ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 301 การเอาคืน
บทที่ 301 การเอาคืน
เรื่องนั้นทำเอาหยางเสว่ได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่ว่าเธอเป็นอะไรไหม
และเฉินเอกเองก็คิดไม่ถึงจริง ๆ
“ฮืม วันนั้น สามารถพูดได้เลยว่าเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของพี่สาวของฉัน เพราะว่าเมื่อก่อนนายนั้น ทุกคนต่างรู้ว่านายจน ไม่มีอะไรเลย ใคร ๆ ต่างก็ดูถูกถากถางนาย ใคร ๆ ก็ไม่สนใจนาย แต่ว่าพี่สาวของฉัน กลับเลือกที่จะเดินไปกับนาย เดินจับมือกับนายในรั้วมหาวิทยาลัย เดินช็อปปิ้งด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน นายรู้ไหมว่าคนอื่นเรียกพี่สาวฉันว่าอะไร”
“พวกเธอรีบสิ นั่นมันไม่ใช่หยางเสว่ผู้ที่มีแฟนเป็นไอ้คนจนหรอกหรอ”
“ได้ยินหรือยัง ทุกคนต่างเรียกเธออย่างนั้น ดูถูกเยอะเย้ยเธอ แต่เธอกลับคิดว่าไม่เป็นไร แต่ว่าต่อมา นานวันเข้า ความอดทนของผู้หญิงคนหนึ่งก็ได้หมดลง เพราะทนมาพอแล้ว เธอก็คิดว่าสวรรค์นั้นช่างลำเอียงเสียจริง ใช่แล้ว เธอปล่อยนายไป และเลิกกับนาย”
“แต่ว่านายยังกล้าพูด พี่สาวของฉันผิดตรงไหน”
เฉินเกอเองก็ยอมรับ เรื่องนี้หยางเสว่เองก็ไม่ได้ผิดอะไร ใครล่ะที่จะไม่มีสิทธิ์ในการเลือก
แต่เพียงแค่หลังจากนั้นหยางเสว่ก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ทำเอาเฉินเกอเองก็คิดไม่ถึงอยู่เหมือนกัน
“นายยังจำได้ไหม วันนั้นที่พี่สาวของฉันขอร้องนายจนแทบจะขาดใจ”
หยางลู่พูดด้วยสีหน้าที่รู้สึกโกรธ
“แต่สุดท้าย นายเองก็ไม่สนใจ จนทำให้พี่สาวของฉันรู้สึกอายจนไม่กล้าที่จะมาเรียนต่อแล้ว และก็ไม่กล้าที่จะไปเจอเพื่อนเก่า ๆ ของพวกนายด้วย ดังนั้น เธอเลยตัดสินใจหยุดการเรียนไว้ นายก็รู้สิว่า พวกนายในช่วงนั้นเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว แต่เป็นเพราะว่านายทำให้พี่สาวของฉันเป็นอย่างนี้ สิบกว่าปี ตั้งแต่อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัยของเธอที่ตั้งใจเรียนนั้น กลับต้องสูญเปล่าไป”
“หลังจากที่เธอไปแล้วนั้น เธอก็พยายามที่จะหลบ หลบให้ไกลจากนาย ไปอยู่ยังที่ที่ไม่สามารถรับรู้ข่าวสารอะไรของนายได้ เธอเลยตัดสินใจไปเยี่ยนจิงคนเดียว เพื่อที่จะหางานทำ”
“และคิดไม่ถึงว่าวันแรกที่ไปนั้น กระเป๋าสตางค์ก็โดนขโมยไป เมืองเยี่ยนจิง เป็นเมืองที่ต้องใช้เงินในทุก ๆ ก้าวที่เดิน นายจะให้เธอทำอย่างไร และพอดีว่าเธอเห็นป้ายรับสมัครงานของร้านเหล้าร้านหนึ่งเข้าพอดี เธอจึงเข้าไปทำงานที่นั่น เพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตรอดมาในช่วงเวลานั้น”
“แต่ว่าอยู่อย่างสบายใจได้แค่ไม่กี่วัน เถ้าแก่ร้านเห็นว่าพี่สาวของฉันสวย เลยเกิดความอยากจะได้ขึ้นมา และซ้อมเธออย่างหนัก เธอเองก็โกรธมากเลยตบไปที่หน้าของเขาทีหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงเกือบจะทำเอาพี่สาวของฉันนั้น ไม่มีชีวิตรอด เถ้าแก่คนนั้นดูมีอำนาจมาก นายรู้ไหม”
“ต่อมา เขาเองก็ไม่พอใจพี่สาวของฉัน และยิ่งทำให้เธออยู่อย่างลำบากมากกว่าเดิม อยากจะหางานที่ดี ๆ หน่อยก็หาไม่ได้ และก็ไม่รู้ว่าไอ้คนคนนั้นใช้วิธีอะไร ทำให้พี่สาวของฉันออกจากเยี่ยนจิงไม่ได้ แม้แต่จะซื้อตั๋วรถกลับบ้านก็ยังทำไม่ได้ ทำเอาพี่สาวของฉันเองต้องยอมจำนน”
“ผู้หญิงตัวคนเดียว ในทุก ๆ วันต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ นายรู้ไหมว่ามันน่ากลัวแค่ไหน”
