ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 327+328 หญ้าฝรั่นล้ำค่า / หนีไปด้วยความตื่นตระหนก
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 327+328 หญ้าฝรั่นล้ำค่า / หนีไปด้วยความตื่นตระหนก
บทที่ 327 หญ้าฝรั่นล้ำค่า
“นางกำลังหลับ อย่ารบกวนนาง”
เหยียนเกอฟังคำตอบจากผูเว่ยชางแล้วก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง เขาสูดลมหายใจลึก ก่อนจะหันกลับมานั่งบนเก้าอี้ไม้ “ผูเว่ยชาง ร้านของเจ้าเปิดแล้ว เช่นนั้นนางจะเรียนรู้การแพทย์จากข้าเมื่อไหร่?”
“เจ้าต้องไปถามชิงเหนียงเอง” ผูเว่ยชางก้มหน้าตรวจสอบสมุดบัญชีต่อไป
เหยียนเกอนึกประหลาดใจ “เจ้าเต็มใจใช่ไหม”
เขาเคยคิดเสมอว่าชายขี้หึงอย่างผูเว่ยชางคงจะไม่ยอมให้อวิ๋นซิ่วชิงเรียนทักษะทางการแพทย์จากเขา แต่ก็ไม่คิดว่าผูเว่ยชางจะเต็มใจให้นางทำเช่นนั้น
“แน่นอน เพราะนางชอบมัน” ผูเว่ยชางรู้อยู่แล้วว่าอวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้สนใจเหยียนเกอมากนัก นางสนใจเฉพาะทักษะทางการแพทย์เท่านั้น เขาจะกังวลอะไรอีก? นอกจากนี้เขายังมั่นใจในตัวเองมากด้วย
“ผูเว่ยชาง เจ้าโดนฟ้าผ่ามาหรือเปล่า?! ทำไมเจ้าถึงมีเหตุผลขนาดนี้?!!” เหยียนเกอตกใจจนตาเบิกกว้าง
ผูเว่ยชางชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชาและทำงานต่อ
เหยียนเกอและผูเว่ยชางพูดคุยกันอย่างสบาย ๆ แม้ว่าส่วนใหญ่ผูเว่ยชางจะไม่ค่อยพูดเลยก็ตาม
อวิ๋นซิ่วชิงนอนหลับเพียงชั่วครู่ นางเอาแต่ครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ในร้าน และกำลังนอนไม่หลับ นางนอนอยู่บนเตียงด้วยความงุนงงครู่หนึ่งก็ลงไปชั้นล่าง
ทันทีที่นางลงบันไดไป ก็เห็นว่าเหยียนเกอกำลังคุยกับผูเว่ยชาง
“เหยียนเกอ” อวิ๋นซิ่วชิงส่งเสียงทักทาย
“แม่นาง! เจ้าตื่นแล้วหรือ?!” เหยียนเกอหันไปมองอวิ๋นซิ่วชิงด้วยรอยยิ้ม
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าร้านข้าเปิดแล้ว” อวิ๋นซิ่วชิงเดินเข้าไปหาเหยียนเกอ และพูดคุยกับเขาเหมือนเพื่อนเก่า
“ตอนที่ข้าไปที่ร้านอาหาร ข้าเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งเขียนว่า ‘ร้านอาหารอวิ๋นผู’ ข้าคิดว่าต้องเป็นเจ้าแน่ ๆ ข้าจึงมาที่นี่หลังกินอาหารกลางวันเสร็จ แต่เจ้าไม่ได้บอกข้าว่าร้านจะเปิดเมื่อไหร่ ข้าจะได้ให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่เจ้า”
เหยียนเกอมองดูอวิ๋นซิ่วชิงด้วยความคับข้องใจ
“ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป” ผูเว่ยชางซึ่งนั่งอยู่ระหว่างทั้งสองกล่าวขึ้น
ทันใดนั้นเหยียนเกอก็สำลักคำพูดของผูเว่ยชาง เขาหันกลับมามองอีกฝ่าย
ในขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงป้องปากหัวเราะคิกคัก
“ชิงเหนียง ร้านของเจ้าเปิดแล้ว เท่านี้เจ้าก็สามารถเรียนทักษะทางการแพทย์จากข้าได้แล้วสินะ” เหยียนเกอมองอวิ๋นซิ่วชิงเป็นสมบัติล้ำค่า เขาจะปล่อยให้นางหลุดมือไปไม่ได้!
“ร้านเพิ่งเปิดเป็นวันที่สอง สองวันที่ผ่านมาคนเยอะมาก ผูเว่ยชางจะยุ่งคนเดียวไม่ได้ ข้าจะจ้างคนมาช่วยที่ร้านก่อน แล้วข้าจะไปหาเจ้า” อวิ๋นซิ่วชิงอยากจะไปจริง ๆ แต่นางยังทำไม่ได้ นางต้องพยุงร้านของนางให้เข้าที่เสียก่อน
เหยียนเกอรู้สึกหดหู่เล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของนาง เขาอยากให้นางไปกับเขาจริง ๆ
เขาจึงหลอกล่อนางอีกครั้ง “ชิงเหนียง ข้ามีสมุนไพรราคาแพงอยู่ในมือ อยากดูไหม?”
