ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 32 คำใบ้มาอีกแล้ว
ครั้นเดินตามหลี่เนี่ยนฝานเข้าไปในห้อง
พวกเขามองปราดเดียวก็เห็นหญิงสาวคนนั้นซึ่งนอนอยู่บนเตียง
แวบแรกที่เห็นย่อมรู้สึกประหลาดใจ
เมื่อมองอีกครั้งก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
ปีศาจแปลงกาย!
แม้จะบอกว่าแปลงกายเป็นมนุษย์แล้ว ทว่าปราณปีศาจบนร่างก็ยังจางหายไปไม่หมดเสียทีเดียว จึงทำให้แยกแยะได้อย่างง่ายดาย
ใช่แล้วละ ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับที่พำนักของคุณชายหลี่ คุณชายหลี่ย่อมมีเหตุผลให้ลงมือ!
คนที่เขาบอกว่าช่วยมาเพราะถูกด่านเคราะห์สวรรค์ทำร้าย แท้จริงแล้วก็คือปีศาจแปลงกาย
ใครจะไปคิดเล่าว่าปีศาจแปลงกายซึ่งสร้างความโกลาหลอยู่ข้างนอก จะมาปรากฏตัวอยู่ที่บ้านคุณชายหลี่ เจ้าพวกนั้นมาคว้าน้ำเหลวเสียแล้ว
ต๋าจี่เห็นหลี่เนี่ยนฝาน รอยยิ้มก็ผุดบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่ ทว่าทันทีที่เห็นพวกไป๋อู๋เฉินตามมาด้านหลังหลี่เนี่ยนฝาน สีหน้าก็พลันฉายแววตื่นตระหนก ใบหน้าซีดเผือด
“คุณชายหลี่ระวัง” ต๋าจี่เอ่ยอย่างร้อนรน รีบดึงหลี่เนี่ยนฝานไปข้างกาย
“มีอะไรหรือ” หลี่เนี่ยนฝานชะงักงันไปเล็กน้อย มองไป๋อู๋เฉินและคนอื่นๆ ด้วยความประหลาดใจ “ดูเหมือนนางจะกลัวพวกท่านมาก เป็นเพราะเหตุใดหรือ”
“คุณชายหลี่ นี่เป็นความเข้าใจผิด แม่นางผู้นี้ต้องตกใจกับอัสนีบาตจนหวาดกลัวเป็นแน่” จักรพรรดิรีบพูด เค้นรอยยิ้มเป็นมิตรออกมาสุดชีวิต
ไป๋อู๋เฉินก็รีบอธิบาย “แม่นาง คุณชายหลี่กับพวกข้าเป็นเพื่อนกัน เป็นคนดีทั้งนั้น เจ้าวางใจได้”
“ใช่แล้ว พวกข้าเป็นคนดี ไม่ทำร้ายเจ้าหรอก และยิ่งไม่มีทางทำร้ายคุณชายหลี่” จ้าวซานเหอพยักหน้ารัว
พวกเขาเกรงว่าจะทำให้หลี่เนี่ยนฝานเข้าใจผิด ถ้าหากให้ปรมาจารย์คิดว่าพวกเขามาจับปีศาจละก็จบเห่แน่
น้ำเสียงซื่อสัตย์จริงใจ อีกนิดก็คงจะสาบานต่อสวรรค์แล้ว
หลี่เนี่ยนฝานเองก็ไม่ได้นำมาใส่ใจ ยิ้มเอ่ย “ถูกต้องแล้ว พวกเขาไม่ใช่คนเลว ต๋าจี่น้อยดื่มยาเถิด ยาขมเล็กน้อย อดทนนะ”
ต๋าจี่มองผู้คนอย่างหวาดระแวง ดึงหลี่เนี่ยนฝานเข้ามาใกล้ตนเองเงียบๆ แล้วจึงอ้าปากบาง จิบไปหนึ่งคำ
ยาเข้าปากเกิดรสขมอ่อนๆ
กระนั้นมุมปากของนางกลับยกยิ้มหวานหยดย้อย
แม้จะมีชีวิตอยู่ได้เพียงเดือนเดียว แต่ทำได้เช่นนี้ นางก็พอใจมากแล้ว
ทว่าไม่ทันไร สีหน้าของนางก็พลันเปลี่ยนไป นัยน์ตาสวยฉายแววตื่นตะลึงสุดขีด
นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน
นางสัมผัสได้เลือนรางว่าอาการบาดเจ็บในร่างกายของตนนั้นกำลังถูกเยียวยา
เพียงแต่ว่า…นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน
อัสนีบาตสวรรค์แฝงไปด้วยพลังทำลายล้าง พลังชีวิตของตนถูกตัดขาด เฉกเช่นเดียวกับต้นไม้ที่แห้งตาย แต่ว่าในตอนนี้เป็นดั่งฤดูวสันต์มาเยือนยามต้นไม้แห้งเหี่ยว
ยานี้…สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิต?
