ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 216 คนสวยครับ ขอแลกวีแชทหน่อยครับ
บทที่ 216 คนสวยครับ ขอแลกวีแชทหน่อยครับ
“เฉินเกอ นายก็มากินข้าวที่นี่หรอ”
ลี่หมิงเฉว่มองที่เฉินเกอและก็ได้ถามขึ้น ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
คนเหล่านั้น ซึ่งก็คือลี่หมิงเฉว่ และแฟนของเธอ และยังมีลี่เชากับคนอื่น ๆ อีกด้วย
ในเวลานั้น ทุกคนต่างก็ยิ้มแล้วมองที่เฉินเกออย่างเป็นตาเดียว
ที่จริงแล้วร้านอาหารมี่ตูนั้นเป็นร้านอาหารที่อยู่ในระดับแนวหน้า ๆ และยังต้องใช้จำนวนคนเยอะ ๆ ในการจองที่นั่งด้วย
หากกินข้าวที่นี่ ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำก็ต้อง 188 หยวนขึ้นไป
ซึ่งได้รวมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอและอย่างอื่นแล้ว อย่างต่ำก็หนึ่งพันหรือสองพันขึ้นไป
และทุกคนต่างรู้ดีว่าเฉินเกอเป็นคนจน ไม่มีอะไร ดังนั้น พวกเขาก็เลยรู้สึกประหลาดใจ
“ใช่แล้ว เพื่อนของฉันจะมาห้า หกคน เลยอยากจะเลี้ยงข้าวพวกเขาหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้ ที่เจอกับพวกเธอที่กำลังกินข้าวอยู่ที่นี่พอดี”
เฉินเกอพูด
“ฮึ ๆ พวกเรากินข้าวที่นี่มันก็เป็นเรื่องปกตินะ”
“อ๊า เฉินเกอนายบอกว่า นายจะเลี้ยงข้างเพื่อนนายที่นี่หรอ งั้นนายรู้ไหมว่า ค่าอาหารที่นี่เขาคิดเป็นรายหัว อย่างน้อยก็หัวละ 188 หยวนนะ นายยังจะมาเลี้ยงข้าวเพื่อนที่นี่อยู่หรอ”
ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ กับลี่หมิงเฉว่นั้น ก็เป็นเพื่อนสมัยมัธยมของเฉินเกอ
ชื่อซูลี่เป็นคนหน้าตาดี
ในเวลานั้น ก็อดที่จะทำปากบิดปากเบี้ยวไม่ได้
ก็ใช่นะ ที่ว่าที่นี่มันมีระดับ และคนที่มากับพวกเขานั้น ต่างก็เป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม
ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะพิเศษอะไรตรงไหน
แต่พอคิดไปแล้ว คนจน ๆ อย่างเฉินเกอยังมากินข้าวที่นี่ได้ จึงทำให้พวกเขารู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร
คนอย่างเฉินเกอนั้น น่าจะหาอาหารจำพวกเกี๊ยวน้ำ หรือไม่ก็ฟาสต์ฟูดกินก็ได้
ดังนั้นเลยคิดว่ามันช่างน่าเสียหน้าเสียจริง ๆ หากถ้าเป็นอย่างนี้ เฉินเกอก็คงอยู่ในระดับเดียวกับตัวเองแล้วล่ะสิ
จากนั้น พวกเขาจึงใช้คำพูดที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้น
“นี่ซูลี่ เธอก็อย่าพูดแบบนั้นกับเฉินเกอสิ เขาเองก็มีปัญญาที่จะมากินที่นี่ หากเฉินเกออยากจะกินก็ให้เขากินสิ พอดีเลย จะได้ให้เขาแนะนำเพื่อนของเขาให้เราได้รู้จักหน่อย ฮ่า ๆ ๆ”
ลี่เชาก็ได้หัวเราะขึ้นมาอย่างฝืน ๆ
เขาไม่ว่าจะเป็นด้านครอบครัว หรือด้านธุรกิจ ต่างก็ดูว่าจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของคนในกลุ่มนี้
และเพราะว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของคนกลุ่มนี้
ซูลี่พูดขึ้น “ไอ้โย่ว พี่เชา เพื่อนของเฉินเกอจะเป็นพวกไหนกัน พี่ยังอยากจะทำความรู้จักด้วยหรอ”
“แล้วอีกอย่าง ฉันก็ไม่ได้เพราะอยากไว้หน้าเขาหรอ ไม่ดูตัวเองเลยว่าฐานะเป็นอย่างไร ก็มาที่แบบนี้ทานอาหาร การมีหน้ามีตาสำคัญมากอย่างนั้นหรอ พวกอยากได้หน้าแล้วสามารถจัดฉากตบตาคนอื่นเนี่ย มันช่างทำให้คนดูถูกเสียจริงเลย!”
ส่วนซูลี่ตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว เธอมักจะชอบดูถูกเฉินเกอ
เธอคิดว่า ไอ้จน ๆ คนนี้ ในสายตาเธอ มันช่างน่ารังเกียจมาก
ดังนั้น เธอจึงไม่ค่อยที่จะห่วงความรู้สึกของเฉินเกอเท่าไร เมื่ออยากจะพูดอะไรก็พูด
ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว เฉินเกอมากินข้าวที่ร้านอาหารเดียวกันกับเธออีก ทำให้เธอนั้นยิ่งเหลืออดไปใหญ่
“พอแล้ว ๆ อีกสักพักเพื่อนของเฉินเกอคงจะมาแล้ว พวกเธอไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
ลี่หมิงเฉว่เองก็ทนที่จะดูเหตุการณ์แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้พูดแทรกขึ้น
จากนั้น เฉินเกอก็มองที่เธอ ยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้
“พี่เชา คนนี้เป็นใครหรอ เพื่อนสมัยมัธยมของพี่ ๆ หรอ”
ในเวลานั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวสวยและดูดี นั่งอยู่ข้าง ๆ กับลี่เชาเกิดความสงสัยเลยถามขึ้น
“ใช่แล้ว ฮ่า ๆ ๆ หล่อไหมล่ะ หากเธอคิดว่าเขาหล่อ เฉินเกอเองก็ยังไม่มีแฟนนะ แนะนำให้เป็นแฟนเธอได้นะ”
ลี่เชาพูดและก็หัวเราะขึ้น
“ไอ้หย่า พี่เชาพี่ทำเอาฉันตกใจแทบแย่ หากพี่ยังพูดแบบนี้อีก ฉันจะไม่สนใจพี่แล้วนะ”
ผู้หญิงคนนั้นโกรธ และหยิกไปที่เนื้ออ่อน ๆ ของลี่เชา
จากนั้น คนในกลุ่มนั้นต่างก็ได้หัวเราะเสียงดังขึ้น
เฉินเกอเองก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่พยักหน้าเล็กน้อย
“ฮืม พวกเธอรีบดูสิ เฉินเกอหน้าแดงแล้ว ฉันรู้แล้ว เขาคงอยากจะได้น้องสาวเป็นแฟนแล้วล่ะสิ ไม่อย่างนั้น หน้าจะแดงขึ้นได้อย่างไร ฮ่า ๆ ๆ”
ผู้ชายคนหนึ่งพูดหยอก ๆ ขึ้น
“โย่ว จริงสิเฉินเกอ หากนายชอบ ผู้หญิงสวย ๆ คนนี้ฉันยกให้เป็นแฟนนายเลย ฉันพูดคำไหนคำนั้น”
ลี่เชาพอใจ และหัวเราะเสียงดังขึ้น
“ไม่ต้องหรอก ฉันมีแฟนอยู่แล้ว”
เฉินเกอพูดแล้วก็ยิ้มออกมา
ถึงแม้นว่าจะรู้ว่าคนพวกนี้ตั้งใจที่จะหยอกล้อตัวเองเล่น
และเมื่อก่อนตอนที่เรียนมัธยมก็เป็นแบบนี้
แต่ เฉินเกอก็ไม่อยากจะพูดอะไร
ไม่อยากที่จะเปิดเผยตัวตนกับคนอื่น ๆ ว่าตัวเองรวยมาก และก็ไม่อยากที่จะหักหน้าคนพวกนี้ด้วย
เฮอะ ๆ ถ้าหักหน้าจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร
“พระเจ้า เฉินเกอมีแฟนแล้วหรอเนี่ย เห้ย นี่คือข่าวใหญ่เลยนะ อีกไม่กี่วันเดี๋ยวก็จะได้รวมตัวกับเพื่อนมัธยมแล้ว พอถึงตอนนั้น มันต้องเป็นข่าวดังและเดือดแน่เลย”
ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยอาการตกใจ
“เห้ย ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนไหนถึงชอบเขาได้ พระเจ้า คงไม่ใช่ไดโนเสาร์หรอกนะ”
ซูลี่ดื่มน้ำผลไม้ไปคำหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวไปมา พร้อมด้วยอาการหมดคำที่จะพูด
และทำเอาคนทั้งกลุ่มต่างก็หัวเราะกันขึ้นมา
ลี่หมิงเฉว่มองที่เฉินเกอ ด้วยความรู้สึกที่อยากจะขอโทษ
จากนั้น เลยยิ้มและพูดขึ้นว่า “เฉินเกอ วันนี้เป็นที่ฉันนั้นได้เลื่อนตำแหน่ง และได้ตำแหน่งหัวหน้างานสต๊อกสินค้า ดังนั้น วันนี้ฉันเลยตั้งใจที่จะมาเลี้ยงข้าวลี่เชา แล้วนายและเพื่อนมากันกี่คน เอาอย่างนี้ไหม เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงพร้อม ๆ กันเลย”
