“ไม่ว่าคุณจะรู้สึกยังไงกับมุก มุกรับได้ทุกอย่างค่ะ แค่คุณรับรู้ว่ามุกรักคุณก็พอ แค่นี้มุกก็มีความสุขแล้วค่ะ” พูดจบร่างบางก็ค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากชายหนุ่มเบาๆ แล้วเดินเข้าห้องไป ปล่อยให้ภพยืนสับสนกับความรู้สึกของตนเองอยู่อย่างนั้น
ตกดึกภายในห้องนอนกว้างที่มิคเคยอยู่มุกพาตนเองเข้าไปหยุดยืนอยู่ตรงกลางห้องด้วยความเศร้าหดหู่ในหัวใจน้ำตาค่อยๆ เอ่อไหลอาบแก้มเมื่อความอ่อนแอเข้ามาเกาะกินใจอีกครั้ง ภาพความทรงจำในอดีตที่เธอเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับมิคตั้งแต่เล็กจนโตค่อยๆ ไหลเข้ามาในหัวให้ย้อนคิดถึงช่วงเวลานั้น
ร่างบางเดินไปเปิดลิ้นชักตรงโต๊ะหัวเตียงหยิบภาพเธอกับน้องชายที่ถ่ายด้วยกันในบ้านเด็กกำพร้าออกมามองทั้งน้ำตา ร่างบางทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงจ้องมองภาพในมือด้วยความเจ็บปวดทรมานใจ ระหว่างนั้นเธอก็เหลือบไปเห็นแผ่นกระดาษสีขาวพับอยู่ในลิ้นชักเธอจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดออกก็ปรากฏว่าเป็นลายมือของมิค
ถึง….พี่มุก
ผมรู้ว่าพี่เสียใจมากแค่ไหนที่ผมป่วยหนักแบบนี้ และพี่ก็เหนื่อยมากที่ต้องหาเงินมารักษาผม แต่พี่ก็ยังยิ้มสู้สร้างพลังบวกให้ผมมีกำลังใจที่จะสู้กับโรคร้ายต่อไป ขอบคุณที่ดูแลห่วงใยผมอย่างดีมาโดยตลอด พี่รู้ไหมว่าผมโชคดีมากแค่ไหนที่มีพี่เป็นพี่สาว ผมไม่รู้ว่าผมจะอยู่กับพี่ได้อีกนานไหม ไม่ว่าพี่จะอ่านจดหมายฉบับนี้ของผมตอนไหน ผมอยากให้พี่รู้เอาไว้ว่าผมรักพี่มากนะครับ รักมากที่สุดในโลกเลย ต่อไปถ้าไม่มีผมแล้ว ดูแลตัวเองดีๆ นะครับ ผมอยากให้พี่มุกมีคนที่ดีคอยดูแลพี่แทนผม ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นหมอนนท์หรือพี่ภพ ผมขอให้พี่มุกเลือกคนที่พี่รักอยู่ด้วยแล้วมีความสุขนะครับ
รักเสมอ…..จากมิค
“โธ่ มิค พี่รักมิคนะ กลับมาได้ไหม” ร้องไห้สะอึกสะอื้นใจแทบขาดกอดจดหมายแนบอกทิ้งตัวนอนลงบนเตียงด้วยความเสียใจ
ภพหลังจากที่เคลียร์งานเสร็จก็ออกมาจากห้องทำงานตรงไปยังห้องนอนพอไม่เจอมุกชายหนุ่มจึงเดินตามหาแถวห้องครัวกับโซนรับแขกเมื่อไม่พบเขาจึงเข้าไปตามในห้องนอนที่อยู่ถัดไป พอภพเปิดประตูออกเขาพบว่ามุกกำลังนอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เตียง เขาจึงรีบเข้าคว้าร่างบางเข้ามากอดปลอบแนบอกกว้างด้วยความสงสารจับใจ
“อย่าร้องเลยนะ ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว”
“มุกคิดถึงมิค อยากให้มิคกลับมาแต่มันก็เป็นไปไม่ได้”
“เธอจะต้องเข้มแข็งให้ได้นะ ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอเอง”
