ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 608 ผมพูดความจริง
บทที่ 608 ผมพูดความจริง
เฉินเกอพูดได้อย่างละเอียดลออ
พูดราวกับเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนเป็นเวลานานแล้ว
มิเช่นนั้นจะคุ้นเคยอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?
ซูฉููฉูกับซูหรานหรานต่างมองเขาอย่างประหลาดใจ
คนตระกูลเฉินและทุกคนในงาน บัดนี้มีใบหน้าที่ซีดขาวกันหมดแล้ว
เฉินเหนียนหัวมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปแวบหนึ่ง
แววตาที่มองเฉินเกอยิ่งมองยิ่งนอบน้อม เพราะเหตุผลบางอย่างที่ว่า เขารู้เรื่องของคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนอย่างแม่นยำ และรู้รายละเอียดจนผิดปกติ
มาถึงตอนนี้ไม่มีใครกล้าสงสัยสถานะของเฉินเกอแล้ว
“ที่แท้มีแขกพิเศษมาเยือนนี้เอง ต้องกราบขออภัยที่ตระกูลเฉินไม่ได้มาต้อนรับดีๆ!”
เฉินเหนียนหัวรีบสาวเท้าเดินลงจากเวที จากนั้นจึงโค้งคำนับเฉินเกออย่างมีสัมมาคารวะ ไม่ใช่คารวะเฉินเกอคนที่มาส่งการ์ดเชิญคนนี้
แต่เป็นการคารวะแสดงความเคารพต่อคุณชายเฉิน
ซูหรานหรานเกิดความซาบซึ้งใจต่อเฉินเกอ
เกือบจะจับผิดได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าขอทานน้อยคนนี้จะมีความรู้กว้างขวางถึงเพียงนี้
สำหรับสองพ่อลูกโกวสิ้งตอนนี้เริ่มนั่งไม่อยู่กับที่แล้ว
บัดนี้พวกเขามีความคิดอยากจะกระโจนไปก้มกราบแทบเท้าของเฉินเกอ อ้อนวอนให้ชายหนุ่มตรงหน้ายกโทษให้พวกเขา
“เขา……เขาเป็นลูกน้องของคุณชายเฉิน!”
ผู้หญิงคนนี้เริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
เพี๊ยะ!
โกวสิ้งหันหลังไปตบหน้าผู้หญิงคนนี้จนบวมช้ำ แล้วกระเด็นล้มไปกองกับพื้น ทำให้เกือบจะสลบไปเลยทีเดียว
“ไอ้กาลกิณี คุณทำให้ตระกูลโกวต้องพบกับภัยพิบัติอันใหญ่หลวงเสียแล้ว!”
โกวสิ้งกัดฟันพูด
“ไม่ถูก!”
และในเวลานี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งลุกขึ้นมากล่าว
“หืม?ไม่ถูกตรงไหน?”
เฉินเหนียนหัวซักถาม
“หลายเดือนก่อนผมไปคุยธุรกิจที่เมืองหนานหยาง ผมพอจะได้ยินข่าวคราวมาบ้าง เพราะบ้านของคุณชายเฉินก็ตั้งอยู่ที่เมืองหนานหยาง หนึ่งปีก่อนบ้านตระกูลเฉินเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ซึ่งก็คือคุณชายเฉินได้หลุดพ้นจากตระกูลไปแล้ว และได้หายตัวไปอย่างลี้ลับอีกด้วย!”
“และอีกอย่างคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน และแม้กระทั่งวิลล่าสปาก็ถูกโอนย้ายให้กับตระกูลโม่ในครึ่งปีก่อนแล้ว แต่ว่าตอนนี้ทำไมคุณชายเฉินถึงได้กลับมากะทันหัน อีกทั้งยังเรียนเชิญคุณหนูใหญ่ตระกูลซูให้ไปเที่ยวที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนด้วยล่ะ?”
“เมื่อสักครู่นี้ผมได้ถามเพื่อนที่อยู่ในเมืองหนานหยาง บอกว่าจนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าคุณชายเฉินอยู่ที่ไหนกันแน่!”
ชายหนุ่มกล่าว
และกล่าวถึงความสงสัยของตนอย่างกล้าหาญ
“อืม……ก็ถูก!”
เฉินเหนียนหัวจู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมา จึงตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนซูหรานหรานเริ่มกลับมามึนอีกครั้ง
จ้องมองชายหนุ่มคนนั้นอย่างดุร้าย
ไอ้บ้า อุตส่าห์ผ่านด่านมรณะมาได้แล้วเชียว นายมาพูดอะไรตอนนี้อีกเล่า!!!
