ทาสรักทาสหัวใจ - ตอนที่ 4 ปลื้มใจ
วันต่อมา
มุกตื่นแต่เช้าจัดเตรียมทำอาหารเช้าให้น้องชายและตนเองเหมือนเช่นเคย แต่วันนี้พิเศษกว่าทุกวันนอกจากจะทำข้าวไข่เจียวแล้ว เธอยังตั้งใจเตรียมอีกเมนูหนึ่งให้ภพเจ้านายหนุ่มคนใหม่ด้วย โดยเธอเลือกทำเมนูง่ายๆ คือข้าวผัดแหนมใส่ไข่พร้อมน้ำชุปรสชาติกลมกล่อม มันอาจจะเป็นแค่เมนูธรรมดาๆ ทั่วไป แต่สำหรับเธอกับน้องชายนั้นถือว่าเป็นเมนูพิเศษและอร่อยมาก และเธอหวังว่าเจ้านายหนุ่มจะชอบเหมือนกัน
“มาแล้วจ้า” มุกยกจานข้าวไข่เจียววางลงตรงหน้าน้องชาย
“น่ากินจังครับ”
“น่ากิน ก็กินเยอะๆ นะจะได้โตเร็วๆ “
“ครับ” มิครับคำพร้อมกับลงมือตักอาหารเข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อย
ระหว่างที่ทั้งสองพี่น้องกำลังนั่งทานข้าวไข่เจียวคนละจานอย่างเอร็ดอร่อย มิคก็เหลือบไปมองกล่องใส่อาหารที่มุกนำมาวางลงบนโต๊ะด้วยความสงสัย
“นั่นกล่องข้าวเที่ยงพี่เหรอครับ”
“เปล่าจ้ะ พี่ทำไปให้เพื่อนที่ทำงานน่ะ” มุกพูดพลางยิ้มมุมปาก
“ข้าวผัดแหนมใช่ไหมครับ”
“ใช่จ้ะ ถ้ามิคอยากกินเดี๋ยวตอนเย็นพี่จะทำให้กินเอาไหม“
“ไม่ครับ มิคอยากกินอย่างอื่นบ้าง”
“เบื่อแล้วเหรอ”
“เปล่าครับ มิคแค่อยากเปลี่ยนบ้าง”
“ได้สิ พี่จะทำอย่างอื่นให้กินก็แล้วกัน”
“ครับ ดีจังเลย พี่ไปทำงานแค่วันเดียวก็มีเพื่อนแล้ว”
“เป็นธรรมดาอยู่แล้วล่ะจ้ะ แต่จะเจอเพื่อนที่ดีหรือจริงใจจริงๆ นั้น ก็ต้องดูกันไปยาวๆ มิคก็เหมือนกันนะจะคบเพื่อนก็ต้องดูให้ดี จะได้ไม่พากันเหลวไหลเข้าใจไหม”
“ครับพี่” มิคส่งยิ้มให้พี่สาว
หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จทั้งสองคนพี่น้องก็พากันไปยืนรอรถอยู่ตรงป้ายรถเมล์ ในทุกๆ วันมุกกับมิคจะขึ้นรถเมล์สายเดียวกัน เพราะโรงเรียนกับที่ทำงานไปทางเดียวกันแต่โรงเรียนจะถึงก่อนถัดไปก็เป็นบริษัทใหม่ที่เธอเพิ่งไปทำงาน สองคนพี่น้องยืนรอรถผ่านไปประมาณห้านาที แต่ก็ไม่มีวี่แววว่ารถจะมา จนอยู่ๆ ก็มีรถเบนซ์คันสีดำมันเงามาจอดเทียบข้างฟุตบาตตรงหน้าคนทั้งคู่พร้อมกับลดกระจกลง
“จะไปทำงานใช่ไหม” เสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยขึ้นทันทีที่กระจกถูกลดลงเผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม
“คุณภพ!” มุกตกใจเบิกตากว้าง
“ใช่ ผมเอง ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย”
“มุกไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี้ค่ะ”
“พอดีผมผ่านมาน่ะ เห็นคุณก็เลยจอด ขึ้นมาสิ”