“สุดท้าย พี่สาวของฉันก็เลยได้ไปทำงานที่โรงแรมของเขา ในตำแหน่งพนักงานคิดเงิน แต่ก็ไม่ได้เงินเดือน ให้แค่ข้าวกินไปมื้อ ๆ แถมยังโดนเถ้าแก่เนี้ยคอยทุบตีและรังแกอยู่ประจำ”
“ในขณะที่พี่สาวของฉันกำลังคิดที่จะฆ่าตัวตายนั้น บังเอิญพ่อบ้านของตระกูลหลงเห็นเข้าพอดี และคุณชายสองของตระกูลหลงต้องการคนดูแลอยู่พอดี แล้วพี่สาวของฉันเลยได้ไปที่นั่น หลังจากนั้น คุณชายสองของตระกูลหลงชอบพี่สาวของฉันเข้า ถือว่าเป็นโชคดีของเธอจริง ๆ แล้วทั้งสองคนก็เลยได้แต่งงานกันไป ฮ่า ๆ ”
“เฉินเกอ นายคงคิดไม่ถึงล่ะสิ สิ่งที่ผู้ชายเลว ๆ อย่างนายอยากเห็น ในช่วงชีวิตก่อนหน้านี้พี่สาวของฉันที่ลำบากตรากตรำมามากนั้น ไม่เป็นอย่างที่นายคิด และก็คงไม่คิดว่าพี่สาวของฉันจะมีวันนี้ และคุณชายสองของตระกูลหลงนั้น ก็เป็นพี่เขยของฉันด้วย แถมยังเชื่อคำพี่สาวของฉันมากอีกด้วย เมื่อก่อน คนที่เคยรังแกพี่สาวของฉัน ต่างก็ได้รับผลกรรมที่สาสมแล้ว ส่วนไอ้เถ้าแก่คนที่บังคับพี่สาวฉันนั้น ก็ได้รับผลกรรมอย่างน่าอนาถ แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่ประเด็นหลักหรอก เพราะคนที่พี่สาวของฉันนั้นแค้นใจที่สุด คือนาย”
หยางลู่พูดขึ้นด้วยความพอใจ
เฉินเกอเองก็คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่หยางเสว่นั้นจากไป จะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับเธอ
หากจะพูดไปแล้ว ตัวเองก็มีส่วนทำให้เธอนั้นเกือบตาย
แต่แค่คิดไม่ถึงว่าหยางเสว่นั้นจะได้แต่งงานกับคุณชายสองของตระกูลหลง และตอนนี้อำนาจพี่น้องของหยางเสว่นั้น คงจะรู้ ๆ กันอยู่
“โอเค งั้นเธอบอกฉันหน่อย ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”เฉินเกอถาม
“ได้ ไม่มีปัญหา หากนายอยากเจอพี่สาวฉัน งั้นก็ตามฉันมา”
หยางลู่ดีดนิ้วเสียงดังขึ้น
แล้วก็เอามือไข้วไว้ด้านหลัง
เฉินเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็เดินตามเธอไป
จากนั้นหยางลู่ก็ได้พาเฉินเกอมายังห้องห้องหนึ่งภายในร้านเหล้า
พอเข้าไปข้างใน กลับไม่พบว่ามีผู้ใด
“หยางเสว่ล่ะ”
เฉินเกอถามหยางลู่
“นายอยากจะเจอพี่สาวฉันจริง ๆ หรอ ได้ งั้นฉันจะให้เธอได้พบกับเธอ”
เมื่อพูดจบ หยางลู่ก็ตบมือสองครั้ง
ตึม ๆ ๆ
เสียงฝีเท้าจากข้างนอกที่ดังสนั่นและดูเร่งรีบก็ได้ดังขึ้น
จากนั้นประตูของห้องนั้นก็ถูกเปิดออก ก็เห็นกลุ่มบอดี้การ์ดเสื้อดำบุกเข้ามา
จำนวนสิบกว่าคนได้
ยืนล้อมเฉินเกอเอาไว้
“ฮ่า ๆ ๆ เฉินเกอ นายคิดว่าฉันจะให้นายได้พบกับพี่สาวของฉันจริง ๆ หรอ ถุ้ย พี่ของฉันเกลียดนายจะตาย เธอไม่มาเจอนายหรอก นายเองก็โง่เสียจริง ๆ รู้ทั้งรู้ว่าฉันจะทำอะไรกับนาย นายก็ยังอุตส่าห์มาหาถึงที่นะ”
“ฮืม จับตัวเขาไว้”
หยางลู่พูด
ทันใดบอดี้การ์ชุดดำสามสี่คนก็ล็อคแขนของเฉินเกอเอาไว้
“พวกนายต้องการแก้แค้นไปถึงเมื่อไรกัน”
เฉินเกอถามขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ
“ฮืม ๆ เมื่อไรอ่ะหรอ ฉันไม่รู้ แต่ไม่ว่าอย่างไรวันนี้นายคงไม่ได้กลับไปแล้ว”
หยางลู่พูดขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ
“ใช่หรอ หยางลู่ พี่สาวเธอไม่เคยบอกกับเธอหรอว่า ถนนเส้นนี้ เมื่อก่อนมีชื่อเรียกว่า ถนนการค้าจินหลิง เจ้าของธุรกิจทุก ๆ เจ้าต่างรู้จักฉัน”
“แน่นอนสิ ว่าฉันรู้ เฮอะ ๆ แต่ว่าร้านเหล้าร้านนี้ พี่สาวของฉันได้ซื้อเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และเถ้าแก่ของร้านนี้ ก็คือสุนัขรับใช้อย่างฉันเอง และนายคงคิดไม่ถึงล่ะสิ”
หยางลู่พูดด้วยอาการพอใจ
จากนั้นก็เดินเข้าไปยังด้านหน้าของเฉินเกอ
เปี๊ย!
ฝ่ามือกระทบไปยังหน้าของเฉินเกอ
“ฮืม ตบเมื่อครู่นี้ ฉันตบแทนพี่สาวของฉัน ที่ไอ้สารเลวอย่างนายทำให้พี่สาวของฉันต้องตกระกำลำบาก วันนี้ ฉันจะทรมานนายให้สาแก่ใจไปเลย”
หยางลู่พูดขึ้นด้วยอารมณ์โกรธแค้น
ที่จริงแล้ววันนี้ หากเฉินเกอไม่มาหาเธอ เธอเองก็จะต้องไปหาเรื่องเฉินเกออยู่ดี
“เสียดาย ถ้าวันนี้เธออยากจะทรมานฉัน เห็นจะไม่ได้หรอก”
เฉินเกอพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มนิ่ง ๆ
“ไอ้กะล่อน นายพูดอะไรนะ”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งได้พูดขึ้น
“อะไรนะ”
หลักจากที่สิ้นเสียงของเขาลง ทันใดก็มีเสียงร้องที่ทรมานดังขึ้น
จากนั้นก็มีคนหนึ่งคนเกิดอาการชักนอนราบกับพื้นด้วยท่าทางที่ใช้มือกุมคอตัวเองไว้
“เกิดอะไรขึ้น”
หยางลู่เองก็ตกใจ
เธอเองแทบมองไม่ทันว่าเมื่อครู่นั้นเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่รู้สึกว่า มีร่างคนร่างผ่านตัวเองไปอย่างรวดเร็ว
และในตอนนั้นเธอกำลังงุนงงอยู่
แล้วที่ลำคอของตัวเอง ทันใดก็มีมือหนึ่งบีบเอาไว้
ที่จริงแล้ว มีอยู่สองคนไม่รู้ว่าจู่โจมเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร
หนึ่งคนในนั้น ถือเข็มเงินขนาดยาวไว้ในมือ ชั่วพริบตาเดียว จัดการกับสองคนที่จับเฉินเกอไว้ จนต้องลงไปนอนกองที่พื้นด้วยอาการน้ำลายฟูมปาก
“คุณชายเฉิน พวกเรามาช้าไป”
และทั้งสองคนนั้น ก็ไม่ใช่ใครอื่น ซึ่งก็คือ บอดี้การ์ดเทียนหลง ตี้หู ที่คอยปกป้องเฉินเกอมาโดยตลอดนั้นเอง
ในขณะนั้น ก็ได้พูดขึ้นด้วยความเกรงใจ
เฉินเกอพยักหน้า
เขาได้ตามหยางลู่ ก็เลยต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า ตอนนี้พี่น้องของหยางเสว่นั้นไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว
หากไม่ทำอย่างนี้ เฉินเกอก็คงไม่ตามเธออย่างลำพังหรอก
ดังนั้น เมื่อก่อนที่จะมา เขาก็ได้บอกกับบอดี้การ์ดเทียนหลงตี้หูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทั้งสองคนจึงรู้ได้เลยทันทีว่า เฉินเกอนั้นอยู่ที่ใด
พวกลูกน้องของเธอเองก็ไม่กล้าที่จะทำอะไร
“ทางที่ดีบอกฉันมาว่า หยางเสว่อยู่ที่ไหน ไม่อย่างนั้น หรือว่าเธออยากจะลองดูไหมว่า การนอนน้ำลายฟูมปากที่พื้นมันจะมีความรู้สึกอย่างไร”
เฉินเกอพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งขรึม