ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 305+306 ทำลายชื่อเสียงร้าน / หนี
บทที่ 305 ทำลายชื่อเสียงร้าน
เมื่อเสี่ยวเฮยพูดจบ เด็ก ๆ เหล่านี้ก็มารายล้อมอวิ๋นซิ่วชิง และมองดูนางอย่างระมัดระวัง “จริงด้วย! ร่างยังอุ่นอยู่ ถ้านางเป็นผีจะต้องตัวเย็น!”
“ใช่แล้ว ถ้าเจ้าเป็นผีจริง ๆ เจ้าก็เป็นผีที่ดี เจ้าแข็งแกร่งกว่าคนพวกนั้นมาก” ขอทานตัวน้อยพากันออกความเห็น
อวิ๋นซิ่วชิงเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กคนที่ชื่อต้าเว่ยใส่ร้ายนางบอกว่านางเป็นผีผู้หญิง และยังเอาแผ่นกระดาษคำโฆษณามากมายไปด้วย
จะมีเด็กที่น่ารังเกียจเช่นนี้ได้อย่างไร? อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนนางจะเคยได้ยินชื่อต้าเว่ยจากที่ไหนสักแห่ง…
“ต้าเว่ยอยู่ที่ไหน?” อวิ๋นซิ่วชิงรู้ว่าเด็กเหล่านี้ไร้เดียงสา นางจึงถามด้วยรอยยิ้ม
“ข้ารู้ ต้าเว่ยและคนอื่น ๆ ชอบขโมยของ พวกเขาจะซ่อนตัวที่หัวมุมถนน” เสี่ยวเฮยเกลียดคนอย่างต้าเว่ยมากที่สุด อีกฝ่ายมักจะรังแกเด็กที่อายุน้อยกว่า
“เสี่ยวเฮย เจ้าเป็นเด็กดี เจ้าช่วยพาข้าไปหาเขาได้ไหม?” อวิ๋นซิ่วชิงลูบเบา ๆ ที่ติ่งหูของเสี่ยวเฮย
“ไม่เอา ต้าเว่ยแข็งแกร่งมาก” ขอทานตัวน้อยอีกคนพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
“ไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องเจ้าเอง” อวิ๋นซิ่วชิงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เมื่อเห็นเสี่ยวเฮยยังลังเลอยู่ อวิ๋นซิ่วชิงก็พูดโน้มน้าวว่า “เสี่ยวเฮย ถ้าเจ้าพาข้าไปหาต้าเว่ย ข้าจะพาเจ้าไปกินอาหารกลางวันที่ร้านอาหารฉวนจูในเที่ยงนี้ และแต่ละคนจะได้เหรียญทองแดงสามเหรียญ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ค้าทาส แต่นางจะไม่ลักพาตัวหรือขายเด็กเหล่านี้!
ร้านอาหารฉวนจูเป็นร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เสี่ยวเฮยไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะได้กินอาหารที่นั่น
เสี่ยวเฮยหันไปมองเพื่อนของเขาแล้วสัญญากับหญิงสาวว่า “ก็ได้ แต่ท่านต้องสัญญากับข้านะพี่สาว หลังจากเรื่องนี้จบลงแล้ว อย่าให้ ต้าเว่ยรังแกเราอีก”
อวิ๋นซิ่วชิงยิ้มและลูบจมูกของเสี่ยวเฮย “เจ้าเป็นคนที่ฉลาดมาก ข้าสัญญาว่าต้าเว่ยจะไม่รังแกเจ้าอีก ถ้าต้าเว่ยรังแกเจ้าอีก เจ้าสามารถไปที่ร้านของข้าได้ทันที”
“แน่นอน!” เด็ก ๆ พยักหน้าอย่างมีความสุข ในที่สุดพวกเขาก็มีผู้สนับสนุนแล้ว
จากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็ส่งเด็กคนอื่น ๆ กลับไปที่ร้าน และขอให้เสี่ยวเฮยพานางไปหาต้าเว่ย
ระหว่างทาง นางเอาแต่คิดถึงชื่อต้าเว่ย ดูเหมือนนางจะเคยได้ยินที่ไหนสักแห่ง แต่นางจำไม่ได้เลยสักนิด!