“จะดีเหรอคะ พอดีน้องชายมุกจะต้องไปโรงเรียนค่ะ “
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ฉันจะไปส่งเอง ถ้าช้ากว่านี้อาจจะสายได้นะ” ภพมองหน้าสองพี่น้องสลับกันไปมา
“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” มุกส่งยิ้มให้ภพด้วยความดีใจ
มุกเลือกที่จะนั่งข้างหน้าเคียงข้างชายหนุ่มมิคจึงเดินไปนั่งตรงเบาะทางด้านหลัง ระหว่างทางที่รถแล่นไปข้างหน้ามุกก็หันไปลอบมองใบหน้าเจ้านายหนุ่มอยู่เป็นระยะด้วยความปลื้มปริ่มในใจ เพราะไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้นั่งรถกับชายหนุ่มแบบนี้ส่วนมิคที่นั่งอยู่ข้างหลังก็กำลังกวาดสายตามองสำรวจไปทั่วภายในรถด้วยความตื่นเต้น
เวลาผ่านไปไม่กี่นาทีรถคันหรูก็แล่นไปจอดหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง มิคจึงลงจากรถไม่ลืมที่จะไหว้ขอบคุณภพที่มาส่งและโบกมือให้พี่สาวด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า
“น้องคุณเรียนอยู่ชั้นอะไรเหรอ” ภพเอ่ยทำลายความเงียบพลางขับรถแล่นออกไป
“ชั้น ม.3 ค่ะ”
“คุณมีน้องชายแค่คนเดียวเองเหรอ มีพี่มีน้องอีกไหม”
“ไม่มีค่ะ มุกกับมิคมีกันแค่สองคนมานานแล้ว” มุกเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
“หมายความว่ายังไง “ ภพขมวดคิ้วเข้าหากัน
“มุกกับน้องเป็นเด็กกำพร้าค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่เสียไปด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อสิบกว่าปีก่อน เราสองคนก็เลยโตมาในบ้านเด็กกำพร้าค่ะ”
“ผมเสียใจด้วยนะ”
“ขอบคุณค่ะ” มุกยิ้มรับ
ไม่นานรถคันหรูก็แล่นเข้าไปจอดตรงลานจอดรถใต้ตึกของบริษัท ก่อนที่มุกจะเปิดประตูออกจากรถเธอก็สังเกตเห็นภพเอื้อมมือไปหยิบกล้องถ่ายภาพราคาแพงตรงเบาะหลังคล้องคอลงไปด้วย
“ขอบคุณมากนะคะ ที่ใจดีรับมุกติดรถมาด้วย” มุกรีบเดินอ้อมรถเข้าไปหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไร” พูดจบก็หมุนตัวจะเดินเข้าไปในตึก
“คุณภพ เดี๋ยวก่อนค่ะ” มุกรีบเอ่ยเรียกชายหนุ่มเอาไว้
“มีอะไร” ภพหันไปมองใบหน้าเนียนด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อยเพราะเขาดูออกว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังคิดอะไรกับเขาอยู่
“นี่ค่ะ ข้าวผัดแหนม มุกตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะคะ “ มือบางยื่นถุงผ้าใส่กล่องข้าวไปตรงหน้าชายหนุ่ม
“ขอบใจ” ภพรับมาถือไว้อย่างเสียไม่ได้
