ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 240 วิดีโอคอลจากตระกูล
บทที่ 240 วิดีโอคอลจากตระกูล
“ผู้จัดการหวัง โทรศัพท์มือถือฉันปิดเครื่องอยู่น่ะ!”
เฉินหลินมองไปที่หวางเสี่ยวจางแล้ววิ่งเข้าไปหาก่อน
เพราะตอนนี้ พวกติงห้าวกำลังตามเฉินหลินมาอยู่
กลัวเรื่องที่เช่ารถ ความจะแตกอีกครั้ง
แต่ว่าเหมือนยิ่งกลัวอะไรก็จะได้เจอกับสิ่งนั้น
หลี่ชือหานก็ไม่กล้าเชื่อด้วยว่ารถเบนซ์จิ๊บคันนี้จะเป็นของเฉินเกอจริง ทุกคนยังไม่รู้ ก่อนหน้านี้ที่เฉินเกออวดรวย ทุกคำพูดเปรียบเสมือนหนามที่แหลมคมทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของหลี่ชือหานอย่างรุนแรง
นำมาซึ่งความเจ็บปวดเหมือนโดนเจาะหัวใจเป็นระยะๆ
เพราะฉะนั้นครั้งนี้ที่ได้เห็นผู้หญิงคนนี้ เธอไม่เพียงแค่จะฟังให้ชัดเจน แต่เธอยังจะถามให้ชัดเจนด้วย
ขณะนั้นได้อ้อมผ่านร่างของเฉินเกอ เดินไปยังด้านหน้าของหวางเสี่ยวจาง มองเฉินหลินด้วยสายตาที่เย็นเยือก
“โอ๊ยเฉินหลิน เธอกลัวอะไรล่ะ?”
“ผู้จัดการหวังใช่ไหม รบกวนถามหน่อยค่ะว่ารถคันนี้เฉินหลินเป็นคนเช่าใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่!”
เฉินหลินพูดอย่างรีบร้อน ยังส่งสัญญาณให้ผู้จัดการหวังด้วย
ผู้จัดการหวังก็ได้ดูสถานการณ์ออกแล้ว กำลังจะช่วยปกปิด
แต่หลี่ชือหานกลับแย่งสัญญาเช่าในมือมา เปิดอ่านดู
หลี่ชือหานก็หัวเราะทันที: “ฮ่าๆๆๆ เช่ามาจริงๆด้วยอะ โอ้มายก็อต พวกนายรีบมาดูสิ คุณเจียง คุณชายจาง ฉันมีเรื่องตลกจะบอกกับพวกคุณ วันนี้นะ ฉันกับติงห้าวกำลังดื่มกาแฟอยู่ จากนั้นผู้หญิงที่ชื่อเฉินหลินคนนี้………”
หลี่ชือหานเอาสัญญาเช่ารถของเฉินหลินให้ทุกคนดู พลางเล่าเรื่องที่ร้านกาแฟให้ทุกคนฟัง
ฮึ!
ใครใช้ให้เฉินเกอตบหน้าพวกเขาอีกครั้งล่ะ
และมันก็ต้องกระตุ้นความอิจฉาในใจของติงห้าวขึ้นอีกครั้ง
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า ติงห้าวมีความรู้สึกเสียดายเฉินหลินขึ้นมาอีกครั้ง
แต่เรื่องที่หลินยียีกอดเฉินเกอนั้นทุกคนต่างเห็นกันแล้ว ไม่มีหนทางอื่น
ตัวเองก็เลยต้องเลือกลงมือจัดการจากเรื่องเช่ารถ
อย่างไรเสียเฉินเกอก็เป็นเคยเบ๊ของคุณชายหวงและคุณชายไป๋ รู้จักหลินยียีก็ไม่แปลกอยู่แล้ว
สำหรับเรื่องเช่ารถนั้น ดูสิว่าเฉินหลิน เธอจะอธิบายยังไง
ในเวลาเดียวกัน รถคันนี้ก็ไม่ใช่รถที่เฉินเกอซื้อ ในใจของหลี่ชือหานรู้สึกดีใจและสบายใจเป็นอย่างมาก เดิมทีเหมือนกับว่าได้มีภูเขาทั้งลูกมาทับไว้บนอก ตอนนี้ไม่มีภูเขาลูกนั้นแล้วรู้สึกสบายขึ้นเยอะเลย
“เฉินหลินที่แท้รถเบนซ์จิ๊บนี้เธอเช่ามาจริงๆหรอ? ไม่คิดว่าเธอจะวางแผนแบบนี้ได้!”
ติงห้าวมองเฉินหลินอย่างรังเกียจ
เฉินหลินก้มหน้าลงต่ำมาก ร้องไห้แล้วพูด: “ขอโทษ ติงห้าว ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกนาย!”
“ฮ่าๆ ผู้เช่ารถเฉินหลิน หมายเลขบัตรประชาชนเขียนได้ชัดเจนอย่างนี้ ฉันดูหน่อยสิว่าเจ้าของรถเป็นใครกัน………หือ? เฉินเกอ?”
