ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 515+516 ระมัดระวัง / ความเชื่อใจ
บทที่ 515 ระมัดระวัง
“เจ้าเพียงแค่ต้องเอาใจใส่กับมันเท่านั้นเอง” อวิ๋นซิ่วชิงลูบหลังมืออีเหรินเบา ๆ
อีเหรินยิ้มตอบ นางเริ่มคิดถึงสิ่งที่นางใช้ ยิ่งคิดก็ยิ่งกินไม่ลง นางจึงรีบไปที่ลานบ้านและห้องครัวเพื่อเอาสิ่งที่นางใช้ในสองวันที่ผ่านมานี้กลับคืนมา
เมื่อมองดูสีหน้าท่าทางที่ระมัดระวังเหล่านั้น อวิ๋นซิ่วชิงก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
หลังอาหารเย็น อวิ๋นซิ่วชิง ผูเว่ยชาง พ่อเฒ่าอวิ๋น และคนอื่นๆ ต่างเลือกห้องและเริ่มเคลื่อนไหว ด้วยความช่วยเหลือจากกลุ่มเพื่อนตัวน้อย พวกเขาจึงสามารถย้ายของไปที่ห้องได้อย่างรวดเร็ว
อวิ๋นซิ่วชิงกลับไปที่ห้องใหม่ของนางและถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า ขณะที่กำลังจะหลับตาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา” อวิ๋นซิ่วชิงหรี่ตาและพูดอย่างอ่อนแรง
เมื่อผูเว่ยชางเปิดประตูเข้ามา เขาก็เห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงกำลังจะหลับแล้ว “เหนื่อยไหม? ให้ข้านวดไหล่ให้ดีหรือไม่?”
อวิ๋นซิ่วชิงกลอกตาไปที่เขาและพูดว่า “ไม่จำเป็น บอกข้ามาเถอะว่าเจ้าต้องการอะไร”
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงดูเหนื่อยมาก ผูเว่ยชางก็กลืนสิ่งที่กำลังจะพูดลงไป “ชิงเหนียง ถ้าเหนื่อยก็นอนเถอะ ตื่นมาแล้วเราค่อยคุยกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวิ๋นซิ่วชิงก็เบิกตากว้าง “นี่เจ้าไม่ได้ยินอะไรเลยรึไงเนี่ย?”
“เจ้าหมายถึงอะไร?” ผูเว่ยชางถามอย่างสับสน
“ถ้ามันไม่มีอะไรจริง ๆ เจ้าคงไม่มาหรอก เจ้ามาทิ้งท้ายไว้แบบนี้แล้วจะให้ข้าทำอย่างไร หรืออยากให้ข้าขาดอากาศหายใจตาย?” อวิ๋นซิ่วชิงแทบจะคำรามออกมา นางหลับไม่ลงแล้ว
ผูเว่ยชางกระแอมไออย่างงุ่มง่าม เขาแค่อยากให้นางหลับสบาย เขาไม่มีความคิดอื่นเลยจริง ๆ
“เร็วเข้า ถ้าพูดอะไรไม่สำคัญ ข้าจะฆ่าเจ้าทั้งเป็น” อวิ๋นซิ่วชิงจ้องมาที่เขา ก่อนจะลุกจากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ไม้
ผูเว่ยชางรู้ว่านางโกรธ ชายหนุ่มจึงรีบนวดไหล่ของนางเพื่อประจบประแจง เมื่อเห็นว่าสีหน้าของนางอ่อนลงมาก เขาจึงพูดช้า ๆ ว่า “ชิงเหนียง เจ้าจะเปิดโรงหมอหรือร้านค้าก่อนดี?”
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกสบายขึ้นมาทันทีเมื่อผูเว่ยชางนวดให้ นางจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ข้าอยากเปิดโรงหมอก่อน แต่ถ้าข้าเปิดโรงหมอ ข้าคงจะยุ่งเกินไป ดังนั้นข้าจึงคิดว่าจะเปิดร้านสักสองแห่งก่อน ถ้าเปิดร้าน ข้าจะให้เจ้าของร้านสองคนดูแลมัน แล้วข้าถึงจะเปิดโรงหมอ ถึงตอนนั้น ข้าจะดูแลโรงหมออย่างเต็มที่เลย”
“ชิงเหนียง ข้าหวังว่าเจ้าจะพาข้าไปด้วยตอนเปิดร้านนะ ข้าไม่มีเงินมากเท่าเจ้า แต่ทุกวันนี้ข้าทำเงินได้มากมายเพราะร้านผัก ข้าจะให้เจ้าทั้งหมด เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าค่อยแบ่งข้าหนึ่งต่อเก้า ข้าต้องการแค่หนึ่งส่วนเท่านั้น เจ้าคิดว่ายังไง?”
ผูเว่ยชางมีความคิดเช่นนั้นเพราะเขาต้องการติดตามอวิ๋นซิ่วชิงอย่างใกล้ชิด นางเป็นคนที่เขาชอบ และเขาจะปล่อยให้นางหนีไหนไปไม่ได้
อวิ๋นซิ่วชิงยกนิ้วให้เขา ผู้ชายคนนี้มีไหวพริบดีจริง ๆ
นางเป็นคนทันสมัย หมายถึงวิญญาณของนาง… ไม่ใช่เจ้าของร่างนี้
และนางสามารถทำเงินได้มากมาย “ไม่เลว เจ้าฉลาดมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?”
“ก็ตามที่ชิงเหนียงว่ามา ข้าต้องฉลาดอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นข้าจะช่วยเจ้าครองโลกได้อย่างไร?” ผูเว่ยชางพูดด้วยน้ำเสียงประจบประแจง ขณะที่มือก็คอยนวดไหล่ให้หญิงสาว
บทที่ 516 ความเชื่อใจ
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งกับคำพูดของเขา “ถึงเจ้าไม่พูด ข้าก็จะพาเจ้าไปด้วย ตอนนี้เราสองคนเป็นคู่หูที่ดีที่สุด แต่เจ้ายังแบ่งไปน้อยเกินไป ข้าจะให้เจ้ามากกว่านี้ ข้าเจ็ดส่วน เจ้าสามส่วน”
“ชิงเหนียง เจ้าให้ข้ามากเกินไปหรือเปล่า?” อันที่จริงเขาไม่ได้สนใจเรื่องเงินมากนัก หากไม่ใช่เพราะไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของเขาได้ เขาจะพานางไปที่บ้านของเขา ที่นั่นมันมีมากกว่าทองและเงินเสียอีก
“ไม่มาก ไม่น้อย เจ้าสมควรได้แล้ว นอกจากนี้ ข้ายังมีงานสำคัญให้เจ้า ต่อจากนี้ไป ไม่ว่าข้าจะเปิดกี่ร้าน เจ้าก็ต้องดูแลเงินทั้งหมดที่ได้มา เจ้าคิดอย่างไร?” นางพบว่าผูเว่ยชางจัดการบัญชีได้ดีมาก ดังนั้นนางจึงวางแผนที่จะขอให้เขาจัดการเงินให้นางตั้งแต่แรก
“ตราบใดที่ข้าทำได้ ข้าจะทำอะไรก็ได้ แต่เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเอาเงินของเจ้าไปหมดหรือ?” ผูเว่ยชางมีความสุขมากที่อวิ๋นซิ่วชิงเชื่อใจเขา ตอนนี้พวกเขาสองคนดูเหมือนคู่รัก อวิ๋นซิ่วชิงสนใจแต่เรื่องการหาเงิน ส่วนเขาสนใจแต่เรื่องการเก็บเงิน
“ข้าไม่กลัว ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนแบบไหน อีกอย่าง พระหนีได้ แต่วัดหนีไม่ได้[1]” อวิ๋นซิ่วชิงไว้ใจผูเว่ยชางมาก พวกเขาอยู่ด้วยกันมานานและไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็ดีกับนางเสมอ
ผูเว่ยชางพยักหน้าเห็นด้วย แม้ว่าเขาจะหนีไปไกล แต่ในใจของเขามีเพียงคนคนเดียวเท่านั้นคืออวิ๋นซิ่วชิง
“ชิงเหนียง เจ้าจะเปิดร้านแบบไหน?” ผูเว่ยชางถามแผ่วเบา พลางนวดไหล่ให้นาง
ลมหายใจสม่ำเสมอของอวิ๋นซิ่วชิงแสดงให้เห็นว่าการนวดเป็นไปด้วยดี นางสบายมากเสียจนในที่สุดนางก็ทนไม่ได้ และค่อย ๆ หลับตาลง
ผูเว่ยชางไม่คิดว่านางจะหลับไปแบบนี้ เขาหัวเราะและยกมือขึ้นเกาปลายจมูกของนาง ดูเหมือนว่าวันนี้นางจะเหนื่อยมากสินะ
ในความฝัน อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกว่ามีคนแตะจมูกของนาง นางยกมือขึ้นตีมันและบ่นว่า “อย่าแตะต้องข้า”
เมื่อได้ยินเสียงบ่นของอวิ๋นซิ่วชิง ผูเว่ยชางก็ยิ้มและคิดว่า ‘นางน่ารักขนาดนี้ได้อย่างไร’ ในที่สุดหลังจากชื่นชมนางเป็นเวลานาน เขาก็อุ้มนางไปที่เตียง ห่มผ้านวมให้แล้วเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงลืมตาขึ้นอีกครั้งฟ้าก็มืดแล้ว นางลุกจากเตียงแล้วสะดุดเก้าอี้ไม้ถึงสองครั้งก่อนจะพบกับเชิงเทียน
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงจุดเชิงเทียน นางก็ได้ยินเสียงเคาะประตูและเสียงสอบถามจากผูเว่ยชาง “ตื่นแล้วหรือ?”
“ข้าตื่นแล้ว” อวิ๋นซิ่วชิงขยี้ตาแล้วเปิดประตูให้ผูเว่ยชาง
“เจ้าหิวไหม? ข้าเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว”
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า “ข้าหิว” ทันทีที่นางพูดจบ ท้องของนางก็ร้องดังขึ้นมา
ผูเว่ยชางหัวเราะเบา ๆ “รอก่อนนะ ข้าจะไปเอาอาหารมาให้”
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า
หลังจากนั้นไม่นาน ผูเว่ยชางก็นำอาหารมาให้
“เร็วเข้า มันยังร้อนอยู่” เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ด้วยความงุนงง ผูเว่ยชางจึงรีบเร่งให้นางทานอาหาร
“โอ้” อวิ๋นซิ่วชิงตอบรับด้วยความงุนงง จากนั้นนางก็หยิบชามกับตะเกียบขึ้นมาและเริ่มกิน
หลังจากกัดไปเพียงไม่กี่คำ อวิ๋นซิ่วชิงก็หยุดและเงยหน้าขึ้นถามออกมา “ตอนนี้กี่โมงแล้ว ผูเว่ยชาง?”
[1] พระหนีได้ แต่วัดหนีไม่ได้ หมายถึง แม้จะหนีไประยะหนึ่ง แต่ก็ยังหนีไม่ได้เพราะปัจจัยพัวพันอื่น ๆ