ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 507+508 ขอคำแนะนำ / เจ้าของบ้านตัวน้อย
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 507+508 ขอคำแนะนำ / เจ้าของบ้านตัวน้อย
บทที่ 507 ขอคำแนะนำ
ผูเว่ยชางพอใจกับชุ่ยยี่มากจนเขาแทบจะตบรางวัลอีกฝ่าย
“ผูเว่ยชาง ข้ายังอยากจะเปิดโรงทานและรับเด็กกำพร้าเหล่านั้นด้วย สิ่งที่เจ้าพูดในวันนั้น ข้าคิดเรื่องนี้มานานแล้ว ข้าไม่ได้เปิดโรงทานเพื่อการกุศลหรือเพื่อคำขอบคุณ ข้าแค่อยากทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น” อวิ๋นซิ่วชิงตั้งใจที่จะเปิดโรงทานทันทีที่นางได้ยินว่าเสี่ยวเที่ยวบอกว่าซาลาเปาอร่อยและอยากกินอีกครั้ง
“ได้สิ ถ้าอยากทำก็ทำเลย ข้าจะสนับสนุนเอง” ไม่ว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะทำอะไร เขาก็จะคอยสนับสนุนนาง
อวิ๋นซิ่วชิงคงคิดว่าผูเว่ยชางจะให้คำแนะนำกับนางได้บ้าง แต่นางไม่คิดว่าเขาจะสนับสนุนนางมากขนาดนี้ แต่เขาก็เป็นแบบนี้มาตลอดไม่ใช่หรือ?
“ข้าต้องการให้ขอทานเหล่านั้นอาศัยอยู่ในลานบ้านที่ข้าซื้อไว้ด้านหลัง ที่นั่นมีห้องมากมาย น่าจะเพียงพอ เจ้าคิดอย่างไร?”
“ได้นะ แต่เจ้าต้องจ้างพ่อครัว มีคนมากมายขนาดนั้น ลุงอวิ๋นทำอาหารคนเดียวไม่ได้หรอก” ผูเว่ยชางเสนอ
“เอาไว้ขอให้หยาหลางหาให้แล้วกัน” อวิ๋นซิ่วชิงกระตือรือร้นที่จะทำสิ่งดี ๆ อย่างมาก
เมื่อมองดูความเลือดร้อนของอวิ๋นซิ่วชิง ผูเว่ยชางก็เตือนล่วงหน้า “แต่ว่านะชิงเหนียง ถ้าเจ้าต้องการเปิดโรงทานจริง ๆ หนึ่งพันตำลึงทองของเจ้าคงไม่พอ”
“ข้ารู้ ข้าหาทางออกได้ ข้าจะหางานให้พวกเขาแต่ละคน เมื่อพวกเขาได้เงินมากพอ ข้าจะปล่อยพวกเขาไป” อวิ๋นซิ่วชิงคิดเรื่องนี้อยู่หลายวัน และในที่สุดก็เกิดความคิดดี ๆ ได้
“เป็นความคิดที่ดีนะ แต่มีร้านไม่มากที่จะเต็มใจใช้คนที่เคยเป็นขอทานน่ะสิ” ผูเว่ยชางกล่าว
“ง่ายมาก เรามีหนึ่งพันตำลึงทองไม่ใช่หรือ? เราจะเปิดร้านด้วยห้าร้อยตำลึงทองก่อน ถ้าเราไม่เปิดสาขาใหม่ เราก็จะเปิดร้านอื่นแทน เราจะมีร้านที่ต้องดูแลแค่สามร้านได้ยังไง? เราใช้คนของเราก็ได้ แล้วเราจะให้เงินพวกเขาทุกเดือน” ถ้าคนอื่นไม่ต้องการใช้งานขอทาน นางก็จะใช้เอง
ผูเว่ยชางคิดพบว่านางมีความคิดที่ดี “ทำตามที่เจ้าบอกเถอะ ในกรณีนี้ ตีเหล็กในขณะที่ยังร้อนอยู่ย่อมดีกว่า เรามาลงมือกันเลย”
“ได้ งั้นวันนี้ปิดร้านอาหารเถอะ เราจะเริ่มทำวันนี้เลย ผูเว่ยชาง เราจะแยกกันไปนะ เจ้าไปเรียกชุ่ยยี่ และข้าจะขอให้พ่อช่วยเราเรื่องลาน” อวิ๋นซิ่วชิงยืนขึ้นทันที
จากนั้นทั้งสองก็ออกจากห้องไปพร้อมกัน และหญิงสาวก็ตรงไปที่ห้องของพ่อเฒ่าอวิ๋น
ขณะที่พ่อเฒ่าอวิ๋นกำลังงีบหลับ ลูกสาวก็เดินมาปลุก
“ท่านพ่อ ท่านต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อลูกสาวของท่านแล้ว” อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อนึกถึงสิ่งที่นางกำลังจะทำ
“เกิดอะไรขึ้น?” พ่อเฒ่าอวิ๋นเพิ่งตื่นขึ้นก็รู้สึกวิงเวียน
“ท่านพ่อ ข้าอยากเปิดโรงทาน ข้าอยากจะพาขอทานทั้งหมดไปยังที่แห่งหนึ่งและช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่มีความสุข ท่านพ่อ ท่านคิดว่าสิ่งที่ข้าทำเป็นเรื่องใหญ่ไหม?” อวิ๋นซิ่วชิงจับมือพ่อของนางไว้
พ่อเฒ่าอวิ๋นไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่นางพูด “มันเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ มีขอทานมากมายบนถนนเชียวนะ แล้วจะให้พวกเขาไปอยู่ที่ไหน?”
