ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 340 คนที่มีอำนาจ
บทที่ 340 คนที่มีอำนาจ
ซูมู่หานเองก็ตกใจมาก
“เป็นไปได้ไง? ฉันไม่ได้เอานะ!”
“ตอนนี้หลักฐานะและพยาต่างก็อยู่ เธอยังจะไม่ยอมรับอีก! เฮอะๆ ตลกจริงๆ!”
หยางหัวลี่พูด
“มู่หาน ฉันนับถือและให้ความเคารพเธอมาโดยตลอด แต่ว่าตอนนี้เธอ ทำให้ฉันผิดหวังมาก ถ้าหากเธอชอบ เธอสามารถพูดกับฉันได้นิ!”
เซียวหยุนพูดด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ฉันเปล่า ฉันเปล่า!”
ซูมู่หานส่ายหน้าติดต่อกัน
“ใช่แล้ว ฉันจะบอกเธอให้นะหยางหัวลี่ แฟนของมู่หานคือเศรษฐีอันดับต้นๆ ของจินหลิง เธออยากได้อะไรก็มีทั้งนั้น จะไปขโมยแหวนของเธอหรอ?”
ซูเหมิงเหมิงพูด
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฉันกลัวจังเลย คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ของจินหลิง!”
หยางหัวลี่ปิดปากหัวเราะใหญ่เลย
“แต่ไม่ว่ายังไงแล้ว ขโมยแล้วก็คือขโมย พรุ่งนี้เรื่องเรื่องนี้ พวกเราจะนำไปบอกหัวหน้า! พวกเราไปกันเถอะ! เธอยังเป็นถึงคนที่หัวหน้าชอบมากที่สุด เฮอะ พรุ่งนี้สถานีโทรทัศน์ก่างเต่าจะมีกิจกรรมอีกแล้ว ดูสิว่าเธอจะอธิบายยังไง!”
หยางหัวลี่หันไป แล้วดึงเซียวหยุนออกไป
ส่วนหม่าหนานนั้น ขณะนั้นมองไปทางซูมู่หานด้วยแววตาที่สับสน หลังจากนั้นก็กัดริมฝีปากของตัวเอง แล้วจากไปเหมือนกัน
“มู่หาน ทำไมถึงเป็นแบบนี้? พวกเราต่างก็เชื่อว่าเธอไม่ได้เอาไป แต่ปัญหาคือ พวกเราอยู่ในหอตลอดเวลา ใครจะนำแหวนไปใส่ที่ใต้หมอนเธอล่ะ!”
แน่นอนอยู่แล้ว พวกซูเหมิงเหมิงต่างก็รู้ว่าแฟนของมู่หานคือใคร ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ ก็รู้ว่ามู่หานเป็นคนยังไง
“ฉันรู้แล้วว่าใครเป็นคนเอามาใส่ แต่ว่า เธอน่าจะไม่ได้ตั้งใจจะใส่ร้ายฉัน!”
ในดวงตาของมู่หานมีน้ำตาไหลอยู่
ใช่แล้ว เธอจะมองไม่ออกได้ไงล่ะว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นยังไง?
แต่ว่าซูมู่หานไม่เข้าใจ ทำไมหม่าหนานถึงต้องช่วยหยางหัวลี่มาใส่ร้ายตัวเอง?
ครั้งนั้นที่หยางหัวลี่รังแกเธอ ก็เป็นตัวเธอที่ยืนออกมาช่วยหล่อนไม่ใช่หรอ?
ส่วนพวกซูเหมิงเหมิงก็ค่อยๆ รู้แล้วว่าคือใคร
“ให้ตายเถอะ ฉันจะไปคิดบัญชีกับเธอ ไอ่ของไม่มีจิตใจ!”
ซูเหมิงเหมิงและหวูเหวินเหวินต่างก็เริ่มกระวนกระวายแล้ว
“ช่างเถอะ ไปหาเธอก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อคนบางคนสามารถพูดให้เธอมาใส่ร้ายฉันได้ แน่นอนว่าก็ต้องมีวิธีทำให้หม่าหนานไม่พูดความจริงออกมา! อีกอย่าง นี่เป็นสิ่งที่คนอื่นวางแผนไว้แล้ว! ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะไม่สำเร็จ ก็จะยังมีครั้งอื่น ง่ายๆ คือเธอไม่มีทางให้ฉันแข่งขันกับเธออย่างราบรื่นหรอก!”