“ทานให้อร่อยนะคะ หวังว่าคุณจะชอบ” มุกส่งยิ้มหวานไปให้เจ้านายหนุ่ม
“อืม ผมขอตัวนะ” พูดจบภพก็เดินหายเข้าไปข้างในตึกทันที
มุกยืนมองแผ่นหลังกว้างกำยำหายลับตาไปด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้ารู้สึกปลาบปลื้มภายในหัวใจเธอชอบเจ้านายเข้าแล้วสิ ยิ่งชายหนุ่มเป็นกันเองกับเธอ เธอก็ยิ่งปลื้มในตัวชายหนุ่มมากขึ้น
ภพหิ้วถุงผ้าไปวางลงบนโต๊ะทำงานนั่งลงนำกล่องข้าวผัดแหนมออกมา พร้อมกับถุงน้ำซุปร้อนๆ ภพนั่งมองอยู่อย่างนั้นสักครู่ก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบถ้วยใบเล็กแกะเทน้ำซุปใส่ลงไป ระหว่างนั้นก็นึกถึงหน้ามุกไปด้วยแล้วส่ายหน้าเบาๆ ให้กับหญิงสาว เขาดูออกว่าเธอพยายามจะเข้าหาเขาไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงทั่วไปที่เคยเจอมา
กลิ่นน้ำซุปร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมชวนชิมให้ลิ้มลองรสชาติจนชายหนุ่มอดใจไม่ไหวรีบแกะเปิดฝากล่องข้าวผัดออก พอฝากล่องเปิดออกกลิ่นของข้าวผัดแหนมก็โชยตีขึ้นจมูกชายหนุ่มทันที ภพไม่รอช้าตักข้าวผัดแหนมเข้าปากแล้วตามด้วยน้ำซุปลิ้มรสชาติด้วยความเอร็ดอร่อย
“ไม่น่าเชื่อ ว่าข้าวผัดหน้าตาธรรมดาทั่วไปจะอร่อยได้ถึงขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ “ ภพพูดพลางเคี้ยวข้าวเต็มปาก
ณ แผนกบัญชีทันทีที่ทิพเห็นมุกเดินเข้ามาในแผนกก็รีบเดินปรี่เข้าไปหาเธอทันควัน
“มุกเธอทำให้อะไรให้คุณภพเขาทานเหรอ ขอฉันดูหน่อยสิ” ทิพก้มลงมองมือมุกแต่กลับว่างเปล่า มีแต่กระเป๋าสะพายข้างใบเล็กๆ เท่านั้น
“ข้าวผัดแหนมกับน้ำซุปจ้ะ”
“เหรอ แล้วไหนล่ะ” ทิพขมวดคิ้วเข้าหากัน
“เอาให้คุณภพเขาไปแล้วล่ะ”
“คุณภพมาแล้วเหรอ”
“จ้ะ พอดีคุณภพเขารับมุกติดรถมาด้วยน่ะ มุกก็เลยเอาให้เขาตรงลานจอดรถเลย”
“จริงเหรอ มุกเธอนี้มันโชคดีจังเลย น่าอิจฉาจัง”
“มันก็แค่บังเอิญน่ะ ถ้าเป็นคนอื่นคุณภพก็คงจะช่วยเหลือเหมือนกัน”
“นั่นสิ คุณภพเขาคงไม่มามองคนระดับพวกเราหรอก อย่างเขามันต้องระดับไฮโซดารานางแบบอะไรพวกนั้นแหละ มันถึงจะเหมาะ อย่างพวกเราคงจะได้แต่ฝันกลางวัน ไปทำงานกันเถอะ”
มุกพาตนเองไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานของตนเองด้วยใบหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย เมื่อคิดตามคำพูดของทิพกับท่าทางของภพที่เฉยเมยต่อเธอ แต่จะให้ทำยังไงได้ก็เธอชอบชายหนุ่มไปแล้ว
