หลายวันต่อมา
ณ บ้านวัฒนาศิริภายในห้องนอนกว้างมุกจัดเตรียมชุดทำงานให้ภพอยู่ในห้องแต่งตัว ระหว่างที่เธอนั่งรอให้ชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำโทรศัพท์มือถือของเธอก็มีสายเข้าจากอนันต์เธอจึงรีบเดินออกไปรับสายด้านนอกทันที
“ฮัลโหลค่ะ” เสียงหวานกรอกใส่ปลายสาย
“หนูย้ายไปอยู่ที่บ้านกับภพ ทำไมไม่โทรมาบอกพ่อบ้างเลย” อนันต์เอ่ยขึ้น
“พ่อ!” มุกตกใจกับสิ่งอนันต์เอ่ยกับเธอ
“เรียกพ่อเถอะ ไหนๆ ก็มีหลานให้พ่อแล้ว”
“เอ่อ…มันจะดีเหรอคะ อีกอย่างทุกอย่างมันเกิดจากความผิดพลาดค่ะ คุณภพเขาแค่รับผิดชอบลูก”
“หึ ภพเขาก็เป็นแบบนั้นแหละปากแข็ง จริงๆ แล้วพ่อว่าเขารักหนูจะตาย ไม่อย่างนั้นจะพาหนูเข้าบ้านทำไม ไม่ต้องคิดมากหรอก ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว มีอะไรจะต้องกังวลอีก”
“ค่ะ คุณพ่อ ว่าแต่คุณพ่อรู้ได้ยังไงคะ ว่ามุกย้ายมาอยู่ที่บ้านและกำลังท้องอยู่”
“สายเขาโทรมาบอกน่ะ รู้ไหมว่าพ่อดีใจมากแค่ไหน ที่กำลังจะได้อุ้มหลาน”
“ค่ะ มุกก็ดีใจ”
“เดี๋ยววันนี้สักสายๆ หน่อย พ่อจะเข้าไปหานะ รอภพเขาออกจากบ้านไปก่อน”
“ทำไมมีอะไร คุณพ่อไม่คุยกับคุณภพตรงๆ ค่ะ ทำไมต้องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ด้วย”
“พ่อขอเวลาอีกสักหน่อยนะ ยังไงก็ได้คุยแน่ มีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ต้องบอกเขาอยู่พอดี”
“ค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”
“ไว้เจอกันนะ ลูก”
มุกรู้สึกหัวใจพองโตอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกที่ถูกอนันต์เรียกเธอว่าลูก เธอดีใจที่อนันต์ยอมรับเธอกับหลานในท้องเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่กับภพแบบไร้สถานะใดๆ ก็ตาม มุกเดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกครั้งก็เจอภพกำลังยืนสวมเสื้อที่เธอเตรียมไว้ให้พอดี
“มุกช่วยค่ะ” เดินเข้าไปจัดพับปกคอเสื้อให้ชายหนุ่ม
“ยังมีอาการคลื่นไส้เวียนหัวอยู่ไหม หื้ม” โอบกอดร่างบางเอาไว้หลวมๆ
“นิดหน่อยค่ะ”
“อืม วันนี้ฉันจะกลับเย็นๆ นะ ไม่ต้องรอทานข้าวหรอก อยากทานอะไรก็บอกป้าสายได้เลย”
“ค่ะ” ยื่นหน้าเข้าไปหมอแก้มชายหนุ่มฟอดหนึ่ง
ภพกับมุกพากันลงไปข้างล่างนั่งทานมื้อเช้าด้วยกัน ด้วยบรรยากาศที่ดีขึ้นจากเมื่อก่อนมาก ชายหนุ่มคอยมองและเอาใจใส่เธอโดยการตักอาหารใส่จานให้เธออยู่ตลอดที่นั่งทานด้วยกัน ป้าสายกับสำลีเห็นอย่างนั้นก็อดที่จะอมยิ้มขึ้นมาไม่ได้
“ทานเยอะๆ นะคะ คุณมุก ในครัวยังมีอีกเยอะเลยค่ะ” ป้าสายเอ่ยขึ้น
“ขอบคุณค่ะ” มุกยิ้มรับ
“วันนี้ถ้าอยากไปไหนก็ให้สำรวยไปส่งได้เลยนะ” ภพเอ่ยขึ้นพลางจิบกาแฟไปด้วย