เธออยากจะระบายความโมโหออกมาให้สุดๆ
“ขอเรียนถามท่านผู้นี้หน่อยครับว่า คุณชายเฉินได้กลับไปที่เมืองจินหลิงหรือยังครับ?”
เฉินเหนียนหัวจ้องมองเฉินเกอแล้วซักถาม
“ยังไม่กลับ แต่ช่วงนี้เขาเริ่มเตรียมตัวกลับไปแล้ว!”
เฉินเกอกล่าว
แต่เห็นได้ชัดว่าคำตอบนี้ไม่ทำให้ชายหนุ่มที่เอ่ยข้อสงสัยเชื่อได้
กำลังเตรียมจะซักถามอีกครั้ง
แต่สุดท้ายถูกเฉินเหนียนหัวยกมือตัดบทเสียก่อน
“ทุกท่านอย่าเพิ่งรีบร้อนใจไปครับ ตอนนี้มันไร้ประโยชน์ที่เราจะหารือเรื่องการกลับมาของคุณชายเฉิน มิสู้รอแขกพิเศษที่ลี้ลับท่านนี้มาก่อน ถ้าท่านมาแล้ว ทุกอย่างก็จะกระจ่างเลยครับ!เพราะเขาเป็นคนของตระกูลเฉินครับ!”
เฉินเหนียนหัวกล่าวยิ้มอย่างกะทันหัน
“หา?”
ประโยคนี้ชวนให้ผู้คนสนใจยิ่งนัก
หรือเฉินเหนียนหัวได้ร่วมมือกับตระกูลเฉินแล้ว?
“ท่านครับ ในเมื่อท่านเป็นคนของคุณชายเฉิน รู้ไหมครับว่าแขกพิเศษที่มาในวันนี้เป็นใคร?หรือคุณชายเฉินไม่ได้บอกท่านให้มาพร้อมกับแขกพิเศษท่านนี้ครับ?”
เฉินเหนียนหัวกล่าวถามอีกครั้ง
เขาเป็นนักท่องยุทธภพ ถ้าเกิดเป็นผู้มากฝีมือ เขาก็ไม่กล้าที่จะไปขัดใจ
ดังนั้นยังคงพูดกับเฉินเกออย่างสุภาพ
เฉินเกอส่ายหัว“ผมไม่รู้ว่าใครจะมาอีก?คุณชายเฉินแค่ส่งผมมามอบการ์ดเชิญเท่านั้น”
เฉินเกอกล่าว ขณะเดียวกันก็พินิจพิจารณาดูว่าคนตระกูลเฉินที่มา?จะเป็นใครกัน?
“หือ!”
อันนี้ก็น่าแปลกใจอยู่นะ!
ผู้คนต่างกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กัน
“อืม น้องชาย คุณต้องคิดให้ดีนะ เมื่อกี้ที่ผมกล้าพูดตรงประเด็นก็เพราะว่ามีคนเคยแอบอ้างชื่อคุณชายเฉินแล้วไปหลอกลวงในเมืองหยานหยาง สุดท้ายถูกคนตระกูลเฉินจับได้ จากนั้นคนทั้งครอบครัวนี้ก็ได้มลายหายไปกับอากาศ ถ้าหากวันนี้คุณกำลังแอบอ้างอยู่ หวังว่าคุณจะสำนึกผิดแล้วกลับใจเสียใหม่ จะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้!”
ชายหนุ่มที่กล่าวคำสงสัยยืนออกมาพูดอีกครั้ง
ส่วนซูหรานหรานกลัวจนกลืนน้ำลายลงคอ
เรื่องนี้เหมือนจะใหญ่โตเกินกำลังเสียแล้ว
ควรจะแก้ไขอย่างไรดีนะ?
โดยเฉพาะได้ยินว่าแอบอ้างถึงคุณชายเฉินจะมีโทษสูญเสียทั้งตระกูล ซูฉููฉูก็รู้สึกตึงเครียดเป็นอย่างมาก
ประเดี๋ยว คนของตระกูลเฉินก็จะมาแล้ว
“ผมไม่ได้แอบอ้าง!”เฉินเกอโต้กลับอย่างหนักหน่วง
“พอแล้ว!!!”
บัดนี้ซูฉููฉูยืนออกมา
ทุกคนในงานเงียบสงบลงอีกครั้ง จากนั้นต่างก็มองมาที่เธอ
ซูหรานหรานเริ่มรู้สึกหายนะกำลังจะมาเยือน บัดนี้ตกใจกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรแล้ว
คุณนายซูก็เริ่มดูสถานการณ์ออกบ้างแล้ว บัดนี้ความตื่นเต้นของเมื่อกี้จึงได้หายไป แต่มีความหวาดกลัวเข้ามาแทรกแซง
เพราะต้องถูกฆ่าทั้งตระกูล ใครจะสามารถต่อต้านตระกูลเฉินได้ล่ะ?
