ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 609 ตกตะลึงกันทั้งงาน
บทที่ 609 ตกตะลึงกันทั้งงาน
“นายว่าอะไรนะ?”
ซูฉููฉูที่กำลังร้องไห้ถามเฉินเกออยากไม่น่าเชื่อ เหมือนกับเธอไม่ได้ยินชัดเจนอย่างนั้น
“ฮาฮาฮา หรือคนนี้ตกใจจนโง่ไปแล้ว?เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร?เป็นคุณชายเฉินเหรอ?”
“ใช่ใช่ ยังประกาศอย่างเป็นทางการ เชิญซูฉููฉูไปเที่ยวที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน?ไอ้เด็กนี้มันน่าขำสิ้นดี?”
“ช่างไม่ส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองเสียบ้างเลย!”
บัดนี้ผู้หญิงหลายคนอดกล่าวดูถูกเหยียดหยามไม่ได้
ส่วนตอนนี้โกวสิ้งได้เปลี่ยนกางเกงที่ใหม่เอี่ยมกลับมาแล้ว
เห็นทุกคนหัวเราะเยาะเฉินเกอ
สองพ่อลูกโกวสิ้งก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจ
แม้กระทั่งผู้หญิงคนนั้นก็ลืมความเจ็บปวดจากการถูกตบเมื่อสักครู่ไปแล้ว
“คุณพ่อ ไอ้เด็กเวรนี้บรรลัยแน่ เขาแอบอ้างเป็นลูกน้องของคุณชายเฉิน ตอนนี้เหมือนจะอ้างตนเป็นคุณชายเฉินแล้ว ตอนนี้ดูว่าเขาจะตายอย่างไง!”
ผู้หญิงพูดอย่างโหดร้าย
ในสถานการณ์ที่ยากต่อการควบคุมในขณะนี้
“แขกพิเศษเดินทางมาถึงแล้วครับ!”
ประตูห้องโถงถูกเปิดออกกะทันหัน
พนักงานต้อนรับตะโกนพูดเสียงดัง
บรรยากาศในงานเงียบขรึมอีกครั้ง
เพราะคนที่มาครั้งนี้เป็นคนของตระกูลเฉิน
คนทั้งบนเวทีและด้านล่างเวทีต่างนั่งลงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
สายตาทุกคู่จ้องมองไปที่ประตูห้องโถง
เฉินเกอก็มองดูด้วย
เห็นหน้าประตูตรงพรมแดงมีรถไมบาคกว่าห้าสิบคัน
จอดเรียงรายเป็นสองแถวอยู่ข้างพรมแดง
ประตูรถได้เปิดออก บอดี้การ์ดชุดดำต่างออกมายืนอย่างเรียบร้อย
ภาพที่เกิดขึ้นนี้ทำให้คนในงานต่างต้องตกตะลึง
จากนั้นไม่นานมีชายวัยกลางคนยืนอยู่บนพรมแดง ต่อจากนั้นก็เดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย
เฉินเหนียนหัวกับคนในบ้านตระกูลเฉิน วิ่งเหยาะๆจากสามก้าวรวมเป็นสองก้าวไปที่นอกประตู
ทุกคนในงานต่างลุกขึ้นยืนพร้อมกัน
เพราะคนที่มาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงธุรกิจจริงๆ
“คุณลี่ ตั้งหน้าตั้งตารอคอยมาเป็นเวลานาน ในที่สุดท่านก็ให้เกียรติมาจนได้ครับ!”
เฉินเหนียนหัวโค้งคำนับเก้าสิบองศา
ลูกหลานตระกูลเฉินต่างคำนับตามกันทุกคน
“ประธานเฉินเกรงใจแล้ว ผมมีธุระมาสายแล้ว!”
ชายวัยกลางคนกล่าว
จากนั้นคนกลุ่มหนึ่งได้เดินเข้าห้องโถง
“คุณลี่!”
“คุณลี่!”
“สวัสดีครับประธานหลี่!”
ผู้คนต่างกล่าวพยักหน้ากล่าวทักทายชายวัยกลางคน
ซูฉููฉูก็มองคนของตระกูลเฉิน
ใช่ เมื่อพวกเขาปรากฎตัวบรรยากาศภายในงานก็ได้เปลี่ยนไป
แม้กระทั่งบอดี้การ์ดทุกคนของตระกูลเฉิน ต่างมีราศีความน่าเกรงขามกันทั้งนั้น
ครั้งแรกที่ซูฉููฉูรู้สึกหวาดกลัว
เธอกลัวเรื่องเมื่อกี้จะมีความไปฟ้อง ซึ่งจะทำให้ดวงชะตาของตระกูลซูพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
คุณนายซูก็รู้สึกหวาดกลัว ตอนนี้ยืนก้มหน้าอยู่ เหมือนกำลังรอคอยครูประจำชั้นลงโทษเด็กในห้องเรียนยังไงอย่างนั้น
แต่กลัวอะไรก็จะเจออย่างนั้น
“คุณลี่ ผมมีเรื่องจะรายงานให้ท่านทราบครับ ก่อนที่ท่านจะมาเมื่อสักครู่นี้มีคนแอบอ้างคุณชายเฉินมาหลอกพวกเราครับ!”