“ค่ะ” มุกรับคำ
หลังทานมื้อเช้ากันเสร็จมุกก็เดินไปส่งภพถึงที่รถ ถึงแม้จะไม่มีปฏิกิริยาหรือรอยยิ้มอะไรจากชายหนุ่มส่งมาให้เธอเลยแม้สักนิด แต่เธอก็ดีใจที่อย่างน้อยเธอก็ได้อยู่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของชายหนุ่มในทุกๆ วัน
“ขับรถดีๆ นะคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับโบกมือให้ภพ
ร่างบางยืนมองจนรถคันหรูลับสายตาออกไปจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในบ้านตรงไปยังห้องครัว พอเข้าไปถึงเธอก็เห็นป้าสายและสำลีกำลังช่วยกันล้างจานส่วนสำรวยกำลังนั่งทานข้าวอยู่ เธอจึงส่งยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร
“มีอะไรให้มุกช่วยไหมคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เสร็จพอดีเลย คุณมุกมีอะไรให้ป้าช่วยหรือเปล่าคะ” ป้าสายเอ่ยขึ้น
“มุกมีเรื่องจะถามนิดหน่อยค่ะ”
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“คือวันนี้คุณพ่อของคุณภพจะมาหามุกที่นี้ค่ะ ป้าทราบแล้วใช่ไหมคะ”
“ค่ะ ป้าทราบแล้ว”
“ป้าพอจะบอกได้ไหมคะ ว่าทำไมคุณพ่อถึงไม่กล้าสู้หน้าคุณภพเขาเลย”
“เรื่องนี้ป้าบอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ มันเป็นเรื่องของเจ้านาย”
“ไม่เป็นไรค่ะ มุกเข้าใจ งั้นมุกคงจะต้องเก็บเรื่องที่รู้จักกับคุณพ่อต่อไปสินะคะ ขอตัวค่ะ” พูดจบมุกก็เดินออกไปจากห้องครัวด้วยความคลางแคลงในใจ
ช่วงสายของวันอนันต์กับมุกนั่งคุยกันอยู่ตรงสวนหลังบ้านที่มีลมพัดโชยมาเป็นระยะอย่างผ่อนคลายอารมณ์ ร่างบางหันไปมองชายสูงวัยเบื้องหน้าด้วยความไม่เข้าในสิ่งที่กำลังทำ จะมีความลับอะไรนักหนาถึงเปิดเผยตัวตนต่อหน้าลูกชายคนเดียว
“ได้มาเห็นกับตาว่าหนูสบายดี พ่อก็ดีใจแล้วล่ะ” อนันต์เอ่ยขึ้น
“จริงๆ มุกตั้งใจปล่อยท้อง จับคุณภพเขาเอง คุณภพเขาไม่ได้ตั้งใจจะมีลูกกับมุก”
“จริงเหรอ มาถึงขนาดนี้แล้วมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะ พ่อรู้ว่าหนูรักลูกชายพ่อมากถึงได้ทำแบบนี้ ตั้งใจดูแลตัวเองกับลูกในท้องให้ดีๆ ก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณมากนะคะ ถ้าเป็นไปได้มุกอยากให้คุณพ่อคุยกับคุณภพบ้างค่ะ จะได้เข้าใจกันสักที”
“เร็วๆ นี้แหละ เราได้คุยกันแน่”
“ค่ะ” และปล่อยวางเรื่องในอดีตลงได้นะ”
“คุณพ่อ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”
“ไปพบปานที่บ้านกับพ่อนะ ปานเขามีเรื่องสำคัญจะบอกหนู”
“เรื่องอะไรคะ” มุกขมวดคิ้วเข้าหากัน
“มันเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตหนู ไปฟังจากปากปานด้วยตัวเองเถอะ เดี๋ยวพ่อกลับมาส่ง”
“ก็ได้ค่ะ”
