ทัณฑ์สวาทเจ้าพ่อ - ตอนที่ 6 ติดตรึง
คนมองอย่างแทนทัพถึงกับต้องกัดกรามแน่นก่อนจะเมินหน้าหนีภาพอันเย้ายวนตรงหน้า หล่อนดูสวยสะพรั่งน่าขย้ำไปทั้งเนื้อทั้งตัวเขาอยากที่จะอัดท่อนเอ็นใส่ร่องสาวคับแน่นให้คลายความปวดร้าว
“ลุกขึ้นได้แล้วแสนดีจะนอนแบรอให้ฉันกลับไปเลียอย่างนั้นหรือ”
หล่อนที่ยังคงร้อนฉ่ายันกายลุกขึ้นนั่งก่อนจะรีบดึงกระโปรงที่มันรัดรูปให้กลับไปอยู่ที่เดิม ใบหน้างามเห่อร้อนด้วยความอับอายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ไสหัวไปได้แล้ว”
หล่อนมองคนใจร้ายที่ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดัน
“แล้ว…เอ่อเรื่องที่เราตกลงกันละคะ”
ใบหน้าหล่อแค่นยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมาก่อนจะสาดวาจาร้ายกาจ
“ฉันไม่เห็นว่าเธอจะมีดีตรงไหนเลยฉะนั้นข้อตกลงมันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง”
คนฟังน้ำตาร่วงกราวหล่อนทั้งเสียใจและอับอายขนาดลงทุนให้เขารุกรานขนาดนี้เขายังไม่อยากที่จะแตะต้องหล่อนเลยสักนิดเดียวหล่อนมันน่าสมเพชเหลือเกิน
“รีบออกไปซะก่อนที่ฉันจะเรียกลูกน้องมารุมโทรมเธอให้หายคัน”
“คนใจร้าย”
น้ำตาไหลอาบแก้มนวลในขณะที่หล่อนมองเขาด้วยความตัดพ้อก่อนจะวิ่งหนีออกไปจากห้องทันที
เมื่อร่างบางแต่อวบอัดไปทุกสัดส่วนโดยเฉพาะตรงนั้นตรงกลีบสาวของหล่อน แน่นอนว่าหน้าอกของหล่อนมันน่าจะใหญ่ไม่แพ้ของลับด้านล่างแม้เขาจะยังไม่ได้สัมผัสก็ตาม
“อา…ให้ตายเถอะ”
เขาไม่เคยรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกใครสักคนควบคุมแบบนี้มาก่อน หล่อนกำลังทำให้เขาเป็นบ้าความรู้สึกในหัวตีกันยุ่งเหยิงความต้องการมากมายมันล้นหลามจนเขาหวาดกลัวตนเอง
แทนทัพก้มลงมองเป้ากางเกงของตนเองที่มันนูนเด่นชัดจนสร้างความปวดร้าวทรมานอย่างน่าสังเวชใจเพราะไม่ว่ากับผู้หญิงคนไหนก็ไม่เคยมีใครทำให้เขาสูญเสียการควบคุมตนเองได้ขนาดนี้
“ยัยเด็กขี้เหร่”
เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงสักนิดในสิ่งที่เขาพ่นมันออกมา หล่อนเป็นผู้หญิงที่ยิ่งมองยิ่งสวยเหมือนมีอะไรบางอย่างที่สามารถดึงดูดบุรุษเพศตรงข้ามได้ขนาดเขายังรู้สึกแบบนี้แล้วกับผู้ชายอื่นล่ะจะขนาดไหน
เพียงแค่คิดว่าหล่อนจะมีผู้ชายอื่นความรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถหาที่มาได้มันแล่นพล่านเต็มอก
เจนจิรามีลักษณะที่คล้ายคลึงกับแสนดีหล่อนร้อนแรงและลีลาเด็ดดวงแต่ทว่าเขากลับไม่ได้รู้สึกพิศวาสรุนแรงอย่างที่มีต่อแสนดีผู้หญิงหน้าจืดคนนั้น
มือหนากดโทรศัพท์มือถือก่อนจะกรอกเสียงลงไปในสายเพื่อออกคำสั่ง
“กรจักรหาผู้หญิงให้ฉันหน่อยสักสองสามคนเอาคนที่ตาไม่ต้องโตมากแต่เน้นผิวขาวจัดไม่เอาขาวชมพูนะ”
“ครับคุณแทนทัพ”
“ที่สำคัญให้ใส่หน้ากากแฟนซีหรืออะไรก็ได้ที่ปิดหน้า”
เมื่อออกคำสั่งเสร็จเขาทิ้งตัวลงนั่งกับโซฟาตัวเดิมก่อนจะหลับตาลงเพราะคิดว่าความรู้สึกรุนแรงที่มีต่อแสนดีนั้นคงเป็นเพราะว่าเขากำลังต้องการนอนกับใครสักคนเท่านั้น