เปิดสัญญาหน้าถัดไป หลี่ชือหานดูแล้ว อึ้งไปชั่วขณะ
“นี่นี่นี่……..เขียนผิดป่ะ?” หลี่ชือหานเบิ่งตากว้าง
เฉินหลินก็ได้เงยหน้าขึ้น
“คุณเฉิน ที่แท้คุณก็อยู่ที่นี่เอง! ขอโทษด้วยนะคะ เมื่อกี้มัวแต่คุยกับคุณเฉินหลิน เลยไม่ทันเห็นคุณ!”
เวลานี้หวางเสี่ยวจางเพิ่งเห็นเฉินเกอที่ยืนอยู่ด้านข้าง
ขณะนี้ได้เดินเข้าไปอย่างดีใจ
“ไม่เป็นไรครับผู้จัดการหวัง เอ่อ ผมแค่เซ็นชื่อ ก็สามารถเอารถไปได้เลยใช่มั้ย?”
เฉินเกอพูดอย่างยิ้มแย้ม
“ใช่ค่ะคุณเฉิน ว่าแต่คุณต้องการตรวจสอบรถก่อนมั้ย?”
“ไม่เป็นไรครับ รถคันนี้ผมนั่งมาทั้งวันแล้ว ไม่มีไร!”
เฉินเกอกล่าว
จากนั้นเดินไปหาหลี่ชือหานที่กำลังมึนงง
เอาสัญญามา เซ็นชื่อของตัวเองลงไป
“นายนาย……….นี่มันรถของนายจริงหรอ?”
หลี่ชือหานมองไปทางเฉินเกอแล้วถาม
ตอนนี้เธอค่อนข้างที่จะอยู่ใกล้กับเฉินเกอ ตั้งแต่จบมัธยมปลาย ตัวเองก็ไม่เคยเข้าใกล้เฉินเกอขนาดนี้มาก่อน
เวลานี้ ทำให้ในใจของหลี่ชือหานทั้งสับสน ซับซ้อน ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
“แล้วเธอคิดว่าเป็นของใคร? ฉันก็บอกแล้ว ว่าเป็นรถของฉัน พวกเธอไม่เชื่อเอง!”
เฉินเกอมองหลี่ชือหานไปแวบหนึ่ง
จากนั้นก็ตบไหล่ของเฉินหลินอย่างเบาๆ “ไปเถอะ ฉันส่งเธอกลับบ้านก่อน!”
“อืมๆ เฉินเกอ นายไปส่งฉันที่สถานีขนส่งดีกว่า ฉันซื้อตั๋วรถคืนนี้ไว้ จะกลับไปบ้านเกิดที่อำเภอผิงอัน!”
ในเวลาเดียวกันที่เฉินเกอแสดงออกนั้น ช่างสะใจเหลือเกิน
แต่ว่าไม่รู้เป็นเพราะอะไร ในใจของเฉินหลินกลับไม่มีอารมณ์ที่โกรธติงห้าวเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกดีใจอย่างแท้จริง
“คุณชายเฉิน รถคันนี้น่าจะสองล้านกว่าได้มั้ย? ดีมากเลย!”
คนที่มองอยู่ด้านข้างอย่างจางหล่างตอนนี้ได้เดินเข้ามา มองแล้วยิ้มให้เฉินเกอ
เขาคิดในใจ ไม่ว่าคนอื่นจะเยาะเย้ยเฉินเกอยังไง
แต่ว่าเฉินเกอรู้จักหลินยียี และยังขับรถหรูอีกด้วย แค่นี้ก็อธิบายได้ชัดเจนอยู่แล้ว
การเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตรด้วยตัวเอง ไม่เคยทำให้เราเสียเปรียบ
“สองล้านสองมั้ง!”
เฉินเกอมองเขาแล้วยิ้มเล็กน้อย
ทั้งสองคนยังจับมือกัน
ในเวลานี้ โทรศัพท์ของจางหล่างดังขึ้นทันที
“ฮาโหลครับพ่อ? ได้ครับ ผมรู้แล้ว ผมจะกลับไปตอนนี้แหละครับ!”
หลังจากที่วางสายแล้ว: “คุณชายเฉิน ฉันมีธุระนิดหน่อย ขอตัวก่อนนะครับ หลินตงหรานหรานขอโทษด้วยนะ ที่ไม่สามารถไปส่งพวกเธอที่สนาณีขนส่ง พ่อฉันให้ฉันรีบกลับไปน่ะ!”
พูดจบก็ร่ำลาเฉินเกออีกครั้ง จากนั้นก็ขับรถออกไป
“อ๋า?”
เจียงหรานหรานสะดุ้ง
แล้วจะทำไงดีเนี่ย?
ได้ตกลงกันที่ในงานเลี้ยงแล้วนี่นา คุณชายจางหล่างจะขับเบนซ์ซี่รี่เจ็ดไปส่งพวกเรา
เพราะตอนที่มา หลินตงอายที่จะขับรถของเขามา ทั้งสองจึงได้นั่งรถบัสมา
ขณะนั้นเฉินเกอได้ขึ้นไปสตาร์ทรถแล้ว แน่นอนเฉินหลินต้องนั่งข้างคนขับอยู่แล้ว
หลินตงหน้าดำคล้ำเครียด: “หรานหรานงั้นเราเรียกแท็กซี่ไปดีกว่ามั้ย?”