นางมองหลี่เนี่ยนฝานอย่างตะลึงลาน เป็นครั้งแรกที่สัมผัสได้ว่าปุถุชนธรรมดาที่ตนแอบหลงรักมาโดยตลอดนั้น…ช่างไม่ธรรมดา
“ทำไมหรือ ยาขมเกินไปใช่ไหม” หลี่เนี่ยนฝานเอ่ยถาม
ต๋าจี่ส่ายหน้า ก้มหน้าก้มตาดื่มยา
เมื่อยาทั้งถ้วยไหลลงท้องไป ร่างกายของนางซึ่งเดิมทีได้เหยียบย่างสู่ความตายก็มีสัญญาณแห่งการฟื้นฟู พลังชีวิตถือกำเนิดขึ้นอีกครา
ไป๋อู๋เฉินและคนอื่นๆ โดยรอบสองตาเบิกกว้างจ้องเขม็ง ราวกับได้เห็นสิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดในโลกหล้า
พวกเขาเป็นผู้บำเพ็ญเซียน มีสัมผัสว่องไวต่อพลังชีวิต
เห็นชัดๆ ว่าต๋าจี่เป็นคนใกล้ตาย มัจจุราชกำลังจะมาพรากชีวิตนางไปแล้ว กระนั้นยาเพียงถ้วยเดียว ก็ถึงกับพลิกชะตาฟ้าดินได้
เหลือเชื่อ มหัศจรรย์!
นั่นเป็นถึงอัสนีบาตสวรรค์เชียวนะ!
นี่ก็เท่ากับฉกฉวยชีวิตมนุษย์มาจากธรรมชาติ คุณชายหลี่เป็นใครกันแน่
หลี่เนี่ยนฝานเห็นว่าใบหน้าของต๋าจี่เริ่มมีสีเลือดฝาด ก็เอ่ยถามอย่างยิ้มแย้ม “รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง”
“รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว” ต๋าจี่ตอบเสียงนุ่ม
“เช่นนั้นก็ดี” หลี่เนี่ยนฝานถอนหายใจอย่างโล่งอก ดูแล้วการรักษาของตนได้ผล
จากนั้น เขาก็มองไปยังพวกไป๋อู๋เฉิน เอ่ยถามว่า “พวกท่านเห็นอาการบาดเจ็บแล้ว ไม่รู้ว่าพวกท่านมีวิธีรักษาหรือไม่”
“คุณชายหลี่ นี่เป็นเรื่องยากสำหรับพวกข้าจริงๆ” ไป๋อู๋เฉินยิ้มขื่นพลางส่ายหน้า
นี่คงเป็นบาดแผลที่สวรรค์หลงเหลือไว้ พวกเขาล้วนแต่ไม่กล้าคิด
“คิดแล้วพวกท่านไม่น่าจะมีวิธี” หลี่เนี่ยนฝานถอนหายใจแผ่วเบา ไม่ได้คาดหวังสูงแต่อย่างใด
แม้ว่าไป๋อู๋เฉินจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวิชาแพทย์จะสูงส่ง ต๋าจี่ไม่ได้บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่อาจรักษาส่งเดช
หลี่เนี่ยนฝานขมวดคิ้วน้อยๆ “หากลำพังข้าแค่คนเดียว ย่อมต้องลงแรงสักหน่อย”
ลงแรงแค่หน่อยเดียวเองหรือ
ไป๋อู๋เฉินและคนอื่นรู้สึกชาไปทั้งตัว
นี่เป็นบาดแผลฉกรรจ์ที่สุดที่อัสนีบาตสวรรค์ทิ้งไว้ รักษาได้ก็ดีถมเถแล้ว ไฉนท่านจึงพูดเหมือนเป็นแค่แผลเล็กน้อยกัน
สมองของหลินชิงอวิ๋นแล่นปราด ได้โอกาสในทันใด จึงรีบพูดขึ้น “คุณชายหลี่ หอเซียนหลิงอวิ๋นของพวกข้ามีโอสถวิเศษหลายชนิด อาจช่วยรักษาอาการบาดจ็บของแม่นางต๋าจี่ได้”
หลี่เนี่ยนฝานใจกระตุกวูบ
ใช่แล้ว โลกบำเพ็ญเซียนมีโอสถวิเศษมากมาย ไม่แน่อาจมียาที่รักษาอาการบาดเจ็บของต๋าจี่ได้
ใช้โอสถวิเศษควบคู่กับการรักษาของตน ย่อมต้องเพิ่มโอกาสสำเร็จแน่นอน
หลี่เนี่ยนฝานสีหน้าแช่มชื่น เอ่ยขึ้นทันที “เช่นนั้นก็ฝากแม่นางหลินด้วย”
