ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 333+334 ไปโรงหมอเหยียนเกอ/ตอนนี้ใครคืออาจารย์กันแน่
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 333+334 ไปโรงหมอเหยียนเกอ/ตอนนี้ใครคืออาจารย์กันแน่
บทที่ 333 ไปโรงหมอเหยียนเกอ
อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่านางตื่นเช้ามาก แต่นางไม่คิดว่าทุกคนจะตื่นกันหมดแล้ว แม้แต่เสี่ยวเฮยก็ลุกขึ้นมาทำความสะอาดร้าน
นางรู้สึกอายจึงพูดว่า “เจ้าสามคนตื่นเช้าจัง”
ผูเว่ยชางเงยหน้าขึ้นมองอวิ๋นซิ่วชิงด้วยรอยยิ้ม “ชิงเหนียง เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม?”
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า “ข้านอนหลับฝันดี”
เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ไม่ส่งผลต่อการนอนหลับของนาง ผูเว่ยชางจึงรู้สึกโล่งใจ “มากินอาหารเช้ากันเถอะ”
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากับพวกเขาแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็เก็บเครื่องมือทางการแพทย์ของนางและกำลังจะกลับไปที่โรงหมอของเหยียนเกอ นางต้องการที่จะเดินไปที่นั่นด้วยตัวเอง แต่ผูเว่ยชางยืนยันที่จะส่งนางไปที่นั่นด้วยตัวเอง
หญิงสาวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอให้เขาไปส่งนางที่โรงหมอเหยียนเกอ
“ผูเว่ยชาง เจ้าจะมาเป็นคนขับรถม้าให้ข้าหรือ?” อวิ๋นซิ่วชิงพูดด้วยรอยยิ้มขณะนั่งอยู่บนแคร่หน้ารถม้า
“นั่นเป็นเกียรติของข้า” ผูเว่ยชางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
อวิ๋นซิ่วชิงหน้าแดงกับคำพูดของเขา ‘ช่างพูดคำหวานอะไรอย่างนี้!’
โรงหมออยู่ไม่ไกลจากร้านของอวิ๋นซิ่วชิง ผูเว่ยชางขับรถม้าอย่างช้า ๆ และไม่นานก็มาถึงโรงหมอ
ทว่าก่อนที่อวิ๋นซิ่วชิงจะลงจากรถม้า ชายหนุ่มก็บอกอวิ๋นซิ่วชิงว่า “ตอนเที่ยงข้าจะมารับเจ้า…”
อวิ๋นซิ่วชิงรู้ว่าผูเว่ยชางเป็นคนแบบไหน ถ้านางไม่ตกลง เขาจะไม่จากไป นางจึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ก็ได้”
ผูเว่ยชางเฝ้าดูอวิ๋นซิ่วชิงเดินเข้าไปในโรงหมอจึงค่อยขับรถม้าออกไป
ชายหนุ่มไม่อยากละสายตาจากนาง แต่นั่นคือสิ่งที่นางชอบทำ เขาไม่อาจขังนางไว้ได้
สิ่งที่เขาต้องการก็คือ ตราบเท่าที่อวิ๋นซิ่วชิงมีความสุข เขาก็มีความสุขไปกับนางด้วย…
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเข้าไปในห้องยา เจ้าของร้านก็ต้อนรับนางอย่างอบอุ่น ซึ่งทำให้อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เจ้าของร้านรู้จักอวิ๋นซิ่วชิงและรู้ว่านางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายท่านของเขา
“แม่นางอวิ๋น เจ้ากำลังมองหานายท่านอยู่หรือไม่?” เจ้าของร้านถามยิ้ม ๆ
“ใช่ เขาอยู่ที่นี่หรือเปล่า” อวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้บอกเหยียนเกอก่อนที่นางจะมาที่นี่ หากไม่เจอเหยียนเกอ ก็เท่ากับนางมาเสียเที่ยว
“อยู่ขอรับ ท่านเหยียนอยู่ที่สวนหลังบ้าน” เจ้าของร้านตอบและพาอวิ๋นซิ่วชิง ไปที่สวนหลังบ้าน
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเดินตามเจ้าของร้านไปที่สวนหลังบ้าน นางก็เห็นเหยียนเกอสวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีขาวยืนอยู่ในศาลาและเล่นอยู่กับนกแก้ว
เหยียนเกอกำลังเล่นกับนกแก้วที่มีหญ้าแห้งเหี่ยวอยู่ในมือ ดังนั้นตอนนี้เขาไม่ได้ยินเสียงใดไปชั่วขณะ
“นายท่าน แม่นางอวิ๋นมาแล้ว!!” เจ้าของร้านดินเข้าไปในศาลาและกล่าวด้วยความเคารพ
เหยียนเกอกำลังเบื่อ เมื่อได้ยินคำของเจ้าของร้าน จึงหันไปมองอวิ๋นซิ่วชิงที่ยืนอยู่นอกศาลา
นางโบกมือแล้วพูดว่า “เหยียนเกอ!!”
