มุกนั่งมองภพกับน้ำนั่งทานมื้อเที่ยงด้วยกันอยู่โต๊ะข้างๆ ในร้านอาหารข้างตึกทำงานด้วยความห่อเหี่ยวใจ ใบหน้าของชายหนุ่มฉายออกมาด้วยรอยยิ้มบ่งบอกว่ากำลังมีความสุขแค่ไหนที่ได้อยู่กับผู้หญิงตรงหน้า
"มุก!" บุษบารีบสะกิดเมื่อเห็นว่ามุกจ้องมองเจ้านายหนุ่มไม่วางตา
"คะ…ค่ะ พี่บุษ" มุกสะดุ้งหันไปทางบุษบา
"เก็บอาการหน่อย" บุษบาเอ่ยเตือน
"ค่ะ" มุกก้มหน้าทานอาหารตรงหน้าต่อ
"เลิกคิดเลิกฝันเถอะมุก จะได้ไม่ต้องเสียใจ" ทิพเอ่ยถามขึ้น
"____" มุกเลือกที่เงียบไม่ยอมตอบคำถาม
"ฐานะอย่างพวกเราไม่ควรจะหวังอะไรที่มันสูงเกินตัวนะ ยิ่งกับคนที่มีเจ้าของอยู่แล้วก็ยิ่งต้องเจียมตัวเพราะเราไม่มีสิทธิ์" ทิพเอ่ยออกไปตรงๆ ให้มุกรู้ตัว
"มุกรู้จ้ะ" เธอรู้ว่าทุกคนหวังดีและเธอก็ไม่มีวันไปแทรกกลางระหว่างใครด้วย แต่ถึงชายหนุ่มไม่มีคนรักก็ไม่มีวันที่เขาจะหันมามองเธออยู่ดี
"มุกจ๊ะ" ซินดี้เดินตรงเข้าไปที่โต๊ะ
"คุณซินดี้" มุกตกใจที่อยู่ๆ นางแบบสาวเดินเข้ามาที่โต๊ะไม่มีปี่มีขลุ่ย
"ฉันขอโทษนะ ที่พลั้งมือทำร้ายเธอไปวันนั้น" ซินดี้แสร้งทำหน้าเศร้าสำนึกผิด
"ค่ะ" มุกพยักหน้ารับ
"ขอบคุณนะ ที่รับคำขอโทษจากฉัน" ซินดี้ส่งยิ้มที่ไม่เต็มใจให้มุก
"ค่ะ มุกไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว" มุกส่งยิ้มให้ซินดี้
"ขอบคุณอีกครั้งนะ ฉันขอตัวก่อนล่ะ"
ซินดี้หมุนตัวหันหลังให้มุกแล้วเดินตรงเข้าไปหาภพและน้ำที่นั่งทานอาหารอยู่ที่โต๊ะถัดไป ซินดี้ส่งยิ้มให้คนทั้งคู่พร้อมกับนั่งลงข้างๆ น้ำ ท่าทางซินดี้ที่เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคนจากที่เคยเย่อหยิ่งเปลี่ยนเป็นคนนอบน้อมขึ้น
"ซินดี้ขอนั่งด้วยคนนะคะ" มองภพกับน้ำสลับกันไปมา
"ถ้าคิดจะมาก่อกวนกัน รีบลุกออกไปจะดีที่สุดนะ" ภพเอ่ยเตือนนางแบบสาวด้วยความไม่ไว้ใจ
"ซินดี้จะทำแบบนั้นไปทำไมคะ ในเมื่อซินดี้สำนึกผิดแล้ว ภพก็ได้ยินว่าซินดี้ขอโทษพนักงานของคุณไปแล้ว"
"แล้วน้ำล่ะ"
"ส่วนน้ำซินดี้ตั้งใจจะมาขอโทษอยู่แล้วค่ะ น้ำฉันขอโทษนะ ฉันจะไม่ทำแบบนั้นกับเธออีกแล้ว" ซินดี้เอ่ยเสียงเศร้าสร้อย
"จริงๆ แล้วฉันก็ไม่ได้เป็นอะไร ฉันหวังว่าคุณจะทำได้อย่างที่พูดนะ"