“บ้านใหม่ที่เราซื้อมานั้นไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีหลายห้อง น่าจะเพียงพอที่จะทำให้คนเหล่านั้นอยู่ได้ ท่านพ่อ ท่านจะช่วยข้าไหม?”
พ่อเฒ่าอวิ๋นไม่ได้คัดค้านการทำความดีของนาง ทำดีย่อมดีอยู่แล้ว ทำไมเขาถึงต้องคัดค้าน? แต่เขารู้สึกสงสัยบางอย่าง
“ชิงเหนียง เจ้ามีเงินเยอะขนาดนี้เลยหรือ?”
บทที่ 508 เจ้าของบ้านตัวน้อย
ราวกับอวิ๋นซิ่วชิงเกือบถูกฟ้าผ่าตายเพราะคำพูดของพ่อเฒ่าอวิ๋น นางดูจนมากเลยหรือ?
“ท่านพ่อ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่? ถ้าข้าไม่มีเงินจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?”
“ชิงเนียง เจ้ามีเงินเท่าไหร่?” ชายชราเคยตรวจสอบบัญชีของร้านอวิ๋นผูซึ่งพบว่าทำเงินได้มากมาย แต่มันถูกแบ่งเท่า ๆ กันเป็นสองส่วน โดยแบ่งเป็นของอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชาง
“ท่านพ่อ ทำไมไม่มีความมั่นใจเลยเล่า ลูกสาวท่านดูน่าสงสารเกินไปหรือ?” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงน้อยใจ หรือเป็นเพราะนางไม่ค่อยแต่งตัวหรือใช้เงินมากเกินไปหรือ?
“เจ้าดูไม่ยากจนนะ เหตุผลหลักคือธุรกิจเจ้าทำแค่ธุรกิจเล็ก ๆ ทำเงินได้ไม่มาก ถ้าเอาไปทุ่มกับโรงทาน พ่อกลัวเจ้าจะรับไม่ไหว” ชายชราย่อมเต็มใจให้อวิ๋นซิ่วชิงทำสิ่งดี ๆ และเต็มใจช่วยเหลือลูกสาวมาก แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้ลูกสาวทำเรื่องดี ๆ แต่เป็นหนี้ได้
อวิ๋นซิ่วชิงหัวเราะ ปรากฏว่าพ่อของนางกลัวว่านางจะทนไม่ได้ขึ้นมาหากไม่มีเงิน
“ท่านพ่อ ข้าหาเงินได้มากมาย เมื่อสองสามวันก่อน ข้าไปหารักษาคนไข้กับผูเว่ยชางใช่ไหม? นั่นเป็นตระกูลใหญ่เชียวนะ พวกเขาให้หนึ่งพันตำลึงทองและโสมร้อยปีแก่ข้า ท่านว่าอย่างไร? ลูกสาวท่านรวยมากไม่ใช่หรือ?”
