ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 493 การประลองเหล้า
บทที่ 493 การประลองเหล้า
ครั้นแล้ว ก็ปรากฏฉากอย่างที่เห็น
เฉินเกอเอง เกิดความรู้สึกสับสนภายในใจเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าไม่ใช่สาเหตุเพราะ ต้องแต่งงานกับสาวสวยคนหนึ่ง
แต่เป็นเพราะว่า เฉินเกอเองก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้
ไม่ต้องสงสัยเลย นี่คงเป็นเพราะยู่จินเซียงเป็นตัวช่วยผลักดันในครั้งนี้แน่ ๆ ตัวเองถึงจะได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในครอบครัวนี้ และเมื่อเรื่องมันจบลง ตัวเองก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ นี่มันช่างเป็นโอกาสที่วิเศษจริง ๆ
แต่ว่า จะต้องแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้คนหนึ่งหรอ
แล้วมู่หานจะรู้สึกอย่างไร เมื่อรู้ว่าตัวเองทำอย่างนี้
“เป็นอย่างไนบ้าง เฮอะ ๆ แต่ว่า อาจารย์ก็อย่าเพิ่งดีใจเร็วไปหน่อยเลย อาจารย์กับพี่แต่งงานกันแค่ปีเดียวเอง และหลังจากนั้น อาจารย์ก็ต้องหย่า แต่ว่า ครอบครัวเราต้องให้ค่าตอบแทนอย่างงามเป็นแน่ ฉันคิดว่ามันดีเสียอีก แบบนี้ อาจารย์ก็ได้เป็นลูกเขยในตระกูลยู่แล้ว”
ยู่จินเซียงพูด
“ฉันตกลง”
เฉินเกอเงยหน้าขึ้น แล้วพูด
มีเพียงทำให้ตัวเองนั้นแข็งแกร่งขึ้น จึงจะสามารถช่วยมู่หานได้ และเป็นการจัดการกับโม่ฉางคงด้วย
หากว่าตัวเองทำไม่ได้ ทั้งหมดที่พูดมาคงสูญเปล่า
ดังนั้น เลยไม่มีทีท่าลังเลแต่อย่างใด
“อะไรกัน ฉันยังไม่ได้บอกเงื่อนไขอะไรเลยนะ อาจารย์ก็จะตกลงเลยหรอ”
ยู่จินเซียงบึนปาก และมองเขาด้วยสายตาที่ดูเหยียด ๆ
ฮืม ตอนแรกคิดว่า อาจารย์จะเป็นสุภาพชนเสียอีก แต่ ก็เป็นคนคนหนึ่งที่เห็นแก่เงินเหมือนกันนะ
“ยังมีเงื่อนไขอีกหรอ”
เฉินเกอถามด้วยอาการตกใจ
“แน่นอนสิ ที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรหรอก แค่อาจารย์ต้องเข้าใจว่า อาจารย์กับพี่สาวของฉันที่แต่งงานกันนั้น ให้มันเป็นแค่ลูกจ้างตามสัญญาก็พอ ส่วนเรื่องอื่น ๆ อาจารย์อย่าคิดไปไกลเชียว และนี่คือสิ่งสำคัญที่ต้องระลึกเอาไว้”
“เฮอะ ๆ ฉันเข้าใจแล้ว ความหมายของเธอก็คือ แต่งกันแค่ในนามใช่ไหม”
เฉินเกอพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะ
นี่มันช่างเป็นไปได้อย่างที่ใจตัวเองหวังไว้เสียจริง
“ปินกั๋ว เอาแบบนี้แหละ ถ้าหากไม่มีปัญหาอะไร งั้นก็เซ็นสัญญาเลย และสองสามวันนี้ ก็ดำเนินการจัดงานแต่งเลย และต้องให้เสร็จก่อนที่แม่ของฉันจะกลับมาจากต่างประเทศนะ ส่วนพ่อของฉันคงไม่ว่าอะไรหรอก แต่แม่ของฉันนั้น คงไม่เห็นด้วยแน่ ๆ ดังนั้น เรื่องนี้ต้องรีบหน่อย”
เฉินเกอเองก็ไม่รู้ว่า พี่น้องสองคนนี้อยากจะทำอะไรกันแน่
แต่ว่า เขาก็ไม่ได้อยากที่จะรู้หรอก
จากนั้น ก็ได้ดำเนินการเซ็นสัญญาจ้างก่อน
แค่พริบตาเดียว ก็ผ่านไปแล้วเจ็ดวัน
“วันนี้ เพื่อนสมัยเรียนของฉันได้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เลยได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ขึ้น พวกเขาต่างเป็นคนที่ได้พบเจอกับโลกกว้าง ๆ มา พอถึงงานเลี้ยง นายก็ไม่ต้องพูดอะไรให้มันมาก เข้าใจความหมายของฉันไหม”