กรจักรออกไปแล้ว มือหนาหยิบรีโมทก่อนจะกดสวิทซ์หนึ่งครั้งเพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนให้เป็นกระจกเงาดังเดิมจากเมื่อครู่ที่เปลี่ยนเป็นกระจกสองด้านซึ่งเป็นคนภายในเท่านั้นที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพด้านนอก
ปกติแล้วเขาชื่นชอบที่จะเซ็กซ์โชว์เขาควรจะทำอย่างนั้นเพื่อสร้างความอับอายให้แก่หญิงสาวที่บังอาจกล้าดี ปาเงินใส่หน้า
แต่แล้วทำไมเขาถึงต้องไม่อยากให้ใครเห็นเรือนร่างหรือแม้กระทั่งสีหน้าตอนที่หล่อนรัญจวน ความหวงแหนไร้ที่มามันกำลังทำให้เขาปั่นป่วน
“บ้าชิบ”
แทนทัพสถบด้วยความหงุดหงิดที่ไม่สามารถเข้าใจตนเองได้ในขณะนี
“สวัสดีค่ะคุณกรจักร”
เสียงของเจ๊ซูซูสาวประเภทสองที่ดัดเสียงให้ดูอ่อนหวานจนคนฟังอย่างกรจักรต้องขนลุก
“สวัสดีครับเจ๊ซูซู”
กรจักรไม่ต่างจากมือขวาของแทนทัพจึงทำให้ทุกคนที่นี่ต่างเกรงกลัวหากจะทำให้ชายหนุ่มขัดใจ
“วันนี้คุณกรจักรจะให้น้องคนไหนช่วยปรนนิบัติดีคะ”
“ไม่หรอกครับผมจะมาแจ้งเจ๊ซูซูให้ส่งผู้หญิงขึ้นไปหาคุณแทนทัพน่ะครับ”
เจ๊ซูซูยิ้มกริ่มก่อนจะตั้งคำถาม
“อ้าวแต่ก่อนหน้านี้เจนจิราขึ้นไปบริการแล้วนี่คะ”
“ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันแต่รอบนี้ขอสักสามสี่คนนะครับเอาลักษณะคล้ายกับเจนจิรา ที่สำคัญใส่หน้ากากปิดหน้าด้วย”
“อุ๊ย ได้เลยค่ะเดี๋ยวเจ๊ซูซูจัดให้”
เจ็ซูซูยิ้มรับก่อนจะจินตนาการถึงความหฤหรรษ์ของสาวๆ ที่โชคดีจะได้ร่วมรักกับแทนทัพ แถมรอบนี้มีจัดสวิงกิ้งใส่หน้ากากแฟนซีเสียด้วย
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
กรจักรเดินสำรวจคาสิโนก่อนจะเห็นผู้หญิงผมยาวประบ่าคนหนึ่งกำลังร้องไห้อย่างน่าเวทนาหล่อนยืนอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ชายสองคนโดยปกติแล้วเขาไม่ชอบนักเรื่องของคนอื่นแต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้เขาถึงได้ไม่ก้าวหนีจากภาพเบื้องหน้าแถมยังคงเดินขยับเข้าไปใกล้จนได้ยินเสียงบทสนทนา
“พ่อจ๋าอย่าขายหนูเลยนะจ๊ะให้หนูได้อยู่กับพ่อเถอะนะ”
“อย่าอิดออดเพราะกูขายมึงไปแล้วอีลูกเวร”
เสียงของชายแก่ร่างท้วมที่ตะคอกใส่เด็กสาวที่พยายามกอดรั้งเอวบิดาดังก้องแต่ทว่ามันกลับไม่มีใครให้ความสนใจเพราะทุกคนต่างที่จะจับจ้องไพ่ที่วางเรียงและลูกเต๋าที่ถูกทอยเสียมากกว่าเรื่องของคนอื่น
ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่อาจละสายตาจากใบหน้าที่เปื้อนหยาดน้ำตาของเด็กผู้หญิงตรงหน้าได้รู้สึกตัวอีกทีเขาก็มายืนอยู่ในวงสนทนานั้นแล้ว
“คุณขายเท่าไหร่”
กรจักรตั้งคำถามกับคนเป็นพ่อเด็กสายตาคมกริบที่ไร้ความรู้สึกปรายตามองเด็กผู้หญิงที่กำลังเงยหน้าจ้องมองเขาอยู่เช่นกันก่อนจะเป็นเขาที่ละสายตานั้นไป
เพราะผู้ชายอีกคนเริ่มจะโวยวายเพราะกังวลว่าจะถูกตัดหน้าซื้อ
“เด็กนี่ฉันซื้อแล้วมันเป็นของฉันแกไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
