ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 721 ฉันช่วยเขาจ่ายเอง
บทที่ 721 ฉันช่วยเขาจ่ายเอง
เพราะตนได้ทะลุมิติกลับไปในโลกอดีต ตอนนี้จึงมีเฉินเกออีกคนหนึ่งด้วย
พี่จื่อเยียนได้ย้ำเตือนเป็นพิเศษว่าเฉินเกอทั้งสองคนจะเผชิญหน้ากันโดยตรงมิได้
ดังนั้นเฉินเกอจำเป็นต้องไปหาตนในอดีตและนำเขาไปซ่อนในสถานที่เงียบสงบแห่งหนึ่งชั่วคราวก่อน ในระหว่างเจ็ดวันนี้ตัวเองจะเป็นตัวแทนปรากฏตัวของเขาเอง
ตอนนี้ต้องทำการปลอมโฉมง่ายๆเสียก่อน
และในขณะเดียวกัน
ในรั้วมหาวิทยาลัย
เสียงถีบดัง ปัง!
มีนักศึกษาชายคนหนึ่งถูกนักศึกษาอีกคนหนึ่งที่ร่างกายกำยำกระโดดถีบจนล้มดิ้นอยู่กับพื้น!
บัดนี้นักศึกษาชายร่างกำยำผู้นี้ได้โอบหญิงสาวที่แต่งตัวเวอร์วังเอาไว้
“แม่งเอ้ยเฉินเกอ นายมันขายขี้หน้ามากเลยที่วิ่งมาเก็บขยะอยู่ที่นี่ และเกือบจะชนตัวแฟนสาวของผมด้วย ขายหน้าจนไม่มีหน้าก็แล้ว ผมว่าตอนนี้นายแถมยังไม่มีตาด้วยมั้ง!”
นักศึกษาชายร่างกำยำชี้นิ้วดุด่าเฉินเกออยู่
จากนั้นยกขาถีบเฉินเกอครั้งหนึ่งจนล้มลงไปกองกับพื้น
“สามีคะ คุณรู้ไหมคะ เฉินเกอยังมีแฟนสาวที่หน้าตาสะสวยอยู่คนหนึ่งด้วยนะคะ ไม่รู้จริงๆว่าผู้หญิงคนนั้นคิดอะไรอยู่ เสียศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงหมดเลยที่มีแฟนหนุ่มเป็นคนอย่างนี้!”
หญิงสาวคนนั้นกล่าว
“ฮ่าๆๆ ไอ้ยาจกนี้อย่าไปพูดถึงเลยดีกว่า เห็นสภาพที่น่าสมเพชของเขาแล้วทำให้ผมโมโหนะ ที่รักพวกเราไปเที่ยวเล่นกันเถอะ อย่าไปสนใจเขาเลย!”
นักศึกษาชายร่างกำยำกอดหญิงสาวแล้วเดินจากไป
และที่นี่คือมหาวิทยาลัย ซึ่งมีนักศึกษาเดินไปเดินมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีหลายคนเห็นภาพที่เกิดขึ้นนี้
แล้วชี้มายังเฉินเกอพลางกระซิบกระซาบ
เฉินเกอถูกเขาถีบใส่หน้าท้อง จนทำให้รู้สึกว่ากระเพาะอาหารเป็นตะคริวไปเลย บัดนี้เฉินเกอพยุงหน้าท้องของตนพลางกัดริมฝีปากไว้
เห็นได้ชัดจากภาพเหล่านี้ว่าไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกกับเขา
แต่สายตาคนรอบข้างที่มองเขาอย่างเย้ยหยัน ยังคงทำให้เขาอายจนหน้าแดงเรื่อ เขาลุกขึ้นจากพื้น ถือกระสอบที่ใส่ขวดเปล่าที่ตนเก็บได้แล้ววิ่งหนีไปอย่างน่าเวทนา
เฉินเกอวิ่งออกไปอยู่นอกมหาวิทยาลัยตรงมุมเล็กๆในที่ร้างแห่งหนึ่ง
เขานั่งชันเข่า น้ำตาไหลริมอย่างไม่อาจห้ามได้
เขาก็ไม่อยากตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่ว่าเพราะเขาจน เขาจึงจำเป็นต้องทำแบบนี้
แน่นอน เขาไม่เคยคิดว่าการเก็บขวดเปล่าขายจะเป็นเรื่องที่น่าอับอาย
แต่ว่าทำไมทุกคนต้องมารังแกเขาด้วย?
