ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 609+610 คอยดู / ไม่ติดกับ
บทที่ 609 คอยดู
เสี่ยวหลี่รีบพูด “ขอโทษ ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ”
ผูเว่ยชางไม่สนใจคำขอโทษและไปที่สวนพร้อมกับอวิ๋นซิ่วชิงที่ยังดูหวาดกลัว
หลังจากที่พวกเขาออกไป รอยยิ้มแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเสี่ยวหลี่ ‘ใบหน้าของข้าน่ากลัวรึ?’
อวิ๋นซิ่วชิงตบหน้าอกและสงบลงในที่สุด “บ้าจริง! เขากล้าดียังไงมาทำให้ข้าตกใจ”
“ชิงเหนียง เจ้าเป็นอะไรไหม?” ผูเว่ยชางพูดอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าคราวนี้อวิ๋นซิ่วชิงดูกลัวจริง ๆ
“ไม่เป็นไร เสี่ยวหลี่ผู้นี้จะต้องจงใจแกล้งข้าแน่ ถ้าข้าพบหลักฐานว่าเขาจงใจ มาดูกันว่าข้าจะฆ่าเขาหรือไม่!” อวินซิ่วชิงมีความตั้งใจที่จะบีบคอเสี่ยวหลี่ นางเกลียดคนที่ทำให้นางกลัวที่สุด
จากนั้นทั้งสองก็เข้าไปในครัว เมื่อฝาหม้อยาถูกเปิดออก นอกจากน้ำเดือดแล้ว ยังมีหม้อยาต้มเล็ก ๆ อยู่ในครัวด้วย
อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าจะหาอะไรได้ง่ายดายนัก ท้ายที่สุดแล้วก็มีเพียงพวกกากสมุนไพรเท่านั้นที่ถูกปรุงในครัว แต่หลังจากค้นหาเป็นเวลานาน นางก็ยังไม่พบสิ่งใด “ผูเว่ยชาง เจ้าพบอะไรไหม?”
“ไม่” ผูเว่ยชางสงสัยตั้งแต่ตอนที่เสี่ยวหลี่พยายามทำให้นางตกใจแล้ว และตอนนี้เขาเริ่มสงสัยมากขึ้น
อวิ๋นซิ่วชิงวางมือบนสะโพกของนางและขมวดคิ้ว “เขากินกากยาหรือไง?”
“ออกไปตามหากันเถอะ” ผูเว่ยชางสงสัยว่าเสี่ยวหลี่ได้ฝังกากยาไว้
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปจากห้องครัวแล้ว พวกเขาก็มองไปรอบ ๆ สวน ทันใดนั้นผูเว่ยชางเห็นดินแปลก ๆ บนพื้น เขาย่อตัวลงทันทีและปัดมันออกไป แน่นอนว่ากากยาถูกฝังอยู่ใต้ดิน
“ชิงเหนียง ข้าเจอแล้ว” ผูเว่ยชางรีบเอ่ยเพื่อเอาหน้า…
อวิ๋นซิ่วชิงยังคงตามหา แต่เมื่อนางได้ยินคำพูดของเขา หญิงสาวก็วิ่งไปหาทันที “ขอข้าดูหน่อย”
จากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็รับกากยามาตรวจสอบ
นางเป็นผู้กำหนดยา นางสั่งยาผิดหรือเปล่า? มันเป็นไปไม่ได้ นางได้เขียนใบสั่งยาตามแบบหมอแผนปัจจุบัน ไม่มีข้อผิดพลาดอย่างแน่นอน
ทันใดนั้น อวิ๋นซิ่วชิงก็พบยาอีกตัวในกากยา มันคือหม่าเฉียนจื่อ ซึ่งใช้สำหรับลดอาการบวมและบรรเทาอาการปวด รวมถึงแก้ไข้ด้วย ยาที่นางสั่งสำหรับเสี่ยวหลี่คือการล้างความร้อนและล้างพิษ ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดและทำให้เป็นหนอง ถ้าเพิ่มหม่าเฉียนจื่อเข้าไป ก็ไม่แปลกที่เสี่ยวหลี่จะรู้สึกอึดอัด
“เสี่ยวหลี่เป็นคนทำจริง ๆ เขาเพิ่มยาอื่นจำนวนมากรวมกับยาของเขา” ขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงพูด นางก็ห่อยาที่เหลือด้วยผ้าเช็ดหน้าเก็บไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกใส่ร้าย
“ชิงเหนียง เราควรทำอย่างไรต่อไป?” แม้ว่าผูเว่ยชางจะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเพิ่มหม่าเฉียนจื่อในยา แต่เขารู้ว่าเสี่ยวหลี่ต้องพยายามทำร้ายนางแน่
อวิ๋นซิ่วชิงห่อผ้าเช็ดหน้าอย่างระมัดระวังและพูดอย่างใจเย็นว่า “รอดูก่อน” นางอยากจะดูว่าเสี่ยวหลี่จะเล่นตลกกับนางต่อไปอย่างไร
เมื่อผูเว่ยชางกับอวิ๋นซิ่วชิงกลับมาที่โรงหมอ พวกเขาบังเอิญเห็นชายคนหนึ่งนำอาหารมาให้ อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้วเมื่อเห็นชายคนนั้นถือกล่องอาหารขนาดใหญ่สองกล่อง
หลังจากวางกล่องอาหารบนโต๊ะ อวิ๋นซิ่วชิงเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในโรงหมอแล้ว นางจึงให้ เสี่ยวเที่ยวและอาเต๋าไปเชิญเฒ่าเฉิงกับเฒ่าหลิวมา
หลังจากนั้นไม่นาน เฉิงเซินและหลิวหมิงซานก็ออกมาจากห้อง ตามมาด้วยเสี่ยวหลี่ซึ่งเดินซวนเซแลดูเวียนหัวเล็กน้อย
อวิ๋นซิ่วชิงมองไปที่เสี่ยวลี่ เมื่อพิจารณาจากท่าทางที่เขาเดิน หญิงสาวก็รู้ว่าละครกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
“ชิงเหนียง อย่าเอาอาหารมาที่นี่อีกเลย ข้าเตรียมอาหารไว้พร้อมแล้ว จากนี้ไป ข้าจะไปกินที่ลานบ้านกับเฒ่าหลิว เจ้าไม่จำเป็นต้องเตรียมเช่นนี้หรอก” ทันทีที่เดินออกมาจากห้องก็เห็นจานข้าววางอยู่เต็มโต๊ะแล้ว เขารู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะเตรียมอาหารมากมายเช่นนี้
“ข้าตกลงกับพวกท่านแล้วว่าจะมีทั้งที่พักและอาหารให้ ลุงเฉิงและลุงหลิว ข้าทำให้พวกท่านรู้สึกแย่หรือเปล่า?” อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าเขาพูดเช่นนั้นเพราะเห็นแก่ผูเว่ยชาง และรู้สึกละอายใจมากยิ่งขึ้น
“เจ้ากำลังพูดถึงอะไร ข้าแค่อยากคุยกับเฒ่าหลิวให้มากกว่านี้น่ะ เจ้าอย่าคิดมากเลย” เฉิงเซินไม่ได้หันไปมองผูเว่ยชาง นานแล้วที่พวกเขาไม่ได้พบกัน ทั้งสองจึงมีเรื่องมากมายที่อยากจะพูดคุย
บทที่ 610 ไม่ติด
เดิมทีอวิ๋นซิวชิงต้องการที่จะพูดอีกสองสามคำ แต่หลังจากได้ยินคำพูดของเฉิงเซิน นางก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
“ชิงเหนียง ชายชราทั้งสองต้องการพูดคุยเกี่ยวกับวันเก่า ๆ ดังนั้นอย่าหยุดพวกเขาเลย” เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกอายเล็กน้อย ผูเว่ยชางก็รีบหาทางลงให้นาง
อวิ๋นซิวชิงกำลังจะเห็นด้วยกับความคิดผูเว่ยชาง แต่ทันใดนั้นเสี่ยวหลี่ซึ่งนั่งข้างหลิวหมิงซานก็กระแทกหัวของเขาบนโต๊ะอาหารและหมดสติไป
ในบรรดาผู้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หลิวหมิงซานกำลังง่วนอยู่กับการหยิกเสี่ยวหลี่ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเสี่ยวหลี่ แต่อีกฝ่ายก็เป็นลมอยู่ข้าง ๆ แล้ว
เมื่ออวิ๋นซิวชิงเห็นเสี่ยวหลี่เป็นลม นางก็เลิกคิ้วมองไปที่ผูเว่ยชาง ในที่สุดการแสดงที่ดีก็กำลังจะเริ่มขึ้น
หลิวหมิงซานบังเอิญอยู่ใกล้เสี่ยวหลี่ ในขณะที่เฉิงเซินจับชีพจรของเสี่ยวหลี่
“เกิดอะไรขึ้น?” เฉิงเซินขมวดคิ้ว และสัมผัสชีพจร
หลิวหมิงซานก็พยายามปลุกเสี่ยวหลี่เช่นกัน และสิ่งแรกที่เสี่ยวหลี่พูดเมื่อเขาตื่นคือ “อาจารย์ ข้ารู้สึกไม่ดี”
อวิ๋นซิวชิงนั่งอยู่ด้านข้างและได้ยินคำพูดของเสี่ยวหลี่ นางกลอกตาและรู้สึกอึดอัด มันเป็นความผิดของเขาเองและเขาสมควรได้รับมัน
แม้ว่าหลิวหมิงซานรู้ว่าโดยปกติแล้วเสี่ยวหลี่ชอบแกล้งทำเป็นเล่นใหญ่ แต่การได้เห็นใบหน้าซีดเซียวของเสี่ยวหลี่ในวันนี้ ไม่ว่าเขาจะเสแสร้งมากแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถเสแสร้งจนเป็นเช่นนี้ได้ จนในที่สุดหลิวหมิงซานพลันอ่อนใจลง
