ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 591+592 การหายตัวไป / คำถามและคำตอบของตัวเอง
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 591+592 การหายตัวไป / คำถามและคำตอบของตัวเอง
บทที่ 591 การหายตัวไป
เมื่อยาใกล้จะพร้อมแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็เทน้ำพุจิตวิญญาณลงไปเล็กน้อย แล้ววางหม้อต้มยาลง
เวลานี้หญิงสาวก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของอี้เหรินดังขึ้นมา อวิ๋นซิ่วชิงตกใจมากจนแทบจะโยนหม้อต้มในมือทิ้ง
“เกิดอะไรขึ้น?” พ่อเฒ่าอวิ๋นที่กลับจากการเดินเล่นก็ได้ยินเสียงร้องทันทีที่เปิดประตูเข้ามา จึงคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นและถามด้วยความเป็นห่วงทันที
อวิ๋นซิ่วชิงรีบวางหม้อต้มแล้วเดินออกจากครัว ในเวลานี้เด็ก ๆ ก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน และยืนอยู่ในลานด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
อี้เหรินวิ่งลงไปข้างล่างอย่างตื่นเต้น นางจับมืออวิ๋นซิ่วชิงและพูดว่า “พี่สาวอวิ๋น ใบหน้าของข้ากลับมาเป็นปกติแล้ว มันนุ่มนวลและอ่อนโยน เจ้าทำได้อย่างไร?”
เมื่อได้ยินคำพูดของนาง พ่อเฒ่าอวิ๋นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เจ้ามีความสุขกับเรื่องนี้นี่เอง ข้าก็กลัวแทบตาย ข้าคิดว่าเจ้าเป็นอะไรเสียอีก”
“ข้าแค่ทายาบางอย่างให้เจ้าเอง” ทันใดนั้น อวิ๋นซิ่วชิงก็เกิความคิดดี ๆ ขึ้นมา นางสามารถทำยาเสริมความงามจากน้ำพุจิตวิญญาณและขายมันออกไปได้ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องขายมันได้เงินจำนวนมากแน่
“พี่สาวอวิ๋น ยาของเจ้าวิเศษมากเลย” อี้เหรินกล่าวอย่างตื่นเต้น
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งดีใจไป ที่ข้าทาให้มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ พอข้าทำเสร็จแล้วจะให้ขวดนึงนะ” อวิ๋นซิ่วชิงได้วางแผนเรื่องยาเสริมความงามของนางแล้วเรียบร้อย
เมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นซิ่วชิง อี้เหรินก็โผเข้ากอด “ขอบคุณมาก พี่สาวของข้า”
“เฮ้ ปล่อยข้าก่อน ข้ากำลังจะตายเพราะเจ้านะ” อวิ๋นซิ่วชิงไม่คิดว่าเห็นอีกฝ่ายผอม ๆ บอบบางและอ่อนแอจะมีแรงเยอะได้ขนาดนี้
อี้เหรินรีบปล่อยอวิ๋นซิ่วชิงและพูดด้วยความละอายใจ “ข้าขอโทษนะพี่สาวอวิ๋น ข้าตื่นเต้นเกินไปหน่อยน่ะ”
อวิ๋นซิ่วชิงหายใจเข้าลึก ๆ สองสามทีแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้นอีกแล้ว จากนี้ไปใบหน้าของเจ้า พี่สาวคนนี้จะดูแลให้เอง ไปเอายาในหม้อมาเถอะ”
อี้เหรินพยักหน้าอย่างตื่นเต้นและไปที่ห้องครัวเพื่อยกหม้อยา
หลังจากอี้เหรินออกไปแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็รีบไปที่ห้องของผูเว่ยชางกับชุ่ยยี่ เมื่อครู่นี้นางเห็นทุกคนยกเว้นสองคนนั้น ปกติทั้งสองจะตื่นเช้า แต่วันนี้นางยังไม่เห็น นางสงสัยมากว่าสองคนนี้กำลังทำอะไร
อวิ๋นซิ่วชิงเคาะประตูแต่ไม่มีใครตอบ จากนั้นก็เคาะประตูอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครตอบ ในเวลานี้หญิงสาวรู้สึกกระวนกระวายใจ เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองจากไปโดยไม่ร่ำลา
“ท่านพ่อเจอผูเว่ยชางกับชุ่ยยี่หรือยัง?” อวิ๋นซิ่วชิงไปที่ครัวและถามพ่อของนางซึ่งมักออกไปเดินเล่นแต่เช้า
พ่อเฒ่าอวิ๋นกำลังทำโจ๊กสำหรับเด็ก ๆ เมื่อเขาได้ยินคำถามจากอวิ๋นซิ่วชิง เขาครุ่นคิดอยู่หนึ่งแล้วตอบว่า “เช้านี้ไม่เห็นพวกเขาเลย เมื่อก่อนนี้ข้ามักจะเห็นพวกเขาออกไปวิ่งออกกำลังกายนะ”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น อวิ๋นซิ่วชิงก็กังวล จากนั้นนางก็รอผูเว่ยชางและชุ่ยยี่ที่ลานบ้าน
ในป่าสนนอกเมือง ผูเว่ยชางและชุ่ยยี่กำลังต่อสู้กับชายชุดดำ หลังจากที่พวกเขาฆ่าคนสุดท้ายแล้ว พวกเขาก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและเช็ดเลือดสีแดงออกจากดาบ จากนั้นชุ่ยยี่ก็โรยผงบางอย่างลงบนศพ
หลังจากจัดการกับศพทั้งหมด ชุ่ยยี่ก็เดินไปหาผูเว่ยชางและพูดว่า “นายท่าน พวกมันมีทั้งหมดยี่สิบสี่คน และไม่มีใครหายไปขอรับ”
“ค้นศพพวกเขาแล้วเจออะไรบ้าง” ผูเว่ยชางหรี่ตาและถามอย่างเย็นชา
“นายท่าน พวกเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากดาบ” ชุ่ยยี่ค้นหาทุกศพแต่ไม่พบอะไรเลย
“พวกเขาคือกลุ่มผู้กล้าบ้าบิ่น น่าสนใจนะ พวกมันยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อฆ่าข้า” ผูเว่ยชางพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“ลูกน้องพวกนี้ไร้ความสามารถ ครั้งที่แล้วที่ไม่ได้ล่อคนพวกนี้ออกไป คงทำให้พวกมันสงสัยและกลับมาอีกครั้งขอรับ” ชุ่ยยี่ก้มหัวลงและพูดอย่างไร้ความรู้สึก
บทที่ 592 คำถามและคำตอบของตัวเอง
“กลับกันเถอะ อวิ๋นซิ่วชิงน่าจะตื่นแล้ว” ผูเว่ยชางส่งดาบในมือให้ชุ่ยยี่ก่อนจะหันหลังกลับ
ในเวลาเดียวกัน ณ ลานบ้าน
อวิ๋นซิ่วชิงไม่สามารถนั่งหรือยืนได้ นางกังวลมากจนเดินไปรอบ ๆ ลานบ้าน
“ชิงเหนียง ไม่ต้องห่วงน่า พวกเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเขาได้?” เมื่อเห็นอวิ๋นซิ่วชิงเดินไปมา ชายชราพลันรู้สึกวิงเวียน
“ท่านพ่อ ข้าเป็นห่วงเขา ข้าจะออกไปตามหาเขา” อวิ๋นซิ่วชิงไม่สามารถรอได้อีกต่อไป นางบอกลาพ่อและออกไปตามหาพวกเขา
อวิ๋นซิ่วชิงรู้ว่าผูเว่ยชางเก่งกาจ และทักษะของเขาก็ไม่ใช่ระดับต่ำ ๆ แต่นางก็ยังเป็นห่วงเขา เหตุผลหลักคือเขาไม่เคยจากไปอย่างเงียบ ๆ แบบนี้ ซึ่งทำให้นางอึดอัดใจมาก
อีกด้านหนึ่ง เมื่อผูเว่ยชางและชุ่ยยี่เข้าไปในเมือง พวกเขาก็รีบกลับไปอย่างรวดเร็ว ทันทีที่พวกเขามาถึงทางเข้าตรอก พวกเขาก็เจออวิ๋นซิ่วชิง “มาทำอะไรน่ะ ชิงเหนียง?”
พอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากด้านหลัง อวิ๋นซิ่วชิงหันกลับมาก็เห็นผูเว่ยชาง ผู้ที่นางตามหาอยู่นาน “ผูเว่ยชาง เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา? ทำไมเจ้าไม่บอกข้าก่อนที่จะไป ข้ากลัวแทบตายนะ”
“ข้าไปวิ่งออกกำลังกายกับชุ่ยยี่มา เมื่อก่อนเจ้าไม่ตื่นเวลานี้ วันนี้ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะตื่นเช้า ถ้าข้ารู้เร็วกว่านี้ ข้าคงไม่วิ่งออกกำลังกายหรอก” ผูเว่ยชางยิ้มกว้างเมื่อเห็นสีหน้ากังวลของนาง
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า ตราบใดที่ผูเว่ยชางสบายดี นางก็จะสบายใจ ทันใดนั้นสายลมก็พัดมาทำให้นางได้กลิ่นคาวเลือด ในฐานะหมอ นางรู้สึกไวต่อกลิ่นเลือดมากที่สุด
เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ อวิ๋นซิ่วชิงเงียบไป ผูเว่ยชางจึงถามด้วยความสับสน “ชิงเหนียง เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้าได้กลิ่นคาวเลือด”
รอยยิ้มบนใบหน้าของผูเว่ยชางแทบค้าง เขาไม่คิดว่านางจะได้กลิ่นเลือดบนร่างกายของเขา แม้มันจะไม่มีเลือดสักหยดแล้วก็ตาม
ร่องรอยของความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชุ่ยยี่ทันทีเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงพูด
“เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?” อวิ๋นซิ่วชิงเชื่อในประสาทสัมผัสของนางมาก นางได้กลิ่นไม่ผิดแน่
“ไม่” ผูเว่ยชางเริ่มคิดว่าจะหลอกอวิ๋นซิ่วชิงอย่างไรดี
“แล้วทำไมมีกลิ่นเลือด?” อวิ๋นซิ่วชิงไม่สงสัยเลยสักนิดว่ากลิ่นเลือดของผูเว่ยชางมาจากการฆ่าคน นางแค่คิดว่าเขาถูกทำร้ายมาจากที่ไหนสักแห่ง
ส่วนผูเว่ยชางก็พยายามคิดอย่างมากว่าจะหลอกอวิ๋นซิ่วชิงเช่นไร
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา อวิ๋นซิ่วชิงก็จำได้ว่าเขาเคยเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ในละครโทรทัศน์สมัยใหม่ วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ชอบช่วยเหลือผู้อ่อนแอและจับโจรไม่ใช่หรือ? “นี่เจ้าคงไม่ได้ทำตัวเป็นคนดีผู้รักในความยุติธรรมหรอกใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นซิ่วชิง ผูเว่ยชางก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า “เจ้าฉลาดมาก ชิงเหนียง”
“แน่นอน” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ผูเว่ยชางมองท่าทีของอวิ๋นซิ่วชิง นางน่ารักมากจนเขาอยากจะจับนางขังไว้ในอ้อมแขนและกลืนกินเสียเดี๋ยวนี้
“จับโจรได้ใช่หรือเปล่า?” อวิ๋นซิ่วชิงเลิกคิ้วถาม
ผูเว่ยชางไอเล็กน้อยและเอามือปิดปาก เขาฝืนยิ้มและพูดว่า “ชิงเหนียง เจ้าสุดยอดมาก”
อวิ๋นซิ่วชิงยิ้มเยาะและพูดต่อ “เจ้าสอนบทเรียนไอ้สารเลวนั่นยังไงน่ะ?”
“แน่นอน ข้าจัดให้เขาอย่างดีเลย เขากระอักเลือดออกมา เลือดคงกระเด็นโดนตัวข้า เจ้าจึงได้กลิ่นคาวเลือดน่ะ” ผูเว่ยชางโกหกอย่างใจเย็น
อวิ๋นซิ่วชิงไม่รู้ว่าผูเว่ยชางกำลังโกหก “เจ้าใจร้ายมาก เจ้าตีจนเขากระอักเลือดเลยรึ? นึกภาพแล้วน่าขยะแขยงจริง ๆ”