ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 6 ช่างเป็นโลกบำเพ็ญเซียนที่เป็นมิตรเสียจริง
“เอ๋?”
หลี่เนี่ยนฝานเดินเข้าไป เก็บไข่มุกลูกกลมสีทองมาจากด้านข้างของศพปีศาจเสือดาว
ไข่มุกทองลูกไม่ใหญ่ สัมผัสแล้วเย็นเฉียบ ทั้งยังมีน้ำหนักอยู่บ้าง
“นี่คืออะไรหรือ”
“คุณชายหลี่ นี่คือตันปีศาจของปีศาจเสือดาว” ไป๋ลั่วซวงเอ่ยปากบอก
“ที่แท้ก็เป็นตันปีศาจ” หลี่เนี่ยนฝานถืออยู่ในมือครู่หนึ่ง ก็ส่งให้ไป๋ลั่วซวง พร้อมบอกว่า “พวกเจ้าเป็นคนจัดการปีศาจเสือดาว ตันปีศาจก็ควรเป็นของพวกเจ้า”
ใครจะรู้ว่าไป๋ลั่วซวงใบหน้าพลันขาวซีด ร่างกายถอยกรูดไปสองก้าว เอ่ยอย่างกล้าๆ กลัว ๆ “ถ้าหากคุณชายหลี่ชอบ ก็เก็บตันปีศาจนี้ไว้เถิด”
นางตกใจกลัวจนจะร้องไห้อยู่แล้ว ผู้อาวุโสต้องกำลังทดสอบความซื่อสัตย์ของข้าอยู่แน่ๆ ถ้าหากข้าเก็บตันปีศาจนี้เอาไว้ เป็นไปได้มากว่าจะไม่รอดชีวิตกลับไป
“คุณชายหลี่ พวกเราสังหารปีศาจเสือดาวตัวนี้ได้ล้วนเป็นเพราะโชคช่วย ตันปีศาจของมันพวกเราไม่กล้าปรารถนาหรอก” หลัวฮ่าวพูด
ฉินจู๋ซึ่งยืนอยู่ด้านข้างก็รีบพยักหน้าตาม
หลี่เนี่ยนฝานมองทั้งสามด้วยความประหลาดใจ ทัศนคติที่มีต่อผู้บำเพ็ญเซียนเปลี่ยนไปมาก
ผู้บำเพ็ญเซียนสมัยนี้เป็นมิตรขนาดนี้เชียวเหรอ?
ผู้บำเพ็ญเซียนที่เขาพบเป็นคนแรกคือลั่วซืออวี่ ก็ดูเกรงอกเกรงใจเขาเหลือเกิน ตอนนี้ทั้งสามคนก็เป็นเช่นเดียวกัน แม้แต่ตันปีศาจก็ยกให้เขาไปส่งๆ ได้
หาได้ยากจริงๆ
หรือว่าโลกบำเพ็ญเซียนที่ตนเองทะลุมิติมานี้เป็นโลกบำเพ็ญเซียนที่สงบสุขปรองดอง
ถึงแม้เขาจะไม่เคยบำเพ็ญเซียน แต่แค่คิดก็รู้ว่าตันปีศาจต้องล้ำค่ามากอย่างแน่นอน นี่เป็นสิ่งสำคัญจากการฝึกวิชาอสูร มีประโยชน์ต่อผู้บำเพ็ญเซียนมาก ตอนนี้ยังไม่ต้องพูดถึงว่าทั้งสามฆ่าปีศาจเสือดาวตาย พวกเขายังยินดีที่จะมอบตันปีศาจให้ปุถุชนอย่างเขา จิตใจดีมากเลยละ!
หลี่เนี่ยนฝานส่ายหน้า เอ่ยปากว่า “ทั้งสามคนเกรงใจไปแล้ว ข้าเป็นปุถุชน เก็บตันปีศาจไปจะมีประโยชน์อะไร พวกเจ้าเก็บไปดีกว่า”
เขาไม่ได้บำเพ็ญเซียน เก็บตันปีศาจไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้ากินเข้าไปร่างกายอาจระเบิดตายได้
ไป๋ลั่วซวงพูดเสียงอ่อนว่า “เช่นนั้น…พวกข้าเก็บไปได้หรือ?”
