ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 63 อาการผีพนันกำเริบ!
บทที่ 63 อาการผีพนันกำเริบ!
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงมีของอยู่ในมือเต็มไปหมด พ่อเฒ่าอวิ๋นก็รีบเข้ามาช่วยนาง “ชิงเหนียง เจ้าเข้ามาทำอะไรในห้องข้า? แล้วของพวกนี้มันคืออะไร?”
อวิ๋นซิ่วชิงอธิบาย “ของพวกนี้ข้าซื้อมาจากในเมือง ข้าขอบอกท่านก่อนนะ ข้าไม่อนุญาตให้ท่านแม่ อวิ๋นหมิงเซียวและเฉียวฮุ่ยแตะต้องของพวกนี้…”
หญิงสาวไม่ต้องการพูดเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในห้องโถงกับพ่อของนาง
พ่อเฒ่าอวิ๋นหยุดสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่แล้วถามขึ้น “พวกเขากวนใจเจ้าอีกแล้วหรือ?”
หญิงสาวไม่ตอบคำถามนี้ แต่นางพยายามบอกท่านพ่อซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่าให้ตัวปัญหาทั้งสามในบ้านแตะต้องของเหล่านี้
ซึ่งแน่นอนว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นก็รับคำนางเช่นกัน ทำให้อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกสบายใจยิ่งขึ้น
“ท่านพ่อลองเสื้อคลุมนี้ดูสิ ข้าซื้อมาเพราะคิดว่ามันพอดีตัวกับท่าน”
อวิ๋นซิ่วชิงหยิบเสื้อคลุมขนสัตว์สีน้ำตาลออกจากกองสิ่งของและยื่นให้พ่อตัวเอง
พ่อเฒ่าอวิ๋นชื่นชมลูกสาว “ไม่ต้องลองหรอก มันเหมาะกับข้ามาก”
เมื่อเห็นว่าเสื้อคลุมมีขนาดพอดีตัวกับท่านพ่อ อวิ๋นซิ่วชิงก็หยิบรองเท้าออกมาให้สามคู่ และพูดว่า “มันใกล้ถึงฤดูหนาวแล้ว รองเท้าคู่นี้ทำมาจากขนกระต่าย มันจะทำให้ท่านรู้สึกอบอุ่นเมื่อสวมมัน”
พ่อของนางพยักหน้าและสวมรองเท้าที่อวิ๋นซิ่วชิงซื้อมาให้ “มันอบอุ่นมาก”
“ชิงเหนียง ของพวกนี้แพงมากไหม?” เมื่อมองดูสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงวางไว้บนพื้น พ่อเฒ่าอวิ๋นก็ขมวดคิ้วและถาม
“ไม่เลยท่านพ่อ ไม่แพงเลย ท่านก็แค่ใส่มัน” อวิ๋นซิ่วชิงตอบพลางวางหมากรุกชิ้นหนึ่งที่ทำจากหิน
“ท่านพ่อ ท่านชอบมันไหม?” อวิ๋นซิ่วชิงรู้ว่าท่านพ่อเคยอ่านบทกวีและตำรามากมาย ดังนั้นเขาจะต้องเคยเล่นหมากรุกอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ครอบครัวของนางล้มละลายแล้ว ดังนั้นพ่อเฒ่าอวิ๋นจึงไม่ได้ออกไปข้างนอก
ด้วยความกลัวว่าเขาจะรู้สึกอึดอัดที่อยู่แต่ในบ้าน ดังนั้นนางจึงซื้อหมากรุกให้เขา
พ่อเฒ่าอวิ๋นพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขาชอบทุกอย่างที่อวิ๋นซิ่วชิงซื้อมาให้
เมื่อเห็นว่าพ่อตัวเองชื่นชอบ อวิ๋นซิ่วชิงยังคงค้นของที่นางซื้อมา ในขณะที่พ่อเฒ่าอวิ๋นนั่งอยู่และยังคงมองนางด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นพ่ออวิ๋นก็เห็นกรงนกที่ใส่งูอยู่ข้าง ๆ เขา “ชิงเหนียง เจ้าขายงูของเจ้าไปเท่าไหร่?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้อวิ๋นซิ่วชิงก็ถอนหายใจยาวและพูดว่า “ตอนแรกก็จะเจรจาขายงูได้อยู่แล้ว แต่สุดท้ายการเจรจาก็ไม่ลงตัว เดี๋ยวข้าจะทำซุปงูให้ท่านกินเพื่อบำรุงร่างกายนะ”
พ่อเฒ่าอวิ๋นเดินไปที่กรงซึ่งงูยังคงหลับอยู่ เขาเลิกผ้าสีดำที่คลุมกรงไว้ “งูตัวนี้กำลังจำศีลอยู่ ไม่ต้องหรอก หากกินมันตอนนี้ก็ดูจะมันโหดร้ายเกินไป”
เมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อของนางพูด อวิ๋นซิ่วชิงก็หัวเราะ พ่อของนางเป็นคนมีเมตตามาก
—
เมื่อเฉียวฮุ่ยและฮูหยินอวิ๋นกลับไปที่ลานด้านข้างของคฤหาสน์ พวกนางก็ดูอารมณ์ไม่ดีนัก
พวกนางไม่ได้กินอาหารเย็นมาหลายวันแล้ว นอกจากนี้ ดูเหมือนอวิ๋นซิ่วชิงจะเปลี่ยนไปมาก จากเดิมที่เป็นคนอ่อนแอและไม่สู้คน ก็ทำให้พวกนางไม่สามารถจิกหัวใช้งานได้อีกต่อไป
“นังลูกไม่รักดี! นังลูกเนรคุณ! นางบังอาจก้าวร้าวไม่เชื่อฟังข้าแบบนี้ได้อย่างไร?!” ฮูหยินอวิ๋นก่นด่าสาปแช่งลูกสาวตัวเองเมื่อเข้าไปในห้อง
เฉียวฮุ่ยซึ่งเดินตามหลังมากลอกตามองแม่สามีตัวเองอย่างเย็นชาและนึกดูถูกอีกฝ่าย
ทันทีที่เฉียวฮุ่ยและฮูหยินอวิ๋นเดินเข้ามาในห้อง ก็เห็นอวิ๋นหมิงเซียวกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้
“อวิ๋นหมิงเซียว เมื่อเช้านี้เจ้าหายไปไหนมา?! เจ้ารู้ไหมว่าน้องสาวเจ้าทำอะไรข้าและภรรยาเจ้าบ้าง?!”
เมื่อเห็นลูกชายสุดที่รักของตัวเอง ฮูหยินอวิ๋นก็บ่นกับเขาทั้งน้ำตาด้วยความเจ็บแค้น
แต่อวิ๋นหมิงเซียวไม่สนใจ เขากลับหันไปพูดกับภรรยาตัวเองว่า “เฉียวฮุ่ย เอาปิ่นปักผมทองของเจ้ามาให้ข้า!”
เมื่อเฉียวฮุ่ยได้ยินว่าสามีตัวเองต้องการปิ่นปักผมของนาง ก็ถามขึ้นอย่างระแวงว่า “เจ้าจะเอาปิ่นปักผมข้าไปทำไม?”
“เอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้!” วันนี้อวิ๋นหมิงเซียวออกไปเล่นการพนันอีกครั้ง ตอนนี้เขารู้สึกคันไม้คันมือและคิดถึงบ่อนพนันขึ้นมา ดังนั้นจึงขอเงินจากเฉียวฮุ่ย เพราะนางได้ซ่อนเครื่องประดับของมีค่าทั้งหมดของตัวเองไว้
“อะไรนะ?! เฉียวฮุ่ย เจ้ายังคงเก็บปิ่นปักผมทองเอาไว้งั้นหรือ?! แล้วทำไมเจ้าไม่เอามันออกมาตอนที่หมิงเซียวกำลังจะถูกคนในบ่อนฆ่า แต่เจ้ากลับแอบซ่อนมันเอาไว้เนี่ยนะ?! ลูกชายข้าดีกับเจ้ามาตลอด แต่เจ้ากลับใจดำเยี่ยงนี้! นังสารเลว!”
เมื่อฮูหยินอวิ๋นได้ยินว่ามีปิ่นปักผมสีทองที่มีค่าอยู่ในมือของเฉียวฮุ่ย นางก็โกรธขึ้นมาและด่าทอลูกสะใภ้
ในเวลานี้เฉียวฮุ่ยรู้สึกเกลียดแม่สามีเป็นอย่างมาก เมื่อฮูหยินอวิ๋นด่าทอนาง นางก็ตอบโต้ทันที
“ทำไมข้าจะซ่อนมันไว้ไม่ได้?! ทีพ่อเฒ่าอวิ๋นยังเก็บซ่อนของล้ำค่าไว้ตั้งมากมาย แล้วทำไมท่านต้องมาตะโกนด่าทอข้า? หากท่านเก่งจริง ท่านก็ไปขอเขาเองสิ!”