ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 619+620 การพลิกผัน / การค้นพบ
บทที่ 619 การพลิกผัน
ลูกน้องที่ยืนอยู่ในห้องเห็นว่าฮัวเอ๋อร์เป็นบ้าอีกแล้ว พวกเขาจึงรีบออกจากห้องไปทีละคน
ฮัวเอ๋อร์ทุบทำลายทุกอย่างในห้อง ใบหน้าของนางเริ่มซีดเซียว ความเจ็บปวดบนร่างกายของนางเหมือนถูกแมลงและมดรุมกัด แต่นางไม่สามารถแม้แต่จะฆ่าศัตรูได้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้นางก็ร้องไห้อย่างขมขื่น
เวลานี้มีผู้หญิงในชุดสีแดงเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวในชุดสีแดงไม่ได้สนใจอันธพาลที่อยู่นอกประตู นางผลักประตูเข้าไปและเห็นฮัวเอ๋อร์นั่งอยู่บนพื้น “ฮัวเอ๋อร์ ท่านทำสำเร็จหรือไม่?”
ฮัวเอ๋อร์ยกมือขึ้นปาดน้ำตาและหันไปมองสาวชุดแดง “หลี่ฟู่หลาน เจ้าอยากดูเรื่องตลกของข้าหรือไม่?”
“ข้าไม่อยากเห็นเรื่องตลกขบขันของท่าน ข้าเองก็เกลียดอวิ๋นซิ่วชิงเช่นกัน ข้าอยู่ข้างท่านนะ ฮัวเอ๋อร์” หลี่ฟู่หลานกำหมัดจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ถ้าไม่ใช่เพราะอวิ๋นซิ่วชิง นางคงไม่ถูกนังโง่มู่เชียนเชียนขายเข้ามาในสถานที่สกปรกแห่งนี้แน่
อวิ๋นซิ่วชิงแฉหลี่ฟู่หลานต่อหน้ามู่เชียนเชียนในวันนั้นว่านางเองก็ชื่นชอบผูเว่ยชาง มู่เชียนเชียนไม่เพียงตบตีหลี่ฟู่หลานเท่านั้น แต่ยังขายนางให้กับซ่องซุนโหลว โชคดีที่ฮัวเอ๋อร์ แม่เล้าซ่องซุนโหลวเองก็เกลียดอวิ๋นซิ่วชิงเช่นกัน มิฉะนั้นหลี่ฟู่หลานคงไม่มีอนาคตอีกแล้ว
ฮัวเอ๋อร์คำรามและยืนขึ้นอย่างไม่เต็มใจ “ข้าเกลียดอวิ๋นซิ่วชิงแล้วจะทำอย่างไรได้? ตอนนี้ข้าเกือบตายแล้ว แต่อวิ๋นซิ่วชิงยังมีชีวิตอยู่ มันไม่ตลกไปหน่อยหรือ?”
“ฮัวเอ๋อร์ ถ้าเราไม่สามารถวางแผนได้ เราก็สร้างแผนใหม่ เราจะเอาชนะอวิ๋นซิ่วชิงให้ได้” หลี่ฟู่หลานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“แต่ข้ารอนานขนาดนั้นไม่ได้” ฮัวเอ๋อร์พิงหัวเตียง หลับตาและพูดเสียงเบา “ฟู่หลาน ถ้าเจ้าเอาชนะอวิ๋นซิ่วชิงได้จริง ๆ ข้าจะยกซ่องซุนโหลวให้เจ้า”
เมื่อหลี่ฟู่หลานได้ยินเช่นนี้ แววตาของนางก็สว่างวาบขึ้นมาทันที “ขอบคุณสำหรับความเมตตาของท่าน”
“ไม่ต้องขอบคุณ ข้ากำลังจะตายอยู่แล้ว ซ่องซุนโหลวแห่งนี้ต้องการผู้สืบทอด” ฮัวเอ๋อร์ยกเปลือกตาขึ้นมองหลี่ฟู่หลาน หลี่ฟู่หลานเป็นหญิงสาวที่กล้าหาญและมุ่งร้าย และที่สำคัญที่สุด หลี่ฟู่หลานเกลียดชังอวิ๋นซิ่วชิงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านาง นางเชื่อว่าฟู่หลานจะช่วยให้ความปรารถนาสุดท้ายของนางเป็นจริงได้
“อย่ากังวล ฮัวเอ๋อร์ ข้าจะปล่อยให้อวิ๋นซิ่วชิงตายอย่างทรมานและแก้แค้นแทนท่านเอง” หลี่ฟู่หลานไม่คาดคิดว่าครั้งนี้จะเป็นการได้ของดีมาโดยไม่เสียแรงเปล่า นางคิดว่าการที่มู่เชียนเชียนขายนางให้ซ่องจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตายเสียอีก แต่นางบังเอิญรู้มาว่าฮัวเอ๋อร์ก็เกลียดชังอวิ๋นซิ่วชิงเช่นกัน นางจึงไปหาฮัวเอ๋อร์และหันมาร่วมมือกัน
