ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 587+588 โทษตัวเอง / ความสงสัยในตัวเอง
บทที่ 587 โทษตัวเอง
เมื่อเสี่ยวเที่ยวและอาเต๋ารู้ว่าพวกเขาได้รับเลือกจากอวิ๋นซิ่วชิง พวกเขาก็โห่ร้องอย่างตื่นเต้น ซึ่งเด็กคนอื่น ๆ ก็เสียใจอย่างมากและก้มหน้าลง
หัวใจของอวิ๋นซิ่วชิงแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเมื่อนางเห็นว่าเด็กคนอื่น ๆ กำลังเสียใจ “เด็ก ๆ ถึงไม่ได้รับเลือกแต่ก็ต้องตั้งใจเรียนนะ โตขึ้นพวกเจ้าจะได้ช่วยงานข้าได้ การที่มีบัณฑิตอันดับหนึ่งก็ไม่เลวนะ ตอนนี้อย่าเพิ่งน้อยใจไป ข้ายังต้องการเจ้าในอนาคตอยู่ เพราะงั้นขยันกันเข้าไว้นะ”
ทันทีที่นางพูดจบ นางก็ขยิบตาให้อี้เหรินเพื่อขอความช่วยเหลือ นางไม่รู้วิธีเกลี้ยกล่อมเด็กจริง ๆ
ทันทีที่ได้รับสัญญาณช่วยเหลือจากอวิ๋นซิ่วชิง อี้เหรินก็ลุกออกไปทันทีและเกลี้ยกล่อมเด็ก ๆ เข้านอน
หลังจากที่เด็ก ๆ กลับไปที่ห้องแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็นั่งลงบนเก้าอี้ไม้
“ชิงเหนียง อย่านอนที่นี่เลยเดี๋ยวจะเป็นหวัด ไปนอนห้องเจ้าเถอะ” ทันทีที่ผูเว่ยชางเข้ามา เขาก็เห็นอวิ๋นซิ่วชิงนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้และเกือบจะหลับไปแล้ว
อวิ๋นซิ่วชิงเหนื่อยมากจนเปลือกตาสู้ไม่ไหว เมื่อนางได้ยินเสียงของผูเว่ยชาง นางก็ยกเปลือกตาขึ้นด้วยความยากลำบาก
“ชิงเหนียง กลับไปที่ห้องของเจ้าและพักผ่อนเถอะ พ่อเฒ่าอวิ๋นจะต้องเสียใจเมื่อเห็นเจ้าเป็นแบบนี้แน่” ผูเว่ยชางพูดยิ้ม ๆ
คำพูดของผูเว่ยชางกระแทกใจนางนัก “ตกลง เจ้ากลับห้องไปได้แล้ว”
อวิ๋นซิ่วชิงยืนขึ้นและหาว นางยืดเอวพลางขึ้นไปชั้นบน ทันทีที่ขึ้นไปชั้นบน นางก็เห็นเสี่ยวเฮยยืนอยู่ที่ประตูห้องของนางและก้มหน้าเหมือนเด็กที่ทำผิด
“เสี่ยวเฮยเป็นอะไรไป? ทะเลาะกับเพื่อนหรือเปล่า?” อวิ๋นซิ่วชิงถามอย่างเป็นห่วงขณะที่นางเดินไปหาเสี่ยวเฮยอย่างรวดเร็ว
เสี่ยวเฮยเงยหน้าขึ้นมองอวิ๋นซิ่วชิงและส่ายหัว “ไม่”
หัวใจของอวิ๋นซิ่วชิงแตกสลายเพราะสายตาของเสี่ยวเฮย นางรีบดึงเสี่ยวเฮยเข้าไปในห้องและพูดว่า “เสี่ยวเฮย บอกข้ามา เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“พี่สาว ข้าทำให้พี่สาวลำบากใจหรือเปล่า?” เสี่ยวเฮยติดตามอวิ๋นซิ่วชิงมาหนึ่งเดือนแล้ว ในความคิดของเขา เขาเป็นคนแรกที่ได้รับการยอมรับจากอวิ๋นซิ่วชิง และเป็นหน้าเป็นตาให้นางด้วย เขาจำได้เสมอว่าไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาก็ไม่สามารถทำให้อวิ๋นซิ่วชิงอับอายได้ แต่วันนี้อวิ๋นซิ่วชิงเลือกเสี่ยวเที่ยวและอาเต๋าเป็นผู้ช่วย ซึ่งหมายความว่าเขายังทำได้ไม่ดีพอและทำให้อวิ๋นซิ่วชิงต้องอับอาย
“เป็นไปได้อย่างไร? เสี่ยวเฮยจะทำให้ข้าลำบากใจได้อย่างไร?” อวิ๋นซิ่วชิงพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว พร้อมกันนั้นก็สัมผัสศีรษะของเสี่ยวเฮยด้วยความรัก
“ถ้าอย่างนั้นพี่สาว ข้าเป็นคนไร้ประโยชน์มากเลย ข้ายังจำสมุนไพรสามชนิดไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” เสี่ยวเฮยตั้งใจที่จะเป็นคนที่มีประโยชน์ให้อวิ๋นซิ่วชิง ตั้งแต่วันแรกที่อวิ๋นซิ่วชิงถูกจับตัวไป เขาก็ตระหนักได้ว่าตัวเองไร้ประโยชน์
อวิ๋นซิ่วชิงไม่คาดคิดว่าเสี่ยวเฮยจะอ่อนไหวขนาดนี้ นางปลอบใจเสี่ยวเฮยทันที “เสี่ยวเฮยมีประโยชน์ที่สุดนะ เมื่อก่อนเจ้ายังเป็นอันธพาลตัวน้อยอยู่เลย นอกจากนี้พี่สาวกำลังรอให้เสี่ยวเฮยมาสอบเป็นบัณฑิตอันดับหนึ่งอยู่นะ เมื่อเสี่ยวเฮยกลายเป็นบัณฑิตอันดับหนึ่ง พาข้าไปเที่ยวเล่นในเมืองหลวงด้วยนะ ข้าไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนเลย”
เมื่อได้ยินสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงพูด เสี่ยวเฮยก็รู้สึกดีขึ้นมา ในสายตาของนาง เขาไม่ได้ไร้ประโยชน์สินะ
เสี่ยวเฮยกระโดดลงจากเก้าอี้ไม้มายืนอยู่ตรงหน้านาง และพูดอย่างหนักแน่นว่า “พี่สาว ข้าจะตั้งใจเรียนและจะทำให้ได้รับการยอมรับเป็นบัณฑิตอันดับหนึ่งนะ”
“ตกลง ข้าจะรอเจ้า” อวิ๋นซิ่วชิงลูบผมของเสี่ยวเฮยด้วยความรัก “ตอนนี้ก็ดึกแล้ว เสี่ยวเฮยกลับห้องไปนอนเถอะ”
“พี่สาวก็เข้านอนเร็ว ๆ ด้วยนะ ช่วงนี้น้ำหนักท่านลดไปเยอะเลย” เสี่ยวเฮยรู้สึกเสียใจเมื่อเห็นว่านางมีงานยุ่งในช่วงนี้
บทที่ 588 ความสงสัยในตัวเอง
“เด็กดี” อวิ๋นซิ่วชิงยิ้มและลูบหัวเสี่ยวเฮยอีกครั้ง จากนั้นจึงส่งเด็กชายกลับไปที่ห้อง เมื่อเขากลับไปที่ห้องแล้ว และนางกำลังจะพักผ่อน ทันใดนั้นหญิงสาวก็เห็นว่าเชิงเทียนในห้องของผูเว่ยชางยังเปิดอยู่
จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อนางตื่นขึ้นในตอนเช้า นางมักจะเห็นแสงสว่างในห้องของผูเว่ยชาง ทำให้นางรู้สึกผิดขึ้นมา แม้ว่านางจะเหนื่อยมากในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แต่ผูเว่ยชางเหนื่อยกว่าเมื่อเทียบกับนาง เขาไม่เพียงต้องดูสมุดบัญชีของทั้งสามร้านเท่านั้น แต่ยังต้องช่วยนางจ่ายยาและทำความสะอาดร้านทุกวันด้วย นางแค่นั่งรักษาคนไข้แล้วก็สั่งยา ส่วนที่เหลือทั้งหมดนั้นผูเว่ยชางทำคนเดียว
ในเวลาเดียวกัน ผูเว่ยชางกำลังเขียนจดหมาย เขาได้ตรวจสอบบัญชีของทั้งสามร้านแล้ว มันมีเพียงสามใบและใช้เวลาไม่นานนัก เขายุ่งจนถึงเที่ยงคืนเพื่อจัดการกับสิ่งยุ่งยากที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็เท่านั้น
“ผูเว่ยชางหลับหรือยัง?” อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกว่าในฐานะเจ้านาย นางควรจะไปเยี่ยมลูกน้องบ้าง ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับนาง ผูเว่ยชางไม่ได้พูดง่ายเหมือนเพื่อนหรือลูกน้อง
เมื่อผูเว่ยชางได้ยินเสียงของอวิ๋นซิ่วชิง เขาก็เก็บจดหมายที่เพิ่งเขียนไปและนำสมุดบัญชีที่อ่านในวันนี้ออกมา จากนั้นเขาก็เปิดประตูและถามว่า “ชิงเหนียง ทำไมเจ้ายังไม่นอน?”
“เสี่ยวเฮยเพิ่งมาหาข้าน่ะ ข้าเพิ่งส่งเด็กกลับไปที่ห้อง” อวิ๋นซิ่วชิงยืนอยู่หน้าประตูของผูเว่ยชาง หญิงสาวเห็นว่าเขายังสวมชุดสีดำของเมื่อตอนกลางวันอยู่
“ข้างนอกมันหนาวนะ เข้ามาสิ” ผูเว่ยชางหลบไปด้านข้างให้อวิ๋นซิ่วชิงเข้ามา
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้อง ทันทีที่เข้ามา หญิงสาวก็เห็นสมุดบนโต๊ะ นางขมวดคิ้วและพูดว่า “มันดึกมากแล้ว เจ้ายังอ่านบัญชีอยู่หรือ?”
“ใกล้จะเสร็จแล้วน่ะ สองวันมานี้ร้านเราไปได้สวยเลยนะ” ผูเว่ยชางเทชาร้อนให้อวิ๋นซิ่วชิง
อวิ๋นซิ่วชิงจิบชาและแสร้งเอ่ยด้วยสีหน้าผ่อนคลาย “เราเปิดแค่สามร้านเอง จริง ๆ แล้วเราไม่ต้องรีบตรวจบัญชีก็ได้นะ เอาไว้ดูตอนว่าง ๆ ก็ได้”
“กว่าเจ้าจะได้มันมานะก็ยากนะ จะทำแบบลวก ๆ ไม่ได้ ข้าต้องดูให้เจ้า นอกจากนี้นี่คือสิ่งที่ข้าควรทำ ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่สมควรได้รับเงินที่เจ้าให้ข้าหรอก” ผูเว่ยชางนั่งลงตรงหน้าอวิ๋นซิ่วชิง เขารู้ว่าหญิงสาวกำลังห่วงใยเขา ซึ่งมันทำให้หัวใจของผูเว่ยชางรู้สึกอบอุ่น
“เจ้าไม่ต้องทำงานหนักขนาดนั้นก็ได้ เจ้าควรพักผ่อนเมื่อถึงเวลาพักผ่อน อายุยังน้อย ไม่ดีหรอกที่จะต้องเหนื่อย” อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกอุ่นใจที่เห็นว่าผูเว่ยชางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยนางในทุก ๆ วัน
“ไม่ ข้ารู้” ผูเว่ยชางไม่อยากให้อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกผิด เขาจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อ “ชิงเหนียง เสี่ยวเฮยต้องการพบเจ้าเรื่องอะไร?”
เมื่อได้ยินคำถามของผูเว่ยชาง ความสนใจของอวิ๋นซิ่วชิงก็เปลี่ยนไปในทันที “วันนี้เขาไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ช่วย เพราะคิดว่าตัวเองไร้ความสามารถและทำให้ข้าอับอาย ดังนั้นเขาจึงมาขอโทษข้า”
“ผูเว่ยชาง เจ้าคิดว่าที่ข้าทำวันนี้ถูกต้องหรือเปล่า? ข้าไม่ควรเลือกเด็ก ๆ มาเป็นผู้ช่วยหรือเปล่า? ข้าพยายามหว่านความขัดแย้งระหว่างพวกเขาหรือเปล่านะ? ตอนนี้ข้ารู้สึกเสียใจขึ้นมาเลย” เมื่อนึกถึงใบหน้าที่รู้สึกผิดของเสี่ยวเฮย อวิ๋นซิ่วชิงก็รู้สึกแย่มาก และเริ่มสงสัยว่าสิ่งที่นางทำในวันนี้ถูกต้องหรือไม่
“ชิงเหนียง เจ้าไม่ต้องโทษตัวเองหรอก วันนี้เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลย” เมื่อเห็นสีหน้าสำนึกผิดของอวิ๋นซิ่วชิง ผูเว่ยชางก็พยายามปลอบนาง
อวิ๋นซิ่วชิงเอนตัวลงบนโต๊ะอย่างอ่อนแรง และเงยหน้าขึ้นมองผูเว่ยชาง “จริง ๆ รึ?”
“แน่นอนว่าจริง เจ้าต้องการให้พวกเขาเป็นคนที่มีประโยชน์ในอนาคต สิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่ตอนนี้คือการบังคับให้พวกเขาขยันและก้าวหน้า” ชายหนุ่มกลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะไม่เชื่อคำพูดนี้ เขาจึงพูดอย่างจริงจัง
นางเห็นว่าเด็ก ๆ ดูเหมือนจะทะเลาะกันและไม่ยอมแพ้ก็พลันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะสีหน้าจริงจังของผูเว่ยชาง นางคงสงสัยว่าเขาล้อเล่นไปแล้ว