ครุ่นคิดได้สักพักหนึ่ง มือถือเก่าๆที่จะพังมิพังแหล่ก็มีข้อความแจ้งเตือน
เห็นว่าเป็นข้อความจากแฟนสาวหยางเสว่
“เสี่ยวเกอ ฉันคิดมาตั้งนานแล้ว หรือพวกเราต่างคนต่างอยู่กันสักพักหนึ่งเถอะ คุณอย่าคิดมาก ฉันไม่ได้มีเจตนาอะไร แค่อยากจะอยู่เงียบๆคนเดียว ให้ฉันคิดไตร่ตรองถึงเรื่องในอนาคตของพวกเราหน่อย!ช่วงนี้ก็อย่าเพิ่งติดต่อฉันเลยนะ!”
เห็นได้ชัดว่าเป็นข้อความบอกเลิกจากหยางเสว่
“ทำไม?”
เขาร่ำไห้อย่างเจ็บปวดรวดร้าว
และเขาไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีคนที่สวมใส่หมวกและแมสยืนมองเขาอยู่ไม่ไกลนัก
“ที่แท้ ผมกลับมาถึงตอนที่เลิกกับหยางเสว่!”
ไม่ผิด คนที่ยืนอยู่ด้านข้างคือเฉินเกอที่กลับมาในโลกอดีต
ที่เขายังไม่ได้ปรากฏตัวก็เพราะว่าอยากจะแน่ใจเสียก่อนว่า ตอนกลับมาอยู่ในช่วงเวลาไหน
ตอนนี้แน่ใจแล้ว
เฉินเกอค่อยๆเดินไปหาเขา
“คุณ……คุณจะทำอะไร?”
เฉินเกอในอดีตถือถุงกระสอบขึ้นด้วยสีหน้าหวาดกลัว
เฉินเกอได้แปรเปลี่ยนเสียงของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
เฉินเกอขมวดคิ้ว“ผมเห็นคุณในสภาพนี้แล้ว ทำไมอยากจะชกคุณเหลือเกิน?”
เฉินเกอพูดอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร
นี่……ก็คือตัวเองในอดีต!
เฉินเกอในปัจจุบันเห็นแล้ว อยากจะตบหน้าตนในอดีตสักสองสามครั้ง
เป็นคุณชายมีสูงสงแท้ๆ แต่กลับมีสภาพที่ย่ำแย่เช่นนี้
เห็นแล้วโมโหยิ่งนัก
ความรู้สึกแบบนี้มันแปลกพิลึก
“ถ้าอย่างนั้นคุณชกผมแล้วก็ปล่อยผมไปเถอะ!”
เฉินเกอกล่าว คนที่เขารักที่สุดหยางเสว่ได้บอกเลิกกับเขาแล้ว ตอนนี้เขาเงียบสงัด คนอื่นชกเขา ด่าเขา เขาจะไปมีสิทธิ์อะไรต่อต้านได้?ไม่ ไม่มีเลย!
“ไอ้บ้าเอ้ย!”
เฉินเกอไม่อยากจะเชื่อเลย ขณะนี้เขาไม่ได้พูดอะไรมาก จี้จุดให้ตนในอดีตสลบไป!
“เฮ้อ นายจะได้เปลี่ยนชะตากรรมในไม่ช้านี้แล้ว หวังว่าหลังจากที่เปลี่ยนชะตากรรมแล้ว ไม่ต้องเหมือนผมที่มีสภาพย่ำแย่เช่นนี้อีกต่อไปนะ ลูกผู้ชายก็ควรมีท่าทางของลูกผู้ชาย!”
เฉินเกอแบกตนขึ้นมา แล้วกล่าวพึมพำด้วยสีหน้ายิ้มแห้ง
เขาต้องซ่อนตัวเฉินเกอในอดีต จากนั้นลดความทรงจำช่วงนี้ของเขาไป ตนจะปรากฏตัวในฐานะเขาเอง
จัดการเรื่องแค่นี้มันไม่ยากสำหรับเฉินเกอหรอก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากใส่เสื้อผ้าของตนในอดีตเสร็จเรียบร้อยก็ไปปรากฏตัว ส่วนถุงใส่ขวดนั้นเขาได้โยนทิ้งไปตั้งนานแล้ว
เดินอยู่ในถนนมหาวิทยาลัย เฉินเกอรู้คิดถึงและโหยหาเป็นอย่างมาก
ถ้าทุกอย่างนี้เป็นจริงก็คงจะดี ถ้าเป็นไปได้เขายินดีที่จะไม่เป็นคุณชาย
ไม่ช้า เฉินเกอเดินไปถึงตรงร้านขายชานม
ในร้านชานมแห่งนี้ เฉินเกอยังคงจดจำเรื่องราวได้อย่างแม่นยำ
ตอนที่เริ่มรู้จักมู่หานอย่างเป็นทางการก็ตอนอยู่ในร้านชานมแห่งนี้นี่แหละ ยังคงจำความน่ารักของมู่หานในตอนนั้นได้อย่างชัดเจน
ใบหน้าเฉินเกอแสดงอารมณ์
เมื่อคิดว่าเขาทั้งสองจากกันนานขณะนี้แล้วมาเจอกันที่เดิมอีกครั้ง จึงรู้กสึกหดหู่ใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เถ้าแก่ เอาชานมแก้วหนึ่งครับ!”