ในเช้าตรู่ของวันนี้ เฉินเกอนั่งอยู่บนรถที่ตำแหน่งข้าง ๆ กับคนขับ
และผู้หญิงที่มีท่าทีดูหยิ่งยโส ซึ่งกำลังขับรถอยู่นั้น ก็ได้พูดขึ้น
น้ำเสียงของเธอฟังดูเยือกเย็น ราวกับว่าเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกยังไงยังงั้น
และผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นพี่สาวของยู่จินเซียงอย่างยู่จินเฟย
ใช่แล้ว จนถึงวันนี้ เฉินเกอกับเธอก็ได้แต่งงานกันมาสามวันแล้ว
ซึ่งก็ได้เข้าไปอยู่ในตระกูลยู่และเป็นลูกเขยของตระกูลนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ว่า หากไม่ใช่ช่วงเวลาที่สำคัญ ๆ ยู่จินเฟยแทบจะไม่คุยกับเฉินเกอ ยิ่และงไปกว่านั้น มองก็แทบจะไม่อยากจะมอง
เฉินเกอเข้าใจ
ในหัวใจเธอนั้น ตัวเองก็เป็นแค่เครื่องมือชิ้นหนึ่ง
แต่ว่า จะทำอย่างไรได้ล่ะ
“ฉันรู้แล้ว”
เฉินเกอพยักหน้ารับ
ผ่านไปไม่ทันไร ยู่จินเฟยก็ขับรถมาถึงยังที่หมาย
เป็นโรงแรมแห่งหนึ่งในเทียนเฉิงที่มีความหรูหรามาก
“จินเฟย เธอมาแล้วหรอ”
พอหลังจากที่เดินห้องไปในห้องอาหารแล้ว
ผู้ชายผู้หญิงอีกหลาย ๆ คนก็พากันลุกขึ้น
และหนึ่งในนั้น ก็มีผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งที่สวมชุดจีนร่วมสมัยและใส่นาฬิกาข้อมือทองคำได้เดินเข้ามายังด้านหน้าของยู่จินเฟย
“อืม ๆ ”
“จินเฟย พอฉันกลับมา ก็ได้ยินข่าวว่าเธอนั้น แต่งงานแล้วหรอ และคนที่เธอแต่งงานด้วยเป็นอาจารย์ ใช่เขาไหม”
ชายวัยรุ่นคนนั้นพูดและชี้นิ้วไปที่เฉินเกอ ด้วยอาการที่ดูโกรธ ๆ
“ใช่แล้ว นี่คือสามีของฉันเอง ชื่อ เฉินเกอ”
ยู่จินเฟยคล้องแขนเฉินเกอไว้ จากนั้น ก็พูดแนะนำขึ้นว่า “เฉินเกอ นี่คือเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของฉัน ชื่อว่ายีเชา”
“สวัสดีครับ”
ตามที่ยู่จินเฟยได้บอกเกี่ยวมารยาทการเข้าสังคมไว้นั้น เฉินเกอก็ยื่นมือออกไป เพื่อที่จะได้สัมผัสมือกับยีเชา
“จินเฟย ฉันไม่เข้าใจความคิดของเธอจริง ๆ ถึงเธอจะเลิกกับเขาแล้ว แต่ว่า เธอยังมีคนอื่นอีกนะ……”
ยีเชาพูดขึ้นด้วยอารมณ์ไม่พอใจ
แต่ว่า เมื่อหลังจากที่เห็นสายตาของยู่จินเฟยที่เตือนแล้วนั้น เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เห็นได้ชัดว่า ยีเชาคนนี้ เป็นหนึ่งในคนที่ตามจีบยู่จินเฟยเหมือนกัน
และเขา ก็ไม่ได้สนใจเฉินเกอที่อยู่ตรงนั้นเลย
ซึ่งก็เหมือนกับเพื่อนของยู่จินเฟยคนอื่น ๆ ที่เหมือนจะไม่ค่อยพอใจในตัวเฉินเกอสักเท่าไร แทบจะไม่มีใครคุยกับเฉินเกอเลย
และในขณะเดียวกันนั้น ผู้หญิงอีกหลาย ๆ คน ก็มองเฉินเกอด้วยสายตาที่ดูไม่ชอบใจและรังเกียจ
เหมือนมีความรู้สึกว่า ดอกไม้สด ๆ สวย ๆ ปักลงบนขี่วัวยังไงยังงั้น
“พี่เชา พี่ดูหมอนี่สิ คิดไม่ถึงเลยว่า จินเฟยจะแต่งงานกับคนแบบนี้ ถึงจะเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเทียนเฉิงก็เถอะ รับไม่ได้จริง ๆ และก็ไม่รู้ว่าจินเฟยนั้น กำลังคิดอะไรอยู่”
ด้านนอกห้องน้ำ
มีผู้ชายหลาย ๆ คนกำลังพูดด้วยความไม่พอใจ