ซูมู่หานนั่งอยู่บนเตียงด้วยความอึดอัด
“มู่หาน หรือว่าโทรหาเฉินเกอไหม หยางหัวลี่คือคนที่นี่ มีเส้นสายที่ซับซ้อน เธอสู้หล่อนไม่ไหวแน่ๆ เธอดูหล่อนสิ สามารถให้หม่าหนานเชื่อฟังหล่อนได้! พูดง่ายๆ คือ อยากจะทำให้เธอเข้าร่วมการแข่งขันไม่ได้ ดีที่สุดสุดให้เธอกลับไปที่จินหลิงเลย”
ซูเหมิงเหมิงพูดด้วยกังวล
“ฉันรู้แล้วเหมิงเหมิง เรื่องนี้พวกเธอไม่ต้องยุ่งแล้ว คนที่หล่อนอยากจัดการคือฉัน อย่าเอาพวกเธอมาเกี่ยวด้วยเลย พรุ่งนี้ประชุมครั้งใหญ่ของสถานี ได้ข่าวว่ามีผู้มีอำนาจคนหนึ่งจะมา พวกเธอรีบพักผ่อน เตรียมตัวดีๆ เถอะ!”
พูดจบ ซูมู่หานก็นอนลงไปเลย
ถึงแม้ว่าบนปากจะดูเข้มแข็ง แต่ไม่ว่ายังแล้วเธอก็คือผู้หญิง อยู่ข้างนอกไม่มีอำนาจอะไรเลย แม้กระทั่งคนที่เป็นห่วงก็ไม่มี
ขณะนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเฉินเกอ
ถ้าหากว่าเฉินเกออยู่ เขาจะต้องอยู่ข้างตัวเองไม่ว่าจะเกินอะไรขึ้นแน่นอน
ถ้าหากเขารู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับตัวเองแล้ว เขาจะต้องรีบมาแน่นอน
มู่หานทนไม่ได้แล้วจริงๆ จะโทรหาเฉินเกอ แล้วไปร้องไห้กับเขา
เด็กผู้หญิงอยู่ข้างนอกคนเดียว จะไปง่ายขนาดนั้นได้ยังไง
แต่พอนึกถึงคำพูดที่ฉินหยาพูดตอนนั้น ถ้าหากว่ามีอะไรก็หาแต่เฉินเกอละก็ งั้นสิ่งที่ตัวเองให้เฉินเกอ นอกจากความสวยงาม เป็นหน้าเป็นตาให้แล้ว จะมีอะไรอีกล่ะ?
สิ่งที่ตัวเองควรจะทำคือ เป็นผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังของเฉินเกอ แต่ไม่ใช่แจกันที่สวยงามไม่ใช่หรอ?
ค่ำคืนนี้ ซูมู่หานไม่ได้นอนกลับเลย
พอถึงเช้าวันที่สอง
เพราะว่าสถานีโทรทัศน์จัดกิจกรรมครั้งใหญ่
ฉะนั้นพวกหล่อนทุกคนต่างก็ต้องไปเตรียมตัวตั้งแต่เช้า ไปจัดสถานที่ต่างๆ
สถานีโทรทัศน์ก่างเต่า เป็นเหมือนกับสถานีโทรทัศน์ของเมืองหนานหยาง นอกจากนี้ยังมีสถานีโทรทัศน์ที่ร่วมจัดโดยหัวเซี่ยไม่น้อย ต่างก็เป็นกลุ่มเดียวกันอยู่ภายใต้การควบคุมเดียวกัน
มีความสามารถเยอะมาก
และสิ่งที่ทำให้คนคิดไม่ถึงคือ มีข่าวลือมาว่า หัวหน้าใหญ่ของบริษัทเทเลวิสชันกรุ้ป ที่จริงแล้วไม่ใช่อายุของคุณนายอะไรแต่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ประวัติที่มาเก่งกาจยอดเยี่ยมมาก
อีกอย่างบริษัทเทเลวิสชันกรุ้ปที่เก่งกาจนี้ ที่จริงแล้วสิ่งที่อยู่ในสายตาของประธานท่านนี้ ก็แค่เข็มในมหาสมุทร ไม่สิ แม้แต่เข็มในมหาสมุทรก็เทียบไม่ติด
ลือกันไปมั่วเลย
แต่ว่าสถานการณ์หลักๆ ทุกคนก็ไม่ได้ชัดเจนมากนัด เพราะใครๆ ก็ไม่เคยได้ยิน
ฉะนั้น สถานีโทรทัศน์นี้ ยิ่งเป็นที่สำคัญเข้าไปใหญ่
แม้กระทั่งโต๊ะเก้าอี้ที่จัดในห้องโถงก็เป็นระเบียบมาก ไม่สามารถเบี้ยวได้เลย
ความสำคัญยากที่จะคิดจริงๆ
อีกอย่างกิจกรรมสถานีโทรทัศน์ครั้งนี้ ดาราดังๆ ของแต่ละพื้นที่ต่างก็มาร่วมงาม คงจะรื่นเริงน่าดูเลย
ป้าบป้าบป้าบ!
ในตอนที่ทุกคนกำลังจัดสถานที่อย่างตั้งใจอยู่นั้น
หัวหน้าโห๋ก็ปรบมือ ให้เด็กฝึกงานทุกคนต่างก็วางงานในมือลง
“ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่หน่อย ฉันมีเรื่องจะประกาศ!”
คนเป็นสิบมารวมตัวอยู่ในจุดเดียวกัน
“เพราะว่าว่านนี้คนที่จะมาในวันนี้พิเศษมากๆ ฉะนั้น ในตอนที่พนักงานของเราทำงาน จะต้องระวังแล้วระวังอีก!”
“อีกอย่าง คนที่จะมอบรางวัล ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกจากเด็กฝึกงานในครั้งนี้ จะต้องระวังให้ดี นี่คือการร่วมงานกับผู้มีอำนาจในครั้งนี้!”
หัวหน้าโห๋เองก็พูดด้วยตื่นเต้นมาก
“หัวลี่ พวกเราสนับสนุนเธอ!”
ขณะนี้ มีคนกลุ่มหนึ่งตะโกนขึ้น
พวกเธอนั้น ต่างก็เป็นคนที่มีหน้ามีตาและมีเงิน ดูก็รู้ว่ามาช่วยหยางหัวลี่ และแน่นอนว่าก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมงาน
ตามความจริงแล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ มีคนไม่น้อยที่มาถึงแล้ว
แม้กระทั่งเยี่ยนจิง ท่านชนชั้นใหญ่มากมายในโม๋ตูต่างก็มาหมดแล้ว
และมุมปากของหัวหน้าโห๋ก็ขยับเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มอย่างเขิน “ฉันและสถานีโทรทัศน์ตัดสินใจกันแล้ว ให้ซูมู่หานเป็นคนรับหน้าที่นี้ไป!”
“มู่หาน เธอต้องสู้ๆ นะ!”
หัวหน้าโห๋พูดด้วยความหวัง
ซูมู่หานพยักหน้า
“เฮอะ ันไม่เห็นด้วย!”
ส่วนหน้าของหยางหัวลี่ ก็ดูแย่ไปทันที ไม่ต้องสงสัยเลย ครั้งนี้คนที่ถูกเลือด ก็คือคนในเด็กฝึกงานอีเจี๋ยแล้ว
ฉะนั้นแน่นอนว่าหยางหัวลี่กระวนกระวายแล้ว
“หัวลี่ เธอยังมีหน้าที่อื่น มีอะไรไม่เห็นด้วย?”
หัวหน้าโห๋รู้ที่มาของหยางหัวลี่ ฉะนั้นจึงไม่กล้าเข้มงวดมากนัก
“หนูไม่ได้บอกว่าอยากเป็นผู้ถูกเลือก ความหมายของหนูคือ จะให้ใครเป็นก็ได้ ก็คือไม่สามารถให้ยัยขโมยนี้ไปเป็นได้ ไม่เช่นนั้นละก็ ถือว่าเป็นการดูถูกคนอื่น!”
หยางหัวลี่พูด
“ขโมยอะไรกัน? เธอพูดอะไรเนี่ย?” หัวหน้าโห๋ถามอย่างเข้มงวด
“พูดขึ้นมาแล้ว หนูกำลังจะรายงานให้คุณพอดีเลยค่ะ เมื่อคืน ซูมู่หานขโมยเพรชของเซียวหยุนที่แฟนเธอซื้อให้เธอ เรื่องนี้พวกเราทุกคนต่างก็เห็นกันแล้ว โดนจับได้คาหนังคาเขาเลย!”
หยางหัวลี่พูด
ผู้หญิงทุกคนต่างก็พยักหน้ากัน
พูดตามความจริง ถ้าหากว่าไม่ได้เจอกับตาจริงๆ ใครก็ไม่มีทางเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง
“ก็เพราะเรื่องนี้ ซูมู่หานก็ไม่มีหน้าที่จะขึ้นไปแล้ว!”
“ใช่แล้ว ทำถึงให้คนแบบนี้ขึ้นไปล่ะ?”
“เฮ้อ ออกไปเลยเถอะ ยังจะขโมยของอีก เสียหน้าจริงๆ!”
“ใช่แล้ว เด็กฝึกงานแบบพวกเรา เสียหน้าเพราะเธอหมดแล้ว!”
มีเด็กฝึกงานไม่น้อย ผู้หญิงในนั้น คนที่อิจฉาซูมู่หานต่างก็ตะโกนขึ้นในเวลานี้
“ฉันไม่ได้ขโมย ฉันเปล่า…….”
เผชิญหน้ากับการถูกดูถูกและกล่าวโทษแบบนี้ ซูมู่หานพูด