ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 503 เกาะคงหมิง
บทที่ 503 เกาะคงหมิง
เฉินเกอไม่มีทางอื่น ก็ได้นำโสมพันปี ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปกับพวกเขา
และหลังจากที่ขึ้นไปแล้ว เฉินเกอก็ถูกพวกเขาใส่ผ้าปิดตา
เป็นใครกันแน่?
ที่ต้องการพบตัวเอง?
เขายิ่งประหลาดใจแล้ว
คนเหล่านี้ ไม่ต้องถามเลย ต่างเป็นยอดฝีมือในยอดฝีมือ ถึงแม้จะเป็นตัวเอง อยู่ต่อหน้าพวกเขา ก็สู้ไม่ได้แม้แต่ท่าด้วย
เฉินเกอถึงขั้นสงสัยว่าพวกเขาจะใช่คนธรรมดาหรือเปล่า
ตั้งแต่เล็กใจโต นอกจากฉินโป๋ เฉินเกอก็ไม่รู้จักยอดฝีมือคนไหน
หากฉินโป๋ต้องการพบตัวเขา ก็คงจะไม่ทำเรื่องเอิกเกริกเพียงนี้
ไม่รู้ว่าบินไปนานแค่ไหน
รอจนกระทั่งพวกเขาทั้งสี่คนควบคุมตัวลงจากเครื่องบินนั้น
เฉินเกอได้กลิ่นของไอทะเลจางๆ เสียงลมทะเลลอยอยู่บนอากาศ ไม่ไกลนัก เสียงคลื่นที่ปั่นป่วนดังขึ้นเรื่อย ๆ
ถอดแว่นตาออก
สิ่งที่อยู่ในสายตา คือเกาะจริงๆด้วย
“ที่นี่คือที่ไหน?”
เฉินเกอถามชายสี่คนนั้น
ชายสี่คนครั้งนี้ไม่ได้แกล้งอีกแล้วใบ้แล้ว: “เกาะคงหมิง ตำหนักวิญญาณ!”
“ตำหนักวิญญาณ? เกาะคงหมิง?”
เฉินเกอแอบประหลาดใจ
ครึ่งปีมานี้เขาตามฉินโป๋ขึ้นเหนือล่องใต้ ตัวเองได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากมาย
แต่ว่าเกาะคงหมิงอยู่ไหน? แล้วตำหนักวิญญาณคืออะไร?
เฉินเกอไม่รู้ไม่เข้าใจจริงๆ
เพียงแต่สิ่งที่ยืนยันได้ก็คือ คนกลุ่มนี้ ที่แท้ก็มาจากองค์กรเดียวกัน เป็นองค์กรที่ไม่ธรรมดาและแข็งแกร่งมาก
“เชิญ!”
ชายทั้งสี่พาเฉินเกอเข้าไปในเกาะ เกาะมีขนาดใหญ่มาก ข้างบนนี้ มีแม้กระทั่งตำหนักสไตล์พระราชวังสีดำหลายหลัง
ได้พาเฉินบ้านหลังงามที่อยู่ในป่าแห่งหนึ่ง จัดแจงเฉินเกอจนเรียบร้อย
“ใครต้องการเจอฉัน? ตอนนี้สามารถเจอได้หรือยัง?”
ในเฉินเกอยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัย ก็ได้ถามขึ้น
“คุณชายเฉิน ได้โปรดเอาโสมพันปีมอบให้เราเถอะ!”
ชายชุดดำคนแรกได้กล่าวขึ้น
คนพวกนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ต้องการที่จะแย่งชิงโสมพันปี และอีกอย่าง ถึงแม้พวกเขาจะแย่ง เฉินเกอก็ปกป้องมันไว้ไม่ได้
ขณะนั้นจึงได้ยื่นให้พวกเขา
พวกเขาก็ไม่ได้ตอบคำถามใดๆอีก หลังจากที่พยักหน้าแล้ว ทั้งหมดก็ได้ถอยออกไป
“ตกลงจะทำอะไรกันแน่?”
เฉินเกอพูดอย่างเอือมระอา
เดินไปมาในห้องอย่างกระวนกระวาย
ไม่นานนัก ประตูห้องถูกเปิดออก
เห็นคนรับใช้ที่สูงอายุคนหนึ่ง พาสาวใช้กลุ่มหนึ่งเข้ามา
ทุกคนต่างถือถาดไว้ บนถาดมีของที่แตกต่างกันออกไป
แล้วทยอยวางลงบนโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าของเฉินเกอ
“ต้อนรับตัวเขาเหรอ? มันก็ใช่ ตอนนี้ตัวเขาก็หิวไม่น้อย เพียงแต่ของกินเหล่านี้ หน้าตาน่าเกลียดมาก!”