“อืม ข้าจำคำพูดของเจ้าได้ ลงไปเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว” ฮัวเอ๋อร์พยักหน้า แน่นอนว่านางเชื่อคำพูดของหลี่ฟู่หลานอย่างสุดใจ
หลี่ฟู่หลานตอบรับและออกไปจากห้อง นางปิดประตูเบา ๆ และเมื่อคนอื่นเห็นหลี่ฟู่หลานออกมา พวกเขาก็รีบเข้าไปประจบนางและสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ภายใน
หลี่ฟู่หลานมองดูพวกเขาอย่างเงียบ ๆ และเอ่ยออกมาว่า “ฮัวเอ๋อร์เข้านอนแล้ว พวกเจ้าก็จะได้พักผ่อนเสียที”
หลังจากนั้น หลี่ฟู่หลานก็กลับไปที่ห้องของนาง ก่อนจะนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง และมองดูตัวเองในกระจกทองแดง รูปร่างหน้าตาของนางดีที่สุดในหมู่บ้าน แต่ครอบครัวของนางยากจน แต่ตอนนี้นางกลับมาแล้ว นางจะทำให้คนที่ดูถูกนางต้องทุกข์ทรมาน รวมถึงมู่เชียนเชียนด้วย
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากทานอาหารเย็นกับเด็กน้อยทั้งหลายแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็กลับไปที่บ้าน เมื่อนางกลับมาถึง นางก็เป่าเชิงเทียนและเข้าไปในมิติส่วนตัวพร้อมกับกล่องสีแดงเพื่อคิดค้นยาเสริมความงาม
อวิ๋นซิ่วชิงตักน้ำพุจิตวิญญาณออกจากถ้วยตวงและเปิดกล่องสีแดงทีละกล่อง เมื่อกำลังจะลงมือก็พบว่ามันไม่ได้กลายเป็นของเหลว ประสิทธิภาพของน้ำพุจิตวิญญาณคงแรงเกินไป และนางต้องเจือจางด้วยน้ำธรรมดาเสียก่อน มิฉะนั้นยาเสริมความงามจะมีประสิทธิภาพที่ชัดเจนเกินไป ซึ่งมันจะทำให้ดูน่าสงสัย
บทที่ 620 การค้นพบ
ในมิติส่วนตัวมีเพียงน้ำพุ ไม่มีน้ำธรรมดา อวิ๋นซิ่วชิงจึงรีบออกจากมิติและเตรียมไปที่ห้องครัวเพื่อถือถังน้ำเข้าไปในห้อง แต่หลังจากออกจากมิติ ด้วยความที่ห้องมืดเกินไป อวิ๋นซิ่วชิงจึงมองไม่เห็นทิศทาง นางเพียงเดินไปข้างหน้า แต่แล้วปลายเท้าของนางก็กระแทกกับเก้าอี้ไม้โดยไม่คาดคิดจนมันล้มลงบนพื้น และฝ่ามือของนางก็กระแทกกับมุมเก้าอี้จนเลือดไหลออกมาทันที
ผูเว่ยชางอาศัยอยู่ห้องข้าง ๆ เขาสามารถได้ยินเสียงจากห้องอวิ๋นซิ่วชิงได้ ชายหนุ่มรีบโยนหนังสือทิ้งและเดินออกจากห้องมาที่ประตูห้องของนางทันที
“ชิงเหนียง เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?” ผูเว่ยชางถามอย่างกังวลใจ
อวิ๋นซิ่วชิงกดฝ่ามือที่เปื้อนเลือดของนางไว้ พลางขมวดคิ้วและพูดว่า “ข้าสบายดี ข้าแค่สะดุดล้มน่ะ”
เมื่อผูเว่ยชางได้ยินว่านางสะดุดล้ม เขาก็กังวลมากกว่าเดิม เขาต้องการพังประตูเข้าไป แต่เขาไม่ต้องการให้ประตูของนางพัง
และเพราะประตูถูกลงกลอนไว้อยู่ เขาจึงไม่สามารถเปิดเข้าไปได้ “ชิงเหนียง เปิดประตูให้ข้าดูหน่อย”
อวิ๋นซิ่วชิงตอบรับ นางยืนขึ้นและเดินไปที่ประตูห้องอย่างระมัดระวัง
เมื่อผูเว่ยชางได้ยินอวิ๋นซิ่วชิงเปิดประตู เขาก็รีบผลักประตูเปิดออก ขณะที่เขาผลักประตูเปิด ชายหนุ่มก็ได้กลิ่นเลือดลอยอยู่ในห้อง “ชิงเหนียง เจ้าเป็นอะไรไป? เจ้าได้รับบาดเจ็บที่ไหน?”
“มือเลือดออกนิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วง”
ผูเว่ยชางดึงอวิ๋นซิ่วชิงไปที่ห้องของเขา ก่อนจะนั่งลงข้างนาง พลางขมวดคิ้วและพูดว่า “ขอข้าดูหน่อย”
ฝ่ามือของอวิ๋นซิ่วชิงโดนมุมเก้าอี้ไม้ และเวลานี้ยังคงมีเลือดออกอยู่
“ทำไมมันรุนแรงนัก” ผูเว่ยชางมองไปที่บาดแผลร้ายแรงบนฝ่ามือของอวิ๋นซิ่วชิงด้วยความรู้สึกเป็นทุกข์
อวิ๋นซิ่วชิงไม่คาดคิดว่ามือของนางจะถูกกระแทกอย่างรุนแรงเช่นนี้ แสงเทียนสลัวมาก เมื่อมองผ่านแสงเทียน ฝ่ามือของนางดูน่ากลัวไม่น้อย “มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นหรอก ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวข้าจะทายาทีหลังเอง”
ผูเว่ยชางมองอวิ๋นซิ่วชิงด้วยความโกรธ เขาโกรธที่อวิ๋นซิ่วชิงประมาท “เจ้ารอก่อน”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนและเริ่มค้นหาของในห้อง
เมื่อเห็นผูเว่ยชางดูเป็นกังวล อวิ๋นซิ่วชิงก็ปลอบโยนเขา “ผูเว่ยชาง ข้าสบายดีจริง ๆ และข้าไม่เจ็บปวด เจ้าไม่ต้องกังวล”
ผูเว่ยชางไม่ตอบ แต่ดึงกล่องออกมาจากใต้เตียง หยิบขวดลายครามสีน้ำเงินออกมาจากกล่อง และพูดกับอวิ๋นซิ่วชิงว่า “ส่งมือของเจ้ามา”
อวิ๋นซิ่วชิงจึงยื่นมือไปหาอย่างเชื่อฟัง
ผูเว่ยชางมองบาดแผลบนฝ่ามือของอวิ๋นซิ่วชิง บาดแผลยังคงมีเลือดไหลอยู่ และมือของนางก็มีเลือดไหลไปทั่ว เขาขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อย ๆ “รอเดี๋ยว”
หลังจากนั้น ผูเว่ยชางก็ผลักประตูและออกไป ส่วนอวิ๋นซิ่วชิงก็กลับมาที่ห้องตัวเอง นางจุดเทียน และพบขวดลายครามที่บรรจุน้ำพุจิตวิญญาณจากกล่องยา
อวิ๋นซิ่วชิงกัดจุกออกจากปากขวดแล้วเทน้ำพุจิตวิญญาณลงในมือ และสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงไม่คาดคิดคือบาดแผลที่มีเลือดไหลนั้นหยุดลงทันที นางรู้เพียงว่าน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ของนางมีหน้าที่ในการฆ่าเชื้อ ลบรอยแผลเป็น การรักษา และเสริมความงาม แต่ไม่คาดคิดว่ามันจะมีพลังมากเช่นนี้
ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผูเว่ยชางกังวล อวิ๋นซิ่วชิงจึงไม่กล้าที่จะอยู่นาน นางวางขวดลายครามลงและกลับไปที่ห้องของผูเว่ยชางเพื่อรอเขากลับมา แต่ขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงนั่งลง นางก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
อวิ๋นซิ่วชิงเปิดประตูด้วยความสงสัยและรู้สึกประหลาดใจที่เห็นชุ่ยยี่อยู่นอกประตู
ชุ่ยยี่นั้นเย็นชาสำหรับทุกคนเช่นเดียวกับผูเว่ยชาง อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกประหลาดใจที่ภูเขาน้ำแข็งทั้งสองนี้เข้ากันได้ดีนัก
ชุ่ยยี่เพิ่งได้รับจดหมายจากนกพิราบ เขากำลังจะมอบมันให้กับผูเว่ยชาง แต่อวิ๋นซิ่วชิงเป็นคนเปิดประตูเสียก่อน ชุ่ยยี่ตกตะลึงและรีบซ่อนจดหมายไว้ข้างหลังทันที
“ชุ่ยยี่ เจ้ามาหาผูเว่ยชางหรือ?”
เดิมทีอวิ๋นซิ่วชิงอยากรู้ว่าตอนกลางคืนผูเว่ยชางมักทำอะไร และเวลานี้นางกลับพบว่าร่างกายของชุ่ยยี่กำลังแข็งทื่อเมื่อเห็นนาง