“มุกไม่เหลือใครแล้ว คุณอย่าทิ้งมุกไปนะ มุกอยู่ไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่มีคุณ” กอดรัดร่างหนาเอาไว้เแน่น
“ฉันไม่ทิ้งหรอก ไว้ใจฉันได้”
“ขอบคุณมากนะคะ ที่คอยอยู่ข้างๆ และให้กำลังใจกัน ถ้าไม่มีคุณป่านนี้ไม่รู้ว่ามุกจะเป็นยังไง”
“ฉันเต็มใจ ไปนอนกันเถอะดึกมากแล้ว” ร่างหนาค่อยๆ ประคองร่างบางให้ลุกขึ้นแล้วพาออกไปจากห้องไปยังห้องนอนห้องถัดไป
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
เช้าวันใหม่บนเตียงนุ่มกว้างมุกนอนมองหน้าภพที่กำลังหลับสนิทข้างกายด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า ใช้มือบางค่อยๆ เกลี่ยแก้มสากไปมาเบาๆ ด้วยความเผลอไผลแล้วก้มลงจูบแก้มชายหนุ่มฟอดหนึ่ง
“กล้าดียังไงมาลวนลามฉัน ตอนหลับ หื้ม” ดวงตาคมกริบลืมขึ้นจ้องมองใบหน้าสาว
“ตื่นแล้วเหรอคะ” ถามพลางขยับถอยห่างจากตัวชายหนุ่มทันที
“ใช่ เธอจะชดเชยยังไงดีล่ะ ที่ทำให้ฉันตื่น” คว้ารวบร่างบางเข้ามากอด
“วันนี้คุณมีประชุมไม่ใช่เหรอคะ มุกไปทำมื้อเช้าให้คุณดีกว่า”
“ฉันยังไม่หิว” กระซิบข้างใบหูบาง
“งั้นก็ไปอาบน้ำก่อนสิคะ มุกจะเตรียมเสื้อผ้าให้”
“เธอก็รู้ว่าร่างกายฉันต้องการเธอ อย่าพยายามเปลี่ยนเรื่องเลย” พูดพลางจูบไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน
“มุกรักคุณนะคะ” จูบประกบปิดริมฝีปากหนาทันที
หลังจากจบบทรักอันเร่าร้อนมุกก็ทำมื้อเช้าพร้อมกาแฟร้อนๆ ให้ภพทาน จากนั้นก็ลงไปส่งชายหนุ่มขึ้นรถ เธอยืนมองจนรถคันหรูลับสายตาไปกำลังจะก้าวขาเรียวกลับขึ้นไปบนห้องอยู่ๆ ก็มีเสียงที่ไม่คุ้นเคยเอ่ยเรียกเธอจากทางด้านหลัง
“หนู” เสียงทุ้มเอ่ยดังขึ้น
“คุณเรียกหนูเหรอคะ” มุกถามชายสูงวัยกลับ
“ใช่ ฉันขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม”
“เราไม่รู้จักกัน หนูขอตัวนะคะ” มุกทำท่าจะเดินออกไป
“ฉันอนันต์เป็นพ่อของภพเขาน่ะ”
“เป็นพ่อเหรอคะ” มุกหันไปมองหน้าอนันต์อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง
“ใช่ ฉันอยากจะคุยกับหนูเรื่องภพสักหน่อย เห็นว่าหนูสนิทสนมกับภพเป็นพิเศษ”
“หนูต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่เสียมารยาท สวัสดีค่ะ หนูมุกค่ะ” ร่างบางพนมมือไหว้ชายสูงวัยด้วยความนอบน้อม
“ทำตัวตามสบายเถอะ ฉันไม่ถือสาอะไรหรอก ไปนั่งคุยกันทางโน้นดีกว่านะ” อนันต์เดินนำตรงไปยังม้านั่งใต้ต้นไม้
มุกเดินตามชายสูงวัยจนไปถึงม้านั่งพร้อมกับนั่งลงข้างๆ อนันต์อย่างสงบหันไปมองหน้าชายสูงวัยที่แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันนะ ภพเขาเป็นยังไงบ้าง เห็นว่าช่วงหลายเดือนนี้ไม่กลับบ้านเลย เอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่คอนโดเพราะหนูใช่ไหม”