เถ้าแก่ก็ยังเป็นเถ้าแก่คนนั้น บัดนี้เฉินเกอกล่าว
“ได้ครับ อันนี้ครับ!”
เถ้าแก่ยื่นชานมมาอย่างคล่องแคล่ว“นักศึกษา แปดหยวนครับ!”
“อืม!”
เฉินเกอนำธนบัตรใบหนึ่งออกจากกระเป๋าด้วยจิตใต้สำนึก จากนั้นยื่นให้เถ้าแก่“ไม่ต้องทอน!”
เฉินเกอกล่าว
จากนั้นก็คิดจะเดินออกไป
“โอ้ไม่ใช่นะ!นักศึกษารอก่อน ชานมผมแก้วหนึ่งแปดหยวน แต่นายให้ผมธนบัตรห้าเซ็นต์หนึ่งใบ แล้วยังบอกว่าไม่ต้องทอนอีกเหรอ?”
เถ้าแก่มองเฉินเกอเหมือนจะเอ๋อไปแล้ว
“เอ่อ……”
เฉินเกอมองแล้วก็เห็นเป็นเงินห้าเซ็นต์จริงๆ
เขาลืมไปว่าตอนนี้เป็นนักศึกษาเฉินเกอที่ยากจนอยู่
พูดตามความเป็นจริง เฉินเกอในขณะนี้มีความทรงจำที่เลือนรางกับเงินเล็กๆน้อยๆมาก เพราะปกติเวลาที่เขาใช้จ่ายจะอยู่ในหลักร้อยล้าน ดังนั้นตอนนี้จึงไม่คุ้นชินสักเท่าไหร่!
ไอ้มารดาเฮ้ย ตอนนี้ตนไม่มีเงินติดตัวสักบาทเดียว คาดว่าเงินห้าเซ็นต์นี้คงจะเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายแน่ๆเลย?
เฉินเกอมีสีหน้าอึดอัดใจ
หนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยที่อยู่รอบๆต่างกำลังเอามือปิดปากหัวเราะเยาะเฉินเกออยู่
สีหน้าของพวกเขาเหมือนกำลังบอกว่า ไอ้เด็กยากจนคนนี้ยังคิดจะดื่มชานมอีก?
“โอ้พระเจ้า นักศึกษาอย่าบอกผมนะว่าเงินแค่แปดหยวนก็ไม่มี?”
เถ้าแก่ตกตะลึง
“เออ……ผมเหมือนจะไม่มีจริงๆ!”
เฉินเกอพูดอย่างอึดอัด ล้วงจนทั่วกระเป๋าก็ไม่พบแม้แต่สตางค์แดงเดียว
“แม่งเอ้ย นายยังคิดจะมาล้อผมเล่นอีกเหรอ?แค่ชานมแก้วเดียวไม่เท่าไหร่หรอก แต่เมื่อกี้นายโยนเงินห้าเซ็นต์ให้ผมแล้วยังบอกว่าไม่ต้องทอน นายหมายถึงว่ายังไง ไม่มีเงินแล้วแกล้งทำตัวเป็นเศรษฐีอะไรอีก ไม่ได้ วันนี้ไม่มีเงินก็ไปไหนไม่ได้ ผมจะไปฟ้องที่มหาลัย!”
เถ้าแก่ชานมร้อนรน
เฉินเกอก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
ในขณะที่เป็นตัวตลกให้คนอื่นขบขันอยู่นั้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงหวานดังขึ้นมาจากด้านหลังของเฉินเกอ
“เถ้าแก่ อย่าทำให้เขาลำบากใจเลยค่ะ เงินแปดหยวนนี้ฉันจะช่วยเขาจ่ายเองค่ะ!”
น้ำเสียงนี้เหมือนเสียงของนกขมิ้นที่ไพเราะเสนาะหูมาก ในน้ำเสียงมีความอ่อนโยนระคนความสง่าผ่าเผยแฝงอยู่ด้วย
และเป็นเพราะเสียงนี้ ทำให้เฉินเกอตัวสั่นกะทันหัน แก้วชานมในมือก็หล่นลงสู่พื้น……