เมื่อพ่อเฒ่าอวิ๋นได้ยินคำว่าหนึ่งพันตำลึงทองก็ตกตะลึง
ในครานั้น เพื่อที่จะจ่ายหนี้การพนันหนึ่งพันตำลึงทองของอวิ๋นหมิงเซียว แม้ตระกูลอวิ๋นจะเป็นครอบครัวใหญ่ในหมู่บ้านในเวลานั้น แต่พวกเขาไม่สามารถจ่ายได้แม้แต่หนึ่งพันตำลึงทอง และตอนนี้อวิ๋นซิ่วชิงมีทองคำมากมาย และยังเป็นเจ้าของบ้านขนาดเล็ก
“ท่านพ่อ ท่านมีความสุขมากเลยหรือ?” อวิ๋นซิ่วชิงมองไปที่พ่อของนางแล้วหัวเราะ
“ชิงเหนียง เจ้าสุดยอดมาก!” พ่อเฒ่าอวิ๋นมีความสุขมาก ลูกสาวของเขามีอนาคตที่สดใสแล้ว
เมื่อได้ยินคำชม อวิ๋นซิ่วชิงก็หรี่ตาลงด้วยรอยยิ้ม “ท่านพ่อ ช่วยข้าหน่อยสิ”
“แน่นอน ข้าควรช่วยเจ้า เจ้าเป็นลูกสาวของข้า ถ้าข้าไม่ช่วยเจ้า ข้าควรจะช่วยคนนอกหรือ?”
พ่อเฒ่าอวิ๋นรีบสวมรองเท้าและเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ไปล้างหน้าเถอะ ข้าจะปลุกเสี่ยวเฮยขึ้นมาแล้วค่อยบอกเขาน่ะ” จากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็ไปที่ห้องของเสี่ยวเฮยอย่างรวดเร็ว
เมื่อนางมาถึงห้องของเสี่ยวเฮย เด็กชายตัวน้อยก็ยังคงหลับอยู่ นางตบแขนของเสี่ยวเฮยเบา ๆ และเรียกเขาสองครั้ง
เสี่ยวเฮยลืมตาด้วยความงุนงง และเขาก็เห็นอวิ๋นซิ่วชิงนั่งอยู่ขอบเตียง เขาถามด้วยความงุนงงว่า “พี่สาว ทำไมมาที่นี่ มีแขกหรือ?”
อวิ๋นซิ่วชิงลูบผมนุ่ม ๆ ของเสี่ยวเฮยแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่มีแขกหรอก แต่เสี่ยวเฮย เจ้าต้องตื่นแล้ว เจ้ามีงานต้องรับผิดชอบบ่ายนี้ ต้องดูแลร้านไม่ให้ขโมยเข้ามา และก็ต้องดูแลเสี่ยวเที่ยวด้วย เรามีเรื่องต้องทำและออกไปข้างนอกน่ะ”
ทันทีที่เสี่ยวเฮยได้ยินว่าพวกเขาจะออกไปข้างนอก ความง่วงของเขาก็หายไปในทันที “ถ้าอย่างนั้น พ่อเฒ่าอวิ๋นไปด้วยหรือ? ชุ่ยยี่ด้วยหรือเปล่า?”
“ใช่ เราทุกคนต้องไป”
“พี่สาว ท่านจะทำอะไร?” เสี่ยวเฮยรู้ว่าทุกครั้งที่อวิ๋นซิ่วชิงออกไป ถ้าไม่กลับมาพร้อมผูเว่ยชางก็เป็นชุ่ยยี่ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาจะออกไปด้วยกัน
“เราจะพาเพื่อนของเสี่ยวเฮยทั้งหมดมาที่นี่ เจ้าจะได้เจอเพื่อนของเจ้าทุกวัน เสี่ยวเฮยไม่มีความสุขหรือ?” อวิ๋นซิ่วชิงถามอย่างอ่อนโยน
เสี่ยวเฮยตะลึงไปครู่หนึ่งและพยักหน้าอย่างมีความสุข แม้ว่าเขาจะมีชีวิตที่ดี แต่เขาก็อยากอยู่กับเพื่อนของเขาด้วย ทุกครั้งที่เขาเห็นเพื่อนตัวน้อยขอทานข้างถนน เขาก็รู้สึกเศร้าใจมาก
“พี่สาว จริงหรือ?” เสี่ยวเฮยถามอย่างตื่นเต้น
“แน่นอน มันเป็นเรื่องจริง ข้าจะโกหกเสี่ยวเฮยทำไม? เสี่ยวเฮยดูแลเสี่ยวเที่ยวและดูแลร้านให้ดีนะ แล้วข้าจะกลับมา”
“อย่ากังวลไปเลยพี่สาว ข้าจะจับตาดูร้านและเสี่ยวเที่ยวให้เอง” เสี่ยวเฮยให้คำมั่นอย่างมีความสุข