ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 754 งานเลี้ยงวันเกิด
บทที่ 754 งานเลี้ยงวันเกิด
จากนั้น เฉินเกอก็พาเฉินเปียวเปียวจากไปทันที
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของเฉินเกอ ในใจว่านเสว่ ก็เกิดอาการสั่นไหวที่อธิบายไม่ได้ขึ้นอีกครั้ง
หากครั้งหนึ่งคือเรื่องบังเอิญ ครั้งที่สองก็บังเอิญ ถ้าอย่างนั้นในตอนนี้ครั้งที่สาม ยังเป็นความบังเอิญหรือเปล่า?
ถ้าคนในดวงใจของตนไม่ใช่คุณชายหลี่ แต่เป็นคนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้า
ก็มีความไม่สมเหตุสมผลในหลายๆ ที่อธิบายไม่ได้
หัวใจของว่านเสว่กำลังยุ่งเหยิง
"ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา! "
ในขณะนั้นเอง จู่ๆ ลุงไป๋ก็เอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
"หา? ลุงไป๋ คุณหมายถึงอะไร?”
ว่านเสว่รู้ว่าลุงไป๋เองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งเช่นกัน เพียงแต่ เขาไม่สามารถก้าวเข้าโลกของการฝึกตนในตำนานนั้นได้
จากนั้นจึงเอ่ยอย่างแปลกใจ
“หรือว่าเมื่อครู่คุณหนูไม่ได้สังเกตเห็น?”
ลุงไป๋มองไปที่ด้านหลังของเฉินเกออย่างเคร่งขรึมและเอ่ยอย่างเคร่งเครียด
"สังเกตอะไร? "
"ปีศาจวัวตัวนั้นดุร้ายมาก แม้แต่คุณชายหลี่และผู้ฝึกตนโม่ก็ต่างไม่ใช่คู่ปรับของมัน เมื่อครู่ แต่เดิมมันสามารถฆ่าฟันได้รอบด้าน แม้กระทั่งคุณหนูเองก็ตกอยู่ในอันตรายจนเกือบถึงชีวิต แต่ในช่วงเวลาวิกฤตนั้นเอง อสูรกลับหยุดที่จะเดินหน้า! "
ลุงไป๋เอ่ย
"ใช่ใช่ใช่ เสี่ยวเสว่ เมื่อครู่เธอไม่ทันได้เห็น เจ้าอสูรตัวนั้นหยุดลงไม่ไปต่อ ฉันเห็นท่าทางมันแบบนั้น ราวกับว่ามันกำลังเห็นอะไรบางอย่างที่น่ากลัว! "
ซิ่วซิ่วรีบเอ่ยขึ้น
ในใจของว่านเสว่ยิ่งสงสัยมากขึ้น
“พวกเธอหมายความว่า ปีศาจวัวตัวนั้น กำลังกลัวคนที่ชื่อเฉินเกอ และวิ่งหนีไป ดังนั้นพวกเราจึงรอดมาได้ใช่หรือไม่?”
ว่านเสว่ถามอย่างสงสัย
จะเป็นไปได้อย่างไร? เฉินเกอผู้นี้ดูแล้ว ท่าทางดูเหมือนจะธรรมดาไปหน่อย
บอกตามตรง
ในตอนแรกเมื่อฉันคิดว่าเฉินเกอเป็นคนในดวงใจอย่างที่หมอดูบอก ตอนนั้นในใจของว่านเสว่ก็นึกดูถูกเฉินเกออยู่บ้าง
จะพูดยังไงดี
เด็กผู้หญิง ในหัวใจของพวกเธอ ล้วนคาดหวังกับคนในดวงใจของตน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อหมอดูให้ความคาดหวังกับตัวเองยิ่งสูงขึ้นไปกว่าเดิม
เมื่อเจอเขาและเทียบกับความคาดหวังของตัวเองแล้ว ความแตกต่างที่ช่างกว้างขนาดนั้น ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ในใจเกิดความรู้สึกผิดหวังขึ้นมาอยู่บ้าง
และย่อมเอ่ยไม่ได้ว่าตนเองนั้นสนใจ
เห็นได้ชัดว่า เฉินเกอทำให้ตัวเองรู้สึกผิดหวังอยู่นิดหน่อย
ดังนั้น การที่เขากลายเป็นคนในดวงใจ ทำให้ว่านเสว่เกิดสัญชาตญาณการกีดกันบางอย่างขึ้นมา
“ฉันยังคงไม่อยากจะเชื่อ ว่าเขาจะสามารถไล่ปีศาจวัวไปได้ ฉันคิดว่า มันต้องมีเหตุผลอื่นๆ อยู่แน่ …”
ว่านเสว่เอ่ย "แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะพูดยังไง ก็ยังคงต้องขอบคุณพี่สาวเมื่อครู่นี้อยู่ดี หากไม่ใช่เพราะเธอ ฉันคงพูดอะไรไม่ได้แล้ว!”