"ได้สิ ฉันทำได้อยู่แล้ว" ซินดี้รับคำหนักแน่นเธอยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในชีวิตของภพต่อไป ถึงแม้จะต้องฝืนใจตนเองเธอก็ยอมอย่างน้อยๆ ก็ทำให้ภพวางใจในตัวเธอและไม่ระแวงอะไรเธออีก อนาคตอาจไม่แน่เธออาจจะได้ครอบครองหัวใจของชายหนุ่มเอาไว้เพียงผู้เดียว
"ดี งานทุกอย่างจะได้เดินไปด้วยดี ไม่มีอะไรติดขัด" ภพโล่งใจที่ซินดี้คิดได้
"ซินดี้จะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดค่ะ ให้สมกับที่ลูกค้าไว้ใจ"
"มีอีกเรื่องหนึ่งที่ซินดี้ควรจะรู้เอาไว้นะ" ภพพูดพลางมองหน้าน้ำ
"เรื่องอะไรเหรอคะ"
"ตอนนี้ผมกับน้ำเราคบกันเป็นแฟนแล้ว หวังว่าคุณจะรักษาระยะห่างจากผมเอาไว้บ้างนะ"
"ค่ะ ยินดีด้วยนะคะ จากที่คุณรอมานานวันนี้สมหวังสักที" ซินดี้ฝืนยิ้มทั้งๆ ที่อกแทบจะระเบิดออกมา
"ขอบใจนะซินดี้" ภพยิ้มมุมปาก
"ค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ" ซินดี้รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านไปด้วยความรวดเร็ว พอเข้าไปนั่งในรถคันหรูเธอก็แหกปากกรีดร้องระบายด้วยความอัดอั้นภายในใจออกมาทันทีตอนนี้เธอทำได้เพียงเท่านี้จริงๆ
คล้อยหลังซินดี้เดินออกไปน้ำก็เอาแต่นั่งเงียบคิดถึงภูมิชายหนุ่มที่ทำให้เธอสับสนว้าวุ่นใจ คำบอกรักจากปากชายหนุ่มยังคงก้องอยู่ในหู เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี กับภพผู้ชายตรงหน้าเธอก็เอ่ยปากตกลงคบกับชายหนุ่มเป็นแฟนไปแล้วแต่กับชายหนุ่มอีกคนเธอยังคงคิดถึงเขาทุกวัน
หลายสัปดาห์ต่อมา
"โอ๊ย! "มุกสะดุ้งตกใจร้องออกมาเมื่อเผลอทำน้ำร้อนลวกมือตนเอง ระหว่างที่ใช้กระดาษเช็ดมือตัวเองอยู่นั้นเธอก็เกิดอาการใจคอไม่ดีแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก
ร่างบางพาตนเองไปนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับแก้วกาแฟที่ชงเสร็จเรียบร้อย กำลังจะก้มหน้าทำงานโทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้น เมื่อเป็นเบอร์ไม่คุ้นตาเธอก็แอบแปลกใจแต่สุดท้ายก็กดรับสาย
"ฮัลโหล สวัสดีค่ะ" มุกกรอกเสียงใส่ปลายสาย
"คุณมุกผู้ปกครองของมิคใช่ไหมคะ"
"ค่ะ มุกเองค่ะ"
"คืออยู่ๆ มิคก็มีเลือดออกมาทางจมูกแล้วล้มลงสลบไป ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลคุณหมอกำลังตรวจอยู่ คุณมุกรีบมานะคะ" คุณครูปลายสายเอ่ยบอกราวเรื่องที่เกิดขึ้น
"โรงพยาบาลอะไรคะ" มุกถามด้วยความเป็นห่วงร้อนใจ
