ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 85 เอาข้าวไป!
บทที่ 85 เอาข้าวไป!
ฮูหยินอวิ๋นกำลังหิวโหยเป็นอย่างมาก และในห้องครัวก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ตอนนี้ก็มีเพียงตัวนางคนเดียวเท่านั้น จึงไม่มีใครมาทำอาหารให้นาง
นางจึงต้องทำอาหารเองอย่างช่วยไม่ได้
“ข้าหิว” ฮูหยินอวิ๋นคิดจะใช้ประโยชน์จาการที่มีแขกมาคฤหาสน์ตระกูลอวิ๋น หากอวิ๋นซิ่วชิงไม่ยอมทำอาหารให้นาง นังลูกสาวไม่รักดีก็จะต้องอับอายขายขี้หน้า
นางไม่เชื่อว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะไม่ยอมให้นางกินอาหารด้วย
เมื่อมองไปที่แม่ของตัวเองผู้แสนหยิ่งผยอง อวิ๋นซิ่วชิงก็โกรธจัด คิดว่าข้าเป็นหนี้เจ้าหรือไง? นังเฒ่าหน้าเหม็น!
“หากท่านหิวก็ไปให้ลูกชายบังเกิดเกล้าทำให้สิ ท่านจะมาหาข้าทำไม?!”
“นี่เจ้ายังมีมโนธรรมอยู่หรือไม่?! ข้าเองก็คลอดเจ้าออกมานะ!!”
ขณะที่พูด ฮูหยินอวิ๋นก็หลั่งน้ำตาออกมาด้วย
น่าเสียดายที่อวิ๋นซิ่วชิงเปลี่ยนไปแล้ว และไม่มีความใจอ่อนเหมือนเมื่อก่อน
“ท่านไม่จำเป็นต้องมาสาธยายความทุกข์โศกให้ข้าฟังที่นี่ มโนธรรมของข้าถูกสุนัขกินไปนานแล้ว!”
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเถียงกลับ ฮูหยินอวิ๋นก็สำลักคำพูดของตัวเอง
“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านแค่เบ่งข้าออกมาเพียงครั้งเดียว หลังจากที่ท่านคลอดข้าออกมา ท่านเคยดูแลข้า ให้อาหารข้า และกอดข้าสักครั้งหรือไม่? ข้าได้ตอบแทนบุญคุณท่านด้วยสินสอดทองหมั้นของข้าไปหมดแล้ว และตอนนี้จะมาเอาอะไรกันอีก?!!”
อวิ๋นซิ่วชิงเถียงกลับโดยไม่เว้นช่วงให้ฮูหยินอวิ๋นตอบกลับแม้แต่น้อย
ในขณะที่พ่อเฒ่าอวิ๋นและเหยียนเกอกำลังสนทนากันอย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงของอวิ๋นซิ่วชิงและฮูหยินอวิ๋นที่ลานบ้าน พ่อเฒ่าอวิ๋นขอโทษเหยียนเกอและรีบออกจากลานบ้านทันที
ในขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงกำลังเถียงกับแม่ตัวเองอยู่นั้น หญิงสาวไม่ได้สังเกตเห็นว่าพ่อของตัวเองเดินออกมาแล้ว
ฮูหยินอวิ๋นสังเกตเห็นสามีของตัวเองก็ทรุดตัวนั่งลงกับพื้น และเริ่มร้องไห้ออกมา “สวรรค์! ข้าทำเวรทำกรรมอะไรนักหนา! ทำไมถึงมีลูกสาวที่อกตัญญูเยี่ยงนี้! นางไม่ยอมให้อาหารข้าเลย!!!”
