ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 522 คนมาครบแล้ว
บทที่ 522 คนมาครบแล้ว
“ได้ยินมาว่าเจ้าสำนักลู่จับเกอฉินได้แล้ว? ตระกูลโม่ของเรา ไม่รู้ควรจะขอบคุณยังไงดี!”
ยังไม่เห็นคน ก็มีเสียงหัวเราะของผู้คนในตระกูลโม่ดังมา
ตระกูลโม่ จำนวนแปดคนที่มาในครั้งนี้ นำโดยชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
“คุณโม่หยุนไห่เกรงใจตนเกินไปแล้ว ไม่ว่ายังไง ทั้งสองตระกูลโม่อยู่ที่มณฑลหลงเจียงก็ถือเป็นตระกูลเดียวกัน สำหรับเฉินเกอคนนี้ล่ะก็ เป็นแค่คนนอก จะมีเหตุผลอะไรที่จะเอาศอกหันออกด้านนอกได้อย่างไร?”
ลู่จงหยวนพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ
“เป็นเขาจริงๆ ด้วย พวกเราตามหาอย่างลำบาก!”
โม่หยุนไห่เดินเข้าใกล้ จ้องอย่างตั้งใจ ทันใดนั้นก็ดีใจมาก
โม่หยุนไห่เป็นผู้อาวุโสของตระกูลโม่แห่งเทืองมณฑลหลงเจียง ทั้งตระกูล ได้รับการดูแลควบคุมโดยเขาทั้งสิ้น
ตอนนี้จับเฉินเกอได้แล้ว ก็เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ไม่รู้ว่าลุงสองโม่ฉางคงจะให้รางวัลตัวเองอย่างไร?
“เขาได้รับโป๋หลิงซ่านได้สูญเสียสติไปแล้ว หึ จะคอยดูไอ้หมอนี่ต่อให้เป็นปลาไหล จะหนีพ้นฝ่ามือของฉันไปได้ยังไง!”
โม่หยุนไห่กล่าวอย่างเย็นชา
“แต่ประธานลู่ คุณบอกว่าเฉินเกอนี่แข็งแกร่ง แต่ทำไมผมรู้สึกว่า เขาก็แค่งั้นๆ ……”
เห็นได้ชัดว่าโม่หยุนไห่อารมณ์ดีในวันนี้
“คุณลุงโม่ คุณเข้าใจผิดแล้ว พ่อของฉันไม่ได้โกหก คนในตระกูลลู่ของเรา ทุกคนได้เห็นความแข็งแกร่งของเฉินเกอ ไม่ธรรมดาจริงๆ และสาเหตุที่จับเขาได้อย่างง่ายดาย นั่นเป็นเพราะอาศัยความช่วยเหลือจากน้องสาวฉัน และสิ่งมหัศจรรย์โป๋หลิงซ่านนี่ของท่าน ไม่อย่างงั้นการจัดการกับเขา ต้องใช้ความพยายามอย่างมากจริงๆ!”
ลู่เสว่จัดทรงผมของ ยิ้มกล่าวในขณะนี้
“ลู่เสว่หลานสาวคนนี้ของฉันพูดเก่งจริงๆ เรื่องนี้ หลานสาวลู่เสว่มีส่วนช่วยอย่างมาก ตระกูลโม่ของเรา ไม่มีวันลืมคุณงามความดีนี้!”
“หึ คนที่กินโป๋หลิงซ่านเข้าไป ต่อให้เป็นคนที่มีการปฏิบัติสูงมากขนาดไหน เวลานี้ ก็ต้องฟังฉันอย่าเชื่อง หมดสติตายไป ตียังไงก็ไม่ตื่น!”
โม่หยุนไห่
จากนั้นก็โบกมือ: “มานี่ นำตัวเฉินเกอคนนี้กลับตระกูลโม่ รอผู้อาวุโสรองกลับจากเมืองหนานหยาง รอฟังคำสั่ง!”
“รับทราบ!”
ลูกน้องตระกูลโม่รับคำสั่ง
“เดี๋ยวก่อน พวกนายเป็นใคร? กล้าคิดแทนคุณเฉิน!”
และในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนเย็นชาดังมาจากข้างหลัง
ทุกคนหันไปมอง
ก็เห็นชายชราคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าปรากฏตัวข้างหลังทุกคนตั้งแต่เมื่อไหร่
“โอ้ พี่ใหญ่เมิ่งคังมาแล้วนี่เอง พี่ใหญ่เมิ่งคังนี่คือแผนที่เทือกเขาอันหลิงของท่าน นี่คือบรรพบุรุษของตระกูลเมิ่ง ปล่อยให้ไอ้หมอนี่เอาไปได้ยังไง อีกอย่าง เฉินเกอไม่รู้จักพอ ต้องการแย่งชิงคัมภีร์ไป๋โช่วของตระกูลลู่ของพวกเราไปอีกด้วย เหล้าคารวะไม่กินกินเหล้าปรับโทษแทนซะงั้น!”
