ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 489+490 ไปสะสางปัญหาของอีเหริน / อวิ๋นซิ่วชิงกลายเป็นชายรูปงาม
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 489+490 ไปสะสางปัญหาของอีเหริน / อวิ๋นซิ่วชิงกลายเป็นชายรูปงาม
บทที่ 489 ไปสะสางปัญหาของอีเหริน
อีเหรินจำสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงพูดได้ขึ้นใจและไม่กล้าที่จะลืม
อวิ๋นซิ่วชิงตรวจร่างกายอีเหรินอีกครั้ง และเนื่องจากกลัวว่าอีกฝ่ายจะจำข้อปฏิบัติไม่ได้ นางจึงจดข้อห้ามทั้งหมดใส่กระดาษและมอบให้อีเหริน…
เมื่ออีเหรินมองไปที่อวิ๋นซิ่วชิงซึ่งไม่มีท่าทีรังเกียจ ดวงตาของนางก็แดงก่ำจนแทบจะร้องไห้ออกมา
นี่เป็นแสงเดียวที่นางเห็นในรอบสิบแปดปีนับตั้งแต่ที่นางเกิดมา…
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเงยหน้าขึ้นก็เห็นอีเหรินกำลังเช็ดน้ำตาป้อย ๆ
อวิ๋นซิ่วชิงถามอย่างสับสนว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า? เจ้าเจ็บไหม”
หญิงสาวส่ายหัว ก่อนจะกลั้นน้ำตาแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่เจ็บเลย แม่นางอวิ๋น ขอบคุณเจ้ามาก!”
อวิ๋นซิ่วชิงยิ้มและตบหลังมือของนาง “เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก นี่คือสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว”
อีเหรินพยักหน้า ถ้านางโชคดีพอที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป นางต้องตอบแทนอวิ๋นซิ่วชิงแน่นอน
เมื่อมองไปที่อีเหรินที่ผอมแห้ง อวิ๋นซิ่วชิงก็ถามอย่างเป็นกังวลว่า “อีเหริน งานเดิมของเจ้าจัดการง่ายไหม? เจ้าต้องการให้ข้าช่วยเจ้าหรือเปล่า?”
“ข้าไม่สบาย แต่แม่เล้าก็ยังให้ข้ารับแขกอีก” อีเหรินขมวดคิ้ว
อวิ๋นซิ่วชิงเองก็ขมวดคิ้ว แม่เล้าสามารถทำทุกอย่างเพื่อเงิน นางไม่เชื่อว่าแม่เล้าจะยอมปล่อยอีเหรินไปง่าย ๆ
แม้ว่าอีเหรินจะมีผื่นแดงเพราะอาการของโรคดอกฝิ่นอยู่บ้าง แต่นางก็เป็นสาวงามคนหนึ่ง…
“งั้นข้าจะไปกับเจ้าเอง ข้าเป็นห่วงเจ้า” อวิ๋นซิ่วชิงก็ประสบปัญหาบางอย่างในเวลานี้ และเป็นโอกาสดีที่นางจะได้ออกไปเที่ยวเล่นให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวนี้คลายลงบ้าง
“ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นความคิดที่ดีนะ เพราะที่ซ่องนั้น คนนอกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป นอกจากนี้ แม่นางอวิ๋นยังงดงามและดูสูงส่งมาก เจ้าควรอยู่ให้ห่างจากสถานที่สกปรกนั้นจะดีกว่า”
ในสายตาของนาง อวิ๋นซิ่วชิงเป็นเหมือนดอกบัวที่ปราศจากโคลนตม
“ข้าสามารถปลอมเป็นผู้ชายได้ ข้าไม่คิดว่าข้าสูงส่งอะไรหรอก” อวิ๋นซิ่วชิงเป็นทั้งคนที่มีดีมีเลวเช่นกัน นางจะเป็นนางฟ้านางสวรรค์เมื่อนางมีเมตตาเท่านั้น แต่เมื่อนางโกรธ นางก็ไม่ต่างจากปีศาจเลยแม้แต่น้อย
“รอข้าด้วย ข้าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้” จากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็เดินออกไปพร้อมกับกระดาษในมือ
อวิ๋นซิ่วชิงตรงกลับไปที่ห้องพักของนางในโรงหมอ
เวลานี้เหยียนเกอได้จัดเตรียมอาหารไว้แล้ว เขาเพิ่งได้ยินจากผู้ช่วยโรงหมอว่าอวิ๋นซิ่วชิงอยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงรีบขอให้ผู้ช่วยโรงหมอแจ้งครัวเพื่อเตรียมอาหาร
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเข้ามาในห้อง เขาก็ต้อนรับนางด้วยรอยยิ้ม “ชิงเหนียงมาทานอาหารกัน แม่ครัวของข้ามีอาหารใหม่ ๆ มาให้ลองชิม!”