“เอ่อ….คือ”
“ตอบมาตามตรงเถอะ” อนันต์เอ่ยให้เธอคลายกังวลใจ
“คุณภพสบายดีค่ะ ส่วนหนูเป็นแค่แม่บ้านค่ะ”
“จริงเหรอ แต่ที่ฉันเห็นมันไม่ใช่แบบนั้นเลยนะ เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ แล้วนี้เด็กผู้ชายอีกคนหายไปไหนแล้วล่ะ”
“คุณภพเขาแค่ช่วยเหลือมุกกับน้องค่ะ พอดีน้องชายมุกป่วยเป็นมะเร็งรักษามาหลายเดือนแล้วแต่ก็ไม่ดีขึ้น ตอนนี้น้องเสียไปแล้วค่ะ”
“จริงเหรอ ฉันเสียใจด้วยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ว่าหนูจะอยู่กับภพในฐานะอะไร แค่หนูดูแลภพเขาดีๆ แค่นี้ฉันก็พอใจแล้วล่ะ อนันต์เอ่ยด้วยความเจ็บปวดใจ
“ทำไมถึงได้แค่มองอยู่ห่างๆ คะ คุณเป็นพ่อลูกกันนะคะ มีอะไรก็คุยกันได้สิคะ”
“ฉันทำผิดกับแม่เขามากเกินกว่าจะให้อภัย ภพเขาโกรธเกลียดพ่อคนนี้ไปแล้วล่ะ ฉันถึงไม่กล้าเข้าใกล้เดี๋ยวเขาจะโกรธอีก จึงทำได้แค่มองอยู่ห่างๆ เท่านั้น”
“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ใช่ หนูก็อย่าบอกภพล่ะ ว่าฉันมาที่นี้มาคุยกับหนู เดี๋ยวจะเป็นเรื่องอีก”
“ค่ะ” มุกพยักหน้ารับ
มุกยืนมองหลังอนันต์ที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ ด้วยความคลางแคลงใจในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก เพราะอะไรกันภพถึงได้เกลียดผู้เป็นพ่อมากถึงขนาดไม่อยากเห็นหน้าหญิงสาวได้แต่วุ่นคิดอยู่ในใจแล้วเดินกลับขึ้นห้องไป
อนันต์แล่นรถเข้าไปจอดตรงลานจอดรถภายในบ้านด้วยใบหน้าเศร้าหมองเล็กน้อย จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปข้างในบ้าน ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟานุ่มด้วยความอ่อนล้า ปานทองเดินเข้ามาเห็นเข้าจึงค่อยๆ นั่งลงข้างกายสามี
“ไปตามดูคุณภพอีกแล้วใช่ไหมคะ” หญิงสูงวัยเอ่ยขึ้น
“ใช่ วันนี้ผมตัดสินใจเข้าไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นแล้วนะ เธออ่อนน้อมน่ารักมากเลย”
“เธอเป็นอะไรกับคุณภพเหรอคะ”
“เธอบอกว่าเป็นแม่บ้านน่ะ แต่ผมไม่เชื่อหรอกนะ สนิทสนมกันมากถึงขนาดอยู่ร่วมคอนโดกันคงมีอะไรมากกว่านั้น แค่รู้ว่าภพสบายดีผมก็ดีใจแล้วล่ะ”
“หวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะดูแลคุณภพอย่างดีนะคะ คุณจะได้หมดห่วง ว่าแต่เธอชื่ออะไรเหรอคะ”
“มุกน่ะ น้องชายเพิ่งจะเสียไปด้วยโรคมะเร็ง ที่ผ่านมาภพเขาคอยช่วยเหลือเอาไว้”
“ชื่อมุกเหรอคะ” ปานทองชะงักนิ่งไป
“มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ”
“งั้นผมขอตัวไปดูต้นไม้ตรงสวนหลังบ้านหน่อยนะ”
“ค่ะ”