ว่านเสว่หน้าแดงขึ้นเล็กน้อย และเอ่ยเบาๆ
ในขณะเดียวกัน เธอก็สนใจเฉินเกอมากขึ้นบ้างแล้ว
เพียงแต่เธอไม่อยากยอมรับมัน
อีกทั้งประโยคที่ลุงไป๋เอ่ยเมื่อครู่ก็คงเป็นเพราะเขามองผิดไป ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม
หลังจากนั้น คนในตระกูลว่านเห็นชัดว่าได้ทราบเรื่องแล้ว ด้านหลังของพวกเขามียอดฝีมืออยู่หลายคน ด้านหนึ่งปกป้องว่านเสว่เอาไว้ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาที่อยู่ของปีศาจวัว
เนื่องจากเทศกาลใต้ดินกำลังจะเริ่มในเร็วๆ คนในตระกูลว่านจึงให้นี้ความสำคัญอย่างยิ่ง
เอ่ยกลับไปถึงเฉินเกอ
หลังออกมาจากหมู่ตึกหู้หลง เฉินเกอก็กลับไปยังตระกูลเฉิน
ทันทีที่กลับมา เขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งออกจากตระกูลเฉินด้วยท่าทางดูถูกอย่ายิ่ง
ส่วนเฉินเทียนกางที่ออกมาส่งพวกเขา ใบหน้าชราก็มีสีหน้าทำตัวไม่ถูกอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อสอบถามถึงได้รู้ว่า
เมื่อครู่คนเหล่านั้นที่แท้เป็นผู้บริหารของตระกูลว่าน
เฉินเทียนกางถูกเฉินเกอสั่งให้ไปจัดการเรื่องตั๋วเข้าชมการประชุมใหญ่
แน่นอนว่าเฉินเทียนกางย่อมตั้งใจอย่ายิ่ง อีกทั้งยังเชิญผู้คนจากตระกูลว่านมาเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ
ผลคือคนตระกูลว่านไม่แม้แต่จะเหลือบตามองตระกูลเฉิน อีกทั้งเรื่องตั๋วการเข้าประชุมใหญ่ยิ่งไม่ต้องคิดฝัน
ดังนั้นจึงเกิดเป็นฉากตรงหน้าเมื่อครู่
หากบอกว่าไม่มีตั๋วเข้าประชุม เฉินเกอเองก็เชื่อว่า ความแข็งแกร่งของตน เพียงพอที่จะบุกเข้าไปได้อย่างไม่มีปัญหา
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นจริงๆ
นอกจากนี้ ประสบการณ์มากมายก่อนหน้านี้ ยังช่วยให้เฉินเกอเข้าใจถึงความสำคัญของซ่อนความแข็งแรงตัวเอง
เขาจะไม่ประมาทเลินเล่อขนาดนั้นอีก
"คุณเฉิน ขอโทษด้วย เรื่องง่ายๆ แค่นี้ที่คุณสั่งการมาผมยังทำให้ได้ไม่สำเร็จ! "
สีหน้าของเฉินเทียนกางเต็มไปด้วยความสำนึกผิด
“ลุงเฉินไม่จำเป็นต้องขอโทษ ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ การใช้ชื่อตระกูลเฉินของพวกเราเข้าร่วมเทศกาลใต้ดิน เป็นไปได้ยาก ผมว่าผมพาหลินจิ่ว และตามติดตระกูลใหญ่อีกตระกูลหนึ่งไปแบบนี้ดูง่ายดายยิ่งกว่า!”
เฉินเกอกล่าว
"คุณชาย คุณหมายถึงให้เราเข้าไปในตระกูลว่าน? ตอนนี้ตระกูลต้วนถูกคุณทำลายลงไปแล้ว ตอนนี้ในเมืองจี้โจว ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดดูเหมือนจะมีแต่ตระกูลว่านแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเองยังเป็นคนจัดงานอีกด้วย!”
หลินจิ่วที่อยู่ด้านหนึ่งเอ่ยขึ้น
"อืม ฉันก็กำลังคิดแบบนั้นอยู่ หลินจิ่ว คุณรู้จักเจ้าบ้านของตระกูลว่านหรือไม่?”