“พี่สาว เราเจอเขาแล้ว ดูสิ เขายืนอยู่บนถนน!” ช่วงเวลาที่เสี่ยวเฮยเห็น ต้าเว่ยยืนอยู่บนถนน เขาก็รีบซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง
ครั้นมองไปตามทิศทางที่เสี่ยวเฮยชี้ไว้ นางก็เห็นร่างที่คุ้นเคยของเด็กคนหนึ่ง อวิ๋นซิ่วชิงตบไหล่ของเสี่ยวเฮยและพูดว่า “เสี่ยวเฮย รอข้าที่นี่ ข้าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้”
“พี่สาว ระวังตัวด้วย” เสี่ยวเฮยเตือนอวิ๋นซิ่วชิง
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้าและค่อย ๆ เดินไปหาต้าเว่ย
ต้าเว่ยกำลังจับมือผู้ใหญ่คนหนึ่งอยู่ และพูดว่า “ข้าจะบอกให้นะ สินค้าในร้านขายผักอวิ๋นผูมียาพิษ ถ้าเจ้าอยากตาย เจ้าก็ไปซื้อดู!”
ชายคนนั้นดึงแขนออกจากมือของต้าเว่ย และดุด่าว่า “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?!!” ทันทีที่พูดจบ ชายคนนั้นก็เดินจากไป
ต้าเว่ยยืนอยู่ใกล้ ๆ ทางไปร้านค้าของอวิ๋นซิ่วชิง และพยายามสร้างความเสื่อมเสียให้กับนางและผูเว่ยชาง เขาคอยดักคุยกับลูกค้าที่ผ่านไปมา
ปัจจุบันร้านของอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางกำลังคึกคัก หลายคนมาที่นี่เพื่อดูความสนุกสนาน
ต้าเว่ยทราบเรื่องนี้แล้ว เขาจึงยืนอยู่ที่นี่เพื่อหยุดลูกค้าเหล่านั้น และเผยแพร่ข่าวทำลายชื่อเสียงให้ร้านขายผักของนาง!
…
บทที่ 306 หนี
อวิ๋นซิ่วชิงยืนอยู่ข้างหลังต้าเว่ย นางได้ยินสิ่งที่ต้าเว่ยพูดกับคนอื่น ๆ เพื่อทำให้ร้านของนางเสียชื่อเสียง
เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงของต้าเว่ย ในที่สุดนางก็จำได้ว่าแล้วต้าเว่ยเป็นใคร? นี่ไม่ใช่ผู้ชายที่ขโมยของจากนางและผูเว่ยชางครั้งล่าสุดหรอกหรือ? นางเคยแกล้งทำเป็นผี จนทำให้ต้าเว่ยกลัวจนจับไข้หัวโกร๋น
อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าบทเรียนก่อนหน้านี้จะทำให้ต้าเว่ยประพฤติตัวดีขึ้นบ้าง แต่นางไม่คิดว่าต้าเว่ยจะกล้าแก้แค้นนาง
“ดูเหมือนจะยังได้รับบทเรียนไม่พอใช่ไหม?” อวิ๋นซิ่วชิงยืนอยู่ข้างหลัง ต้าเว่ย และกล่าวขึ้นเสียงเรียบ
ต้าเว่ยตกใจจนรีบกระโดดไปไกล ครั้นหันกลับมาเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงยืนอยู่ข้างหลังและจ้องมองมา ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกขนลุกมากขึ้น
“กระดาษที่ข้าให้เด็กคนอื่น ๆ อยู่ที่ไหน?! เจ้าเอาไปไว้ที่ไหน?!” อวิ๋นซิ่วชิงไม่อยากคุยกับต้าเว่ยอีกต่อไป นางยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ
ต้าเว่ยยังคงคิดว่าอวิ๋นซิ่วชิงเป็นผี เขาอยากวิ่งหนี แต่ขาของเขาอ่อนแอเกินกว่าจะยืนได้
“พูดมา! ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้า!” หญิงสาวรู้ว่าความประทับใจของต้าเว่ยที่มีต่อนางไม่ดีนัก เขาคิดว่านางเป็นผีผู้หญิงที่น่ากลัวมาก แต่อวิ๋นซิ่วชิงไม่ต้องการเปลี่ยนความประทับใจนั้นแต่อย่างใด
เด็กอย่างต้าเว่ยที่ดื้อด้านและร้ายกาจเช่นนี้ต้องถูกลงโทษด้วยวิธีนี้จึงจะเชื่อฟังได้
ต้าเว่ยตัวสั่นด้วยความกลัว และไม่สามารถพูดอะไรได้
อวิ๋นซ่วชิงพ่นลมและตบหน้าอีกฝ่าย “เจ้าโง่หรือเปล่า?!”