เวลาล่วงเลยไปจนถึงช่วงบ่ายหลังจากที่มุกทานมื้อเที่ยงเสร็จ เธอก็หาเวลาปลีกตัวจากแผนกบัญชีตรงไปยังสตูดิโอถ่ายทำโฆษณาที่ภพกำลังทำงานอยู่ ร่างสาวบอบบางยืนแอบมองชายหนุ่มอยู่ทางด้านหลังทีมงานตรงมุมหนึ่งของห้องไม่ยอมละสายตาจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่ยืนรัวซัตเตอร์ถ่ายซินดี้ภาพนางแบบสาวสวยตรงหน้าด้วยความคล่องแคล่ว
“ผู้ชายอะไร ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็หล่อไปหมด “ มุกนึกคิดอยู่ในใจ
มุกยืนแอบมองชายหนุ่มอยู่อย่างนั้นสักพัก จนเห็นชายหนุ่มเดินออกไปทางประตูเธอจึงรีบเดินตามร่างหนาออกไปติดๆ
“คุณภพค่ะ”
“เธออีกแล้วเหรอ” ภพหันไปตามเสียงด้วยความหงุดหงิด มุกแอบตกใจเล็กน้อยที่ชายหนุ่มเรียกเธอด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไป
“คือ มุกจะถามว่าข้าวผัดแหนมพอจะอร่อยถูกปากของคุณไหมคะ”
“ก็อร่อยดี แต่คราวหลังไม่ต้อง เธอคงจะเข้าใจ”
“ค่ะ” ก้มหน้ารับคำด้วยความผิดหวัง
“ภพขา” ซินดี้เดินเข้าไปควงแขนบดเบียดหน้าอกอวบโตเข้าหาชายหนุ่มแนบแน่น
“มีอะไรหรือเปล่าซินดี้”
“คุณจะไปไหนเหรอคะ”
“ผมจะไปเข้าห้องน้ำน่ะ ขอตัวนะ” ภพรีบผละออกจากหญิงสาวแล้วเดินออกไปทันที
มุกยืนมองแผ่นหลังของเจ้านายหนุ่มกับนางแบบสาวสลับกันไปมาแล้วเดินตรงไปยังแผนกบัญชีช้าๆ
“มุกมาพอดีเลย พี่บุษมีงานให้ทำวางอยู่บนโต๊ะน่ะ” ทิพเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นหญิงสาวเดินกลับเข้ามา
“จ้ะ” มุกรับคำพลางไปนั่งลงที่โต๊ะ
“ว่าแต่คุณภพเขาชอบข้าวผัดที่มุกทำให้ไหม” ทิพถามด้วยความอยากรู้
“คุณภพเขาบอกว่าอร่อยดี” มุกส่งยิ้มให้ทิพ
“เหรอ งั้นเธอต่อไปเธอคงจะได้ทำให้เขาทานบ่อยๆ สินะ”
“ไม่แล้วล่ะ “ มุกส่ายหน้า
“ทำไมล่ะ เขาชอบไม่ใช่เหรอ”
“คุณภพเขาบอกว่าไม่ต้องทำแล้ว”
“งั้นเหรอ” ทิพเอ่ยแค่นั้นก็พอจะเดาออกว่าอะไรเป็นอะไร
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลาเลิกงานระหว่างที่มุกเดินจะออกไปทางประตูชั้นหนึ่ง ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ภพกำลังเดินควงซินดี้ที่มาถ่ายโฆษณาเมื่อตอนกลางวันเดินผ่านประตูออกไปพอดี
“มุกจ๊ะ”
“___” มุกยืนนิ่งมองชายหญิงสองคนเดินไปจนลับตาด้วยความห่อเหี่ยวใจไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
“มุก!” พิศเรียกหญิงสาวตรงหน้าย้ำอีกครั้ง
“ค่ะ” มุกหันไปตามเสียงด้วยความตกใจ
“เป็นอะไร มองหาอะไรเหรอ” พิศหันมองไปรอบๆ บริเวณ
“เปล่าค่ะ” รีบปฏิเสธทันควัน
“เอานี่ กล่องข้าวของเธอ พี่ล้างให้สะอาดแล้ว” พิศยื่นถุงผ้าไปให้หญิงสาว