พอมุกทราบชื่อโรงพยาบาลเธอก็รีบคว้ากระเป๋าตรงไปขึ้นแท็กซี่ตรงไปยังโรงพยาบาลทันทีเธอยอมเสียค่าแท็กซี่เพื่อที่จะไปถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่ก่อนจะไปเธอไม่ลืมที่จะบอกกล่าวบุษบาหัวหน้างานเสียก่อนจะไป
ใช้เวลาไม่นานมุกก็ไปถึงโรงพยาบาลเธอรอฟังอาการของน้องชายพร้อมกับครูอีกสองคนตรงหน้าห้องฉุกเฉินจนหมอออกมาบอกว่ามิคฟื้นได้สติแล้วแต่จะต้องตรวจอย่างละเอียดโดยหมอเฉพาะทางในขั้นตอนต่อไป หลังจากที่มิคตรวจร่างกายเสร็จก็ถูกส่งตัวไปยังห้องพักฟื้นโดยมีสายน้ำเกลือเจาะอยู่ที่แขนแต่ยังคงมีอาการอ่อนเพลียอยู่ มุกยืนกุมมือน้องชายด้วยความห่วงใย
"ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว" มุกยื่นมือไปลูบศีรษะน้องชาย
"ผมเป็นอะไรครับ" มิคเอ่ยถามเสียงเบา
"ผลตรวจยังไม่ออกเลย รอก่อนนะ"
"ครับ" มิครับคำพร้อมกับหลับตาลง
ระหว่างที่รอผลตรวจของน้องชายมุกไม่ลืมที่จะโทรบอกบุษบาพร้อมกับขอลางานเพื่ออยู่เป็นเพื่อนน้องชายที่กำลังป่วย ส่วนคุณครูทั้งสองคนเมื่อเห็นว่ามิคมีผู้ปกครองอยู่ด้วยแล้วจึงขอตัวกลับ มุกนั่งเฝ้าน้องชายอยู่ข้างเตียงสักพักพยาบาลก็เข้ามาเชิญเธอไปฟังผลตรวจอีกห้องหนึ่ง พอเข้าไปถึงในห้องเธอก็นั่งลงตรงหน้าหมอหนุ่มรูปหล่อสวมแว่นกำลังมองมาที่เธอ
"สวัสดีครับ" หมอนนท์เอ่ยทักทาย
"สวัสดีค่ะ คุณหมอ" มุกเอ่ยตอบกลับตามมารยาท
"ผมอยากให้คุณทำใจดีๆ ก่อนฟังผลตรวจหน่อยนะครับ"
"ทำไมคะ น้องชายฉันเป็นอะไรร้ายแรงเหรอคะ คุณหมอ" มุกเริ่มที่จะนั่งไม่ติด
"น้องชายของคุณป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะสุดท้ายครับ"
"อะไรนะคะ!" มุกชะงักอึ้งไปไม่อยากจะเชื่อหูของตนเอง
"คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ"
"พอมีทางจะรักษาไหมคะ" พอมุกตั้งสติได้ก็เอ่ยถามทันที
"จริงๆ ระยะนี้มันจะยากหน่อยนะครับ คงจะต้องรักษาด้วยการทำคีโมและอื่นๆ ก็พอจะยื้อเวลาที่เหลือเอาไว้ได้บ้าง"
"เวลาที่เหลือ คุณหมอหมายความเวลาของมิคเหลืออยู่ไม่มากเหรอคะ" มุกถามเสียงสั่นเครือ
"ครับ มากที่สุดก็ประมาณสองถึงสามเดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันขึ้นอยู่ที่กำลังใจของคนไข้ครับ"
มุกได้ยินอย่างนั้นก็ปล่อยน้ำตาไหลเอ่ออาบแก้มทั้งสองข้างต่อหน้าหมอหนุ่มโดยไม่คิดจะใส่ใจอะไรเพราะความเสียใจมันแน่นเต็มอกเมื่อได้รับรู้ข่าวร้ายที่เกิดขึ้น หมอนนท์เห็นอย่างนั้นก็รีบยื่นกระดาษทิชชูให้มุกทันทีด้วยความเห็นใจ