ลู่จงหยวนเห็นเมิ่ง ตะลึงอย่างอดไม่ได้
หลายวันมานี้ลู่จงหยวนแอบสังเกต พบว่าเมิ่งคังและเฉินเกอสนิทกันมาก
มีท่าทางเชิญชวน
ในตอนแรกลู่จงหยวนไม่สนใจ ไม่ว่ายังไง สัมพันธมิตรของตัวเองกับเมิ่งคังมานานหลายปีนั้น ลู่จงหยวนเชื่อมั่น เมื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นจริง เมิ่งคังจะยืนอยู่ฝ่ายตัวเอง!
แต่เขาคิดผิด
กระทั่งเมื่อคืน หลังจากที่ลู่จงหยวนรู้มาว่าเมิ่งคังได้บอกความลับของตระกูลให้เฉินเกอ
ลู่จงหยวนจึงเกิดความระแวงในตัวเมิ่งคัง
ฉะนั้น ตอนนี้ลู่จงหยวนจึงรีบปกปิดอย่างกระอักกระอ่วน
“หึลู่จงหยวน นายคิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง เมื่อกี้ฉันได้ยินหมดแล้ว ชัดเจนว่านายสมรู้ร่วมคิดกับตระกูลโม่แห่งมณฑลหลงเจียง หักหลังคุณเฉินลู่จงหยวน คุณเฉินช่วยชีวิตทั้งตระกูลลู่เชียวนะ ต่อให้ไม่มีคุณงามความดี ก็มีความลำบาก นายกลับตอบแทนด้วยการแก้แค้น! นายยังมีจิตสำนึกอยู่ไหม?”
เมิ่งคังชี้ไปที่ลู่จงหยวนตะโกน
มือทั้งสองของลู่จงหยวนแข็งทื่อ
เวลานี้ ดวงตาของเขาเริ่มเย็นชาขึ้นมา
“เขาพยายามยึดคัมภีร์ไป๋โช่ว ของตระกูลลู่ของเรา กำลังรนหาที่ตายเอง พี่ใหญ่เมิ่งผมเห็นพี่และผมมีมิตรภาพมากมาย จึงพูดด้วยดีๆ ในตอนนี้ เรื่องนี้มีตระกูลโม่ดูแล พี่รีบกลับไปพักผ่อนจะดีกว่า!”
ลู่จงหยวนพูดอย่างอดทน
“กลับไป? วันนี้มีฉันเมิ่งคังอยู่ พวกนายอย่าคิดทำร้ายคุณเฉินแม่แต่ปลายผม”
ลู่จงหยวนกลืนน้ำลาย พยักหน้าอย่างหนัก: “ได้ พี่ใหญ่เมิ่งคัง ในเมื่อพี่ไม่รู้ผิดถูกอยู่อย่างนี้ งั้นก็อย่าหาว่าผมหยาบคายแล้วกัน”
วันนี้มีคนของตระกูลโม่อยู่ ผมก็อยากเห็นว่าพี่จะทำอะไรผมได้?
พูดจบ ก็มองไปที่โม่หยุนไห่ของตระกูลโม่
โม่หยุนไห่รู้ดีอยู่แล้ว
“จะโทษ ก็โทษคนอย่างนาย ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ”
โม่หยุนไห่ส่งเสียงเย็นชา
ลูกน้องหลายคนลงมือทันที ต่อสู้กับเมิ่งคัง
เมิ่งคังอุดมไปด้วยทักษะ และยังได้เข้าสู่อาณาจักรของนักต่อสู้ที่มีกำลังภายใน
คนปกติทั่วไป ไม่เคยอยู่ในสายตาเมิ่งคัง
แต่ครั้งนี้ ที่ต้องเผชิญหน้าด้วยคือตระกูลโม่
การต่อสู้ขั้นเด็ดขาดกับหวังเมื่อคืนนี้ เฉินเกอลงมือจัดการคู่ต่อสู้ ช่วยชีวิตเมิ่งคังเอาไว้
นี่…..คือสิ่งที่เมิ่งคังคอยเฝ้ามองอยู่
นอกจากนี้คุณเฉินยังให้ความเคารพเขาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ทำให้เมิ่งคังไม่ต้องอับอายขายหน้าอีกต่อไป
เฉพาะสองจุดนี้ ก็เพียงพอที่จะทำได้ใจเมิ่งคัง
ดังนั้นเมิ่งคังจึงพยายามอย่างสุดชีวิต
กังวลขึ้นมาจริงๆ สาวกของตระกูลโม่หลายคนนี้ ยังไม่ถือไม่คู่ต่อสู้
“ผู้นี้ เป็นนักต่อสู้กำลังภายใน ดูเหมือนว่าแขกของตระกูลลู่ ไม่ธรรมดาเลย!”
