ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 372 ความตื่นตระหนกของทุกคน
บทที่ 372 ความตื่นตระหนกของทุกคน
ความจริงแล้วเฉินเกอยังมีเรื่องที่ต้องการจะพูดกับฟางเจี่่ยนนันอีกสองสามประโยค
แต่ว่าเมื่อฟางเจี่่ยนนัน พูดจบ ก็รู้สึกเบื่อหน่ายจนตัวเองต้องหันหน้าหนีไปทางอื่น
แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากพูดคุยด้วย
เฉินเกอจึงไม่พูดอะไรต่อ เดินตามหลังพวกเขาไปแล้วนั่งลง
ฟางหยีหันหน้ามามอง ปรายตาค้อนเฉินเกอเป็นครั้งคราว
อันที่จริง คิดว่าเฉินเกอเป็นคนที่ซื่อๆคนหนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่า เขาไม่เพียงเป็นคนร่ำรวยมาก แต่ยังมีทักษะที่ดีมากด้วย
รู้ๆกันอยู่ว่าเจี่่ยนนัน ร้ายกาจขนาดไหน ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับเขาอย่างง่ายดาย
ถ้าไม่ใช่ฟางเจี่่ยนนันเคยบอกไว้ว่า ไม่ให้ตัวเองเอาเรื่องกับเฉินเกอ ฟางหยีคงต้องปล่อยให้ฟางเจี่่ยนนันและเฉินเกอสู้กันอีกสักตั้งเป็นแน่
เดิมทีกำลังรอชั้นเรียนตามปกติอยู่ แต่รออยู่สักพักหนึ่งแล้ว ก็ไม่เห็นเพื่อนๆจะมากันสักที
มีเพียงเพื่อนนักเรียนหญิงที่อยู่ห้องข้างๆปรากฏตัวขึ้นประปราย
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลานี้ คนพากันมาแน่นขนัดแล้ว
“เพื่อนๆล่ะ? หายไปไหนกันหมด?”
ตอนนี้ คุณครูมาถึงแล้ว เห็นว่าในห้องเรียนมีนักเรียนนั่งอยู่เพียงไม่กี่คน อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามนักเรียนหญิงที่เพิ่งมาถึง
ฟางเจี่่ยนนันและเฉินเกอก็อยากรู้ด้วย จึงเงยหน้าขึ้นมองตามไป
“คืออย่างนี้คะครู หัวหน้าห้องของห้องสามเกิดเรื่องค่ะ ตอนนี้หลายคนพากันปิดกั้นอยู่ที่ประตูห้องของพวกเขา ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นคะ นักเรียนชายส่วนใหญ่ในห้องเราก็มุงดูอยู่ที่นั่นด้วยค่ะ!”
นักเรียนหญิงเล่า
เฉินเกอและหวางเสี่ยวหัวต่างมองหน้ากัน
เช้านี้พวกเขาต่างก็ตรงมาที่นี่แต่เช้า ยังไม่ได้กลับไปยังชั้นเรียนของตน
รู้สึกได้ว่า คงเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ
หรือว่าจะเป็นเรื่องของสวี่หยางหยาง
“เพื่อน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
หวางเสี่ยวหัวพอได้ยินว่าสวี่หยางหยาง เกิดเรื่อง จึงเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น
“ยังไม่ค่อยแน่ใจ น่าจะสวี่หยางหยางทะเลาะกับใครละมั้ง เธอคงไม่ได้ทำร้ายใครหรอก น่าจะแค่มีปากเสียงกันมากกว่า แค่นั้นแหละ เธอไม่ใช่หัวหน้าห้องของพวกเธอหรอกหรือ ทำไมพวกเธอไม่รู้เรื่องกันเลย?”
บรรดานักเรียนหญิงเอ่ยถาม
“อ้าว ก็พวกเราตรงมายังห้องเรียนรวมเลยนี่ จะไปรู้ได้อย่างไรล่ะ!”
หวางเสี่ยวหัวยิ้มมีเลศนัย แล้วนั่งลงทันที
แล้วกดโทรออก ถามเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกัน
หลังจากวางสาย หวางเสี่ยวหัวตบโต๊ะอย่างลิงโลด “ฮ่าๆ ในที่สุดสวรรค์ก็มีตา มีคนช่วยสั่งสอน สวี่หยางหยางให้แล้ว ทำให้เธอขายหน้า!”
ในห้องเรียนถ้ามีใครปฏิบัติไม่ดีต่อหวางเสี่ยวหัวและเฉินเกอ ก็คงมีเพียง สวี่หยางหยาง คนเดียว
วันนี้สวี่หยางหยางเกิดเรื่อง หวางเสี่ยวหัวย่อมดีใจเป็นของธรรมดา
“เกิดอะไรขึ้น?”