"ขอบคุณค่ะ" มุกซับน้ำตาด้วยความเสียใจ
"ผมจะทำการรักษาอย่างเต็มที่นะครับ ขอเพียงคนไข้มีกำลังใจที่ดี"
"ค่ะ คุณหมอรักษาให้เต็มที่เลยนะคะ ต่อให้เสียเงินเท่าไหร่ฉันก็ยอมขอแค่ให้น้องชายอยู่กับฉันให้ได้นานที่สุด"
"ครับ"
"ฉันขอร้องอะไรคุณหมออีกสักอย่างได้ไหมคะ"
"ครับ"
"คุณหมออย่าเพิ่งบอกน้องชายฉันนะคะ ว่าเขาป่วยเป็นอะไร ฉันขอร้องนะคะ"
"ได้ครับ ถ้ามันจะทำให้น้องชายของคุณอาการดีขึ้น"
"ขอบคุณมากค่ะ"
มุกเดินตรงเข้าไปยังห้องพักฟื้นมองน้องชายที่นอนอยู่บนเตียงน้ำตาคลอเบ้า เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้วันที่คนที่รักที่สุดในชีวิตจะเกิดป่วยขึ้นมากะทันหันและร้ายแรงถึงขนาดมีเวลาอยู่ต่อที่สั้นเหลือเกิน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทำใจยากจริงๆ แต่ถึงยังไงเธอก็จะพยายามยื้อเวลาให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
"พี่มุก"
"ครับ" มุกขานรับ
"ผมจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ครับ อยู่นานแบบนี้เราต้องเสียเงินเยอะแน่ๆ มิคไม่อยากเป็นภาระให้พี่"
"มิคยังไม่หายดี จะกลับได้ยังไง ส่วนเรื่องค่ารักษาไม่ต้องห่วงหรอก พี่จัดการเอง พี่ขอกอดหน่อยนะ" มุกโน้มตัวลงสวมกอดน้องชายบนเตียงน้ำตาอาบแก้มตัวสั่นเทา
"พี่ร้องไห้ทำไมครับ ผมป่วยเป็นอะไรเหรอ"
"พี่รักมิคมากนะ รักที่สุดในชีวิตของพี่เลย"
"ครับ มิคก็รักพี่ที่สุดในชีวิตเหมือนกัน เราจะอยู่ด้วยกันตลอดนะครับ"
"ครับ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป"มุกกอดรัดน้องชายแน่นด้วยความสงสารจับใจ
"พี่อย่าร้องเลย มิคไม่ได้เป็นอะไรแล้ว"
"ใช่ มิคไม่ได้เป็นอะไร แค่ร่างกายอ่อนเพลียเท่านั้น นอนพักเยอะๆ จะได้หายไวไวแล้วกลับบ้านกัน" มุกผละออกจากน้องชายลูบศีรษะไปมา
"กี่วันครับ ผมถึงจะได้กลับบ้าน"
"ถ้าอาการดีขึ้น หมอถึงจะให้กลับครับ" หมอนนท์เดินตรงเข้ามาในห้อง
"คุณหมอ" มุกแอบตกใจเล็กน้อย
"ถ้าอยากจะกลับบ้านไวไว ต้องพักผ่อนทานยาทุกวันนะครับ อาการจะได้ดีขึ้น" หมอนนท์มองมิคด้วยความเอ็นดู
"ครับ คุณหมอ" มิคพยักหน้ารับ
หมอนนท์เดินเข้าไปยืนอยู่เตียงพร้อมกับดูสายน้ำเกลือและสีหน้าที่ค่อยๆ ดีขึ้นของมิคแล้วหันไปมองหน้ามุกส่งยิ้มมุมปากไปให้เธอ จากนั้นหมอหนุ่มก็ขอตัวออกไปจากห้อง มุกจึงถือโอกาสเดินตามหลังชายหนุ่มออกไปเพื่อสอบถามค่าใช้จ่ายในการรักษา