พวกเขาคิดมากไปแล้ว ก็แค่ตันปีศาจ ปรมาจารย์จะมาเห็นค่าได้อย่างไรกัน
“เดิมทีก็เป็นของพวกเจ้าอยู่แล้ว” หลี่เนี่ยนฝานหมดคำจะพูด ผู้บำเพ็ญเซียนทั้งสามเกรงอกเกรงใจกันมากเกินไป “เอาอย่างนี้ไหม ตันปีศาจให้พวกเจ้า ส่วนศพเสือดาวนี่ให้ข้า ข้ากำลังอยากกินเนื้อเสือดาวอยู่พอดี”
หลัวฮ่าวตอบ “คุณชายหลี่เห็นค่าศพนี้ ก็นับว่าเป็นเกียรติของมันแล้ว นำไปเถิด”
หลี่เนี่ยนฝานยิ้มร่า พูดว่า “ต้าเฮย เจ้ารับผิดชอบแบกศพไป”
ทั้งสามคนไหนเลยจะกล้าให้ต้าเฮยแบกศพ นี่ต้องเป็นการทดสอบของท่านปรมาจารย์อย่างแน่นอน
ฉินจู๋รีบออกตัวอาสา “คุณชายหลี่ ข้าร่างกายแข็งแรง ศพนี้ข้าช่วยท่านแบกเอง อย่าได้ลำบากสุนัขตัวโปรดของท่านเลย”
“เช่นนั้นก็ลำบากแล้ว”
หลี่เนี่ยนฝานดีใจยกใหญ่ ผู้บำเพ็ญเซียนสามคนนี้เป็นคนดีจริงๆ นะเนี่ย!
หลี่เนี่ยนฝานอุ้มนานนาน คนสี่คนและสุนัขหนึ่งตัวกลับไปยังเมืองลั่วเซียน
เมื่อป้าจางเห็นว่านานนานไม่เป็นไร ก็รีบขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง ดีใจจนหลั่งน้ำตา “ขอบคุณเซียนทั้งสาม ขอบคุณคุณชายหลี่”
“ป้าจาง ผู้บำเพ็ญเซียนทั้งสามเป็นคนสังหารปีศาจ ข้าไม่ได้ช่วยอะไรเลย” หลี่เนี่ยนฝานเอ่ยปาก
ผู้บำเพ็ญเซียนทั้งสามคนไหนเลยจะกล้าอ้างความดีความชอบ จึงรีบพูดว่า
“คุณชายหลี่ถ่อมตัวแล้ว การปราบปีศาจในครานี้ท่านช่วยไว้มากนัก”
“ถ้าไม่ได้คุุณชายหลี่ พวกข้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจตนนี้ ต้องขอบคุณคุณชายหลี่”
“พวกข้าล้มปีศาจตนนี้ได้เพราะพึ่งพาโชคด้วย ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงหรอก”
ชาวบ้านโดยรอบเห็นว่าทั้งสามพูดยกยอปอปั้นเช่นนี้ สายตาที่มองหลี่เนี่ยนฝานก็พลันเปลี่ยนไป
หลี่เนี่ยนฝานมีความสามารถจริงๆ ด้วย แม้แต่ผู้บำเพ็ญเซียนยังยกย่อง ช่างไร้เทียมทาน
หลี่เนี่ยนฝานคิดเพียงว่าผู้บำเพ็ญเซียนทั้งสามให้เกียรติเขา ชั่วขณะนั้นก็รู้สึกกระดากอายขึ้นมา
เขาคลอนศีรษะเล็กน้อย ในบ่อน้ำหลังบ้านของตนอาจมีปีศาจอยู่ก็ได้ ไม่สู้ให้ทั้งสามคนไปช่วยดูจะดีกว่า
อีกอย่าง คนเขาให้เกียรติขนาดนี้แล้ว ตนเองก็ควรแสดงน้ำใจบ้าง
หลี่เนี่ยนฝานจึงเอ่ยปากชักชวนในทันที “ทั้งสามคนปราบอสูรลำบากแล้ว ไม่สู้ไปที่บ้านข้า ชิมเนื้อเสือดาวสักหน่อยเป็นอย่างไร”
ทั้งสามกำลังคิดอยู่ว่าจะประจบปรมาจารย์ผู้ปลีกวิเวกท่านนี้อย่างไรดี นี่ย่อมเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว หลี่เนี่ยนฝานจึงยกเต่าดาวกับลูกปลาฝูงหนึ่ง นำทางพวกเขากลับไปยังที่อยู่ของตน
เมื่อมาถึงเรือนสี่ประสาน ทั้งสามก็ลอบประหลาดใจไปชั่วขณะ
สมแล้วที่เป็นที่อยู่ของปรมาจารย์ผู้ปลีกวิเวก กลิ่นอายโบราณ พลังปราณเข้มข้น ประหนึ่งเป็นแดนเซียนบนโลกมนุษย์
เสี่ยวไป๋เปิดประตู เอ่ยว่า “นายท่าน ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”
“อาวุธวิญญาณ?”