“โอย ไม่เป็นไรหรอก มาตั้งเจ็ด แปดคนโน้นแหละ”
เฉินเกอยิ้มแล้วพูดขึ้น
ที่จริงแล้วเรื่องของลี่หมิงเฉว่เรื่องนั้น ก็ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว
จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตัวเองทักทายกับหลี่เจิ้นกั๋ว
แต่ว่าหลี่เจิ้นกั๋วกลับทำเป็นไม่สนใจตัวเอง คงคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย
แต่ เฉินเกอก็ไม่รู้ว่าตัวเองช่วยเขา หรือว่าลี่เชาเป็นฝ่ายช่วยเขา
ก็ไม่อยากจะพูดอะไร ก็ได้แต่พยักหน้า จากนั้น ก็ได้นั่งลงกับที่นั่งของตัวเองที่อยู่ข้างหน้าของโต๊ะพวกเขา
ที่จริงแล้ว เฉินเกอเองก็รู้สึกอึดอัด
แต่ธุรกิจของร้านนี้ดีมาก และก็ไม่มีที่นั่งอื่น ๆ อีกแล้ว เมื่อมีที่นั่งเฉินเกอเลยไม่กล้าที่จะเปลี่ยน
และอีกอย่าง หากตัวเองจะเปลี่ยนร้าน ก็คงจะไม่สะดวก
จึงรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก
และในช่วงเวลานี้ ฉินหยาและจ้าวถงถงก็ได้เดินเข้ามา
และคนที่เดินตามหลังของจ้าวถงถงมานั้น นอกจากน้องสาวเขาแล้ว ยังมีผู้ชายสองคน และผู้หญิงสองคน สงสัยน่าจะเป็นญาติของจ้าวถงถง
“เห้ย ๆ ๆ นางฟ้า ๆ ”
ในขณะนั้น ลี่เชาและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้เห็นฉินหยา จ้าวถงถงและเหล่าบรรดาน้องสาวของเธอ
พวกนั้นต่างก็ตะลึง
เพราะพวกเธอช่างสวยมากจริง ๆ
“พวกเธอเป็นใคร สวยมาก ๆ เลย ราวกับนางฟ้า”
ผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ ของลี่เชาได้พูดขึ้น
“ฮืม สวยแล้วไงหรอ แค่ตัวสูงเอง ออร่าก็มี ฮืม ๆ ”
ซูลี่มองเห็นฉินหยาและจ้าวถงถงซึ่งพวกเธอก็สวยมากจริง ๆ ราวกับดารา และก็รู้สึกอิจฉาเลยพูดไปแบบนั้น
และผู้หญิงข้าง ๆ กับลี่เชาที่แต่งหน้าหนา ๆ นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เมื่อเทียบกับพวกเธอสองคนแล้ว ตัวเองรู้เลยทันทีว่าไม่สวยแค่ไหน
“พวกนายมีใครกล้าไปขอวีแชตพวกเธอไหม ถ้าใครไปขอ ฉันจะยอมรับคนนั้นเป็นพ่อเลย”
ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความปรารถนา
จากนั้น สายตาเกืยบทุกคู่ก็มองไปยังลี่เชา
เพราะว่าในนี้ ลี่เชานั้นฐานะทางบ้านค่อนข้างจะดีที่สุดแล้ว
ลี่เชาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ
จากนั้นก็กระแอมคอ แล้วลุกขึ้นยืน แล้วจัดเสื้อผ้าตัวเองให้ดูเรียบร้อย
“รอดู เดี๋ยวฉันจะไปขอเอง”
“ว้าว พี่เชาสุด ๆ ไปเลย”
“พี่เชาต้องได้มาแน่ ๆ ”
และลี่เชาก็ได้เดินเข้ามาเรียบร้อยแล้ว
“สาว ๆ ครับ มากินข้าวกันหรอครับ มีที่นั่งกันหรือยังครับ ให้ผมช่วยไหมครับ ผมรู้จักที่นี่ดีครับ”
ลี่เชามองผู้หญิงทั้งสองด้วยสายตาที่ตื่นเต้น
“ขอบคุณค่ะ ไม่เป็นไร”
เมื่อเห็นผู้ชายเข้ามาแซว ฉินหยาและจ้าวถงถงก็ได้ตอบกลับไปอย่างนิ่ง ๆ
ซึ่งรู้สึกไม่ชอบเป็นอย่างมาก
“เฮอะ ๆ สะดวกไหมครับหากจะให้วีแชตกับผม ผมชื่อลี่เชา ที่บ้าน……”
ลี่เชาควักโทรศัพท์มือถือออกมา
“เขาอยู่ตรงนั้นไง ไป พวกเราไปเถอะ”
จ้าวถงถงในขณะนั้นมองเห็นเฉินเกอเข้าพอดี จากนั้นก็พาทุก ๆ คนเดินไป แทบไม่สนใจลี่เชา และก็เดินตรงเข้าไปยังเฉินเกอ