"คุณหมอค่ะ" มุกเอ่ยเรียกตามหลัง
"ครับ" หมอนนท์รีบหยุดเดินและหันไปมองเธอ
"คือฉันอยากจะสอบถามค่ารักษาหน่อยค่ะ"
"ได้สิครับ เชิญข้างในห้องเลย" หมอนนท์เดินนำตรงไปยังห้องทำงานของตนเอง
พอมุกนั่งลงหมอนนท์ก็รีบต่อสายไปยังแผนกการเงินเพื่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับค่ารักษาพร้อมกับจดบันทึกไปด้วย มุกเห็นอย่างนั้นก็อดเกรงใจขึ้นมาไม่ได้ เหมือนเธอกำลังรบกวนเวลาของหมอหนุ่มมากเกินไปเพราะดูแล้วมันไม่ใช่หน้าที่ของเขาเลย เธอควรจะไปถามกับพนักงานโดยตรงมากกว่า
"ฉันขอโทษนะคะ ที่รบกวนคุณ"
"ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ" หมอนนท์วางสายลงแล้วเอ่ยขึ้น
"ถ้าอย่างนั้น คุณหมอช่วยสรุปแล้วเขียนโน๊ตใส่กระดาษให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ"
"ผมไม่สะดวกเขียน ผมสะดวกพูดมากกว่าครับ" หมอหนุ่มมองใบหน้าเนียนไม่วางตา
"ค่ะ " มุกพยักหน้ารับหลบสายตาชายหนุ่ม
หมอนนท์เห็นท่าทางหญิงสาวตรงหน้ามีท่าทางกลุ้มใจอยู่มาก เขาจึงรีบแจกแจงรายละเอียดค่ารักษาพยาบาลขึ้นทันทีเพื่อไม่ให้บรรยากาศอึดอัดไปมากกว่านี้ ทันทีที่มุกรับทราบรายละเอียดต่างๆ แล้ว เธอก็ตรงกลับไปยังบ้านเช่าเพื่อเก็บเสื้อผ้าเพื่อกลับไปนอนค้างที่โรงพยาบาลกับน้องชาย เธอตั้งใจจะลางานจนกว่ามิคจะได้กลับบ้านเมื่อถึงวันนัดทำคีโมครั้งต่อไปค่อยลางานเป็นครั้งคราวไป
มุกนั่งเหม่อลอยเป็นกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลที่จะต้องจ่ายเพราะถ้าหากคิดคำนวณดูค่านอนโรงพยาบาลแต่ละคืนก็ปาไปหลายพันแล้ว ไหนจะค่าทำคีโมหลักพันต่อครั้งแต่ใช่ว่าจะทำเพียงครั้งเดียว รวมๆกันแล้วก็เหยียบแสน ถึงเธอจะมีเงินเก็บอยู่ประมาณหนึ่งแสนบาทถ้าใช้จ่ายไปกับการรักษาก็คงจะหมดไปในไม่ช้า เมื่อเป็นอย่างนั้นเธอจะต้องหางานเสริมเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เธอจะต้องเข้มแข็งถึงแม้โชคซะตาจะกลั่นแกล้งเธอกับน้องชายมากแค่ไหนเธอก็จะผ่านมันไปให้ได้ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ตามเธอจะไม่มีวันยอมแพ้ให้กับโชคซะตาอันเลวร้ายนี้อย่างแน่นอน จะทำทุกวิถีทางให้น้องชายอยู่กับเธอให้ได้นานที่สุด
MANGA DISCUSSION