ทัณฑ์สวาทเจ้าพ่อ - ตอนที่ 14 ฉันมันก็แค่ยัยหน้าจืด
แสนดีที่กำลังก้าวเดินเข้าหมู่บ้านเต็มไปด้วยความเหม่อลอย เมื่อเช้าหล่อนกับแทนทัพโรมรันกันอย่างเร่าร้อนก่อนที่เขาจะไปส่งหล่อนที่มหาลัยฯ
‘เย็นนี้ฉันจะมารับ’
มันเป็นประโยคธรรมดาที่เหมือนแค่บอกเล่าแต่ทว่าน้ำเสียงของเขาที่ใช้มันแสดงให้เห็นถึงความเผด็จการซึ่งหล่อนเลือกที่จะกลับมาก่อนเวลา ทุกย่างก้าวที่เดินมันยังเหมือนมีท่อนเอ็นใหญ่ปักคาร่องสาวอยู่ตลอดเวลา
เขาจะทำอย่างไรหากไปแล้วไม่พบหล่อน แทนทัพจะรอหล่อนอยู่ตรงนั้นไหมคำตอบดังขึ้นภายในอกทันที…ไม่ เพราะหล่อนไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรที่เขาจะต้องมานั่งคอย ความเป็นจริงมักปวดร้าวเสมอ
“สวัสดีจ้ะแม่”
หล่อนยกมือกระพุ่มขึ้นไหว้คนเป็นมารดาก่อนจะเดินผ่านร่างท้วมของสายใจอย่างไร้วิญญาณทำเอาคนเป็นแม่ต้องเอ่ยทักอย่างเป็นห่วง
“เป็นอะไรไปยัยแสนดี”
“เปล่าจ้ะวันนี้เหนื่อยๆ นิดหน่อยจ้ะ”
สายตาเหลือบหันไปเห็นรองเท้าของแสนรักที่ถอดวางทิ้งไว้บนตู้รองเท้า
“พี่แสนรักกลับมาแล้วหรือจ๊ะ”
หล่อนถามด้วยความแปลกใจเพราะตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาเลิกงานของแสนรัก
“เอ่อ…แกจะรีบไปทำอะไรก็ไปทำเถอะถามมากจริง”
หล่อนงุนงงกับปฏิกิริยาหลุกหลิกของมารดา แต่แล้วเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มก็ดังที่หน้าบ้าน
สายใจตาวาวก่อนจะรีบตะโกนเรียกแสนรักที่อยู่ด้านบนชั้นสอง
“นังแสนรัก นังแสนรักรีบลงมาได้แล้วคุณแทนทัพมารอแกแล้ว”
หล่อนกำลังคิดว่าหูตนเองน่าจะฝาดไปเพราะมันไม่น่าจะมีใครบังเอิญชื่อซ้ำกันได้ขนาดนี้แต่แล้วหล่อนก็ต้องตะลึงงันร่างบางเหมือนกับถูกสูบให้จมลงใต้ธรณีเมื่อเห็นบุรุษร่างกำยำที่ใส่สูทสีดำสนิทก้าวเดินเข้ามาในบ้านทรุดโทรมของหล่อน
“คุณแทนทัพ”
หล่อนมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลากหลายในขณะที่เขามองผ่านเลยหล่อนไปราวกับไม่มีตัวตน
“สวัสดีค่ะคุณแทนทัพรอแป๊บนะคะนังเอ้ยยัยแสนรักกำลังแต่งตัวอยู่ค่ะ”
“ฉันรอได้เสมอถ้าผู้หญิงที่จะขึ้นเตียงสวยราวกับนางฟ้า”
หัวใจสาวแหลกเละจนมันไม่เหลือชิ้นดีเขาผิดสัญญาหล่อนจุกจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก สายตาคมกริบของเขาที่มองผ่านเลยหล่อนไปราวกับหล่อนไม่มีตัวตนยังไม่เจ็บปวดเท่าความเฉยชาที่เขาหยิบยื่นให้อย่างโหดร้าย เขาทำเหมือนหล่อนกับเขาไม่รู้จักกันมาก่อนทั้งที่เมื่อเช้ายังโยกคลึงกันอย่างลืมตาย
ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไม่สามารถปกป้องพี่สาวจากผู้ชายใจร้ายตรงหน้าได้แต่ทว่าสิ่งที่หล่อนรู้สึกเจ็บลึกมันคงจะเป็นความเพิกเฉยที่มีต่อหล่อน
นั่นสิใครมันจะไปชอบผู้หญิงจืดชืดอย่างหล่อนมันคงถึงเวลาแล้วที่แทนทัพจะเขี่ยหล่อนทิ้งความรู้สึกที่เป็นเหมือนเศษผ้าผืนเก่าที่กำลังถูกเขวี้ยงทิ้งตีขึ้นมาที่กลางหน้าอกก่อนจะจุกหน่วง