อวิ๋นซิ่วชิงรู้ว่าในสมัยโบราณมีสมุนไพรมากกว่าในยุคสมัยใหม่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุนไพรที่ล้ำค่ายิ่ง “สมุนไพรอันล้ำค่าอะไร?”
เมื่อได้ยินคำถามของเหยียนเกอ ผูเว่ยชางก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหลอกล่อ อวิ๋นซิ่วชิง เขาจ้องมองเหยียนเกอด้วยสายตาเย็นชา
เหยียนเกอเห็นสายตาของผูเว่ยชางแล้ว แต่ตราบใดที่อวิ๋นซิ่วชิงอยู่ที่นี่ ผูเว่ยชางคงไม่กล้าทำอะไรเขา ตอนนี้เหยียนเกอรู้จุดอ่อนของอีกฝ่ายแล้ว
“เจ้ารู้จักหญ้าฝรั่น*[1] ไหม?” เมื่อพูดถึงวัตถุดิบทางการแพทย์ แววตาของเขาดูตื่นเต้นพอ ๆ กับอวิ๋นซิ่วชิง
“หญ้าฝรั่น?”
อวิ๋นซิ่วชิงอยากจะไปดูหญ้าฝรั่นที่เหยียนเกอปลูก หญ้าฝรั่นเป็นสมุนไพรที่มีค่ามากในยุคปัจจุบัน แม้ว่าจะปลูกได้ด้วยตนเอง แต่ก็หาได้ยากมากเช่นกัน
“ใช่ ข้าเพิ่งได้มันมาเมื่อสองสามวันก่อน ข้าซื้อมันมาสองแสนห้าหมื่นหยวน”
แม้ว่าเขาจะใช้เงินไปมากมาย แต่มันก็ถือว่าคุ้มค่า
“เจ้ามีเงินมากถึงสองแสนห้าหมื่นหยวนไปก็เปล่าประโยชน์” ผูเว่ยชาง กล่าวด้วยเสียงเย็นชา
[1] เป็นพืชล้มลุก ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร และมีความสูงเฉลี่ยน้อยกว่า 30 เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินลักษณะคล้ายหัวเผือกหรือหัวหอม มีอายุหลายปี ใช้เป็นยาบำบัดรักษาโรคมะเร็ง ช่วยต่อต้านมะเร็ง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
…
บทที่ 328 หนีไปด้วยความตื่นตระหนก
“หุบปากได้ไหม?!!”
เหยียนเกอโกรธ เขาชี้ไปที่จมูกของผูเว่ยชาง แม้ว่าเงินสองแสนห้าหมื่นหยวนจะคุ้มค่าและเป็นเพียงหยดน้ำเล็ก ๆ ในคลังของเขา แต่นั่นคือสิ่งที่เขาหามาได้
ผูเว่ยชางเลิกสนใจลูกคิดในมือ เขาเงยหน้าขึ้นเหลือบมองเหยียนเกอด้วยสีหน้าเย็นชา
เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย เหยียนเกอก็สงบลงทันที เขายังคงจำข้อห้ามของเขาได้ สิ่งที่เกลียดที่สุดคือมีคนชี้ไปที่จมูกของเขาและด่า หากเขาเห็นใครแสดงท่าทีเช่นนี้ต่อเขา เขาก็คิดจะฆ่าคนนั้นทันที
“ข้าแค่ล้อเล่นน่ะ! เจ้าจะพูดอะไรก็พูดได้”
แม้ผูเว่ยชางจะไม่กล้าทำอะไรเหยียนเกอเพราะมีอวิ๋นซิ่วชิงอยู่ด้วย แต่เขาก็รู้ดีเกี่ยวกับนิสัยที่โหดร้ายและใจแคบของผูเว่ยชาง การยอมแพ้และเลิกยั่วยุอีกฝ่ายโดยเร็วที่สุดย่อมดีกว่า
อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้ว นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาพูดคุยกัน ดูเหมือนพวกเขาจะรู้จักกันมาเป็นเวลานาน และเหยียนเกอก็ดูหวาดกลัวผูเว่ยชางเล็กน้อย
อวิ๋นซิ่วชิงหันไปมองผูเว่ยชาง แม้ว่าตอนนี้เขาจะดูปกติ แต่ก็ปกติเกินไป มันน่ากลัวจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่เหยียนเกอจะยอมจำนนต่อเขา
“เหยียนเกอ จู่ ๆ ข้าก็จำได้ว่ามีคนบอกว่าเจ้าเป็นปราชญ์ทางการแพทย์” อวิ๋นซิ่วชิงเคยต้องการถามถึงเรื่องปราชญ์ทางการแพทย์มาก่อน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางจึงยังไม่เคยถาม