“ขอบใจจ้ะ” มุกรับไปถือเอาไว้พลางนึกถึงใบหน้าของภพ
“คุณภพเขาฝากพี่มาบอกมุกว่า อย่าพยายามมายุ่งย่ามกับเขาให้มาก เขาต้องการความเป็นส่วนตัว มุกคงเข้าใจนะ พี่ไปล่ะ”
“พี่พิศ เดี๋ยวก่อนสิจ้ะ”
“มีอะไรเหรอ”
“คุณซินดี้เขาเป็นแฟนคุณภพหรือเปล่าจ๊ะ”
“ไม่รู้สิ เรื่องของเจ้านายจะอยากรู้ไปทำไม “ พิศส่ายหน้าแล้วเดินจากไป
มุกได้ยินอย่างนั้นก็ก้มลงมองถุงผ้าในมือด้วยใบหน้าสิ้นหวัง ในเมื่อชายหนุ่มเอ่ยปากออกมาขนาดนี้แล้ว เธอคงทำได้แค่แอบมองเขาอยู่ห่างๆ สินะ ไม่แน่ชายหนุ่มอาจจะมีคนรักอยู่แล้วถึงไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นใครสักคนก็ได้ แต่ดูจากท่าทีของซินดี้แล้วน่าจะชอบชายหนุ่มน่าดู หรืออาจเป็นผู้หญิงคนอื่นแต่ยังไม่เปิดตัวก็ได้ เมื่อคิดถึงความน่าจะเป็นมาถึงตรงนี้มุกได้แต่ถอนหายใจเบาๆ เท่านั้น
ภพแล่นรถออกไปจากบริษัทเพื่อไปส่งซินดี้เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนถึงหน้าบ้าน ทันทีที่รถจอดสนิทอยู่ตรงหน้าบ้านเธอก็อิดออดไม่ยอมลงจากรถ แต่กลับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ชายหนุ่มพร้อมกับใช้แขนทั้งสองข้างคล้องคอแกร่งเอาไว้
“ซินดี้จะทำอะไร” ภพใช้มือหนาจับแขนเรียวออกจากคอตนเอง
“ภพก็รู้ว่าซินดี้คิดยังไงกับภพ”
“คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“ทำไมคะ ยัยน้ำมันมีอะไรดีนักหนา ภพถึงไม่ตัดใจจากมันสักที”
“เข้าบ้านเถอะซินดี้”
“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มชายหนุ่มฟอดหนึ่งแล้วรีบลงจากรถทันที
เมื่อชายหนุ่มถูกจู่โจมโดยไม่ทันได้ตั้งตัวจากหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทก็ได้แค่นั่งส่ายหน้าเบาๆ อย่างไม่สบอารมณ์เท่านั้น ชายหนุ่มไม่อยากจะคิดเลยถ้าเกิดหญิงสาวที่เขานัดหมายทานข้าวเย็นนี้มาเห็นภาพเมื่อกี้เข้าคงจะหนีไม่พ้นที่จะเข้าใจผิดในตัวเขาอย่างแน่นอน
ภพรีบแล่นรถไปยังร้านอาหารที่นัดหญิงสาวรุ่นน้องที่อยู่ในใจของเขามาโดยตลอดหลายปีด้วยความรวดเร็ว ภพนั่งรอเธอในร้านไม่นานนักเธอก็เดินเข้ามาปารกฏตัวต่อหน้าพร้อมกับส่งรอยยิ้มอันสดใสมาให้เขา
“สวัสดีค่ะ รอนานไหมคะ” ร่างบางนั่งลงตรงข้ามชายหนุ่มรุ่นพี่
“ไม่เลย แต่ต่อจะให้นานกว่านี้พี่ก็เต็มใจรอ”
“พี่ภพอะ” น้ำมองค้อนชายหนุ่ม
“น้ำอยากจะทานอะไรเป็นพิเศษไหม พี่จะสั่งให้”
“อะไรก็ได้ค่ะ น้ำทานได้หมดแหละ”
“ครับ” รับคำพร้อมกับหันสั่งอาหารกับพนักงานทันที