เมื่อได้ยินเสียงคร่ำครวญของฮูหยินอวิ๋น สีหน้าของพ่อเฒ่าอวิ๋นก็แย่ลง เห็นได้ชัดว่าภรรยาตัวเองกำลังเสแสร้ง นางจงใจทำให้ตัวเขาและลูกสาวเสียชื่อเสียง
ลำพังตัวเขาที่อายุมากแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทว่าอวิ๋นซิ่วชิงนั้น นางยังเป็นสาว พ่อเฒ่าอวิ๋นไม่สามารถปล่อยให้ภรรยาตัวเองเอาเปรียบลูกสาวไปมากกว่านี้ได้
”พอแล้ว!” พ่อเฒ่าอวิ๋นกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงได้ยินเสียงพ่อของนาง นางจึงรู้ว่าเขาออกมาแล้ว นางจ้องมองแม่ตัวเองก่อนจะหันหลังกลับและเดินไปหาเขา “ท่านพ่อ ท่านยังไม่ดีขึ้น ท่านมาทำอะไรที่นี่?”
พ่อเฒ่าอวิ๋นแตะมือนางเบา ๆ เพื่อปลอบโยน และเงยหน้าขึ้นมองฮูหยินอวิ๋นที่กำลังเช็ดน้ำตาของนาง เขาขมวดคิ้วและสงสัยว่าทำไมผู้หญิงที่อ่อนโยนและมีคุณธรรมที่เขาเคยรักจึงกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ได้เยี่ยงนี้
”อาชิง ให้นางกินอะไรสักอย่างเถอะ” พ่อเฒ่าอวิ๋นพูดอย่างไร้อารมณ์
อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้ว นางไม่ต้องการให้อาหารกับฮูหยินอวิ๋น
ฮูหยินอวิ๋นเป็นคนได้คืบจะเอาศอก หากมีครั้งแรก ย่อมมีครั้งที่สองและมีครั้งต่อ ๆ ไปอย่างไม่สิ้นสุด
พ่อเฒ่าอวิ๋นตบหลังมือของนางและพูดว่า “ไปเถอะ”
”อืม ก็ได้” อวิ๋นซิ่วชิงไปที่ห้องครัวและเติมข้าวหนึ่งชามให้ฮูหยินอวิ๋น นางพยายามคิดว่าตัวเองทำให้ฮูหยินอวิ๋นขุ่นเคืองในชีวิตก่อนหน้าของนางและจะชำระหนี้ของนางในชีวิตนี้
อวิ๋นซิ่วชิงหยิบข้าวหนึ่งชามให้ฮูหยินอวิ๋นอย่างไม่เต็มใจ
ฮูหยินอวิ๋นเหลือบมองข้าวในมือ นางคว้ามันไว้และถามว่า “แล้วกับข้าวล่ะ?”
“อย่าเรียกร้องให้มันมากไปนัก” อวิ๋นซิ่วชิงเอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชา พร้อมทำท่าจะคว้าชามข้าวจากฮูหยินอวิ๋นคืนมา
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงกำลังจะคว้าข้าวจากมือของนางกลับไป ฮูหยินอวิ๋นจึงถอยกลับไปที่ประตูสนาม เมื่อนางหันหลังกลับ นางเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้ตามนางมา นางจึงเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
“โอ้สวรรค์! ข้าอยู่แบบนี้ไม่ได้!! ลูกสาวของข้าทรมานข้า! นางไม่ยอมให้อาหารข้า ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดเมตตาข้าด้วยเถิด!!!”
อวิ๋นซิ่วชิงโกรธจัดขึ้นมาทันที นางนึกเสียใจที่ใจอ่อนให้กับนังแม่อสรพิษ และเตรียมจะคว้าชามข้าวกลับคืนมา
ทว่าทันทีที่หญิงสาวก้าวไปข้างหน้า ผูเว่ยชางก็หยุดนางไว้ “เจ้าปล่อยนางไปเถอะ”
ผูเว่ยชางตบไหล่ของอวิ๋นซิ่วชิงเพื่อปลอบโยนนาง และมอบชามอาหารให้ฮูหยินอวิ๋น
เมื่อฮูหยินอวิ๋นเห็นเนื้อในจาน นางก็เผยสีหน้าภูมิใจออกมา ก่อนจะวิ่งหนีไปทันที!