เหยียนเกอหายใจเข้าลึก เขาเหล่มองไปที่ผูเว่ยชาง ตกใจมากจนหัวใจแทบพุ่งออกจากลำคอ
“ข้า…ข้าจะเป็นปราชญ์ทางการแพทย์ได้อย่างไร?!” พูดจบก็หันไปมองผูเว่ยชางด้วยความรู้สึกผิด
ผูเว่ยชางไม่ได้มองเขาอย่างจริงจัง และยังคงนั่งทำบัญชีอย่างใจเย็น
“หยาหลาง ผู้ดูแลพื้นที่นี้เรียกเจ้าว่าปราชญ์ทางการแพทย์ เขาบอกว่าหมอห้าคนในโรงหมอของเจ้าทั้งหมดบอกว่าเจ้าเป็นปราชญ์ทางการแพทย์”
อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าเหยียนเกอเป็นคนถ่อมตัว เขาจึงปฏิเสธที่จะยอมรับมัน
“ข้าจะเป็นปราชญ์ทางการแพทย์ได้อย่างไร? ถ้าข้าเป็นปราชญ์ทางการแพทย์ ข้าจะไม่เก่งเท่าเจ้าได้อย่างไร ข้าเพิ่งเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์บางอย่างเอง!!”
อวิ๋นซิ่วชิงไม่เชื่อ เพราะระดับความคลั่งไคล้ในทักษะทางการแพทย์ที่เหยียนเกอแสดงออกนั้นสมกับชื่อปราชญ์ทางการแพทย์แล้ว
ด้วยกลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะพูดบางอย่างเกี่ยวกับปราชญ์ทางการแพทย์อีก เหยียนเกอจึงยืนขึ้นและพูดว่า “โอ้ ข้าจำได้ว่ามีคนส่งสมุนไพรอันล้ำค่ามาในบ่ายวันนี้ เช่นนั้นข้าลาล่ะ!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็วิ่งหนีไปก่อนที่อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางจะทันได้พูดอะไร
อวิ๋นซิ่วชิงรีบไปที่ประตู เห็นเพียงฝุ่นที่เกิดจากรถม้าเท่านั้น “ทำไมเขาถึงรีบร้อนขนาดนั้น?”
อวิ๋นซิ่วชิงบ่นขณะเดินกลับมา
ไม่ใช่เพราะเหยียนเกอกลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่เพราะเขากลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะเดาตัวตนของผูเว่ยชางผ่านตัวตนของเขาได้
เขาได้รับการเตือนจากผูเว่ยชางว่า หากเขาเปิดเผยตัวตนของผูเว่ยชาง เขาจะถูกโยนเข้าไปในวังหลวงในฐานะแพทย์หลวง
เหยียนเกอไม่ต้องการที่จะเป็นแพทย์หลวง ต่อให้ต้องตาย เขาก็จะไม่ยอมเข้าไปในวังหลวง!
อวิ๋นซิ่วชิงนั่งข้างผูเว่ยชาง จากนั้นก็ถามด้วยความสงสัย “เหยียนเกอก็แปลก ทำไมเขาถึงถ่อมตัวนัก?”
“เขาคงรู้สึกละอายใจ ปราชญ์ทางการแพทย์ไม่เก่งเท่าเจ้า เขาไม่ต้องการให้คนอื่นหัวเราะเยาะเขา” ผูเว่ยชางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าสิ่งที่ผูเว่ยชางพูดฟังดูมีเหตุผล นางจึงเข้าใจว่าทำไมเหยียนเกอถึงไม่ยอมรับ
อวิ๋นซิ่วชิงหันไปมองผูเว่ยชางที่กำลังทำบัญชีอยู่ นางเลิกคิ้วขึ้นและคิดว่า ‘ผูเว่ยชางหล่อมาก ตอนนี้เขาเป็นเหมือนภาพวาดที่ดึงดูดใจสาว ๆ นับพัน’
ขณะนี้ เสี่ยวเฮยขยี้ตาแล้วเดินลงบันไดมา
“เสี่ยวเฮย เจ้านอนหลับเป็นอย่างไรบ้าง?” อวิ๋นซิ่วชิงเลิกคิ้วถาม
“ข้านอนหลับสบายดีมาก”
ทว่าเสี่ยวเฮยคิดว่าตัวเองคงยังไม่สามารถนอนในที่ที่ไม่คุ้นเคยได้
เด็กน้อยฝันถึงพ่อที่ตายไปแล้ว และได้บอกกับพ่อว่าเขาเจอคนสูงศักดิ์ที่มีจิตใจดีและตอนนี้เขาก็มีความสุข