แสนรักที่เดินลงบันไดมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกฝืนยิ้มให้กับแทนทัพและปรายตามองหล่อนเล็กน้อย
“พี่แสนรัก…”
สายตาหล่อนมีน้ำตาคลอหน่วงความเสียใจตีกันยุ่งเหยิงทั้งความห่วงใยพี่สาวและความรู้สึกเสียใจที่ถูกแทนทัพเมินเฉยมันรุมเร้าจนปวดหนึบที่หน้าอกข้างซ้าย
หล่อนเห็นสายตาของความชื่นชมของแทนทัพที่มอบให้กับแสนรักหล่อนยิ่งทวีความเจ็บปวดแต่หล่อนก็พยายามคิดในแง่ดีเพราะถ้าหากแทนทัพคิดจะจริงจังกับแสนรักหล่อนก็ยินดีสนับสนุนให้คนที่หล่อนรักทั้งสองมีความสุข
“ไปกันเถอะครับแสนรัก”
ความสุภาพอ่อนโยนที่หล่อนไม่เคยได้รับจากแทนทัพมันทำให้หล่อนสมเพชตนเองที่เกิดความรู้สึกอิจฉาพี่สาวของตนเอง
“ค่ะ”
แสนรักคล้องแขนกำยำที่แทนทัพยื่นมาให้เกาะด้วยความลังเลแต่ทว่าพอเห็นสายตาดุดันของสายใจหล่อนจึงไม่ขัดขืน
แสนรักเห็นน้ำตาที่คลอหน่วงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงมองมา
“ไม่เป็นไรนะแสนดีเดี๋ยวพี่ก็กลับมา”
น้ำเสียงของคนเป็นพี่ดูกล้ำกลืนฝืนทนมากซึ่งต่างจากสายใจที่ดูระรื่นอารมณ์ดี
แสนดีได้แต่มองตามคนทั้งสองที่ควงแขนกันออกไปด้วยความปวดร้าวราวกับถูกมีดคมกริบปักที่ขั้วหัวใจจวบจนรถหรูแล่นออกไปลับสายตา
“เป็นอะไรยัยแสนดีพี่แกแค่ออกไปกินข้าวกับผู้ชายรวยๆ แกควรจะยิ้มดีใจกับมันนะ”
สายใจที่ระรื่นอารมณ์ดีเพราะไม่รู้ว่าแสนดีรู้เรื่องราวข้อตกลงทั้งหมด
“แม่อย่าโกหกฉันเลยฉันรู้หมดแล้ว”
ใบหน้านวลใสที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาไหลทะลักออกมาอย่างสุดกลั้นความผิดหวังในตัวมารดาทวีมากขึ้นแต่สิ่งที่ทำให้หล่อนสะเทือนใจมากที่สุดคงเป็นตัวเองที่ไร้ความสามารถไม่สามารถปกป้องพี่สาวได้
“แกรู้…”
สายใจตกใจก่อนจะมีสีหน้าที่สลดเพียงแวบเดียวก่อนจะกลับมาทำท่าทางดุดันเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตนเอง
“แล้วจะทำไมห้ะยัยแสนดี”
แน่นอนว่าหล่อนคงไม่สามารถทำอะไรได้เพราะคนตรงหน้าคือมารดาบังเกิดเกล้าที่มอบชีวิตให้กับหล่อนถึงแม้ท่านจะผิดสักแค่ไหนหล่อนเป็นลูกคงพูดอะไรมากไม่ได้
“ถ้าแม่มองเห็นความดีของพี่แสนรักแม่จะไม่ทำแบบนี้”
หล่อนพูดจบก็วิ่งออกไปจากบ้านทันทีปล่อยให้สายใจยืนอึ้งไปสักพักใหญ่เพราะไม่เคยเห็นท่าทางก้าวร้าวของบุตรสาวที่ตนรักแสดงออกขนาดนี้
‘หรือว่าฉันทำผิดไปจริงๆ’
หล่อนได้แต่ภาวนาให้แทนทัพรักแสนรักเพราะพี่สาวหล่อนเป็นคนสวยมันคงไม่ใช่เรื่องยากหากจะทำให้ผู้ชายสักคนหนึ่งรักได้ถึงแม้หล่อนจะเจ็บปวดเจียนตายสักแค่ไหน ก็ตาม
ป่านนี้แทนทัพกับแสนรักคงกำลังร่วมรักกันอย่างมันส์หยดเขาคงพึงพอใจไม่น้อยกับผู้หญิงที่สวยไปทั้งตัวราวกับนางฟ้าอย่างแสนรักซึ่งมันต่างจากหล่อนที่ไม่มีอะไรที่น่าพึงพอใจเขาสักอย่าง
หล่อนเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายแต่พอรู้สึกตัวอีกทีเบื้องหน้ามันคือ Macau Casino สถานที่ที่หล่อนไม่ควรจะกลับมาเหยียบอีกเลยด้วยซ้ำแต่ทว่าสมองกับหัวใจมันกับไม่ทำงานร่วมกัน