เฉินเกออยากรู้โดยแท้จริง จึงเอ่ยถามทันที
“เฉินเกอ เมื่อวาน ไม่ใช่เหลียงเฟยแพ้การแข่งขันหรือ เดิมทีเหลียงเฟยเป็นต่ออยู่นี่นา สุดท้ายถูกพี่แย่งคะแนนไปหมด ทำเอาสวี่หยางหยางโกรธควันออกหู ประกอบกับวันนี้เธอกับหลี่เหวินเทา แล้วก็เฉินจุนเหวิน พร้อมด้วยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่เคียงข้างเฉินจุนเหวินมาเข้าเรียนด้วยกัน ทุกคนต่างพากันชี้ไปที่พวกเขา! หัวเราะเยาะพวกเขาเรื่องเมื่อวานจนอับอายขายขี้หน้า!”
“สวี่หยางหยางก็อารมณ์ร้อนเกินไป ไม่พูดไม่จา ตรงเข้าไปยังคนพวกนั้นตบเข้าไปฉาดใหญ่”
“ฮ่าๆๆ แล้วคนพวกนั้นก็มีมือเหมือนกันนี่ เฉินจุนเหวินกับหลี่เหวินเทา ต่างก็ไม่ค่อยท่า เล่นงานคนกลุ่มนั้นกันยกใหญ่ สุดท้ายเธอเดาสิว่าไปโดนใครเข้า? คุณชายตระกูลเมิ่งแห่งฉู่ชวนเมิ่งชวน! เมิ่งชวนเป็นลูกผู้ลากมากดี ไม่มีใครกล้าทำให้เขาไม่พอใจ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่มีเคยถูกใครทุบตีเช่นนี้ จึงร้องตะโกนให้คนมา ช่วยปิดกั้น สวี่หยางหยางไว้ในห้องเรียนของพวกเรา! ว่ากันว่ามีรถมาสิบกว่าคันเลยนะ!”
หวางเสี่ยวหัวเล่า
เฉินเกอพยักหน้า
เรื่องแบบนี้ เฉินเกอเคยเจอมาเยอะแล้ว
แต่ว่า ไม่เคยมีครั้งไหนที่ตัวเองต้องออกโรงเองเลย
ถึงแม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในชั้นเรียนของตัวเอง แต่ว่าสวี่หยางหยางหาเรื่องใส่ตัวเอง บอกตามตรง เฉินเกอรู้สึกกังวลเล็กน้อยที่ปล่อยให้คนอย่างเมิ่งชวนสั่งสอนเธอสักตั้ง ช่วยระบายความแค้นของตัวเองด้วย
ถ้าไม่กลัวว่าจะส่งผลกระทบถึงภาพลักษณ์ เฉินเกอยังคิดอยากจะไปดูฉากนั้นเสียหน่อย
ฮ่าๆ!
“เจ๋งจริงๆ เฉินเกอ เล่ากันว่าตระกูลเมิ่งเป็นข้ารับใช้ของ ตระกูลซือถูซึ่งเป็นตระกูลชั้นสูงตระกูลหนึ่งของเมืองฉู่ชวนของพวกเรา ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะพรรณนาได้!”
หวางเสี่ยวหัวกับเฉินเกอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ เมืองฉู่ชวนขึ้นมา
ฟางหยีกับฟางเจี่่ยนนันที่อยู่ข้างหน้าก็พลอยได้ยินไปด้วย
โดยเฉพาะตอนที่พูดถึง ตระกูลซือถู ฟางเจี่่ยนนันค่อยๆหันหน้ามาเล็กน้อย
แต่ไม่นานนัก
จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามาจากด้านนอก
ที่แท้ เป็นบรรดานักเรียนก็กรูกันเข้ามา
สวี่หยางหยางเข้ามาเป็นคนสุดท้าย
หลินเซิ่งหนานประคองเธอไว้ เห็นได้อย่างชัดเจน บนหน้าของสวี่หยางหยางทั้งสองข้าง มีรอยฝ่ามือแดงฉานประทับอยู่ และเธอก็ร้องไห้อย่างหนัก
ร้องไห้ไปพลางกล่าวว่า : “ตอนนั้นฉันไม่ทันสังเกตเห็นเขา ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเขานะ!”
“ดีแล้ว ยังดีที่คณบดีและอาจารย์ประจำภาควิชาของพวกเราเข้าไปห้ามเอาไว้ ให้เธอได้เข้าชั้นเรียนไปก่อน ไม่เช่นนั้นเธอคงถูกพวกเขาคิดบัญชีเละแน่!”