เฉินเกอถาม
"ฉันไม่รู้จักจริงๆ แม้ว่ามองเผินๆ แล้วตระกูลว่านจะเป็นตระกูลที่มีอำนาจมาก แต่เบื้องหลังของพวกเขา ราวกับว่ามีตระกูลผู้ฝึกตนคอยหนุนหลังอยู่ ผู้ฝึกตนที่กระจัดกระจายอยู่ในขอบเขตผู้ฝึกตน ล้วนไม่กล้ายั่วยุคนตระกูลว่าน เกรงว่านี่เป็นเพราะตระกูลว่านนั้นมีตระกูลผู้ฝึกตนตระกูลนั้นคอยให้ท้ายอยู่ แน่นอน มีอาจารย์หลายคนที่คอยอาศัยตระกูลว่านอยู่ ส่วนนักพรตเช่นพวกเรา ตระกูลว่านก็มีอยู่สี่ห้าคน ว่ากันว่าตระกูลว่านยังมีผู้ฝึกตนชั้นสามที่แข็งแกร่งอยู่ในตระกูลต้วน! "
หลินจิ่วอธิบาย
"ฉันเข้าใจแล้ว! "
เฉินเกอพยักหน้า
ตามที่คาดไว้ ตระกูลที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลัง ไม่ควรประมาท
อีกทั้งหมู่ตึกหู้หลง ก็เป็นอย่างที่หลินจิ่วเคยบอก มีผู้ฝึกตนระดับอาจารย์ไม่น้อยอยู่ในนั้น เห็นทีเทศกาลใต้ดินคงครึกครื้นอย่างยิ่งแน่
ในเวลานี้ รถหรูคันหนึ่งก็แล่นมาที่หน้าประตูบ้านของตระกูลเฉิน
บนรถหรู มีชายชราผู้หนึ่งลงมา
"เป็นเขา! "
เฉินเปียวเปียวตะลึง
คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นชายชราที่เพิ่งเจอไปเมื่อครู่ ลุงไป๋ผู้ที่อยู่ข้างๆ ว่านเสว่ผู้นั้น
"ชายชราไป๋จื้อจ้าย ได้รับการไหว้วานจากคุณหนู ให้มาเชิญคุณหนูเฉินและคุณเฉิน เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันเกิดของคุณหนูที่ตระกูลว่านคืนนี้!”
ลุงไป๋พูดจบ ก็เดินมาส่งการ์ดเชิญสองใบ
"หา? เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลว่านหรือ?”
เฉินเปียวเปียวรู้สึกประหลาดใจ
ลุงไป๋พยักหน้า "ใช่ วันนี้คุณหนูรอดพ้นจากความตายมาได้ ต้องขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของพวกคุณทั้งสอง! ดังนั้นจึงต้องการเชิญคุณทั้งสองเข้าร่วม ได้โปรดไปร่วมงานด้วย! "
เฉินเกอรับการ์ดเชิญมาและมองดู
ในตอนนั้นเองหลินจิ่วก็เข้ามากระซิบข้างหูของเฉินเกอ
"คุณชาย ช่างไม่เสียแรงเปล่าเลยจริงๆ ว่านเสว่ผู้นี้เป็นบุตรสาวที่ว่านเย่าจงรักมากที่สุด ถ้าเธอเชิญคุณไปงานวันเกิดของเธอได้ คุณก็มั่นใจได้เลยว่าเรื่องบัตรเข้าชมการประชุมใหญ่ จะเป็นเรื่องง่ายอย่างยิ่ง! "
เฉินเกอเองก็พยักหน้า
ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมว่านเสว่จู่ๆ จึงเชิญตัวเองไป
แต่ตระกูลว่านนี้ ตนเองก็อยากจะไปที่นั่นด้วยตนเองสักครั้งเช่นกัน
แบบนี้ก็ดีเช่นกัน
ด้านหนึ่งเพื่อดูว่าว่านเสว่คนนี้นั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่
ส่วนอีกด้าน ก็เพื่อไปดูว่าตนเองจะสามารถใช้โอกาสนี้ เพื่อรับบัตรเข้าชมได้หรือไม่
"ดี ลำบากพ่อบ้านไป๋แล้ว คุณสามารถตอบกลับคุณหนูว่านเสว่ได้ว่าคืนนี้พวกเราจะไปอย่างแน่นอน!”
เฉินเกอพยักหน้าและยิ้ม
หลังจากลุงไป๋จากไป
หลินจิ่วก็ตัดสินใจที่จะไปฝึกฝนให้กับพวกศิษย์น้องตระกูลเฉินต่อ
ขณะนั้นเองเฉินเกอก็หยุดเขาเอาไว้
"หลินจิ่ว อย่าเพิ่งไป ฉันมีอะไรจะถามนาย! "
เฉินเกอเอ่ย
"คุณชาย มีเรื่องอะไร?”
หลินจิ่วสงสัย