หล่อนเดินเข้าประตูด้านหลังเพราะมีบัตรผ่านสำหรับการเป็นพนักงานที่นี่จากครั้งที่แล้วในขณะที่พยายามตั้งคำถามกับตนเองว่าจะกลับมาที่นี่อีกทำไม
ในเมื่อเขาไม่ต้องการหล่อนอีกต่อไปแล้วแต่ทว่าใจเจ้ากรรมมันดันไม่เชื่อฟังสมองที่สั่งการให้หยุดการกระทำที่แว่บเข้ามาอย่างบ้าบิ่น
บริกรเสิร์ฟเหล้านานาชนิดที่กำลังเดินถือถาดหรูต้องหยุดชะงักเพราะหล่อนเรียกเอาไว้มือบางหยิบแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันขึ้นมาได้ก็กระดกหมดแก้ว
แก้วแล้วแก้วเล่าที่หล่อนหยิบมันขึ้นมาก่อนจะสาดมันลงคอหล่อนเบ้หน้าให้กับรสชาติที่ฝาดเฝื่อนแต่ทว่ามันคงไม่ ขมขื่นเท่าชีวิตหล่อนในตอนนี้
“เอ่อ พอก่อนไหมครับ”
เสียงของบริกรไม่ได้หยุดหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษาได้เลยจวบจนแก้วสุดท้ายที่อยู่ในถาดหมดเกลี้ยงหล่อนถึงได้ทำมือให้บริกรเดินไปทางอื่นได้
แสนดีเริ่มรู้สึกหนักหัวความมึนเมาที่เกิดจากฤทธิ์ของน้ำสีอำพันทำให้หล่อนเริ่มประคองตัวไม่อยู่ซึ่งทุกเหตุการณ์มันอยู่ในสายตาของผู้ชายหลายคนที่จ้องมองหล่อนด้วยความพึงพอใจ
“เฮ้ยพวกมึงอย่ายุ่ง น้องคนนี้กูจอง”
หล่อนเป็นที่จับจ้องหมายปองตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ข้ามมาใน Macau Casino ในฐานะสาวบริการความจริงแล้วแสนดีเป็นคนสวยไม่ต่างจากพี่สาว แต่เพียงแค่ว่าเจ้าหล่อนไม่ใช่คนที่สวยตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็นแต่เป็นแบบสวยพิศยิ่งมองยิ่งสวยยิ่งทวีความน่าค้นหา
ลูกชายของมหาเศรษฐีกระเป๋าหนักออกตัวทันทีซึ่งไม่มีใครกล้าขัดเพราะอำนาจเงินที่เหนือกว่า ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปหาร่างบางที่ยืนโงนเงนพร้อมกับลูกน้องทั้งสองคน
“สวัสดีครับคนสวย”
แสนดีหันมามองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ก่อนจะหรี่ตามองคนแปลกหน้า
“นายเป็นครายช้านไม่รู้จัก”
เสียงพูดของหล่อนมันอ้อแอ้
“ไปกับผมไหมคนสวยผมทิปไม่อั้นนะ”
ทศวรรษไม่พูดเปล่าแต่เขาฉวยโอกาสโอบเอวคอดกิ่วของแสนดีเอาไว้ก่อนจะรั้งร่างอวบอัดให้เข้ามาประชิดกายแกร่ง
“ปล่อยช้านนะอ้ายคนบ้ากาม”
หล่อนยังพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้างถึงแม้มันจะมีเพียงเล็กน้อยก็ตาม หล่อนพยายามแกะมือไม้ราวกับปลาหมึกของคนตรงหน้า
ทศวรรษกระหยิ่มยิ้มย่องเพราะเรี่ยวแรงของคนเมาอย่างแสนดีมันแทบไม่เป็นผลกับเขาเลย
เขายกหล่อนขึ้นวางกับโต๊ะก่อนจะแทรกร่างกายกำยำอยู่ระหว่างเรียวขางามในขณะที่คนเมาพยายามปัดป้องท่ามกลางผู้คนเยอะแยะมากมายแต่กลับไม่มีใครให้ความสนใจเพราะมันป็นเรื่องปกติของที่แห่งนี้
คนเมาไร้เรี่ยวแรงอย่างแสนดีไม่สามารถต่อกรกับผู้ชายหยาบคายตรงหน้าได้สักนิดสัมผัสจากผู้ชายอื่นมันให้ความรู้สึกขยะแขยงสิ้นดี
“ปล่อยช้าน ปล่อยย”