หลินเซิ่งหนานพลอยหน้าเศร้าไปด้วย
แน่นอนว่า อิทธิพลของตระกูลเมิ่งมากมายเหลือเกินจริงๆ ถึงแม้ครอบครัวของหลินเซิ่งหนานก็รวย แต่ว่าก็ยังเทียบไม่ได้เลยกับตระกูลเมิ่ง
แม้กระทั่ง เหลียงเฟยแห่งตระกูลเหลียง ก็ยังสู้ไม่ได้
ด้วยเหตุนี้เมื่อครู่ตอนที่สวี่หยางหยางถูก เมิ่งชวนเล่นงาน ทุกคนได้แต่มองดู ไม่มีใครกล้าขัดขวาง
ถ้าไม่ใช่คณบดีและอาจารย์ประจำภาควิชาหาข้ออ้าง ไปเจรจากับ เมิ่งชวน ขอให้สวี่หยางหยางไปเข้าเรียนก่อน สงสัยสวี่หยางหยางต้องตกที่นั่งลำบากจริงๆ
ความจริงแล้วปล่อยให้สวี่หยางหยางใช้โอกาสนี้ สร้างความสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว
แต่ว่าคุณครู รู้ดีว่าคงไม่มีทางสำเร็จได้ คุณชายเมิ่งไม่ใช่ครูทั่วๆไปจะจัดการเขาได้
หลังจากรับสายแล้ว ก็ไม่กลับมาอีก
“ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี? เมื่อกี้ฉันโทรหาที่บ้านแล้ว แม่ฉันร้องไห้ไปพลางบอกฉันว่า คุณพ่อของฉันถูกคนของตระกูลเมิ่งจับตัวไปจากที่ทำงานเลย แถมยังซ้อมพ่อฉันยกใหญ่ด้วย ทำอย่างไรดีล่ะ?”
ครั้งนี้สวี่หยางหยางคิดได้แล้วว่าความหวาดกลัวคืออะไร
แม้แต่พ่อของเขายังโดนทำร้าย เป็นเพราะตัวเขาเอง แถมยังโดนลักพาตัวไปด้วย
ตอนนี้ตัวเองเรียกได้ว่าเข้าตาจนเสียแล้ว
ส่วนหลินเซิ่งหนานกับเหลียงเฟย ตอนนี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
ดูเหมือนพวกเขาก็ได้รับสายจากทางบ้าน เตือนว่าอย่าหาเรื่องใส่ตัว
เรื่องนี้ เป็นสวี่หยางหยางที่ลงมือก่อน
อีกทั้งมีเรื่องกันท่ามกลางผู้คนมากมายในโรงเรียน เรียกได้ว่าประจานกันให้เห็นชัดๆ!
หลังจากนั้น พรรคพวกของเมิ่งชวนก็ถูกเฉินจุนเหวินและหลี่เหวินเทาเล่นงานต่อ
ถึงแม้ เมิ่งชวน จะหาเรื่องก่อน แต่ในภาพรวมแล้ว สวี่หยางหยางก็วู่วามอยู่ไม่น้อย
เหลียงเฟยก็ไม่กล้ายุ่ง เอาแต่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างๆ
“ขี้ขลาด น่าสมเพชจริงๆ!”
ผู้หญิงบางคนมองไปทางเหลียงเฟยอย่างไม่พอใจ
แต่ว่าตอนนี้ สวี่หยางหยาง ไม่ทันได้สนใจเหลียงเฟยแล้ว เธอตกใจกลัวจนช๊อค
เวลานี้ มีนักเรียนหลายคนมาที่หน้าห้อง
เฉินเกอเงยหน้าขึ้นมอง เป็นพวกเขา เฉินจุนเหวิน หูฮุ่ยหมินและหลี่เหวินเทา
สีหน้าของพวกเขาในตอนนี้ไม่สู้ดีนัก ดูเหมือนจะเกิดเรื่องขึ้น
พวกเขาเดินตรงเข้ามา
“พี่เทา พี่จุนเหวินทำอย่างไรดีล่ะ? ครอบครัวของผมถูกคุกคาม!”
สวี่หยางหยางถามอย่างร้อนใจ
หลี่เหวินเทาท้าวเอวแล้วก้มหน้า
ส่วน หูฮุ่ยหมินกับเฉินจุนเหวิน ล่ะ ก็หมดหนทางเช่นกัน ตอนนั้นเฉินจุนเหวินก็ใจร้อนด้วยเช่นกัน แต่ว่าเรื่องนี้ ดีไม่ดีอาจต้องให้เฉินจุนเหวินชดใช้ค่าเสียหายหลายเท่าเลยทีเดียว
ยังไงซะเขากับ หูฮุ่ยหมิน….