อนันต์แล่นรถออกจากบ้านวัฒนาศิริพามุกไปยังบ้านของตนเองไม่นานนักก็ถึงที่หมาย ทันทีที่ปานทองเห็นหน้ามุกเธอก็โผเข้ากอดมุกทันควันด้วยความดีใจน้ำตาคลอเบ้าโดยที่มุกไม่ทันจะได้ตั้งตัวเธอจึงทำได้แต่ยืนนิ่งให้หญิงสูงวัยกอดจนพอใจอยู่อย่างนั้น จากนั้นก็พากันเข้าไปในห้องรับแขก
“มีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ” มุกเปิดประเด็นขึ้น
“มุกจำป้าไม่ได้เลยเหรอลูก” ปานทองเอ่ยขึ้น
“มุกรู้สึกคุ้นๆ ชื่อคุณอยู่บ้างค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเคยได้ยินจากที่ไหน”
“ป้ากับอนงค์แม่ของมุกเราเป็นพี่น้องกันจ้ะ ป้าไปสืบประวัติมุกกับมิคที่บ้านเด็กกำพร้ามาหมดแล้ว” พูดพลางยื่นหลักฐานไปตรงหน้ามุก
“อะไรนะคะ! คุณเป็นป้าของมุกจริงๆ เหรอคะ” มุกตกใจถามกลับรับเอกสารมาเปิดดู
“ใช้จ้ะ มันคือเรื่องจริง” ปานทองยืนยันหนักแน่น
“เรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่คะ มุกงงไปหมดแล้ว”
ปานทองได้ยินอย่างนั้นก็เล่าเรื่องของตนเองให้มุกฟัง ตั้งแต่ที่มุกอายุได้เพียงห้าขวบก่อนที่ปานทองจะไปอยู่ต่างประเทศกับสามีฝรั่งและเรื่องที่ไม่ลงรอยกันระหว่างเธอกับญาติๆ จนเธอพลาดโอกาสที่จะได้ดูแลมุกกับมิคก่อนหน้านั้นไป
“ป้าขอโทษนะ ที่ไม่ได้อยู่ด้วยเวลาที่มุกกับมิคลำบาก” ปานทองร้องไห้น้ำตาอาบแก้มทั้งสองข้าง
“มุกดีใจนะคะ ที่อย่างน้อยๆ ในชีวิตที่เหลือนี้มุกยังมีป้าอยู่” มุกยิ้มทั้งน้ำตา
“โธ่! มุกหลานป้า” ปานทองเข้าสวมกอดปลอบมุกด้วยความดีใจ
“น่าเสียดายนะคะ ที่มิคไม่ได้เจอป้า” มุกพูดเสียงสะอื้น
“ป้าเชื่อนะว่ามิคกำลังมองเราสองคนอยู่ และเขาก็มีความสุขดี ไม่ต้องทรมานกับโรคร้ายอีกต่อไป” ปานทองลูบหลังมุกไปมาเบาๆ
“มุกไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าตนเองจะมีญาติเหมือนคนอื่นเขา”
“มันคือความจริงจ้ะ มุกเป็นหลานแท้ๆ ของป้า ต่อไปนี้มีอะไรที่ไม่สบายใจมุกมาหาป้าได้ตลอดเลยนะ ป้าจะคอยอยู่เคียงข้างมุกเสมอ”
“ค่ะ มุกรู้สึกอุ่นใจขึ้นมามากเลยที่มีหลักพักพิง” มุกยิ้มกว้าง
“ในที่สุดป้าหลานก็ได้เจอและเปิดใจคุยกันสักทีนะ” อนันต์ยิ้มมีความสุขไปด้วย
“แล้วเราจะบอกเรื่องนี้กับคุณภพเมื่อไหร่กันคะ” มุกเอ่ยถามขึ้น
“พ่อว่าอย่าเพิ่งจะดีกว่านะ รออีกสักหน่อย” อนันต์หันไปมองหน้าปานทอง
“ป้าขอนะ อย่าเพิ่งบอกใครเก็บไว้เป็นความลับก่อน” ปานทองเอ่ยเสริมขึ้นอีกคน
“มุกไม่รู้นะคะ ว่าทุกคนมีเหตุผลอะไร มุกรับปากค่ะว่าจะไม่บอกใคร”
“ขอบใจจ้ะ” ปานทองยิ้มรับด้วยความกังวลใจ
“รออีกสักหน่อยนะ พร้อมเมื่อไหร่พ่อจะบอกหนูเป็นคนแรกเลย” อนันต์เอ่ยให้มุกสบายใจ
“ค่ะ” มุกยิ้มรับ