อย่างไรก็เถอะ ยู่จินเฟยสวยขนาดนี้ แล้วมีผู้ชายคนไหนบ้างล่ะ ที่ไม่เคยชอบเธอมาก่อน โดยเฉพาะยีเชา เขานั้นชอบยู่จินเฟยมาโดยตลอด
แต่ว่าใจของยู่จินเฟยนั้นมีคนอื่น และต่างคนก็ต่างไม่มีโอกาส
แต่ตอนนี้ เมื่อมีโอกาสมาถึงแล้ว คิดไม่ถึงว่า ยู่จินเฟยนั้นได้แต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว และคนที่แต่งงานกับเธอนั้น เป็นคนที่ห่วยสุด ๆ อะไรก็ไม่มี
อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นเป็นคนที่มีฐานะ และสถานะอาจารย์มหาวิทยาลัยอย่างเฉินเกอนั้น เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมกัน
“ฮืม ก็ใช่นะ ทำเอาพวกเราไม่สะดวกที่จะคุยกับจินเฟย เขาอยู่ที่นี่ มันช่างขวางสายตาจริง ๆ”
ผู้ชายอีกคนหนึ่งได้พูดขึ้น
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว งั้นก็ให้เขาออกไปก่อน ให้เขาได้รู้หน่อยว่า งานเลี้ยงของพวกเรา ไม่ใช่ว่าคนอย่างเขาจะเข้ามาร่วมได้”
ยีเชาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ
ทันใด ก็ได้กระซิบบอกกับผู้ชายอีกหลาย ๆ คน
จากนั้น ทุกคนก็เดินกลับเข้ามาในห้องอาหาร
“อืม จะว่าไปแล้ว หลังจากที่จินเฟยแต่งงาน พวกเรายังไม่ได้ดื่มเหล้ากับฝ่ายเจ้าบ่าวเลยนะ เฉินเกอเพื่อน นายได้แย่งสาวงามของพวกเราทุกคนไปแล้ว เอาอย่างนี้ งั้น พวกเราต้องดื่มสักแก้วแล้วล่ะ”
ยีเชาพูดกับเฉินเกอด้วยอาการและท่าทีที่ไม่ปกติ
และผู้ชายคนอื่น ๆ อีกหลายคน ต่างก็ได้สบตากันและกัน มองที่เฉินเกอแล้วก็พากันหัวเราะขึ้น
“ได้สิ ต้องดื่มอยู่แล้ว นายต้องการจะดื่มด้วยวิธีไหน”
เฉินเกอพูดพร้อมกับยิ้ม
“ได้ วันนี้ฉันได้นำเหล้าดีมาจากบ้านหนึ่งลังพอดี ฉันให้คนไปเอามาแล้ว งั้นพวกเราดื่มเหล้าขาวดีกว่า”
ยีเชาเองก็คิดไม่ถึงว่า เฉินเกอคนนี้จะเป็นคนซื่อ ๆ ได้ขนาดนี้
“ได้ เหล้าขาวสิดี ฉันชอบดื่มเหล้าขาว” เฉินเกอพูด
ส่วนยู่จินเฟยนั้น มองออกแล้วว่า ยีเชาและคนอื่น ๆ ต้องการจะทำอะไร
ตอนแรกก็อยากจะเตือนเฉินเกอสักหน่อย เพราะกลัวว่าเขาจะพลาดท่าเสียที
แต่ว่า เมื่อเห็นเขาไม่มีสมองอย่างนี้ ยู่จินเฟยเอง ก็คงช่วยไม่ได้แล้วจริง ๆ
จึงได้ยอมให้เขาดื่ม เมาแล้วก็ช่างเถอะ
ยู่จินเฟยหันหน้าไปมองด้านข้าง
และก็เห็นเด็กบริการ กำลังแบกเหล้าขาวมาสองลัง
“เฮอะ ๆ เฉินเกอเพื่อน บอกตามตรงเลยนะ เพื่อนฉันคนนี้ ที่บ้านเป็นโรงงานเหล้า โตมาจากไหเหล้า เดี๋ยวให้เขาเป็นเจ้าภาพ พวกเราเป็นคนดื่มแล้วกัน เดี๋ยวจะดื่มกับนายให้สมแก่ใจไปเลย ไม่มีปัญหาใช่ไหม”
ยีเชาพูด
“ไม่มีปัญหาหรอก”
เฉินเกอหัวเราะแล้วก็พยักหน้า
แต่ว่า ไม่มีใครรู้หรอกว่า เฉินเกอนั้นจะมีของดีซ่อนอยู่ เพราะตั้งแต่ที่ได้ร่ำเรียนวิชาลมปราณภายในจากศาสตราจารย์ฉินโป๋แล้วนั้น เฉินเกอก็ได้มีภูมิคุ้มกันต่อแอลกอฮอล์อย่างมหัศจรรย์
ต่อให้เป็นพิษร้ายแรงขนาดไหน ก็ทำอันตรายเฉินเกอไม่ได้
คงไม่ต้องพูดถึงพิษเหล้าพวกนี้หรอก……
เป็นเพราะว่า เฉินเกอนั้นเห็นว่า ยีเชาและคนอื่น ๆ จงใจกระทำต่อตัวเองขนาดนี้แล้ว หากตัวเองยอม ๆ ไป นั้นมันไม่ใช่นิสัยของเฉินเกอ ในเมื่อต้องการที่จะเล่นเกมส์นี้ งั้นก็เล่นให้มันสนุกหน่อย……