“เป็นเกียรติของข้าที่ได้ช่วยเหลือคุณชายหลี่” หลินชิงอวิ๋นใบหน้าแดงระเรื่อ นับว่าตนได้อยู่ในสายตาของปรมาจารย์แล้ว
คนอื่นๆ แทบอยากเขกกระโหลกตัวเอง รู้สึกดายเหลือแสน
ที่แท้ปรมาจารย์ก็บอกใบ้ไว้ตรงนี้ เหตุใดตนนึกไม่ถึงกันนะ
โชคดีที่พวกเขายังคอยย้ำเตือนตนเองอยู่ตลอดว่าให้จับสังเกตนัยยะในคำพูดของปรมาจารย์ อาจมีการทดสอบเมื่อใดก็ได้
โอกาสเสนอหน้าเข้าไปนั้นได้ถูกหลินชิงอวิ๋นช่วงชิงไปแล้ว เฮ้อ
แต่ว่าพวกเขาก็ยังมิวายวัวหายแล้วจึงรีบล้อมคอก
จักรพรรดิกล่าวว่า “คุณชายหลี่ ที่นี่อยู่ใต้อาณัติของราชวงศ์เซียนเฉียนหลง โอสถวิเศษมีนับไม่ถ้วน ประเดี๋ยวข้าจะนำมาให้ท่าน”
“คุณชายหลี่ สำนักเซียนวั่นเจี้ยนของข้าสืบทอดมานับพันปี แม้แต่โอสถวิเศษหายากก็ยังมี ไม่แน่ว่าอาจช่วยเหลือท่านได้” ไป๋อู๋เฉินเองก็บอก
“คุณชายหลี่ ข้าจะไปย้ายโอสถวิเศษทั้งหมดมาไว้ที่นี่!” จ้าวซานเหอกระตือรือร้นเป็นที่สุด หลี่เนี่ยนฝานมีบุญคุณต่อเขามาก เขาทุกข์ตรมที่ไม่อาจตอบแทน สิ่งที่สามารถหยิบยื่นให้ได้ก็ดันมีไม่มาก ทำได้เพียงแสดงความจริงใจ
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ต๋าจี่ตะลึงจนอ้าปากค้าง มองหลี่เนี่ยนฝานอย่างอึ้งงัน
คนเหล่านี้ไม่เพียงเป็นผู้บำเพ็ญเซียน แต่เห็นได้ชัดว่าสถานะในโลกบำเพ็ญเซียนไม่ต่ำต้อย กระนั้นคุณชายหลี่เป็นเพียงปุถุชน ไฉนพวกเขาจึงดูเกรงอกเกรงใจเขาปานนั้น
นี่อาจไม่เหมือนกับโลกของมนุษย์ที่นางรู้จัก ประหนึ่งว่าเป็นภาพในฝัน
“เช่นนั้นก็รบกวนทุกท่านแล้ว” หลี่เนี่ยนฝานเองก็ไม่ได้บอกปัด คนมากย่อมมีพลังมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเสแสร้ง
คนกลุ่มนี้เป็นคนดีจริงๆ เลยนะ
ถึงแม้จะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน แต่ก็มีท่าทีสุภาพกับเขามาโดยตลอด ทั้งยังยินดีช่วยเหลือคนเช่นนี้ หลังจากนี้ถ้ามีโอกาสก็ต้องตอบแทนสักหน่อย
พวกเขาเป็นผู้มีอารยะ ถ้าหากชื่นชอบการเขียนพู่กันและภาพวาด ประเดี๋ยวให้พวกเขาสักแผ่นก็ได้แล้ว
วิธีขอบคุณที่หลี่เนี่ยนฝานนึกได้ก็มีแค่เรื่องพวกนี้แหละ ตนเองเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญ ที่จริงก็ไม่มีอะไรจะหยิบยื่นให้ได้
“คุณชายหลี่ อันที่จริงที่ข้ารุดมาที่นี่ ก็เพราะอยากขอบคุณที่ช่วยคิดกลยุทธ์ ช่วยให้ราชวงศ์เซียนเฉียนหลงรอดพ้นจากวิกฤต” จักรพรรดิลั่วกล่าวด้วยน้ำเสียงระคนยินดี
หลี่เนี่ยนฝานโบกมือ “เป็นเพียงแผนการเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น”
“คุณชายหลี่ เรื่องนี้เกี่ยวโยงถึงความอยู่รอดของราชวงศ์เซียนเฉียนหลงของข้าทั้งราชวงศ์ การขอบคุณนั้นสม
ควรแล้ว!”
จักรพรรดิลั่วพูดจบ ในมือก็ปรากฏกล่องไม้โบราณทรงสี่เหลี่ยมกล่องหนึ่ง แล้วจึงส่งให้หลี่เนี่ยนฝาน
……………………………..