผิงที่มีสีหน้าไม่น่ามอง
จะพูดให้ถูกก็คือพวกเธอไม่ชอบจ้าวยีฟาน ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้ามาในตระกูลเฉินได้
โดยเฉพาะจ้ายีฟานที่เจ้าเล่ห์เพทุบาย จงใจคลอดลูกออกมาแล้วถึงได้มาที่นี่ด้วย
ตอนนี้เธอมีลูกให้ตระกูลเฉินแล้ว เฉินเกอไม่แต่งงานกับเธอก็ไม่ได้แล้ว
แล้วอะหลานจะทำยังไงดี
สองแม่ลูกคิดเหมือนกัน เพราะพวกเธอไม่รู้ว่าจะอธิบายกับอะหลานยังไง
“เสี่ยวเกอ รีบมาดูเร็ว ลูกมีลูกสาวแล้วนะ”
ส่วนเฉินจิ้นตงกลับอุ้มเด็กขึ้นมา แล้วเอามาใก้เฉินเกอดู
ส่วนเฉินเกอนั้นยังคงขมวดคิ้ว รอจนพวกคุณพ่อจากไปแล้ว
“เฉินเกอ คุณต้องรับผิดชอบในตัวฉัน”จ้าวยีฟานพูดขึ้นมาข้างหลังเฉินเกอ
“อ๊ะ”
เฉินเกอดึงเสื้อของจ้าวยีฟานแล้วลากเธอไปอีกข้าง
“พูดมา นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมผมกับคุณถึงมีลูกด้วยกันได้ อีกอย่าง เด็ดคนนี้ไม่ใช่ลูกของผมแน่ๆ คุณหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกผมไม่ได้”
ดวงตาเฉินเกอใช้สายตาเหมือนเหยี่ยวที่กำลังจ้องมองเหยื่อ มองจนจ้าวยีฟานตัวสั่น
เพราะสายตาของเฉินเกอเหมือนมองออกทุกอย่าง ทำให้จ้าวยีฟานกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“คุณ… คุณยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม ผลตรวจดีเอ็นเอก็ออกมาแล้ว เด็กคนนี้เป็นลูกของเราสองคน แต่คุณกลับไม่ยอมรับ ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉันก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ถึงยังไงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณดูถูกฉัน”จ้าวยีฟานร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วย
“คุณอย่ามาพูดแก้ตัว ถึงผมจะไม่รู้ว่าคุณทำยังไงให้เครื่องตรวจดีเอ็นเอแสดงผลแบบนี้ แต่ผมมองออก ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณ จ้าวยีฟาน เห็นแก่ที่เราเป็นเพื่อนสมัยเรียนกัน ถ้าคุณยอมพูดความจริง ผมจะปล่อยคุณไป”เฉินเกอพูด
ตอนนี้จ้าวยีฟานตกตะลึงไปแล้ว สายตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เฉินเกอกลายเป็นคนเก่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“คุณมีเป้าหมายอะไรใช่ไหม” เฉินเกอถาม
ตัวเขาเองมีคำทำนายความตายติดตัว ทำให้เขาระวังตัวมาก
“ฉัน… ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไร ปล่อยฉันนะ”จ้าวยีฟานยังคงดื้อดึง
“จะไม่พูดใช่ไหม ได้ งั้นผมจะถือว่าเธอเป็นลูกของผมจริงๆ ผมจะเลี้ยงเธอจนโต แต่ว่าคุณ ผมจะจับคุณโยนทิังลงไปในทะเลให้เป็นอาหารของปลา”
เฉินเกอพูดก่อนจะคว้าตัวจ้าวยีฟานขึ้นมา
จ้าวยีฟานกลัวมาก เฉินเกอคนก่อน ขี้ขลาดและทนเห็นผู้หญิงร้องไห้ไม่ได้ แค่เราร้องไห้ เฉินเกอก็จะใจอ่อนทันที
แต่ตอนนี้ เธอร้องไห้ถึงขนาดนี้แล้ว เขากลับยังคงหน้าเย็นชาอยู่เลย
เขาเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปทุกอย่าง ทุกคำที่พูดไม่มีล้อเล่นเลย
“ได้ได้ได้ ฉันจะพูด ปล่อยฉันลงมาก่อน” จ้าวยีฟานพูดอย่างหวาดกลัว
“เฉินเกอทิ้งเธอลงบนเตียง
“คุณพูดถูกค่ะ เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเรา” จ้าวยีฟานกัดฟันพูด และรู้สึกเสียใจมากที่เสียแผน
“คุณขโมยเด็กมาเหรอ จ้าวยีฟาน ผมให้เงินคุณไปเยอะขนาดนั้น คุณยังไม่คิดจะพออีกเหรอ” เฉินเกอพูดเสียงเย็นชา
“ไม่นะ ฉันไม่ได้ขโมยมา เฉินเกอ คุณอย่าดูถูกฉันเกินไป ถึงแม้ฉันจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่เรื่องชั่วร้ายแบบนี้ฉันไม่มีทางทำแน่ๆ เด็กคนนี้เป็นลูกที่ฉันรับมาเลี้ยงจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า”
“แล้วทำไมแพทย์ประจำตระกูลเฉินถึงได้ตรวจออกมาว่าเด็กเป็นลูกของเราสองคน” เฉินเกอถาม
“ฉัน… ฉันก็ไม่รู้ เป็นวิธีที่นักบวชคนหนึ่งบอกฉันมา”จ้าวยีฟานลูบหลังคอ แล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณก็ไปบอกความจริงกับคุณปู่กับคุณพ่อผมให้เข้าใจ แล้วผมจะให้เงินคุณอีกก้อน เงินก้อนนี้ จะทำให้คุณมีชีวิตสุขสบายไปตลอดชีวิต”เฉินเกอพูด
จ้าวยีฟานรีบลุกขึ้นยืน “ฉันไม่ต้องการเงิน เฉินเกอ คุณคิดว่าที่ฉันทำแบบนี้ แค่อยากจะได้เงินอย่างนั้นเหรอ ใช่ ฉันคนเมื่อก่อน เคยดูถูกที่คุณไม่มีเงิน แต่เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว เฉินเกอ คุณรู้ไหมว่าฉันแอบรักคุณมานานแล้ว ฉันอยากใช้ชีวิตกับคุณ ถึงแม้คุณจะไม่มีเงิน ฉันก็อยากอยู่กับคุณ” จ้าวยีฟานพูดแล้วคิดจะเข้ามากอดเฉินเกอ
“อย่ามาพูดบ้าๆ พูดมา คุณอยากจะได้อะไร”
จ้าวยีฟานพุ่งตัวเข้ามา แต่ถูกเฉินเกอยื่นมือมาขวางไว้ก่อน
สีหน้าของเฉินเกอเย็นชามาก
“คุณ”
จ้าวยีฟานกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ
“ยังไงก็ตาม คุณไล่ฉันไปไม่ได้แน่นอน ให้ฉันอยู่ต่อ โอเคไหม คุณดูข้างนอกสิ คุณปู่กับคุณพ่ออุ้มหมี่ฟ่านไว้ดีใจมากแค่ไหน พวกท่านคิดว่าหมี่ฟ่านเป็นหลานของพวกท่านไปแล้วจริงๆ”จ้าวยีฟานชี้ไปนอกหน้าต่าง
“อีกอย่างฉันได้ข่าวมาว่าคุณกับคุณปู่จะไปข้างนอก และไม่กลับมาเป็นเวลานาน อีกทั้งนังได้ข่าวว่าคุณปู่อาจจะไม่ได้กลับมาอีก ถ้าสร้างความหวังให้ท่านอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ให้ท่านได้เห็นลูกหลาน ถึงแม้จะเป็นเรื่องโกหก แต่ก็เป็นการโกหกที่งดงามไม่ใช่เหรอ”จ้าวยีฟานร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วย
“คุณอย่าพูดเกลี้ยกล่อม คุณต้องมีอะไรแน่ๆ ทางที่ดีพูดความจริงออกมา ไม่อย่างนั้นผมไม่ปล่อยคุณแน่”
เฉินเกอพูดเสียงแข็ง
ก่อนจะดึงจ้าวยีฟานออกจากห้องไป
ในขณะเดียวกัน
“คุณปู่คะ คุณพ่อ นี่ลูกของใครเหรอคะ น่ารักจังเลยค่ะ จริงด้วย หนูได้ข่าวว่าเสี่ยวเกอกลับมาแล้ว เขาอยู่ไหนคะ หนูมีเรื่องจะคุยกับเขา”
ด้านนอกมีเสียงของพี่หลานดังขึ้นมา