ปานทองรีบกลับเข้าไปในห้องต่อสายหานักสืบที่เธอเคยจ้างเพื่อให้สืบเรื่องสำคัญในอดีตอีกครั้งจากที่วางมือไปนานเผื่อจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมมากกว่าที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีบางอย่างที่มันขัดแย้งกันไปบ้างก็ตาม เธอหวังว่าจะมีข้อมูลใหม่ๆ บ้าง
ปานทองเข้ามาในชีวิตของอนันต์หลังจากที่เธอกลับมาจากต่างประเทศ ทั้งสองคนตกหลุมรักกันจนถลำลึกทำผิดศีลธรรม ทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายมีครอบครัวอยู่แล้ว จนส่งผลให้จันทราภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายของอนันต์ตรอมใจล้มป่วยจากไปอย่างไม่มีวันกลับ สร้างบาดแผลร้าวลึกไว้ตรงกลางใจภพจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเธอก็รู้สึกผิดไม่ต่างกันกับอนันต์
ปานทองกับอนันต์อยู่ด้วยกันสองคนในบ้านและคนรับใช้หนึ่งคนเท่านั้น อีกทั้งยังมีธุรกิจเสื้อผ้าเป็นของตนเองและหุ้นส่วนต่างๆ ในบริษัทของเพื่อนในแวดวงธุรกิจส่งออกบางส่วน เธอกับอนันต์จึงไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แม้ว่าอนันต์จะได้รับเงินเดือนจากลูกชายทุกเดือนแต่เขาเลือกที่เก็บเอาไว้เผื่อใช้ในยามเจ็บป่วยและจำเป็น
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงวันมุกเดินหิ้วถุงผ้าที่มีปิ่นโตข้าวผัดแหนมพร้อมน้ำซุปร้อนๆ อยู่ข้างในไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าบริษัทพีพีเคสตูดิโอจำกัด ที่ที่เธอเคยทำงานมาก่อนโดยไม่ได้บอกชายหนุ่มล่วงหน้า ร่างบางพาตนเองขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นประธานบริษัท พอไปถึงก็ไม่ลืมทักทายพิศเลขาหน้าห้องตามมารยาทและบอกจุดประสงค์ในการมา พิศต่อสายหาภพไม่นานชายหนุ่มก็เดินออกมาโดยมีซินดี้เดินตามหลังออกมาจากห้องติดๆ มุกหน้าชาเล็กน้อยมองหน้าคนทั้งคู่สลับกันไปมา
“ซินดี้ คุณไปทานเองนะ ผมมีข้าวกลางวันแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น
“ได้ยังไงกัน คุณรับปากแล้วจะมาคืนคำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ” ซินดี้เกาะแขนชายหนุ่มออดอ้อน
“ซินดี้!” ภพเอ่ยเสียงดุชักสีหน้าไม่พอใจใส่เธอ
“ก็ได้ค่ะ” พูดพลางจ้องหน้ามุกเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“เข้าไปข้างในกันเถอะ” ภพเอ่ยชวนมุกเข้าไปข้างในห้อง
พอเข้าไปข้างในห้องมุกก็จัดการแกะปิ่นโตออกมาจัดแจงวางลงบนโต๊ะให้ชายหนุ่มทาน ระหว่างที่ภพนั่งทานไปก็เอาแต่จ้องมองใบหน้าเนียนที่นั่งตรงข้ามไปด้วย
“คิดยังไงวันนี้ถึงได้ทำมื้อเที่ยงมาให้ฉันทานถึงที่นี้” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น
“มุกอยากให้คุณได้ทานของอร่อยๆ ฝีมือมุกค่ะ”