“เจ็ดพัน”
คนฟังอย่างเขารู้สึกสมเพชเด็กสาวที่ถูกตีค่าให้มีราคาแค่ไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาทเพราะความโลภที่เห็นแก่เงินของคนเป็นพ่อ
“หนึ่งแสนกับการเซ็นเอกสารทุกอย่างยกเด็กคนนี้ให้อยู่ในการดูแลของฉัน”
คนเป็นพ่อตาลุกวาวในขณะที่ผู้ชายอีกคนโวยวายหนักเพราะไม่พอใจที่กรจักรชิงตัดหน้าซื้อเด็กผู้หญิงคนนี้
“เฮ้ยเด็กคนนี้กูซื้อแล้วนะเว้ย มึงเป็นใครกันวะถึงได้กล้ากับกูขนาดนี้”
กรจักรไม่พูดอะไรสักคำนอกเสียจากยิ้มเย็นให้กับผู้ชายตรงหน้าซึ่งมันให้ความรู้สึกเสียวสันหลังวาบไปทั้งตัวจนคนมองต้องรู้สึกหวาดหวั่นในสายตาคมกริบของเขา
“เออ…มึงซื้อแล้วก็แล้วไป กูไปหาที่อื่นก็ได้วะ”
ผู้ชายคนนั้นก็รีบเดินจากไปด้วยความหวาดระแวงเพราะสายตาของกรจักรนั้นมันเต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียมราวกับจะสามารถฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ ได้หากยังคงพูดต่อ
กรจักรหันมาหาคนเป็นพ่อเด็กก่อนจะควักแบงค์สีเทาปึกใหญ่ให้
“จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยผมจะเป็นผู้ดูแลเด็กคนนี้นับจากนี้ไป”
“ได้เลยครับแล้ว เอ่อ…เงินที่เหลือ”
ผู้ชายหิวเงินยืนทำท่าทางประกอบการพูดด้วยการลูบฝ่ามือทั้งสองข้างอย่างน่ารังเกียจ
“ไม่ต้องห่วงผมจะโอนให้คุณหลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นฉะนั้นรีบไปจัดการซะ”
“ครับๆ ได้เลยครับคุณกรจักรผมจะรีบทำอย่างด่วนจี๋เลยครับ”
แล้วคนโลภที่เห็นแก่เงินมากกว่าทุกสิ่งก็รีบวิ่งแจ้นออกไปจาก Macau Casino ทันทีโดยไม่แม้แต่จะหันมาไยดีเด็กสาวที่ยืนร้องไห้เลยแม้แต่นิดเดียว
กรจักรถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะไม่เข้าใจตนเองนักว่าจู่ๆ ยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตนเองมันผิดวิสัยเป็นอย่างมากสายตาคมกริบจ้องมองเด็กสาวที่น่าจะอายุอานามประมาณสิบสี่ปีก่อนจะต้องถอนหายใจทิ้ง
ส่วนสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรทำให้เขาต้องย่อตัวลงก่อนที่จะเกลี่ยหยาดน้ำตาให้เด็กสาว
ใบตองเด็กสาววัยสิบสี่ที่ถูกบิดาแท้ๆ ทอดทิ้งถึงกับต้องชะงักงันกับความอ่อนโยนของผู้ชายตรงหน้าหัวใจของเด็กสาวที่มันบริสุทธิ์ไม่ต่างจากผ้าขาวกลับเต้นผิดจังหวะยามที่เขาย่อตัวลงแล้วใช้นิ้วแกร่งเขี่ยหยาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
“ฉันชื่อกรจักรเธอชื่ออะไร”
“หนูชื่อใบตองค่ะ”
หล่อนหยุดร้องไห้แล้วแต่ยังคงสะอึกสะอื้นเล็กน้อย
“เรียกฉันว่าคุณจักร”
เด็กสาวจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เหมือนเขาเป็นโลกทั้งใบ
“ค่ะคุณจักร”
“ดีมาก ต่อไปนี้ฉันจะเป็นคนดูแลเธอเองใบตอง”
กรจักรจูบแผ่วเบาที่กระหม่อมของเด็กสาวมันให้ความรู้สึกอบอุ่บและปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ
คำพูดของเขาในวันนั้นมันเหมือนกับเป็นพันธสัญญาที่จะรัดรึงเขาเอาไว้ตลอดกาล