“เกือบลืมไปเลย มุกท้องได้กี่เดือนแล้วนะ” ปานทองรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“หนึ่งเดือนค่ะ”
“แล้วคุณภพเขาดูแลมุกดีไหมลูก”
“ดีค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“ได้ยินอย่างนี้ ป้าก็ชื่นใจแล้วล่ะ” ปานทองยิ้มกว้าง
ภายในห้องนอนตรงระเบียงห้องมุกขึ้นมารอภพกลับบ้านหลังจากที่ทานมื้อเย็นเสร็จพร้อมกับวุ่นคิดเรื่องระหว่างภพกับอนันต์ เธออยากจะรู้เหลือเกินว่าระหว่างสองคนพ่อลูกมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ทำไมถึงห่างเหินกันถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะภพไม่เคยแม้ที่จะเอ่ยปากพูดถึงพ่อตนเองเลยสักครั้ง และยิ่งมีเรื่องเธอกับปานทองเข้ามาแทนที่อนันต์จะรีบบอกภพแต่กลับขอให้เธอเก็บเป็นความลับต่อไป
“มายืนเหม่อ อะไรตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทางด้านหลังร่างบาง
“เอ่อ…มุกมารับลมค่ะ” หันไปทางชายหนุ่มทันควัน
“เข้าไปข้างในเถอะ” ภพหมุนตัวเดินเข้าไปข้างในห้อง
“คิดถึงจังเลยค่ะ” มุกสวมกอดร่างหนาจากทางด้านหลัง
“ไม่เหม็นหรือไง ขอฉันอาบน้ำก่อนได้ไหม เดี๋ยวก็คลื่นไส้อีกหรอก”
“คุณดื่มมาเหรอคะ” ถามพลางผละออกจากร่างหนา
“นิดหน่อยน่ะ ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”
“ค่ะ เดี๋ยวมุกเตรียมชุดนอนให้” ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
หลังจากเตรียมชุดให้ภพเสร็จมุกก็นั่งรอชายหนุ่มอยู่บนเตียงพร้อมกับอ่านคู่มือการเลี้ยงบุตรไปพลางๆ สักพักร่างหนาก็เดินตรงมาที่เตียงด้วยชุดนอนแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ เธอ
“วันนี้ลูกฉันเป็นยังไงบ้าง” มือหนายื่นไปลูบไล้ตรงหน้าท้องราบแบนของมุกเบาๆ
“วันนี้ลูกสบายดีค่ะ” มุกยิ้มมีความสุขที่ได้รับสัมผัสจากฝ่ามือร้อน
“วันนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยจังเลย” พูดพลางหลับตาลงแต่มือยังคงค้างอยู่หน้าท้องแบน
“ให้มุกช่วยนะคะ” พูดพลางวางหนังสือลงแล้วขยับตัวนอนลงกกกอดชายหนุ่มไว้
“นี่เหรอ วิธีช่วยของเธอ”
“อุ่นไหมคะ” ซบหน้าเข้าหาอกกว้างกำยำ
“อืม” โอบเอวบางเข้ามาแนบชิดตัวมากขึ้น
“มุกอยากรู้จังเลยค่ะ ว่าคุณจะเลี้ยงลูกแบบไหน จะเลี้ยงแบบเดียวกับที่คุณพ่อเลี้ยงคุณไหม” มุกตั้งใจถามคำถามเพื่อให้ชายหนุ่มเอ่ยถึงบิดาบ้าง
“เธอถามอะไร อย่ามาถามคำถามแบบนี้กับฉันอีก ฉันไม่ชอบ” เอ่ยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจพลางพลิกตัวหันหลังให้มุกทันที
“มุกขอโทษค่ะ มุกไม่รู้ว่าคุณไม่ชอบ ขอโทษนะคะ” ขยับตัวเข้าไปสวมกอดชายหนุ่มอีกครั้งด้วยความคลางแคลงใจที่มากขึ้น
“นอนเถอะ ฉันง่วงแล้ว” พลิกตัวกลับไปสวมกอดร่างบางแล้วหลับตาลง
MANGA DISCUSSION