“แล้วเธอไม่คิดบ้างเหรอ ว่าการที่เธอมาปรากฏตัวที่นี้ คนอื่นเขาจะคิดยังไง ป่านนี้คงจะนินทากันสนุกปากแล้ว”
“มุกขอโทษค่ะ”
“เธอก็รู้ว่าระหว่างเรามันมีขอบเขตของมันอยู่”
“มุกอยากทำงานกับคุณค่ะ” เธออยากจะเห็นชายหนุ่มอยู่ในสายตาตลอดเวลาไม่อยากให้ไปใกล้ผู้หญิงคนไหนนอกจากเธอคนเดียวเท่านั้น
“หมายความว่ายังไง”
“ให้มุกช่วยงานคุณนะคะ”
“ไม่ต้อง ช่วยฉันแค่เรื่องบนเตียงก็พอ แค่นี้เธอน่าจะพอใจได้แล้วนะ ได้ทั้งความสุขแล้วก็เงินทุกเดือน ค่าที่พักค่าน้ำค่าไฟก็ไม่ต้องจ่าย”
“แต่มุกอยากจะอยู่ใกล้ๆ คุณ”
“อย่าคิดจะมาแสดงความเป็นเจ้าของตัวฉัน เธอก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้” พูดพลางวางช้อนลงแล้วลุกขึ้นยืน
“มุกรู้ค่ะ แต่มุกห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้จริงๆ ” พูดพลางมองหน้าชายหนุ่มที่หันหนีเธอ
กลางดึกภายในห้องนอนกว้างมุกนั่งมองแผงยาคุมกำเนิดในมือที่เธอเพิ่งจะซื้อมาเพื่อเริ่มทานแผงใหม่คืนนี้ด้วยความชั่งใจอยู่นาน เธอคิดวนเวียนอยู่ในหัวครั้งแล้วครั้งเล่าถึงสิ่งที่เธอกำลังจะตัดสินใจทำมันลงไป จนสุดท้ายเธอตัดสินใจนำแผงยาเก็บเข้าไปในกระเป๋าดังเดิม ต่อไปนี้เธอจะไม่แตะต้องมันอีกและจะยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
ร่างบางล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยหัวใจที่เต้นแรงเธอตื่นเต้นเหลือเกิน เธอรู้ตัวเองดีว่ากำลังทำตัวเหมือนผู้หญิงสิ้นคิดที่ใช้วิธีนี้จับผู้ชายที่ตนเองรักให้เขาอยู่ในกำมือ แต่สำหรับภพมันไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน เขาอาจโกรธเกลียดเธอไปเลยก็ได้ แต่ในเมื่อเธอตัดสินแล้วเธอก็พร้อมที่จะเสี่ยงกับมันแม้ว่าผลลัพธ์จะออกมาในรูปแบบไหนก็ตาม
“นอนแล้วเหรอ” ร่างหนาที่เพิ่งเข้ามาเอ่ยถามขึ้น
“ยังค่ะ” หันไปมองชายหนุ่มที่กำลังล้มตัวลงนอนข้างๆ
“ทำงานเหนื่อยไหมคะ วันนี้” ร่างบางพลิกตัวเข้าไปกกกอดชายหนุ่ม
“นิดหน่อยน่ะ” ใช้มือหนาลูบไล้สะโพกไปมา
“ให้มุกช่วยคลายความเหนื่อยหน่อยไหมคะ” เบียดชิดกายเข้าหาชายหนุ่มมากขึ้น
“ยังไง”
“นอนเฉยๆ นะคะ เดี๋ยวมุกจัดการเองค่ะ” พูดพลางพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างชายหนุ่มเอาไว้พร้อมกับจูบไล้ริมฝีปากบางไปตามซอกคอชายหนุ่มซึ่งทำให้ภพพอใจเป็นอย่างมาก
มุกนำประสบการณ์อันช่ำชองจากชายหนุ่มใต้ร่างมาใช้วาดลวดลายลีลาต่างๆ จนภพทึ้งในความสามารถของเธอ ร่างบางเปลือยเปล่าโยกสะโพกไปมาอยู่ตรงกลางกายชายหนุ่มจนร้องเสียงหลงด้วยความเสียวซ่าน ไม่นานร่างหนาก็เป็นฝ่ายคุมเกมปลดปล่อยสายธารสีขาวขุ่นเข้าสู่ร่างกายเธออย่างรุนแรงด้วยความสุขสมอิ่มเอมในหัวใจโดยพร้อมเพรียงกัน
MANGA DISCUSSION