“ไม่ ข้าไม่มีอารมณ์” ขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงพูด นางก็กระชับกระดาษในมือแล้วพูดว่า “นี่คือใบสั่งยาล่าสุดสำหรับโรคดอกฝิ่น!”
เขารับมันไปอย่างรวดเร็วด้วยดวงตาที่เป็นประกายและแทบจะหลั่งน้ำตา
“เหยียนเกอ ข้าขอยืมชุดของเจ้าหน่อย?”
เหยียนเกอได้ยินแล้วก็ตกตะลึง “มีอะไรหรือชิงเหนียง?”
“ไม่มีอะไร ช่วงนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี” อวิ๋นซิ่วชิงนั่งประคองศีรษะด้วยมือข้างเดียวและพูดอย่างไร้อารมณ์
“อารมณ์ไม่ดี?” เหยียนเกอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับอวิ๋นซิ่วชิง ปกติผูเว่ยชางจะมารับนางตอนเที่ยง แต่วันนี้ผูเว่ยชางไม่ปรากฏตัวด้วยซ้ำ
“ผูเว่ยชางอยู่ไหน? ทำไมวันนี้ไม่มารับเจ้า ทะเลาะกันหรือเปล่า?” เหยียนเกอถามด้วยความสงสัย
เมื่อได้ชื่อของชายคนนั้น อวิ๋นซิ่วชิงก็รู้สึกหงุดหงิดและพูดอย่างกระวนกระวายใจว่า “เราไม่ได้ทะเลาะกัน แล้วตกลงเจ้าจะให้เสื้อผ้าข้าไหม?!”
“อยู่นี่ไง” เขารีบผงกหัวแล้วเดินไปจัดเตรียมให้ทันที
“ว่าแต่ชิงเหนียง เจ้าจะไปไหน ข้าหาเสื้อผ้าให้เจ้าแล้ว ถ้าเจ้าอยากออกไปนอกเมือง ข้าจะหาเสื้อผ้าหนา ๆ ให้เจ้า”
“ข้าจะไป ‘ซ่องชุนโหลว’”
เหยียนเกอได้ยินแล้วก็ถึงกับสะดุดด้วยเท้าซ้ายและล้มลงกับพื้นด้วยเท้าขวา
“ไม่เป็นไร ๆ” จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินเข้าไปในห้องด้านใน เขาหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะดุดตาที่เขามักจะใส่
เขาอยากให้ผูเว่ยชางได้ลิ้มรสของความรู้สึกขมขื่นหรือเป็นผู้แพ้เสียบ้าง!
…
บทที่ 490 อวิ๋นซิ่วชิงกลายเป็นชายรูปงาม
เมื่อมองดูเสื้อผ้าสีแดงที่เหยียนเกอเอามาให้ อวิ๋นซิ่วชิงก็แทบจะสำลักน้ำลาย “ใส่ได้ไหม สีสดเกินไปหรือไม่?”
“เจ้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังจะไปไหนสินะ มันคือซ่องชุนโหลว ถ้าเจ้าไม่แต่งตัวแบบนี้ ซ่องชุนโหลวจะไม่ยอมให้เจ้าเข้าไปแน่!”
อวิ๋นซิ่วชิง ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเหยียนเกอคืออะไร แต่นางคิดว่ามันดูมีเหตุผล
ในที่สุดอวิ๋นซิ่วชิงก็กัดฟันและสวมชุดสีแดงที่เหยียนเกอจัดมาให้ นางสงสัยว่าเขาไปซ่องชุนโหลวบ่อยหรือไม่ หรือทำไมเขาถึงมีชุดแบบนี้
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงเดินออกมาในชุดเสื้อผ้าของเขา เหยียนเกอก็จับจ้องไปที่นางทันที
บัดนี้อวิ๋นซิ่วชิงผู้งามพิศได้กลายเป็นชายรูปงามเสียแล้ว
“เหยียนเกอ เจ้าไปซ่องชุนโหลวบ่อยไหม?” อวิ๋นซิ่วชิงถามด้วยความอยากรู้
เขาพูดด้วยความขยะแขยงว่า “ทำไมข้าถึงต้องไปที่สกปรกแบบนั้น? มีแต่โรค!”
หญิงสาวรู้สึกสับสน ถ้าเขาไม่ไปซ่องชุนโหลว แล้วจะมีเสื้อผ้าแบบนี้ได้อย่างไร?
อวิ๋นซิ่วชิงกลับไปที่ห้องของนางอีกครั้ง อีเหรินตกใจกับชุดของนางมาก “แม่นางอวิ๋น ชุดของเจ้าสีสดเกินไปหรือเปล่า?”
“แต่คนที่ไปซ่องชุนโหลวมักจะใส่ชุดแบบนี้ แต่เจ้าอย่าเรียกข้าว่าแม่นางอวิ๋น เปลี่ยนวิธีเรียกข้าเถอะ” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างเฉยเมย
หญิงสาวผงกหัวด้วยความงุนงง มีบางคนแต่งตัวเช่นนี้ไปซ่องชุนโหลวจริง ๆ แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อวิ๋นซิ่วชิงในเวลานี้กลับดูหล่อเหลา และนางก็อดไม่ได้ที่จะมองอวิ๋นซิ่วชิงอีกสองสามครั้ง
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเดินออกจากโรงหมอ การกระทำของนางก็ถูกจับตามองโดยผูเว่ยชางที่อยู่ในร้านใกล้เคียง
เนื่องจากอวิ๋นซิ่วชิงถูกลักพาตัวไปครั้งล่าสุด เขาจึงส่งองครักษ์ลับมาปกป้องนางอย่างลับ ๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่าข่าวที่เขากลัวจะมาถึง และมันทำให้เขาโกรธมากจริง ๆ!
ผูเว่ยชางวางแผนที่จะขอให้อวิ๋นซิ่วชิงสงบสติอารมณ์ในเที่ยงนี้ เขาจึงไม่ได้ไปรับนางที่โรงหมอ แต่เขาไม่คิดว่านางจะไปที่ซ่องชุนโหลวในชุดของผู้ชาย ซึ่งนั่นทำให้เขาทนไม่ได้
ทั้งสองคนมาถึงซ่องชุนโหลว เวลานี้ที่นี่เงียบสงบเป็นอย่างมาก…
“ซ่องชุนโหลวไม่ต้อนรับแขกในเวลากลางวัน” อีเหรินอธิบาย
“โอ้สวรรค์! ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมพักผ่อน เจ้าไปไหนมา?!!”
ขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงและอีเหรินกำลังจะมองหาแม่เล้า ทันใดนั้นพวกนางก็ได้ยินเสียงแหลมดังมาจากชั้นบน
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกขนลุกไปทั่วร่าง
“พี่ฮัว ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวิ๋นซิ่วชิงก็เข้าใจว่าเจ้าของเสียงแหลมนั้นคือแม่เล้าของที่นี่ และผู้คนในซ่องชุนโหลวก็เรียกนางว่า ‘พี่ฮัว’
“งั้นไปที่ห้องข้าเถอะ” แม่เล้ากล่าวอย่างเฉยเมย
จากนั้นนางก็พาคนทั้งคู่ขึ้นไปชั้นบนและเข้าไปในห้องพักของแม่เล้า
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเข้าไปในห้องของแม่เล้า นางก็แทบสำลักตายเพราะกลิ่นที่ตลบอบอวล พื้นห้องนี้เต็มไปด้วยสีชาดและแป้งที่กระจายไปทั่ว