“นั่งแท็กซี่? นายก็รู้แค่นั่งแท็กซี่ นายดูตัวเองสิ ซื้อรถก็สามารถขับออกมาได้ ตอนนี้ใครๆก็มีรถยนต์ส่วนตัวกัน พวกเรากลับต้องมานั่งแท็กซี่!”
เจียงหรานหรานดวงตาเริ่มแดงแล้ว
ในที่สุดวันนี้เธอก็ได้เรียนถึงรู้ข้อเสียของการไม่มีเงินจริงๆ
“ขึ้นรถสิ เดี๋ยวฉันไปส่งพวกเธอที่สถานีเอง!”
เฉินเกอที่ใส่แว่นกันแดดไว้ ยิ้มแฮ่ๆ
ก็ไม่อยากจะช่วยเจียงหรานหราน แต่ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย จะทิ้งพวกเขาโดยไม่สนใจไยดีก็ไม่ใช่เรื่อง
เจียงหรานหรานเงยหน้ามองมาที่เฉินเกอ กัดริมฝีปากแต่สุดท้ายก็ขึ้นไปนั่งบนรถ
ในเวลาเดียวกันก็ได้มองที่นั่งอยู่ข้างคนขับ ทันใดนั้นก็รู้สึกอิจฉาอย่างไม่มีเหตุผล
หากไม่มีเรื่องอะไร ที่นั่งข้างคนขับน่าจะเป็นตัวเองที่ได้นั่งไม่ใช่หรอ?
“แม่ง นั่งก็นั่ง เอาไว้จะจัดการนายทีหลัง!”
หลินตงแอบด่าอยู่ในใจ
“เอ๊ๆๆ!! นายจะทำอะไร?”
เฉินเกอมองไปทางหลินตง
“แม่งเอ๊ย ฉันจะขึ้นรถไง!”
“ที่ฉันพูดว่าพวกเธอก็คือเธอและเธอ ไม่ใช่นาย ยังมีอีกนะคุณชายหลิน เงินที่คุณติดผม อย่าลืมคืนให้ผมด้วย ใกล้วันแล้ว ที่ผมมีเอกสารยืมเงินของนายอยู่นะ!”
เฉินเกอก็ล็อกประตูรถโดยตรง
แม่งเอ้ย ไอ้คนพรรค์นี้ครั้งก่อนตัวเองได้ยื่นมือช่วยเหลือเขา วันนี้เขากลับมาเยาะเย้ยตัวเอง ตัวเองยังจะให้เขาขึ้นรถอีกหรอ?
สมองของฉันคงมีฟองละมั้ง?
เฉินเกอคิดในใจ
ขณะนั้น ไม่ได้มองคนอื่นเลย ขับรถออกไปโดยตรง
หลี่ชือหานมองดูรถจนลับตา
ในใจมันกระวนกระวายเป็นอย่างมาก
ตอนเรียนมัธยมปลายนั้น เฉินเกอเป็นห่วงตัวเธอเองมากที่สุดไม่ใช่หรอ? ตัวเธอเองมัวแต่อ่านหนังสือจนไม่กินข้าว ไม่ว่าฝนจะตกหนักแค่ไหนเขาก็ยังวิ่งไปซื้อข้าวให้ตัวเธอ
และครั้งนั้นเฉินยังใช้สายตาที่เป็นห่วงมองเธอไม่ใช่หรอ?
ถึงแม้สามปีแล้วที่ไม่ได้เจอ ก็เหมือนช่วงก่อน ตัวเองทำแบบนั้นกับเฉินเกอ เฉินเกอเห็นตัวเองก็ยังคงมองด้วยสายตาที่ห่วงใย
แต่ว่าครั้งนี้………สายตาของเฉินเกอเยือกเย็น ไม่ได้สนใจการกระทำของเธอ ทำให้หลี่ชือหานรู้สึกปรับตัวไม่ทัน
ตั้งแต่ที่เฉินเกอหยิบสัญญาไป จนกระทั่งขับรถออกไป เหมือนกับว่าไม่ได้มองเธอเลยแม้แต่นิดเดียว?
หลังจากเฉินเกอได้ส่งพวกเธอไปถึงสถานีขนส่งแล้ว เพราะยังมีเรื่องฉินหยา ก็เลยไม่ได้กลับไป แล้วก็ไปเปิดโรงแรมนอน
และในคืนนี้ เฉินเกอก็ได้รับวิดีโอคอล วิดีโอคอลนี้เชื่อมต่อผ่านช่องทางลับของครอบครัว เฉพาะสมาชิกหลักของตระกูลเฉินเท่านั้นที่มี
และเห็นหมายเหตุของวิดีโอคอลนี้ เฉินเกอกระพือแขนและลุกขึ้นจากเตียง รีบร้อนรับสาย……