ผู้บำเพ็ญเซียนหายใจเฮือกในทันใด จ้องมองเสี่ยวไป๋จนตาแทบถลนออกมา
“ไม่ใช่อาวุธวิญญาณหรอก เป็นเพียงการใช้เคล็ดวิชาเล็กๆ น้อยๆ ก็เท่านั้น” หลี่เนี่ยนฝานขี้เกียจจะอธิบาย จึงพูดออกไปส่งเดช
ผู้บำเพ็ญเซียนทั้งสามมองหน้ากันไปมา ไม่กล้าพูดโต้ตอบ
ถึงกับมีอาวุธวิญญาณชั้นสูงที่อัจฉริยะเช่นนี้ได้ แล้วบอกว่าเป็นเพียงวิธีเล็กๆ น้อยๆ นี่มันโลกของผู้ประเสริฐหรืออย่างไรกัน
ทั้งสามทำอะไรไม่ถูก วิ่งบ้างเดินบ้างตามไป ช่างน่าสงสาร อ่อนแอ และไร้เรี่ยวแรง
หลี่เนี่ยนฝานพาพวกเขาเข้าไปในโถงใหญ่ห้องหนึ่ง
ทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง ทั้งสามก็สั่นสะท้าน ม่านตาเบิกกว้าง “นี่ นี่คือ…”
พวกเขาพูดไม่ออกเสียแล้ว การตกแต่งประดับประดาทำให้รู้สึกตื่นตระหนกขั้นสุด
พื้นกระเบื้องในห้องแทบสะท้อนเงาคน พื้นเบื้องหน้าโดยรอบขาวราวกระดาษ แต่ไม่ว่าจะเป็นโซฟา โต๊ะ หรือว่าโต๊ะชา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียน แต่ในตอนนี้กลับเหมือนยายหลิวเดินเข้าสวนบุปผางาม มีเพียงความรู้สึกว่ายิ่งใหญ่อลังการ
ในโลกบำเพ็ญเซียน เรือนของปุถุชนจะเป็นไม้หรือมุงหญ้าเป็นหลัก พื้นดินก็ล้วนเป็นดินเหนียว การประดับตกแต่งของสำนักเซียนจะวิจิตรหรูหรา แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่อาจเทียบได้กับเรือนของหลี่เนี่ยนฝาน
“คุณชายหลี่ การตกแต่งนี้ มันช่าง…” ไป๋ลั่วซวงรู้สึกว่ามุมมองต่อโลกของตนเองถูกโจมตีอย่างรุนแรง
“เป็นแค่การตกแต่งแบบร่วมสมัยเท่านั้นละ มองแล้วดูสบายตาหน่อย” หลี่เนี่ยนฝานลอบยิ้มในใจ แปลกใหม่ใช่ไหมล่ะ นี่เป็นสไตล์การตกแต่งจากโลกเดิม ต่อให้พวกนายเป็นผู้บำเพ็ญเซียน ก็ไม่มีทางเคยเห็นการตกแต่งที่ทันสมัยขนาดนี้หรอก
“นี่คือสิ่งใดหรือ” สายตาของหลัวฮ่าวไปหยุดอยู่บนสิ่งที่กำลังพ่นไอน้ำอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าพลันดูหวาดผวา
หลี่เนี่ยนฝานกวาดสายตาไป เอ่ยชี้แจง “นี่คือเครื่องฟอกอากาศแบบทำความชื้น เป็นสิ่งประดิษฐ์จากวิทยาการอย่างหนึ่ง ทำให้อากาศสดชื่นขึ้น”
“นี่ไม่ใช่แค่สดชื่น นี่มัน…”
หลัวฮ่าวพูดยังไม่ทันจบ กลับถูกฉินจู๋รีบดึงไว้ บริภาษเสียงเบา “เจ้าบ้า! นายท่านสุนัขอสูรบอกไว้ว่าปรมาจารย์ท่านนี้ชอบชีวิตอย่างปุถุชน ต้องคิดว่าเขาเป็นปุถุชน ปรมาจารย์บอกว่าสดชื่นก็สดชื่นสิ!”
หลัวฮ่าวกลืนคำที่จะพูดลงคอไป ทว่าในใจของทั้งสามกลับมีคลื่นซัดโหมขึ้นมา พวกเขามองไปยังเครื่องฟอกอากาศด้วยดวงตาแดงก่ำ
เครื่องฟอกอากาศนี้พ่นพลังปราณออกมา เป็นพลังปราณบริสุทธิ์เสียด้วย!
พลังปราณเหล่านี้บริสุทธิ์กว่าในศิลาปราณ ที่สำคัญคือมันพ่นออกมาได้ไม่หยุด ประสิทธิภาพเหนือกว่าเหมืองศิลาปราณเสียอีก!
ถ้าหากได้บำเพ็ญเซียนที่นี่ จะได้ผลดียิ่งกว่าสิ่งใดจากสวรรค์ชั้นฟ้าด้วยซ้ำไป!
สามารถทำให้อากาศกลายเป็นพลังปราณได้อย่างง่ายดาย นี่มันของวิเศษอะไรกัน อาวุธเทพหรืออาวุธเซียน?
ท่านปรมาจารย์ถึงกับวางของล้ำค่าเช่นนี้ไว้ที่ห้องโถง นั่นหมายความว่าอะไรเล่า ก็หมายความความว่าเขาไม่ได้เห็นค่ามันเลยไงเล่า แล้วก็ไม่ได้กลัวว่าจะมีคนหมายปองของล้ำค่านี้ด้วย!
……………………………