โม่หยุนไห่ส่ายหน้าหัวเราะอยู่อีกฝั่ง
“นั่งเพราะคุณโม่ไม่ได้ลงมือ ทั่วทั้งมณฑลหลงเจียงมีใครไม่รู้บ้าง ว่าคุณโม่เป็นผู้มีฝีมือขั้นสูงที่มีชื่อเสียงของหัวเซี่ย!”
ลู่จงหยวนหัวเราะกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“เหอะๆ แค่เมิ่งคังเพียงคนเดียว ทำไมต้องหลายรอบขนาดนี้ ถอยออกไปให้หมด!”
โม่หยุนไห่ตะโกนอย่างรุนแรงในขณะนี้
ทุกคนต่างพากันถอยกลับมา
จากนั้น ร่างของเขาก็เคลื่อนไหวทันที
ด้วยกำลังที่แข็งแกร่ง เลงไปจุดอ่อนที่ของเมิ่งคัง โดนที่หัวอย่างเต็มๆ
พัพ!
เขาเร็วมาก ส่วนเมิ่งคังไม่ว่ายังไง อายุก็มากแล้ว นอกจากนี้อาการบาดเจ็บจากการสู้กับหวังต้าไห่เมื่อคืนยังไม่หายดี
ไม่สามารถรับมือได้ ปลิวล้มลงทันที เลือดพุ่งออกมาในปาก
“หึ ฉันก็คิดว่าไอ้แก่นี่จะมีอะไรซะอีก คิดไม่ถึง แค่ไร้ประโยชน์คนหนึ่ง! แกกำลังรนหาที่ตาย โอเค ฉันจะฆ่าแก!”
โม่หยุนไห่กล่าว
ค่อยๆ เดินไปทางเมิ่งคัง
“ลู่จงหยวน นายจะต้องถูกฟ้าลงโทษ ตระกูลเมิ่งของฉันมีแต่บุญคุณไม่มีความแค้นกับนาย นายกลับทำพฤติกรรมที่ต่ำต้อยกว่าสัตว์เดียรัจฉานแบบนี้ได้! ฉันเมิ่งคังต่อให้เป็นผี ก็ไม่ทางปล่อยแกไปแน่!”
เมิ่งคังกัดฟันด้วยความโกรธ
“พูดมากไปก็ไม่สามารถช่วยชีวิตพี่ได้ ทำได้แค่โทษพี่ที่เป็นไอ้แก่ไร้ประโยชน์โชคร้าย น่าเสียดายนักการฝึกปฏิบัติอย่างหนักมาทั้งชีวิต ฮ่าๆ!”
โม่หยุนไห่เดินไป
เตรียมจะตบเมิ่งคังด้วยฝ่ามือ และเอาชีวิตเขา
“อย่าเสียงดัง เมื่อคืนไม่ได้หลับทั้งคืน ขอฉันนอนต่ออีกหน่อย!”
และในขณะนี้ ในห้องมีเสียงที่ไม่ถูกกาลเทศะดังขึ้น
ทำให้บรรยากาศในห้องตกอยู่ในความเงียบ
ทุกคนมองกลับไปในทันใด
มองเฉินเกอที่นอนอยู่บนเตียง
โดยเฉพาะลู่เสว่ ขณะนี้มีใบหน้าแดงก่ำ
“ใคร……เสียงของใคร?”
ลู่จงหยวนก็ตกใจเช่นกัน ก้าวถอยหลังอย่างอดไม่ได้
“หรือว่า เขาไม่ได้หมดสติไป?”
“คุณลู่เสว่ คุณมั่นใจว่าเขาถูกวางยาพิษ!?”
โม่หยุนไห่ถามด้วยความตกใจ
“มั่นใจ เขาถูกวางยาจริงๆ!”
“ถ้างั้นก็แปลก หรือเมื่อกี้จะเป็นคำพูดละเมอ?”
ขณะที่ทุกคนไม่แน่ใจ
ก็เห็นเฉินเกอที่อยู่บนเตียง หาวเสียงดัง ยังบิดขี้เกียจอีกด้วย ท่าทางดูเหมือนคนนอนตื่นสาย
ไม่นาน เฉินเกอก็ขยี้ตาที่หลับอยู่ ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
กวาดมองผู้คนในห้อง:
“ฉันว่าตอนนี้ ทุกคนน่าจะมาครบแล้วสินะ?”
เฉินเกอบริหารคอสักพักและลุกขึ้นนั่ง ถามอย่างเย็นชา
“อะไรกัน? ที่จริงแล้วนาย……นาย……ไม่ได้ถูกวางยา!”
ทุกคนต่างหวาดผวา