ระหว่างที่ทานอาหารกันไปทั้งสองคนก็ชวนกันคุยถึงเรื่องการถ่ายภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งคู่ชอบเป็นชีวิตจิตใจเพราะเรียนจบคณะเดียวกันแต่คนละรุ่น แต่ถึงจะอยู่กันคนละรุ่นแต่ทั้งสองคนมักจะออกไปทำกิจกรรมถ่ายภาพด้วยกันอยู่เสมอจึงสนิทสนมกันตั้งแต่ยังเรียนไม่จบจนถึงตอนนี้
“อาทิตย์หน้าพี่กับเพื่อนๆ จะออกทิปถ่ายภาพกัน น้ำไปด้วยกันไหม”
“น้ำไม่ว่างค่ะ น่าเสียดายจัง”
“ไม่เป็นไร ไว้น้ำว่างเมื่อไหร่เราค่อยไปกันสองคนก็ได้”
“ค่ะ” น้ำยิ้มรับแก้มปริ
“พี่ยังรอน้ำอยู่รู้ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
“พี่ภพอย่าพูดแบบนี้สิคะ น้ำไม่สบายใจเลย”
“พี่ไม่ดีตรงไหนเหรอ น้ำถึงไม่ยอมเปิดใจให้พี่สักที” ภพตัดพ้อเสียงอ่อน
“เพราะตัวน้ำเองค่ะ พี่ก็รู้ว่าความรักมันบังคับกันไม่ได้ เป็นพี่ชายที่แสนดีแบบนี้ตลอดไปนะคะ” ยื่นมือบางไปกุมมือหนาเอาไว้
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงพี่ก็จะรอ” มือหนาพลิกขึ้นจับกุมมือบางเอาไว้แทน
ณ บ้านเช่าหลังเล็กใจกลางเมืองทันทีที่มุกกลับถึงบ้านเธอก็รีบทำมื้อเย็นให้ตนเองกับน้องชายทาน ระหว่างที่กำลังนั่งทานข้าวกันสองคนพี่น้องโทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้นพอเห็นว่าเป็นรุ่นพี่โทรมาเธอก็รีบกดรับสายทันที
"ฮัลโหลค่ะ พี่ปราง" กรอกเสียงใส่ปลายสาย
"มุกได้งานทำหรือยังจ๊ะ"
"ได้แล้วค่ะ"
"ที่ไหนเอ่ย"
"บริษัท พีพีเคสตูดิโอ ทำแผนกบัญชีค่ะ"
"นั่นมันบริษัทเพื่อนพี่นี่นา"
"พี่ปรางหมายถึงคุณภพเหรอคะ" มุกแอบตกใจเล็กน้อย
"จ้ะ ภพเขาเป็นเพื่อนพี่ตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วล่ะ โลกกลมจังเลย"
"นั่นสิคะ โลกกลมจนไม่น่าเชื่อ"
"มุกวางใจได้นะ ทำงานกับภพไม่มีเรื่องอะไรให้ปวดหัวเหมือนที่มุกเคยเจอมาแน่นอน"
"ค่ะ พี่ปราง" พูดพลางนึกถึงหน้าเจ้านายหนุ่มที่ควงนางแบบสาวผ่านหน้าไปเมื่อตอนเลิกงาน
"เดี๋ยวพี่จะต้องบอกภพเขาหน่อยแล้วล่ะ ว่าเราสองคนรู้จักกัน ภพเขาจะได้รับรู้เอาไว้ เผื่อว่ามีปัญหาอะไร"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่ปราง"
"ไม่ต้องเกรงใจหรอก ตั้งใจทำงานล่ะ แค่นี้ก่อนนะ"
"ค่ะ" เธอไม่คิดเลยว่ารุ่นพี่จะรู้จักกับเจ้านายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอด้วย แต่มันก็ไม่แปลกหรอกเพราะปรางกับภพมีฐานะที่ร่ำรวยเหมือนกันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะรู้จักกัน