ต้าเว่ยส่ายหัวแล้วพูดว่า “กระดาษพวกนั้นอยู่ในกระท่อมมุงจาก!”
“พาข้าไปที่นั่น!”
นางใช้เวลาทั้งคืนในการเขียนข้อความ แต่ไอ้เด็กเวรนี่ทำราวกับมันเป็นกระดาษชำระ พวกเขารู้หรือไม่ว่ากระดาษในยุคโบราณแบบนี้มีราคาแพงมาก!
ขาของต้าเว่ยอ่อนแรงมากจนไม่สามารถยืนขึ้นได้ แต่เขาก็กลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะเล่นงานเขาหนักขึ้นถ้านางโกรธ
เขารีบยืนขึ้น และเดินนำอวิ๋นซิ่วชิงไปที่กระท่อมภายในวัดที่ทรุดโทรมทางตอนใต้ของเมือง
เมื่อต้าเว่ยฉกกระดาษจากเด็กคนอื่นมา เขาก็ต้องการเผามันทิ้ง แต่พื้นผิวของกระดาษนั้นเรียบ ไม่หยาบเหมือนกระดาษที่เขาใช้ ดังนั้นต้าเว่ยจึงตัดสินใจเก็บมันไว้ก่อน
อวิ๋นซิ่วชิงตามต้าเว่ยไปที่กระท่อม ก่อนที่จะเข้าไปก็ได้กลิ่นเหม็น นางขมวดคิ้วและจ้องไปที่ต้าเว่ย “เอามันออกไป!”
ต้าเว่ยยอมทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาพยักหน้าและเข้าไปในกระท่อม
ทว่าทันทีที่เขาเข้าไปในกระท่อม เขาก็ปีนกำแพงและวิ่งหนีไป นี่เป็นโอกาสดีที่จะหนี!
อวิ๋นซิ่วชิงรออยู่นานแต่ต้าเว่ยก็ยังไม่ออกมา นางคิดว่าต้าเว่ยจะต้องเล่นเล่ห์กลอีกครั้ง หญิงสาวบีบจมูกตัวเองแล้วเดินเข้าไปในกระท่อม
ปรากฏว่าไม่มีใครในนั้น… ไม่มีแม้แต่ผี
หญิงสาวหยิบกระดาษขึ้นมาและรีบออกจากกระท่อม
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเดินออกจากกระท่อม แววตาของนางก็เผยความเย็นชา นางต้องสอนบทเรียนให้ต้าเว่ย แต่ตอนนี้นางต้องจัดการกับธุรกิจที่ร้านเสียก่อน
หลังจากนั้น นางก็พาพวกเสี่ยวเฮยกลับมาที่ร้านทันที กลุ่มของขอทานตัวน้อยนั่งรอกันอยู่เงียบ ๆ ในขณะที่ผู้ใหญ่จำนวนมากยังคงมารวมตัวกันที่หน้าร้าน และการแสดงเชิดสิงโตก็ยังคงดำเนินต่อไป…
อวิ๋นซิ่วชิงขอให้เด็ก ๆ ออกไปส่งใบปลิวอีกครั้ง ครั้งนี้เด็ก ๆ ทำสำเร็จภายในเวลาไม่ถึงห้านาที และพวกเขาก็พาคนจำนวนมากกลับมาด้วย
อวิ๋นซิ่วชิงพาเด็ก ๆ ไปที่สวนหลังบ้าน ก่อนจะมอบเหรียญทองแดงให้คนละสามเหรียญ แล้วพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ เดี๋ยวถ้าข้าพักเที่ยงแล้วจะพาพวกเจ้าไปกินข้าว”
แววตาของเด็ก ๆ เป็นประกายและพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง