ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 513+514 การพบเห็นครั้งแรก / กระจายข่าว
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 513+514 การพบเห็นครั้งแรก / กระจายข่าว
บทที่ 513 การพบเห็นครั้งแรก
“พวกเรารู้ว่าทำผิด” เสี่ยวเฮยเอ่ยพลางก้มศีรษะ
ผูเว่ยชางเห็นดังนั้นก็เดินมานั่งยอง ๆ ตรงหน้าเด็กน้อยแล้วพูดว่า “ข้าเพิ่งบอกไปไงล่ะ ว่าเจ้าสองคนทำได้ดีมาก ครั้งหน้าเมื่อผู้หญิงสองคนนี้มาอีก เจ้าต้องทำเช่นเดิม เข้าใจไหม?”
ถ้ามู่เชียนเชียนกับหลี่ฟู่หลานได้ยินว่าผูเว่ยชางสอนเสี่ยวเฮยและเสี่ยวเที่ยวเช่นนี้ พวกนางคงจะโกรธจนเป็นบ้าแน่
“เข้าใจแล้ว” เสี่ยวเฮยเกาหัว ปรากฏว่าผูเว่ยชางไม่ได้โกรธเขา
ผูเว่ยชางยิ้มและตบไหล่เสี่ยวเฮยเบา ๆ “ไปกันเถอะ เพื่อน ๆ ของเจ้าอยู่ครบแล้ว รีบไปเจอพวกเขาสิ”
“จริงหรือ?” เสี่ยวเฮยตาเป็นประกาย
“จริง พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่ลานบ้านแล้ว เร็วเข้า”
เสี่ยวเฮยและเสี่ยวเที่ยวจึงรีบวิ่งไปที่ลานบ้าน
ผูเว่ยชางลงไปที่ห้องใต้ดินโดยไม่สนใจมู่เชียนเชียนและหลี่ฟู่หลานที่อยู่หน้าร้าน เขาหยิบจานดี ๆ ออกมา จากนั้นก็ปิดประตูหลังแล้วไปที่ลานบ้าน
อวิ๋นซิ่วชิงกำลังช่วยพ่อเฒ่าอวิ๋นอยู่ในครัว ส่วนชุ่ยยี่และอีเหรินกำลังซักผ้าให้เด็ก ๆ
เมื่อผูเว่ยชางมาถึง เขาก็ตรงเข้าไปในครัวทันที
หญิงสาวถามผูเว่ยชางว่า “เกิดอะไรขึ้นที่ร้านหรือ?”
“ไม่มีอะไรหรอก มันอยู่นอกร้านน่ะ” ผูเว่ยชางไม่ต้องการพูดถึงผู้หญิงประสาทสองคนนั้น
อวิ๋นซิ่วชิงเห็นสีหน้าของผูเว่ยชางก็เดาได้ว่าคงเป็นเรื่องน่าขยะแขยง มีคนไม่มากนักที่ทำให้ชายหนุ่มคนนี้นึกเกลียดชังได้
ก็คงจะเป็นหญิงสองคนนั้นนั่นแหละ
“ผูเว่ยชาง เจ้าก็เป็นซะแบบนี้ แล้วเจ้าจะถูกใจหญิงใดเป็นพิเศษได้ยังไง ดูมู่เชียนเชียนและหลี่ฟู่หลานสิ พวกนางตกหลุมรักเจ้าตั้งแต่แรกเห็นเชียว” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างอิจฉา
“อืม ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ” เมื่อได้ยินอวิ๋นซิ่วชิงพูดเช่นนั้น ผูเว่ยชางก็รู้ว่านางไม่พอใจ เขาจึงเออออไปกับนาง
“ข้าคิดว่าเว่ยชางหล่อนะ ไม่เหมือนเหยียนเกอ” พ่อเฒ่าอวิ๋นที่กำลังทำอาหารอยู่ข้าง ๆ ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของอวิ๋นซิ่วชิง ผูเว่ยชางดูดีมาก โดยเฉพาะดวงตาของเขา
อวิ๋นซิ่วชิงแทบสำลักเพราะคำพูดของพ่อเฒ่าอวิ๋น นางหัวเราะเบา ๆ และถามด้วยความสงสัย “เหยียนเกอนี่ยังไงกันแน่?”
“พูดตามตรง เขาเหมือนผู้หญิงเล็กน้อย ทั้งผอมและอ่อนแอ” พ่อเฒ่าอวิ๋นส่ายหัว แม้ว่าเขาจะหล่อ แต่ถ้าเขาไม่ชอบ อีกฝ่ายก็ไม่สามารถเป็นลูกเขยของเขาได้
อวิ๋นซิ่วชิงคิดอยู่พักหนึ่งและพบว่าคิ้วของเหยียนเกอค่อนข้างเหมือนผู้หญิงจริง ๆ มันบางกว่าคิ้วของผูเว่ยชางมาก แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังไม่ยอมรับว่าผูเว่ยชางหน้าตาดี
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูที่นอกลาน อวิ๋นซิ่วชิงจึงสั่งผูเว่ยชางให้ออกไปดูทันที
ผูเว่ยชางวางงานในมือลงและออกไป ซึ่งคนที่มาคือช่างตัดเสื้อที่เป็นชายชรา แม้ว่าเขาจะแก่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ตาบอดหรือหูหนวก ขาและเท้าของเขาว่องไว ชายหนุ่มจึงรีบพาช่างตัดเสื้อเข้าไปในห้องและวัดขนาดตัวของเด็ก ๆ ทันที
หลังจากช่างตัดเสื้อจดขนาดทั้งหมดแล้ว เขาก็พูดว่า “นายท่าน มีข้อกำหนดอื่นอีกหรือไม่?”
“ท่านกู่ ตอนนี้เป็นฤดูหนาวแล้ว ขอสีเข้มขึ้นและหนาขึ้นด้วย และขอเสื้อผ้าสองชุดให้เด็กแต่ละก่อน ส่วนเสื้อผ้าสำเร็จรูปอีกสี่สิบชุดค่อยส่งมาภายหลัง ถ้าเป็นไปได้ ข้าหวังว่าเราจะร่วมมือกันได้นาน ๆ นะ” ผูเว่ยชางกล่าวอย่างสุภาพ
“ได้ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวข้าจะให้คนเอามาให้” เมื่อชายชราได้ยินถึงความร่วมมือในระยะยาว เขาก็ยิ้มออกมา เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำสั่งซื้อมากมายเช่นนี้
“ขอบคุณมาก” จากนั้นผูเว่ยชางก็ไปส่งชายชรา
เมื่อผูเว่ยชางกลับไปที่ห้องครัวอีกครั้ง เขาก็เห็นเสี่ยวเฮยยืนอยู่ตรงหน้าอวิ๋นซิ่วชิงด้วยท่าทางเขินอาย
“เสี่ยวเฮย เจ้าต้องการพูดอะไร เจ้าดูเหมือนเด็กผู้หญิงเลยนะ” อวิ๋นซิ่วชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าขี้อายของเสี่ยวเฮย
รอยยิ้มของอวิ๋นซิ่วชิงทำให้เสี่ยวเฮยหน้าแดง เขาพูดด้วยความเขินอายว่า “พี่สาว ข้าอยากย้ายเข้ามาอยู่ด้วย”
บทที่ 514 กระจายข่าว
“เจ้าอยากอยู่กับเพื่อน ๆ หรือ?” อวิ๋นซิ่วชิงถามด้วยรอยยิ้ม
“พี่สาว ไม่ต้องห่วง แม้ว่าข้าจะอยู่ที่นี่ แต่ข้าจะไม่ลืมทำงานแน่นอน” เสี่ยวเฮยรีบสัญญา
“งั้นก็ย้ายมาที่นี่ก็ได้” อวิ๋นซิ่วชิงวางแผนที่จะให้เสี่ยวเฮยอาศัยอยู่ที่นี่อยู่แล้ว มีเด็กมากมายที่นี่ และเสี่ยวเฮยคงมีความสุขมากที่ได้อยู่ที่นี่
“ตอนนี้เสี่ยวเฮยก็มาแล้ว ข้าเองก็อยากย้ายมาที่นี่เหมือนกันนะ” พ่อเฒ่าอวิ๋นรีบพูด
อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างหมดหนทาง “ท่านพ่อ ท่านแน่ใจนะว่าจะย้ายมาที่นี่ มีเด็กหลายคนที่นี่ เวลานอนอาจส่งผลต่อการพักผ่อนของท่านนะ”
“แน่นอนสิ ข้ามั่นใจ เสี่ยวเฮยออกไปแล้ว เจ้าอยากให้พ่อเห็นหน้าแต่พวกผู้ใหญ่รึ?” อันที่จริงชายชราชอบเด็กมาก เนื่องจากหมิงเซียวแต่งงานไปสองสามปีแล้วแต่เขาก็ยังไม่มีลูก ส่วนอวิ๋นซิ่วชิงก็ยังไม่มีทีท่าจะออกเรือน จึงเป็นการดีกว่าถ้าเขาจะเลี้ยงเด็กเหล่านี้เหมือนเลี้ยงหลาน
“ถ้าอย่างนั้น เราก็ย้ายมาที่นี่เลยเถอะ ยังไงมันก็อยู่ใกล้ร้านและดูแลได้ง่าย อีกอย่าง ที่นี่มีห้องหลายห้อง เราน่าจะอาศัยอยู่ที่นี่ได้” อวิ๋นซิ่วชิงเสนอ
“เป็นความคิดที่ดีนะ” พ่อเฒ่าอวิ๋นกล่าวพร้อมยกช้อนขนาดใหญ่ในมือขึ้นแสดงการเห็นด้วย
“ผูเว่ยชาง เจ้าคิดอย่างไร?” อวิ๋นซิ่วชิงเงยหน้าขึ้นและขอคำแนะนำจากเขา
“ข้าเห็นด้วยกับเจ้า เจ้ามีความคิดที่ดี” ผูเว่ยชางกล่าว เขาไม่สนใจมากนัก ตราบใดที่เขาอยู่กับอวิ๋นซิ่วชิงก็เพียงพอแล้ว
เมื่อได้ยินคำชม อวิ๋นซิ่วชิงก็หน้าแดงและกระแอมไอออกมา “นั่นสิ เราจะเก็บของและย้ายมาที่นี่หลังอาหารเย็นแล้วกัน”
เวลานี้เกือบเที่ยงแล้ว
ทั้งเนื้อไก่ เป็ด ปลา และอื่น ๆ ถูกวางลงบนโต๊ะยาว บังเอิญว่าเสื้อผ้าที่เพิ่งสั่งตัดนั้นได้ส่งมาที่นี่แล้ว อวิ๋นซิ่วชิงจึงช่วยเด็ก ๆ ใส่เสื้อผ้าตัวใหม่
เมื่อเด็ก ๆ สัมผัสเสื้อผ้าอย่างระมัดระวัง ดวงตาของอวิ๋นซิ่วชิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที นางต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินและดูแลเด็กเหล่านี้ดี ๆ ให้ได้
หลังจากที่เด็ก ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็ขอให้พวกเขาไปที่ห้องโถงเพื่อรับประทานอาหารเย็น นางเติมอาหารในชามแล้วนั่งที่โต๊ะยาวกับเด็ก ๆ พวกเขาทานอาหารเย็นกันอย่างมีความสุข
อีเหรินนั่งถัดจากอวิ๋นซิ่วชิงพร้อมกับชามข้าวในมือ อวิ๋นซิ่วชิงคีบอาหารให้อีเหรินแล้วพูดว่า “มาเถอะ กินมากกว่านี้หน่อย ร่างกายของเจ้าต้องการสารอาหารมากกว่านี้นะ”
หญิงสาวพยักหน้าด้วยความงุนงงและเงยหน้าขึ้นมองห้องโถงที่มีชีวิตชีวา นางกัดริมฝีปากและพูดว่า “แม่นางอวิ๋น แต่ข้าจะย้ายออกไป”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวิ๋นซิ่วชิงก็ตกตะลึง นางกลืนอาหารเข้าปากอย่างรวดเร็วและเลิกคิ้วขึ้น “อะไรนะ?”
อีเหรินก้มหน้าลงและพูดว่า “ข้าอยากย้ายออก”
“เป็นอะไรไป? เจ้าไม่ชอบเด็กพวกนี้หรือ?” อวิ๋นซิ่วชิงถามอย่างสับสน เพราะเมื่อครู่นางเห็นว่าอีเหรินอ่อนโยนกับเด็กพวกนี้มาก
“ไม่ ไม่ ข้าชอบพวกเขามาก แต่ข้ากลัวอาการเจ็บป่วยของข้า” เสียงของนางต่ำลงเรื่อย ๆ “เจ้าก็รู้อาการป่วยของข้า… ข้ากลัวที่จะแพร่เชื้อให้กับเด็ก ๆ เหล่านี้ ข้าไม่อยากทำลายพวกเขา”
อวิ๋นซิ่วชิงถอนหายใจพลางยื่นมือไปทัดผมที่หูให้อีกฝ่าย “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เจ้าดูแลตัวเองได้ พวกเขาก็จะไม่ติดเชื้อ”
“จริง ๆ หรือ?” นางอยากอยู่กับเด็กเหล่านี้ และนางไม่อยากแยกจากไปคนเดียว
“แน่นอนว่าเป็นความจริง โรคนี้ติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ และมันจะถ่ายทอดจากแม่สู่ลูก หรือการถ่ายทอดทางเลือดและทางน้ำลาย เพราะฉะนั้น ห้ามให้ตัวเองเลือดออก พวกชามและตะเกียบที่ใช้แล้ว รวมถึงถ้วยและสิ่งของที่สัมผัส ทุกอย่างพวกนี้ต้องแยกออกจากเด็ก ๆ”
หญิงสาวพยักหน้าอย่างจริงจังและพูดว่า “ข้าจะระวัง พวกเขาจะไม่ได้แตะต้องสิ่งของที่ข้าใช้แน่นอน”