“ของพวกนี้เอามาให้ฉินกินเหรอ?”
เฉินเกอถาม
คนใช้สูงอายุหัวเราะพยักหน้า เขาน่าจะเป็นใบ้ ใช้ภาษามือกับเฉินเกอ ส่งสัญญาณให้เฉินเกอกินทีละอย่าง “ก็ได้ งั้นฉันจะชิมดู!”
เฉินเกอหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบของสีดำมาชิ้นหนึ่ง
ในเมื่อเขาบอกว่าเป็นอาหาร หน้าตาน่าเกลียดเพียงไหนก็ต้องกิน
หรือเป็นเพราะที่นี่ทุรกันดาร จึงทำของกินออกมาได้แย่ขนาดนี้?
ชิมดู!
ขณะนั้น เฉินเกอได้ใส่มันเข้าไปในปาก
ได้กัดไปคำหนึ่ง ด้านนอกห่อด้วยแป้ง แต่ด้านใน นุ่มๆ พริบตาเดียวมีน้ำอะไรสักอย่างไหลออกมาทันที
“ขมมาก!”
เฉินเกอกลั้นจนหน้าแดง พูดอย่างทรมาน
และชายชราคนนี้ ยังส่งสัญญาณให้เฉินเกอกลืนเข้าไปหมด
“นี่………..นี่คืออะไร? ทำไมจึงขมแบบนี้?”
เฉินเกอพูดด้วยท่าทางที่จะอ้วก
ชายชราได้ทำภาษามือ เฉินเกอก็เข้าใจแล้ว
“อะไร? สิ่งที่ลุงให้ฉันกินของดีงูเหรอ? ข้างในมันยังไม่สุกเลย ยังดิบอยู่!”
เฉินเกอกล่าวอย่างประหลาดใจ
ชายชราได้ทำภาษามืออีกครั้ง
“อันนี้คือดีของงูเหลือมยักษ์ที่มีอายุสามร้อยปี? ล้ำค่าขนาดนี้เชียว?”
คนใช้สูงอายุหัวเราะแล้วพยักหน้า
ส่งสัญญาณให้เฉินเกอกินจานต่อไป
“อันนี้คืออะไรอีก?”
“อะไรนะ? ตาของนกอินทรี? แหวะ………..”
มองไปที่ของสีแดงสด เฉินเกออดไม่ได้ที่จะขยะแขยงโดยตรง
แต่คนใช้สูงอายุให้เฉินเกอกินให้หมดทีละอย่าง ถึงจะยอมออกไป
“ที่นี่ มันเป็นที่อะไรกันแน่?”
เฉินเกออ้วกไปสักพัก คิดในใจ
แต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ สิ่งที่โหดร้ายกว่านี้ยังอยู่ข้างหลัง
เวลาที่เหลือหนึ่งเดือนนี้ นอกจากที่เฉินเกอต้องกินดีงูหลายร้อยปีนี้แล้ว ยังต้องไปแช่ตัวในบ่อยาอีก
วิธีการแช่ตัวกับบ่อยาแบบนี้ เฉินเกอเข้าใจ เพราะฉินโป๋ก็เคยฝึกฝนเขาแบบนี้
แต่สพรรคุณในบ่อยานี้ ทำให้เฉินเกอรู้สึกว่าดีกว่าของฉินโป๋อยู่มาก
ช่วงเวลาสั้นๆหนึ่งเดือน ความแข็งแกร่งของเฉินเกอก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดอีกครั้ง
และ พวกเขาไม่มีความคิดที่จะแย่งโสมพันปีเลย เพราะระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้ คนพวกนี้ได้แบ่งโสมพันปีเป็นสามสิบส่วน เพื่อให้เฉินเกอรับประทาน
เห็นได้ชัด คนเหล่านี้กำลังทำทุกวิถีทางให้เฉินเกอแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
แต่ว่า เพราะเขาเป็นใครกันแน่?
“ไม่กินแล้ว เอาออกไปเลย!”
วันนี้ คนใช้สูงอายุก็ได้ยกของอย่างเดิมมาให้เฉินเกอกิน
คนใช้สูงอายุตื่นตระหนก ส่งภาษามือถามเฉินเกอว่าเป็นอะไร?
“ตกลงใครต้องการจะเจอฉัน? องครักษ์เหนือใต้ออกตกทั้งสี่คนอยู่ไหน? แล้วยังมีชายชราที่พาฉันมา พวกแกต้องการอะไร? จับฉันมา ก็ไม่มาเจอฉัน?”
อั้นมาหนึ่งเดือน เฉินเกอจะเป็นบ้าแล้ว
ขณะนั้นได้ผลักคนใช้สูงอายุออก แล้วเดินออกมาทันที
ในเมื่อไม่มาเจอตัวเขา งั้นตรงนี้ก็ต้องมีดูแลอยู่แล้ว
คิดไปมา เฉินเกอได้เดินออกมายังด้านนอก
ตำหนักสีดำที่ยิ่งใหญ่นี้ เวลานี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงาคน
เฉินเกอได้เดินมาถึงข้างสวนต้นหลิว
ในที่สุดก็เห็นเงาคน
เป็นเด็กอายุเจ็ดแปดขวดกำลังทะเลาะกัน
มองไปแล้ว เป็นเด็กชายที่กำลังรังแกเด็กหญิงคนหนึ่ง
และเห็นเฉินเกอเดินมา เด็กเหล่านี้ก็แยกย้ายกันทันที
เหลือเพียงเด็กหญิงนั่งร้องไห้อยู่บนพื้น
พลางร้องไห้ นิ้วมือพลางชี้อยู่บนวงกลมที่วาดอยู่บนพื้น
เฉินเกอเดินไปถึงข้างกายเธอ
“หนูเป็นอะไรมั้ย?”
เด็กหญิงสะดุ้งตกใจ เงยหน้ามองเฉินเกอ มือน้อยๆได้หดไปข้างหลัง
“ทำไมที่นี่ ยังมีเด็กน้อยอย่างพวกเธอล่ะ ฉันนึกว่า จะเป็นมีแต่พวกชุดดำหน้าเข้มเสียอีก!”
เฉินเกอยิ้มเจื่อนๆแล้วพูด
แต่ดูเหมือนว่าเด็กหญิงจะกลัวเฉินเกอมาก มองเฉินเกออย่างเหม่อลอย และก็ไม่พูด
เฉินเกอยิ้มๆ จึงได้ล้วงเข้าไปในกระเป๋าตัวเอง หยิบขนมที่เหลือเพียงไม่กี่ห่อออกมา
“ขนม?”
เด็กหญิงตาเป็นประกาย
ขยับปากเล็กน้อย
“ให้หนูทั้งหมดเลย! กินสิ!”
เฉินเกอลูบหัวของเธอเบาๆ
แล้วมองรูปที่เด็กหญิงวาดอยู่บนพื้น
เฉินเกอยิ้มแล้วพูด: “หนูจ๋า ที่หนูว่ามันคืออะไรจ๊ะ?”
ตอนนี้เด็กหญิงไม่ได้กลัวเฉินเกออีกต่อไปแล้ว
เด็กน่ะ ขอเพียงมีของกินก็พอ
ขณะนั้นได้ชี้ไปที่ด้านซ้ายแล้วกล่าวขึ้น: “คนนี้คือแม่ของหนู ด้านข้างคือพ่อของหนู ด้านหลังคือปู่ย่า!”
“แล้วพวกเขาได้ใช้ชีวิตด้วยกันกับหนูที่เกาะนี้เหรือเปล่า?”
เฉินเกอถาม
คิดไม่ถึง เด็กหญิงที่ในปากกำลังกินขนม ก็ได้ส่ายหัวแล้วพูด: “พวกท่านไม่ได้อยู่กับหนู พวกท่านถูกศิษย์พี่ที่นี่ฝังเข้าไปในดิน ศิษย์พี่บอกว่าพวกท่านจะนอนนานมาก!”
“หนูกำลังรอพวกเขามารับหนู!”
เด็กหญิงกล่าว
เฉินเกอได้ยินแล้ว จู่ๆใจก็เต้นแรงทันที
“แล้วเมื่อกี้เด็กพวกนั้น?”
“พวกเขาก็เหมือนหนู คนที่บ้านต่างนอนหลับแล้ว พวกเราใช่ชีวิตอยู่บนเกาะ!”
เด็กหญิงเล่าไป ก็ได้กินขนมหมดไปห่อหนึ่ง
ใช้แรงเพื่อที่จะฉีกอีกห่อ แต่เพราะเธอยังเด็ก จึงฉีกไปออก
เฉินเกอมองแล้ว ในใจรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
“ไม่ต้องรีบ พี่ช่วยหนู………”