“ฉันขอพูดความจริงค่ะ การ์ดเชิญนี้เป็นของปลอมค่ะ!”
ซูฉููฉูกัดริมฝีปากแล้วนำการ์ดเชิญโยนทิ้งไปที่พื้น
เมื่อมองดูด้านในการ์ดเชิญเขียนไว้ว่า เรียนเชิญคุณซูฉููฉูไปเที่ยวเล่นที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน ทุกตัวอักษรเหมือนกำลังยิ้มหัวเราะเยาะตนอยู่
ทำให้เธอรับไม่ได้อีกต่อไป
“ของปลอม?”
บรรยากาศในงานเริ่มฮือฮาขึ้นมาอีกขึ้น
เฉินเหนียนหัวต้องหยุดชะงัก
ยิ่งโกวสิ้งเกือบจะนั่งตัวแข็งทื่อไปกองอยู่กับพื้น เมื่อกี้เหมือนมีภูเขารูปใหญ่มาทับถมเอาไว้ ทำให้ตนกลัวจนฉี่ราด ตอนนี้เกือบจะโดนทับตายอยู่แล้ว จู่ๆก้อนหินในใจกลับหายไปเสียอย่างนั้น แรงกระตุ้นอารมณ์เช่นนี้เป็นใครก็คงจะรับไม่ได้เหมือนกัน
“ผม……ผมจะไปเปลี่ยนกางเกง!”
โกวสิ้งกล่าวอย่างตื่นเต้น ราวกับได้เกิดใหม่
รีบออกไปเปลี่ยนกางเกงแล้วกลับมาดูละครเด็ดต่อ
“ลูกสาว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
คุณนายซูตึงเครียดจนดวงตาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา
ซูฉููฉูถอนหายใจยาวๆพลางกล่าวว่า
“ฉันรู้ว่าวันนี้เฉินหยางจะขอฉันแต่งงาน ฉันไม่อยากรับปาก ดังนั้นฉันจึงคิดวิธีนี้ขึ้นมาหลอกลวงทุกคน เพื่อจะให้เฉินหยางจนมุมแล้วถอยห่าง ฮาฮา ฉันเป็นใคร พวกคุณก็ไม่ลองคิดดูเลย ข้างกายคุณชายเฉินที่เมืองจินหลิงมีสาวงามเท่าไหร่ เขาจะเชิญฉันไปที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนเหรอ?”
ซูฉููฉูพูดออกมารวดเดียวจบ
แน่นอน เธอรับปัญหาทุกอย่างมาไว้แต่เพียงผู้เดียว
“พี่สาว ฉัน!”
ซูหรานหรานก็ร้องไห้
“ถ้าหากอีกสักครู่มีคนของตระกูลเฉินมา แล้วพวกเขาถามถึง ก็ให้บอกว่าเรื่องแอบอ้างนี้เป็นฝีมือฉันคนเดียว!ไม่เกี่ยวกับคนในครอบครัว!”
ซูฉููฉูกล่าว
“เป็นเพราะไอ้เด็กเวรคนนี้คนเดียว นายทำร้ายตระกูลซูของเราแล้ว!”
คุณนายซูเริ่มบ้าคลั่ง เหมือนเพียงไม่กี่นาทีนี้ เธอได้ผ่านช่วงเวลาของชีวิตทั้งขาขึ้นและขาลงมาเยอะมาก
ความโกรธทุกอย่างจึงได้ระบายที่ตัวเฉินเกอทั้งหมด
กำลูกอมบนโต๊ะ จากนั้นก็โยนใส่ตัวเฉินเกออย่างบ้าบิ่น
และคนในงานต่างส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักแน่น
ทุกคนล้วนมองด้วยสายตาดูถูกมาที่เฉินเกอและซูฉููฉูที่เสแสร้ง!
ซูฉููฉูที่น้ำตาไหลรินมาสองสายได้ดึงตัวคุณนายซูที่กำลังเป็นฮิสทีเรีย
กลับมาดูที่เฉินเกอ ตอนนี้สีหน้ายังคงเรียบเฉยเหมือนเดิม
เขาก้มตัวลงเก็บการ์ดเชิญที่ซูฉููฉูโยนไปที่พื้นขึ้นมาอีกครั้ง
มองซูฉููฉูแล้วกล่าวว่า
“ตอนนี้ ผมขอประกาศอย่างเป็นทางการครับว่า การ์ดเชิญนี้มีผลเป็นจริง ถ้าคุณซูมีเวลาก็เชิญไปเที่ยวที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนได้เลยครับ!”
“หืม?”
บรรยากาศกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง……