ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 517+518 อนาคตที่สดใส / ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 517+518 อนาคตที่สดใส / ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
บทที่ 517 อนาคตที่สดใส
“ยามห้าย[1]แล้ว” ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้ม
“ดึกแล้วหรือ? ทำไมข้าหลับไปนานจัง”
“เป็นเพราะเจ้าเหนื่อยเกินไปในระหว่างวันน่ะสิ” ผูเว่ยชางพูดด้วยความเป็นห่วง
“กลางวันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ นอนทั้งบ่าย ตอนเช้าก็ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ข้ากลับง่วงมาก” อวิ๋นซิ่วชิงไม่คาดคิดมาก่อนว่านางจะนอนนานจนเสียเวลาไปทั้งบ่าย
“วันนี้เจ้าเหนื่อยเกินไป เจ้าต้องพักผ่อนจริง ๆ ดูหน้าเจ้าสิ ไม่มีไขมันเลย” ผูเว่ยชางจำได้ว่าครั้งแรกที่เขาพบนาง นางเป็นสาวอวบอ้วน แต่แค่ไม่กี่วันนางก็ผอมลงเสียแล้ว
อวิ๋นซิ่วชิงยกมือขึ้นแตะใบหน้า นางพบว่ามันดูไม่มีเนื้อหนังมากนัก แต่นั่นก็ถูกต้องแล้ว “ว่าแต่ ท่านพ่อกับเด็กพวกนั้นอยู่ไหนหรือ?”
“พวกเขาหลับหมดแล้ว กินข้าวเถอะ อาหารจะเย็นแล้วนะ” เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงไม่กินอะไรเลยและได้แต่ถามไปเรื่อย ๆ ผูเว่ยชางจึงเร่งให้นางกินโดยเร็วที่สุด
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า ตอนนี้นางหิวมาก พอรู้ว่าท่านพ่อและเด็ก ๆ ของนางสบายดี นางจึงกินอิ่มท้องได้อย่างสบายใจ
หลังอาหารเย็น นางสัมผัสท้องที่นูนออกมาเพราะอาหาร แล้วจึงถอนหายใจ “รู้สึกดีที่อิ่ม”
ทันใดนั้นผูเว่ยชางจำได้ว่าเขาเคยเห็นอวิ๋นซิ่วชิงกินหน่อไม้ดิบบนภูเขา… เวลานั้นนางกินมันอย่างเอร็ดอร่อยเช่นกัน
“ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” อวิ๋นซิ่วชิงมองผูเว่ยชางด้วยความสับสน
ผูเว่ยชางส่ายหัว “ไม่มีอะไร ข้าแค่สงสัยว่าเจ้าจะเปิดร้านประเภทไหนน่ะ”
“ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะเปิดร้านหม้อไฟ คราวที่แล้วที่ข้าทำให้เจ้าลองกินเป็นยังไงบ้าง?” อวิ๋นซิ่วชิงมีความคิดที่จะเปิดร้านหม้อไฟ
“อร่อย แต่เผ็ดเกินไป” อาหารในหม้อมีรสชาติดี แต่หม้อไฟที่อวิ๋นซิ่วชิงปรุงนั้นเผ็ดมากจนตาของเขาถึงกับแดง
อวิ๋นซิ่วชิงเห็นด้วย นางจะทำอาหารเผ็ดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ จะกินได้อย่างไร “ง่ายมาก ทำไมเราไม่ทำซุปใสกันล่ะ ข้าจะทำซุปใสให้เจ้าลองชิม”
“ตกลง ข้าจะรอ” ผูเว่ยชางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“พรุ่งนี้ไปหาหยาหลางแล้วจัดการร้านให้เสร็จกันเถอะ” อวิ๋นซิ่วชิงเด็ดขาดอยู่เสมอ ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นเวลากลางคืน นางคงออกไปซื้อของแล้ว
“ข้าคิดว่าเราควรหาเถ้าแก่ก่อนนะ ไม่อย่างนั้นจำนวนคนในร้านอาจจะไม่เพียงพอ ถ้าชุ่ยยี่ เสี่ยวเฮย และพ่อเฒ่าอวิ๋นยังทำแบบนี้ต่อไป เสี่ยวเฮยและพ่อเฒ่าอวิ๋นได้น้ำหนักลดลงในเวลาไม่ถึงสามวันแน่” แท้จริงแล้วผูเว่ยชางไม่กังวลเกี่ยวกับชุ่ยยี่เลย เพราะชุ่ยยี่นั้นแข็งแกร่งอยู่แล้ว
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า ผูเว่ยชางพูดถูก พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องหาเถ้าแก่เท่านั้น แต่ยังต้องหาเสมียนด้วย เพราะนางยังวางแผนที่จะส่งเสี่ยวเฮยและเพื่อนของเขาไปที่โรงเรียน
“เอาล่ะ เราไปหาเถ้าแก่และคนงานกันก่อนแล้วกัน ข้าเกรงว่าชุ่ยยี่จะยุ่งเกินไป พ่อของข้าก็ต้องทำอาหารสำหรับทั้งครอบครัว เสี่ยวเฮยยังเด็กเกินไป ถึงจะมีคนเยอะมาก แต่ชุ่ยยี่ก็ยังยุ่งอยู่ดี” อวิ๋นซิ่วชิงเสนอ
ผูเว่ยชางพยักหน้าเห็นด้วย
“ผูเว่ยชาง ข้าคิดว่าอนาคตของเราสดใสแน่นอน”
“แน่นอน” และถึงแม้ว่าจะไม่สดใส เขาก็จะปูทางให้นางเอง
บทที่ 518 ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นสีหน้าแววตาของผูเว่ยชาง อวิ๋นซิ่วชิงก็ปิดปากเพื่อกลั้นหัวเราะทันทีและพูดอย่างจริงจังว่า “ข้าต้องการจ้างอาจารย์มาสอนเด็กเหล่านี้ด้วย ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่ได้ไปโรงเรียน”
“ทำไมเจ้าถึงมีความคิดเช่นนั้น?” ทุกวันนี้น้อยคนนักที่จะได้ไปโรงเรียน เขาอยากรู้ว่าอวิ๋นซิ่วชิงคิดอย่างไร
“การมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลเป็นเรื่องดี มันไม่มีประโยชน์สำหรับคนทั่วไปก็จริง แต่ข้าไม่ได้ขอให้เด็กเหล่านี้เป็นนักเรียนดีอันดับหนึ่งในโรงเรียน ข้าแค่ต้องการให้พวกเขาได้รู้ศัพท์ อ่านออก คิดตัวเลขได้ ไม่ถูกหลอกในภายภาคหน้า” อวิ๋นซิ่วชิงรู้ว่าคนโบราณบูชาด้านกำลัง แต่นางคิดว่าวรรณกรรมก็มีความสำคัญพอ ๆ กับศิลปะการต่อสู้
“งั้นพรุ่งนี้ไปหาอาจารย์หรือโรงเรียนกันเถอะ” ผูเว่ยชางจะสนับสนุนความคิดของอวิ๋นซิ่วชิงทั้งหมด
หลังจากคุยกับอวิ๋นซิ่วชิงสักพัก เขาก็ออกจากห้องไป
หลังจากผูเว่ยชางจากไป อวิ๋นซิ่วชิงก็เป่าเชิงเทียนและเข้าไปในมิติ นางเริ่มดื่มน้ำพุวิญญาณ อ่านหนังสือยาและเริ่มทำการทดลอง
หลังจากกลับมาที่ห้อง ผูเว่ยชางก็รีบเขียนจดหมายสองฉบับและให้ชุ่ยยี่นำไปส่ง จากนั้นเขาก็เริ่มทำงาน
อีกด้านหนึ่ง เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงออกไปจากห้องอีกครั้งก็เป็นเวลารุ่งสางแล้ว
เมื่อคืนนางหลับไปนานมาก นางจึงอยู่ในห้องทั้งคืน
แต่เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงกำลังจะกลับไปนอน จู่ ๆ นางก็ได้ยินเสียงจากนอกหน้าต่าง หญิงสาวเปิดหน้าต่างและมองไปยังทิศทางของเสียงเพียงเพื่อจะพบว่าพ่อของนางลุกขึ้นแล้ว และกำลังสับฟืนอยู่ในลาน
หลังจากลงไปข้างล่าง อวิ๋นซิ่วชิงทักทายทุกคนและเริ่มหางานทำ หลังจากเดินเตร็ดเตร่อยู่นาน นางก็ยังหางานไม่ได้ พอนางต้องการทำอาหาร พ่อเฒ่าอวิ๋นก็หาว่านางเกะกะและให้นางไปกวาดพื้นแทน แต่งานนั้นอีเหรินกำลังทำอยู่
“ชิงเหนียง ยังเช้าอยู่เลย เจ้ากลับห้องไปพักผ่อนดีกว่า” เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงกำลังงุนงงอยู่ในลานหญ้า ผูเว่ยชางก็คิดว่านางยังไม่ตื่นดีเท่าไหร่นัก
อวิ๋นซิ่วชิงไม่ปฏิเสธแล้ว นางตอบตกลงและเดินกลับไปที่ห้องของนางทันที
กลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่า
เพราะยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ และนางต้องเติมพลังเอาไว้
อวิ๋นซิ่วชิงตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะถูกปลุกโดยอีเหริน “แม่นางอวิ๋น อาหารเช้าพร้อมแล้ว พ่อของเจ้าขอให้ข้ามาปลุกเจ้าน่ะ”
อวิ๋นซิ่วชิงลุกจากเตียงและถามว่า “วันนี้เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง?”
“ข้าแค่รู้สึกว่าข้ามีพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ” อีเหรินพูดพร้อมกับรินน้ำหนึ่งแก้วให้อวิ๋นซิ่วชิง
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า ผลของน้ำพุวิญญาณนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่นางคาดไว้มาก สมุนไพรของนางไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนัก และต้องใช้เวลาอย่างน้อยเจ็ดวันจึงจะเห็นผล แต่ตอนนี้มันเห็นผลชัดเจน ไม่เพียงแต่อีเหรินจะมีชีวิตชีวามากขึ้นเท่านั้น แต่ผื่นแดงบนใบหน้าของอีกฝ่ายก็กำลังจะหายไปด้วย
“เจ้าจะฟื้นตัวได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปีแน่นอน” อวิ๋นซิ่วชิงพูดพลางตบไหล่อีเหริน
“จริงหรือ?” อีเหรินตกตะลึง
นางกำลังฝันอยู่หรือไม่? นางคิดเสมอว่าตัวเองสิ้นหวังแล้ว แต่อวิ๋นซิ่วชิงกลับบอกนางว่าสามารถช่วยได้ ในใจของนางมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ผื่นแดงบนใบหน้านางค่อย ๆ จางลง ตอนนั้นนางไม่กล้าคิดไปไกล เพราะกลัวว่าตัวจะคาดหวังมากเกินไป แต่ตอนนี้นางเชื่อใจอวิ๋นซิ่วชิงแล้ว
อวิ๋นซิ่วชิงยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “แน่นอน มันเป็นเรื่องจริง ข้าเคยโกหกเจ้าตอนไหนเล่า”
[1] ยามห้าย 亥 คือ เวลา 21.00 – 22.59 น.