ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 585+586 ล้อมกรอบ / การเลือกผู้ช่วยโรงหมอ
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 585+586 ล้อมกรอบ / การเลือกผู้ช่วยโรงหมอ
บทที่ 585 ล้อมกรอบ
ช่วงบ่ายผ่านไปอย่างรวดเร็ว และมีคนมาโรงหมอน้อยลงเรื่อย ๆ อวิ๋นซิ่วชิงจึงได้มีโอกาสหายใจหายคอขึ้นมาบ้าง หลังจากสั่งยาให้ผู้ป่วยรายสุดท้ายแล้ว หญิงสาวรีบลุกขึ้นยืนและยืดเอว ถ้านางนั่งที่นี่อีกสิบวันครึ่งเดือน นางจะต้องเป็นโรคหมอนรองกระดูกแน่นอน
อวิ๋นซิ่วชิงนวดเอวแล้วมาที่โต๊ะด้านหน้า เมื่อเห็นว่าผูเว่ยชางคว้าวัสดุยาสำหรับผู้ป่วยอย่างชำนาญ หญิงสาวพลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
หลังจากส่งผู้ป่วยคนสุดท้ายออกไปแล้ว ชายหนุ่มก็หันไปถามอวิ๋นซิ่วชิงอย่างอ่อนโยน “เจ้าเหนื่อยไหม? ให้ข้านวดเอวให้นะ”
อวิ๋นซิ่วชิงหน้าแดงกับท่าทางอ่อนโยนของเขา และพูดอย่างอาย ๆ ว่า “ไม่ล่ะ ขอบคุณ ข้ารู้สึกสบายใจกว่าถ้าทำเองน่ะ เจ้าเองก็คงเหนื่อยมาก เพราะงั้นไปพักผ่อนเถอะ”
ผูเว่ยชางรู้ว่าอวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกอาย เขาจึงไม่บังคับนาง “ชิงเนียง ข้าเห็นชายร่างผอมคนหนึ่งเข้ามาเมื่อบ่าย แต่เจ้าไม่ได้สั่งยาให้เขา”
“เจ้าหมายถึงชายที่ชื่อฉางเซิง? ข้าอยากช่วยเขานะ แต่เขาไม่ได้อยากมีชีวิตอยู่ แล้วทำไมข้าต้องเปลืองแรงด้วย” อวิ๋นซิ่วชิงตรวจคนไข้ราว ๆ ยี่สิบสามสิบคนตลอดช่วงบ่าย สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือฉางเซิง
“เจ้ามีวิธีรักษาวัณโรคปอดหรือไม่?” ผูเว่ยชางถามด้วยความประหลาดใจ ปกติคนที่เป็นวัณโรคปอดจะถูกตัดสินประหารชีวิต ซึ่งเป็นโรคที่รอวันตายเท่านั้น
“ข้ามีวิธี ข้ารักษาโรคได้ทุกโรค นับประสาอะไรกับวัณโรคปอด” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างใจเย็น
“ใช่ เจ้าพูดถูก” ผูเว่ยชางชมเชยอวิ๋นซิ่วชิงทันที
เมื่อได้ยินคำชมของเขา อวิ๋นซิ่วชิงก็ยิ้มและพูดว่า “พูดเรื่องนี้ข้าก็ไม่เข้าใจ ทำไมฉางเซิงต้องมาพบข้าเพื่อรับการรักษา ทั้งทีเขาไม่ต้องการมีชีวิตอยู่”
“ชิงเหนียง ข้าคิดว่าฉางเซิงกำลังพยายามใส่ร้ายโรงหมอของเรา” ผูเว่ยชางคิดว่าอวิ๋นซิ่วชิงฉลาดมาก โชคดีที่นางไม่ได้สั่งยาให้ฉางเซิง มิฉะนั้นโรงหมอของพวกเขาจะถูกใส่ร้าย
“ทำไมเจ้าพูดอย่างนั้น?” นางไม่รู้จักฉางเซิง ไม่มีความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างพวกเขา แล้วทำไมฉางเซิงถึงจะต้องใส่ร้ายนาง?
“ตอนบ่าย ข้าพบว่าฉางเซิงไม่มีใบสั่งยาตามที่เจ้าสั่ง ข้าจึงตามฉางเซิงออกจากโรงหมอไป และทันทีที่ข้าออกจากโรงหมอ ข้าเห็นลูกน้องของฮัวเอ๋อร์” ผูเว่ยชางบอกอวิ๋นซิ่วชิงว่าตนเห็นอะไรเมื่อบ่ายวันนี้ เขาเชื่อว่านางต้องคิดออก
“คนของหญิงแก่นั่น? ฉางเซิงต้องรับสินบนนางเพื่อวางยาในโรงหมอของเราแน่เลย” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวด้วยความโกรธเคือง
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงโกรธ ผูเว่ยชางก็ลูบผมของนางแผ่วเบา “อวิ๋นซิ่วชิง โชคดีที่เจ้าไม่ได้สั่งยาให้ฉางเซิงนะ”
“โชคดีจริง ๆ ถ้าข้าสั่งยาให้ฉางเซิง แล้วฉางเซิงไม่กินยาของข้า แต่กินยาพิษแทน และตายหน้าร้านของเรา เรื่องนี้เราจะไม่อาจพิสูจน์ได้เลย”
อวิ๋นซิ่วชิงมีความคิดที่จะจัดการหญิงชราฮัวเอ๋อร์
นางเพิ่งเปิดโรงหมอไม่กี่วัน และทันทีที่ความฝันของนางเป็นจริง หญิงชราคนนั้นก็เตรียมวางแผนใส่ร้ายนางแล้ว นางไม่อยากช่วยก็คือไม่อยากช่วยสิ
“ฉางเซิงนั้นโง่เขลามากนัก เขาไม่คิดจริงจังกับโรคของตนเองเลย” ผูเว่ยชางพูดพลางขมวดคิ้ว
“เขารู้อยู่แล้วว่าเขากำลังจะตาย ก่อนที่เขาจะตาย เขาสามารถหาเงินจากแม่มดเฒ่านั่นได้” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวอย่างเหยียดหยาม
“ดูเหมือนว่าเราต้องระวังมากขึ้น คราวนี้เป็นฉางเซิง เราไม่รู้ว่าใครจะเป็นรายต่อไป” ผูเว่ยชางพูดเพื่อให้ระวังหญิงชรา แต่ในใจเขาต้องการทำลายซ่องชุนโหลว นางกล้าคิดร้ายกับอวิ๋นซิ่วชิงได้อย่างไร? นางไม่รู้ว่ากำลังต่อสู้กับความตายสินะ
อวิ๋นซิ่วชิงไม่รู้ว่าผูเว่ยชางกำลังคิดอะไร แต่แม้ว่านางจะถูกหญิงแก่คนนั้นไล่ต้อน นางก็ไม่นึกเสียใจที่ไม่ได้รักษาโรคให้ อีกฝ่ายสมควรได้รับมันแล้ว
บทที่ 586 การเลือกผู้ช่วยโรงหมอ
หลังจากพักผ่อนอยู่พักหนึ่ง อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางกำลังจะกลับไปที่ลานบ้าน เมื่อประตูกำลังจะปิด หญิงสาวก็ได้นำวัตถุดิบบางอย่างกลับมาด้วย
เวลานี้อาหารเย็นพร้อมแล้ว ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางเข้ามา พวกเขาก็เริ่มกินทันที หลังอาหารเย็นหญิงสาวจึงเรียกเด็ก ๆ มารวมตัว
อวิ๋นซิ่วชิงถอนหายใจขณะมองดูเด็ก ๆ ที่นางเลี้ยงดูมา พวกเขาเหมือนเสี่ยวเฮยตอนที่มาที่นี่เป็นครั้งแรก ทั้งหมดล้วนผอมแห้งและหน้าตาหมองคล้ำ แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดสูงขึ้น มีเลือดฝาดบนใบหน้า ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังดูดีและกระฉับกระเฉง
“เด็ก ๆ ใครอยากเป็นผู้ช่วยของข้าบ้าง” อวิ๋นซิ่วชิงถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“พี่สาว ผู้ช่วยคืออะไรรึ?” สาวน้อยอาเต๋าถามอวิ๋นซิ่วชิงด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางไม่รู้จักผู้ช่วยมาก่อน จึงไม่รู้ว่าผู้ช่วยต้องทำอะไร
“ผู้ช่วยจะต้องคอยให้ยาแก่คนป่วยน่ะ เมื่อโตขึ้นก็สามารถเป็นหมอเพื่อช่วยชีวิตผู้คนได้นะ” นางอธิบายให้เด็ก ๆ ฟัง
“เป็นเหมือนพี่สาวหรือเปล่า?” ในขณะเดียวกัน เสี่ยวเที่ยวก็ถามอย่างกระตือรือร้น
“ใช่ เมื่อเจ้าโตขึ้น เจ้าสามารถรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คนได้เหมือนพี่สาวเลยนะ” อวิ๋นซิ่วชิงยกมือขึ้นแตะศีรษะเสี่ยวเที่ยวแล้วพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นข้าอยากเป็นผู้ช่วย ข้าอยากเป็นผู้ช่วย” ทันทีที่นางพูดจบ เด็กกว่ายี่สิบคนรอบ ๆ อวิ๋นซิ่วชิงก็โห่ร้องต้องการเป็นผู้ช่วยของนาง
อวิ๋นซิ่วชิงรีบลุกขึ้นและปลอบเด็กน้อย “ตอนนี้ข้าต้องการผู้ช่วยแค่สองคน ดังนั้นข้ามีคำถามจะถามนะ ก่อนอื่นพวกเจ้าทุกคนยืนเรียงแถวกันก่อนนะ”
เด็ก ๆ ยืนเรียงแถวกันทันทีและมองอวิ๋นซิ่วชิงอย่างตื่นเต้น อวิ๋นซิ่วชิงเปิดถุงกระดาษที่นางนำกลับมาจากโรงหมอ ในนั้นมีสมุนไพรทั่วไปอยู่ทั้งหมดสามชนิด
อวิ๋นซิ่วชิงวางมันลงบนโต๊ะต่อหน้าเด็ก ๆ ทีละชนิด “คำถามง่ายมาก ข้าจะบอกวัตถุดิบยาสามชนิดให้เจ้าฟัง และใครก็ตามที่จำได้มากที่สุดในหมู่พวกเจ้าจะได้เป็นผู้ช่วยของข้าในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นผู้ช่วยของข้า เจ้าไม่เพียงต้องไปโรงหมอกับข้าทุกวัน แต่ยังต้องไปเรียนกับอาจารย์หลี่ทุกวันเมื่อกลับมาด้วย เอาล่ะ ถ้าใครอยากเลิกก็เลิกได้นะ ข้าไม่บังคับ”
หลังจากได้ยินสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงพูด เด็ก ๆ ก็มองหน้ากันและไม่มีใครถอยหนี
อวิ๋นซิ่วชิงไม่คาดคิดว่าเด็ก ๆ จะใจกล้าขนาดนี้ “งั้นเรามาเริ่มกันเลย สมุนไพรตัวแรก ยาสลบ …” นางพูดชื่อต่าง ๆ นานา ซึ่งทำให้เด็ก ๆ ขมวดคิ้ว
“เอาล่ะ ข้าจะให้เวลาหนึ่งถ้วยชาแก่เจ้า จากนั้นยืนข้างข้าแล้วเริ่มท่องให้ข้าฟัง” อวิ๋นซิ่วชิงนั่งลงบนเก้าอี้ไม้และพูดอย่างเกียจคร้าน
“พี่สาวอวิ๋น ข้าไม่ต้องการเวลาหนึ่งถ้วยชา ข้าจะพูดเดี๋ยวนี้เลย” เสี่ยวเที่ยวกลัวจะลืมจึงรีบลุกออกไป
“เอาล่ะ งั้นขึ้นไปข้างบนกัน” อวิ๋นซิ่วชิงคิดกับตัวเองว่า เสี่ยวเที่ยวค่อนข้างฉลาด นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องดีหากเด็กน้อยจะเรียนรู้เรื่องการแพทย์
เสี่ยวเที่ยวรีบวิ่งไปหาอวิ๋นซิ่วชิงและท่องเสียงต่ำ หลังจากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ นางเพียงแค่โบกมือและปล่อยให้เขากลับไปที่กลุ่ม
อันที่จริงอวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เพียงแต่ฉลาดเท่านั้น แต่ยังมีความจำดีอีกด้วย เขาสามารถจดจำมันได้ทั้งหมดในคราวเดียว นี่เป็นคุณสมบัติของการเป็นหมอเชียวนะ
จากการเริ่มต้นของเสี่ยวเที่ยว เด็ก ๆ ก็ทยอยกันขึ้นมาทีละคน อวิ๋นซิ่วชิงพบเด็กอีกคนหนึ่งซึ่งมีพรสวรรค์ด้านหมอและเป็นเด็กผู้หญิง นั่นคืออาเต๋า สาวน้อยจำคุณสมบัติของสมุนไพรทั้งสามชนิดได้โดยไม่พลาดสักคำ และยังพูดได้อย่างราบรื่นไม่สะดุดใด ๆ
หลังจากฟังเด็กทั้งหมดแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็ยืนขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เด็ก ๆ ข้าได้เลือกแล้ว สองคนที่ข้าเลืกคือเสี่ยวเที่ยว และอาเต๋า จากนี้ไปเจ้าสองคนจะเป็นผู้ช่วยของข้า”