บัดนี้โกวสิ้งลุกขึ้นมาพูด
ประการที่ 1 เขาต้องเสนอหน้าให้ประธานหลี่เห็น หากสามารถสร้างผลงานจากเรื่องนี้ได้ ตระกูลโกวในภายภาคหน้าอาจจะได้พัฒนาไปจากเดิมอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ประการที่ 2 ใช้โอกาสนี้จัดการไอ้เด็กเวรคนนี้ เพื่อแก้แค้นให้กับลูกชายของตน
“หา?มีเรื่องอย่างนี้ด้วยเหรอ?”
สีหน้าประธานหลี่จริงจังอย่างกะทันหัน
แม้กระทั่งบอดี้การ์ดที่ติดตามมาสี่ห้าสิบคนต่างก็ขมวดคิ้ว สำหรับบอดี้การ์ดตระกูลเฉิน พวกเขาได้จัดเตรียมที่ให้เป็นพิเศษเรียบร้อยแล้ว
และตำแหน่งคุณชายเฉินในสายตาของพวกเขามันไม่ใช่ธรรมดา
ใครกล้าหยามเกียรติคุณชายเฉิน คนนั้นก็ต้องตาย!
“หาคนเจอหรือยังครับ?”
ประธานหลี่ถามอย่างเยือกเย็น
โกวสิ้งรู้สึกดีอกดีใจ เพราะเขาเปลี่ยนกางเกงแล้ว จึงวิ่งไปอยู่ตรงหน้าประธานหลี่อย่างมั่นใจ
“ประธานหลี่ครับ คนนั้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลครับ คนนั้นครับ!”
โกวสิ้งชี้ไปยังเฉินเกอที่อยู่ข้างๆ
ผู้หญิงกับโกวเฉียงก็รีบวิ่งมาแสดงตน“ใช่ค่ะประธานหลี่ ไอ้เด็กเวรคนนี้หลอกลวงคนไปทั่ว ทุกคนในงานสามารถเป็นพยานได้ค่ะเมื่อกี้ยังทำเป็นเชิญซูฉููฉูไปที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนอีกด้วยนะคะ?”
“ต่ำช้าสิ้นดี!”
พอได้ยิน
ประธานหลี่ตวาดด้วยความโกรธ จากนั้นก็หันหลังมองไปทางที่พวกเขาใช้นิ้วชี้
ขณะที่ทุกคนกำลังสูดลมหายใจเย็นๆเข้าหนึ่งครั้ง เพื่อเตรียมดูบารมีความบ้าคลั่งของประธานหลี่
กลับพบว่าประธานหลี่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
บอดี้การ์ดตระกูลเฉินต่างหยุดชะงักไปต่างๆกัน
“ไม่เกี่ยวกับเขาค่ะ ดิฉันเป็นคนให้เขาแอบอ้างเอง ประธานหลี่ค่ะ ถ้าท่านจะลงโทษก็ลงโทษดิฉันได้เลยค่ะ เขาแค่ได้รับคำสั่งจากดิฉันเท่านั้น!”
ส่วนซูฉููฉูกัดฟันแล้วยืนออกมาพูด
คุณนายซูเครียดจะตายอยู่แล้ว
โยนความผิดให้คนอื่นได้แล้วแท้ๆ ทำไมลูกโง่เขลาคนนี้ถึงได้ไปรับแทนอีกนะ
“ลูกเป็นบ้าแล้วเหรอซูฉููฉู ทำไมต้องช่วยกระต่ายหมายจันทร์ตัวนี้พูดด้วย?”
คุณนายซูรีบกล่าว
“หนูไม่ได้บ้าค่ะ หนูให้เขามา หนูจึงต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เองค่ะ!”
ซูฉููฉูกล่าว
เพียงแต่สองแม่ลูกยังไม่ทันโต้เถียงเสร็จ
“คุณ……คุณชายเฉิน!”
ดวงตาประธานหลี่มีคราบน้ำตา ตัวของเขาสั่นเทาด้วยความปลื้มปิติ ไม่ง่ายเลยที่เขาจะกล่าวคำเหล่านี้ออกมา!
“คารวะคุณชายเฉิน!!!”
ส่วนเหล่าบอดี้การ์ดต่างคำนับและเรียกเป็นเสียงเดียวกัน
เมื่อได้เปล่งคำนี้ออกมา ทำให้ตึกทั้งโรงแรมต้องสั่นสะเทือน
ทุกคนต่างมึนไปตามๆกัน
สองพ่อลูกตระกูลเฉินทำตาโต
ส่วนพ่อลูกตระกูลโกวที่ก่อนหน้านี้กำลังยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อยู่นั้น ยิ่งรู้สึกยากแก่การเชื่อ ขณะนี้อ้าปากกว้างจนสามารถยับไข่เข้าไปได้หนึ่งฟองเลยทีเดียว!
คุณ……คุณชายเฉิน?
ได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?
บรรยากาศแข็งกระด้าง
“เจิ้นกั๋ว ไม่เจอกันตั้งนาน!”
เฉินเกอคิดไม่ถึงว่าคนที่มาในงานนี้จะเป็นหลี่เจิ้นกั๋ว
หลี่เจิ้นกั๋วจงรักภักดีต่อตน ถ้าหากตอนนั้นไม่มีเขาคอยช่วยเหลือ ตัวเองคงจะหนีไปไม่ถึงเมืองฝั่งตะวันตกเฉียงใต้
และหลังจากที่เฉินเกอได้กลับไปที่บ้านตระกูลเฉินก็ได้มอบอำนาจให้หลี่เจิ้นกั๋วเป็นคนจัดการแทนอย่างวางใจ
แต่ช่วงก่อนเฉินเกอมั่วแต่จัดการเรื่องที่เกี่ยวกับตระกูลโม่ จึงไม่มีเวลาสนใจเรื่องธุรกิจ ยิ่งไม่มีเวลาไปเจอหน้าหลี่เจิ้นกั๋ว
“ใช่ครับคุณชายเฉิน ไม่เจอกันนานเลย ได้พบท่านมันช่างตื่นเต้นดีใจมากครับ!”
หลี่เจิ้นกั๋วยิ้ม
ซูฉููฉูกับซูหรานหรานและคุณนายซู บัดนี้มองเฉินเกออย่างมึนๆงงๆ
คิดยังไงก็คิดไม่ถึง คนที่ถูกพวกเขาเห็นเป็นขอทาน ที่แท้เป็นคุณชายเฉินผู้มีชื่อเสียงเกรียงไกร
“คุณ……คุณคือคุณชายเฉิน?”
ซูฉููฉูกลืนน้ำลายแล้วเอ่ยขึ้นมา
เฉินเกอยิ้มแล้วมองมาที่เธอพลางพยักหน้า“อืม ดังนั้นผมจึงบอกว่าการ์ดเชิญนี้เป็นผล รอคุณมีเวลาแล้วไปเที่ยวที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนกันนะ ทิวทัศน์ไม่เลวเลย!”
เสียงดังโครม
บัดนี้เฉินเหนียนหัวคุกเข่าลงกับพื้น
“คุณชายเฉินครับ ผมมันมีตาแต่หามีแววไม่ ขออภัยคุณชายเฉินที่เมื่อสักครู่นี้ผมดูคุณไม่ออกและได้ซักถามอย่างสงสัยต่อคุณครับ!”
เฉินเหนียนหัวเป็นคนฉลาดยิ่งนัก บัดนี้กล่าวคำขอโทษอย่างกระวนกระวาย
ส่วนสองพ่อลูกตระกูลโกวแม้แต่คำขอโทษก็เอ่ยไม่เป็นแล้ว
เพราะโกวสิ้งที่เพิ่งจะเปลี่ยนกางเกงมา บัดนี้ได้ฉี่ราดอีกครั้งแล้ว
จบกัน ตระกูลโกวจบกัน!
“เจิ้นกั๋ว ครอบครัวนี้มีจิตใจโหดเหี้ยมมากนัก คุณช่วยผมจัดการพวกเขาหน่อย ให้พวกเขาล้มละลายในชั่วค่ำคืนและติดหนี้สินเป็นพันล้านด้วย ผมคิดว่าอำนาจในตอนนี้ของคุณจัดการได้ไม่ยากอยู่แล้ว!”
เฉินเกอมองพวกโกวเฉียงแล้วยิ้มเยาะเย้ย
“แน่นอนครับ!”
หลี่เจิ้นกั๋วก็ยิ้มเยาะเย้ย จากนั้นก็สั่งการลูกน้อง“ตรวจสอบรายชื่อผู้ร่วมลงทุนกับตระกูลโกวทั้งหมด แล้วตัดเส้นทางนั้นทิ้ง!หยุดการร่วมลงทุนทั้งหมด หากใครไม่ยินยอมก็ให้ล้มละลายตามไปด้วย!”
“ครับ!”
เหล่าบอดี้การ์ดรีบไปจัดการทันที
และนี้ก็คือตระกูลเฉิน!
ทุกคนต่างสูดอากาศเย็นเข้าไปอึกหนึ่ง ไม่มีใครสงสัยในความเป็นไปได้ของคำพูดที่หลี่เจิ้นกั๋วพูดเลย
เฉินเกอมองตระกูลโกว“พวกนายชอบมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นมากนักใช่ไหม?ก็ดี ผมก็ชอบ เห็นพวกนายเจ็บปวด ผมมีความสุขมากเลย!”