“เจ้าเป็นอะไรไป?” หลิวหมิงซานถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ข้ารู้สึกไม่สบายทั้งตัวและเจ็บไปทั้งตัว” ในตอนนี้เสี่ยวหลี่รู้สึกไม่สบายจริง ๆ เขาไม่เคยคิดเลยว่าการเติมยาเล็กน้อยจะทำให้เขารู้สึกอึดอัดมากขนาดนี้ ถ้าเขารู้ เขาจะดื่มน้อยลง
“เฒ่าเฉิง เจ้าจับชีพจรมานานแล้ว เจ้าเห็นอะไรไหม?” หลิวหมิงซานก็กังวลมากเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วเสี่ยวหลี่เองก็ทำงานอย่างหนัก ภายใต้การดูแลของเขา ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรเกิดอุบัติเหตุภายใต้การดูแลของเขาขึ้นมาเช่นนี้
“ข้า ข้าบอกไม่ได้” เฉิงเซินชำเลืองมองอวิ๋นซิวชิงขณะที่พูด เขาสามารถบอกได้จากชีพจรว่าอาการป่วยของเสี่ยวหลี่แย่ลง แต่เขาไม่สามารถแน่ใจได้ว่าอวิ๋นซิวชิงที่เป็นผู้สั่งยานั้นมีปัญหาอะไรซ่อนไว้หรือไม่
เสี่ยวหลี่โกรธมากเมื่อได้ยินว่าเฉิงเซินปกป้องอวิ๋นซิวชิงอย่างเห็นได้ชัด เขาอุตสาห์เพิ่มยาเข้าไปเป็นพิเศษเพื่อทำให้เฉิงเซินและหลิวหมิงซานคิดว่าอวิ๋นซิวชิงเป็นผู้หญิงที่แย่มาก
เฉิงเซินสามารถวินิจฉัยได้อย่างแน่นอนว่ามีบางอย่างผิดปกติกับยาที่อวิ๋นซิวชิงสั่งให้ แต่เฉิงเซินไม่ได้พูดอะไรและเขาเกือบจะอาเจียนเป็นเลือดด้วยความโกรธ
และอวิ๋นซิวชิงพอใจมากเมื่อได้ยินว่าเฉิงเซินไม่พูดโดยตรงว่ามีปัญหากับใบสั่งยาของนาง หากเฉิงเซินยืนยันว่าปัญหาคือใบสั่งยาของนาง แม้ว่านางจะอธิบายอย่างชัดเจนในภายหลัง แต่การที่ต้องเจอกันทุกวันก็คงอึดอัดไม่น้อย
“อาจารย์ ข้ารู้สึกอึดอัดมาก” เสี่ยวลี่พูดอย่างอ่อนแรง
“ข้าจะดูเอง เจ้าเป็นหมอมาหลายปีได้อย่างไรกัน” หลิวหมิงซานไม่คาดคิดว่าเฒ่าเฉิงจะไม่ได้วินิจฉัยใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนนี้เสี่ยวหลี่กำลังโอญครวญอย่างทรมาน เขายิ่งกังวลมากขึ้น
หลิวหมิงซานขมวดคิ้วและจับข้อมือของเสี่ยวหลี่เพื่อตรวจวินิจฉัย โรคบิดของเสี่ยวหลี่ทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้น “วันนี้เจ้ากินอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าหรือเปล่า?”
เมื่ออวิ๋นซิวชิงได้ยินคำถามของหลิวหมิงซาน นางแทบจะหัวเราะไม่ออก
ใบหน้าของเสี่ยวหลี่ซีดลง อันที่จริงไม่เพียงแต่เขาเติมหม่าเฉียนจื่อลงในยาเล็กน้อยเท่านั้น เขายังกินอาหารรสเผ็ดและมันเยิ้มที่หลิวหมิงซานห้ามไม่ให้เขากินเพื่อใส่ร้ายนางด้วย
“ข้า ข้าไม่ได้กิน” เสี่ยวหลี่ส่ายหัวด้วยใบหน้าซีดเซียว
“ไม่? เจ้าไม่ได้กินสุ่มสี่สุ่มห้า? งั้นโรคบิดของเจ้าจะร้ายแรงเช่นนี้ได้อย่างไร?” หลิวหมิงซานไม่ได้สงสัยว่านี่เป็นเพราะอวิ๋นซิวชิงเลย เขารู้ว่าเสี่ยวหลี่เป็นคนอย่างไร ถ้าอีกฝ่ายไม่เป็นโรคประหลาด ชายชราคงเตะโด่งคนผู้นี้ไปแล้ว
เสี่ยวหลี่ไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ หลิวหมิงซานควรถามใบสั่งยาของอวิ๋นซิวชิงที่ให้เขาไม่ใช่หรือ?
อวิ๋นซิวชิงมีความสุขอยู่แล้วในขณะนี้ และนางกำลังจะนำเสนอหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่นางไม่คาดคิดว่าเฒ่าหลิวและเฒ่าเฉิงจะไม่ตกเป็นเหยื่อของเสี่ยวหลี่เลย