เขาต้อนรับอวิ๋นซิ่วชิงอย่างเร่งรีบ “ในที่สุดเจ้าก็มา ชิงเหนียง”
เมื่อได้ยินดังนั้น อวิ๋นซิ่วชิงก็ยิ้มและพูดว่า “ข้ามาได้เพราะบังเอิญจ้างคนมาช่วยที่ร้านเมื่อวานนี้ พวกเขาช่วยแบ่งเบางานให้ข้าได้มาก”
“เช่นนั้นไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปดูหญ้าฝรั่นที่ข้าซื้อมา”
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้าและไปที่ห้องโถงกับเหยียนเกอ ทันทีที่เขานั่งบนที่นั่งหลักและโบกมือ สาวใช้คนสวยก็ปรากฏตัวขึ้น เหยียนเกอบอกให้สาวใช้หยิบหญ้าฝรั่นมาให้ทันที
หลังจากสาวใช้จากไป อวิ๋นซิ่วชิงก็เลิกคิ้วขึ้นและกล่าวว่า “พูดจริง ๆ นะ เจ้าเป็นคนไม่มีระเบียบ แต่สาวใช้ของเจ้าสวยมาก”
“คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่ปี แน่นอนว่าพวกเราต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า” เหยียนเกอหัวเราะ
อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าเหยียนเกอมีคุณสมบัติที่ดีเช่นกัน เขาหล่อ เก่งเรื่องการแพทย์ และยังรวย
หากอยู่ในยุคปัจจุบัน เขาย่อมถือว่าเป็นขาทองคำที่สาว ๆ ทั้งหลายคงอยากจะกอดเอาไว้
สายตาของเหยียนเกอถูกดึงดูดโดยกล่องไม้บนไหล่ของอวิ๋นซิ่วชิง
หากอวิ๋นซิ่วชิงวางกล่องไม้ไว้ข้าง ๆ เขาจะไม่สงสัยเลย แต่เนื่องจากนางแบกมันไว้บนหลังของนางตลอดเวลา เหยียนเกอจึงสงสัย “ชิงเหนียง มีอะไรอยู่ในกล่องไม้ของเจ้า? ทำไมเจ้าถึงดูระมัดระวังมาก?”
…
บทที่ 334 ตอนนี้ใครคืออาจารย์กันแน่?
เมื่อสักครู่ อวิ๋นซิ่วชิงได้แต่สนใจแต่สาวใช้แสนสวยที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขา และลืมไปว่านางยังคงแบกภาระอันใหญ่หลวงเช่นนี้
อวิ๋นซิ่วชิงหยิบกล่องไม้เล็ก ๆ ออกมาด้วยรอยยิ้ม “นี่คือกล่องยาของข้า”
“มีอะไรอยู่ในนั้น ขอข้าดูหน่อยได้หรือไม่?” เขาถามด้วยความสงสัย
“แน่นอน” กล่องยานี้มีขนาดเล็กและเบามาก หากเหยียนเกอไม่ถาม นางคงลืมไปแล้ว
หญิงสาวพบกล่องยานี้ในร้านค้าของนาง นางคิดว่ากล่องไม้นี้เหมาะสำหรับเครื่องมือแพทย์ของนาง ดังนั้นนางจึงใช้มัน
เหยียนเกอสนใจกล่องยาของอวิ๋นซิ่วชิงมากกว่าหญ้าฝรั่นที่เขาซื้อด้วยเงินสองแสนห้าหมื่นตำลึงเสียอีก เหตุผลแรกคืออวิ๋นซิ่วชิงปกป้องกล่องนี้ไว้อย่างแน่นหนา และเหตุผลที่สองคือกล่องยามีขนาดเล็กมาก เขาอยากรู้มากว่ามีอะไรอยู่ในนั้น?!
อวิ๋นซิ่วชิงเปิดกล่องไม้ของนางด้วยรอยยิ้ม
เหยียนเกอโผล่หัวออกมา และเห็นสิ่งวาววับอยู่ในกล่อง มันคล้ายกับมีดเล่มเล็ก แต่ไม่มีใบมีด มันดูเหมือนใบไม้ที่แหลมคม
ด้วยความอยากรู้ เขาจึงหยิบมีดในกล่องไม้ขึ้นมาแล้วถามว่า “นี่อะไร?”
“มันคือมีดผ่าตัด” อวิ๋นซิ่วชิงไม่สนใจที่จะเปิดเผยสิ่งเหล่านี้ และนางก็ไม่กลัวว่าจะถูกถาม นางแค่บอกว่าได้ขอให้ใครสักคนทำพวกมันขึ้นมา
สำหรับเหยียนเกอแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อมีดเล่มนี้ “มีดผ่าตัดหรือ?”
“ใช่ มันเป็นแค่ด้ามจับที่ไร้ใบมีด” อวิ๋นซิ่วชิงหยิบถุงผ้าเล็ก ๆ ออกมาจากกล่องไม้
นางค่อย ๆ เปิดถุง ส่วนเหยียนเกอเบิกตากว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจ “นี่คือใบมีดหรือ?”
เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจ อวิ๋นซิ่วชิงก็หัวเราะคิกคักและพูดว่า “ใช่ ใบมีดเหล่านี้ใช้กับด้ามนี้ได้ และแต่ละอันก็ต่างกัน”
“เราจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?” เขามองใบมีดบาง ๆ ด้วยความสงสัย
อวิ๋นซิ่วชิงหยิบคีมออกจากกล่องไม้แล้วหนีบใบมีดไว้
เหยียนเกอวางมีดผ่าตัดในมือลงด้วยความสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามอวิ๋นซิ่วชิงว่า “มีดผ่าตัดนี้มีประโยชน์อย่างไร?”
“เป็นเพียงการผ่าท้องของคนคนหนึ่งเพื่อรักษา ตัวอย่างเช่น หากมีเนื้องอกในท้อง ก็สามารถใช้มีดผ่าตัดเพื่อตัดมันออกได้” อวิ๋นซิ่วชิงอธิบายให้เหยียนเกอฟัง
เหยียนเกอศึกษาทักษะทางการแพทย์มาตลอดชีวิต และเขาไม่เคยได้ยินว่าใครจะสามารถผ่าท้องคนเพื่อรักษาได้ ซึ่งทำให้เขาตกใจมาก
เมื่อมองดูสีหน้าของเหยียนเกอ อวิ๋นซิ่วชิงก็ตบไหล่เขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “อยากเรียนวิธีรักษาคนด้วยมีดผ่าตัดไหม?”
“แน่นอน ข้าต้องการเรียนรู้!” เขาพยักหน้าทันที
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็สอนข้าจับชีพจรและการฝังเข็ม แล้วข้าจะสอนวิธีใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้”
แม้ว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะได้เห็นการจับชีพจรและการฝังเข็มของเหยียนเกอมาแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่เคยลงมือผ่าตัด และตอนนี้อวิ๋นซิ่วชิงรู้เกี่ยวกับการจับเส้นชีพจรและเข็มเงินเพียงเล็กน้อย แต่นางไม่มีความชำนาญในเรื่องนี้
“ตกลง! ข้าสัญญา!” เหยียนเกอมองอวิ๋นซิ่วชิงเป็นสมบัติ มีหลายสิ่งที่น่าแปลกใจจากตัวนาง หากเขาไม่เรียนรู้ เขาคงจะสูญเสียสมบัติไปมหาศาล
อวิ๋นซิ่วชิงรู้ว่าเหยียนเกอจะต้องตกลง ความหลงใหลในทักษะทางการแพทย์ของเขามาถึงระดับคลั่งไคล้ ซึ่งเป็นสิ่งที่นางสามารถมั่นใจได้ที่จะบอกเขา เพราะเหยียนเกอสนใจแต่เรื่องทักษะทางการแพทย์ และเขาจะไม่สนเรื่องอื่น ๆ อย่างเช่นว่าสิ่งเหล่านี้มาจากไหน และนางเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์มาจากที่ไหน ซึ่งทำให้อวิ๋นซิ่วชิงโล่งใจอย่างมาก
“แล้วตอนนี้ ตกลงว่าใครเป็นอาจารย์กันแน่?” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม