ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 273+274 ความหวัง/ไม่เชื่อใจ
บทที่ 273 ความหวัง
ฮูหยินหวังเองก็กังวลมากในเวลานี้ บัดนี้ครอบครัวของนางกำลังจะพังทลาย นางจะไม่กังวลได้อย่างไร?
เมื่อนางได้ยินว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะสามารถรักษาสามีของนางได้ นางก็ไม่ได้สนใจอีกต่อไปว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะเป็นใคร จะพูดจริงหรือโกหก ตอนนี้นางถือว่าอวิ๋นซิ่วชิงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตนางไว้!
”อ๊ะ! เจ้ารอสักครู่ ข้าจะเรียกสามีของข้ามา” จากนั้นฮูหยินหวังก็วิ่งกลับเข้าไปในบ้าน
”ชิงเหนียง เจ้ายังไม่ได้ตรวจอาการของเขาเลย เจ้าจะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร? ถ้ารักษาไม่ได้ล่ะ?”
ผูเว่ยชางเป็นห่วง เขาได้เห็นแล้วว่าฮูหยินหวังได้ยึดอวิ๋นซิ่วชิงมาเป็นฟางช่วยชีวิต หากหญิงสาวไม่สามารถรักษาได้ ฮูหยินหวังก็คงสร้างปัญหาให้กับพวกเขาอย่างแน่นอน
อวิ๋นซิ่วชิงเองก็รู้สึกว่าตอนนี้นางด่วนสรุปเกินไป นางแค่อยากช่วย จึงไม่ได้คิดอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม นางก็มั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของนาง หญิงสาวเคยทำให้คนที่มีลมหายใจแผ่วเบากลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง
”ตอนนั้นข้ากังวลมาก แต่ข้าคิดว่าถ้ามือของช่างไม้หัก มันจะเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับการทำอาชีพช่างไม้และครอบครัวของเขาด้วย ข้าจะพยายามทำให้ดีที่สุด” อวิ๋นซิ่วชิงตอบทั้งที่ยังขมวดคิ้ว
ผูเว่ยชางถอนหายใจ ตอนนี้เขาพร้อมที่จะตามหญิงสาวไปทุกทางแล้ว เขาไม่กลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะรักษาไม่ได้ แต่เขากลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะมีปัญหาเพิ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ
ช่างไม้หวังนั่งอยู่คนเดียวในห้องและแอบร้องไห้อยู่เงียบ ๆ
ตอนนี้เขาขยับมือไม่ได้แล้ว เขาจะเลี้ยงดูครอบครัวของเขาในอนาคตได้อย่างไร?
แม้ว่าลูกชายของเขาจะได้เรียนรู้ทักษะจากเขามาหลายปีแล้ว แต่เสี่ยวหวังก็ยังไม่ได้เรียนรู้ทักษะเหล่านั้นไปทั้งหมด เวลานี้ลูกชายของเขาจะต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน
ประตูห้องของเขาเปิดออกโดยฮูหยินหวัง ช่างไม้หวังพยายามปิดบังใบหน้าของเขาและพูดว่า “ข้าอยากอยู่คนเดียว อย่ารบกวนข้า”
”เจ้าต้องการจะพูดอะไร? ไปกันเถอะ มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่านางช่วยเจ้าได้”
ทว่าช่างไม้หวังกลับส่ายหัวและพูดว่า “ไม่! ไม่! ข้าไปพบหมอที่มีชื่อเสียงมาหลายคนแล้ว แต่พวกเขาตอบเป็นเสียงเดียวกันว่ามือของข้าไม่สามารถใช้งานได้อีก!!”
”ไม่ลองดูจะรู้ได้ยังไง? ไปกันเถอะ!” ฮูหยินหวังโกรธจึงตะโกนออกมา ทำให้ช่างไม้หวังหยุดดื้อรั้น และยอมตามฮูหยินหวังไปที่ห้องโถง
ฮูหยินหวังพาสามีของนางไปที่ห้องโถงและขอให้อวิ๋นซิ่วชิงตรวจสอบอาการ ช่างไม้หวังถามขึ้นว่า “แม่นาง จงดูเถิดว่ามือของข้ายังใช้การได้อยู่หรือไม่?”
ช่างไม้หวังรู้อยู่แล้วว่ามือของเขาไร้ประโยชน์ไปแล้ว แต่เมื่อเขาเห็นดวงตาสีแดงก่ำของภรรยา เขาก็ม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อให้อวิ๋นซิ่วชิงตรวจอาการ หากเขาทำแล้วภรรยารู้สึกดีขึ้น เขาก็เต็มใจที่จะทำ
อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าข้อมือของช่างไม้หวังหัก และมันสามารถรักษาด้วยการดามกระดูกได้ แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะในเวลานี้ข้อมือของช่างไม้หวังกำลังบวม และส่วนที่บวมก็ดูเป็นสีน้ำเงิน
อวิ๋นซิ่วชิงกดส่วนที่บวมของช่างไม้หวัง และพูดว่า “เจ็บไหม? อย่าทนและตอบตามความจริง”
”ไม่เจ็บ เพราะมือของข้าสูญเสียความรู้สึกไปแล้ว…” ช่างไม้หวังรู้สึกว่าอวิ๋นซิ่วชิงใจดีที่คิดจะช่วยเขา เขาจึงไม่คิดที่จะทำลายความรู้สึกของคนอื่น ดังนั้นแทนที่จะบอกว่ามือของเขาไร้ประโยชน์แล้ว เขาจึงเลือกตอบคำถามของอวิ๋นซิ่วชิงอย่างตรงไปตรงมาแทน
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้าและพูดต่อว่า “เจ้าขยับนิ้วได้ไหม? ลองทำดูสิ”
ช่างไม้หวังขมวดคิ้วและพยายามอย่างหนักที่จะขยับนิ้วของเขา แต่นิ้วของเขากลับไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ช่างไม้หวังรู้สึกเศร้าใจและส่ายหัวไปมา ชีวิตช่างไม้ของเขาจบสิ้นแล้ว!
อวิ๋นซิ่วชิงเห็นว่าหน้าผากของช่างไม้หวังมีเหงื่อออก และนิ้วของเขาก็ไม่สามารถขยับได้ นางจึงรู้ว่ามือของช่างไม้หวังหักและเส้นเอ็นฉีกขาด มันไม่ใช่โรคที่รักษาไม่หาย เพียงต้องใช้เวลามากหน่อย
”ไม่เป็นไรหรอก เอ็นร้อยหวายของท่านฉีกขาด สามารถกลับมาขยับได้อีกครั้งหลังจากที่ข้าเชื่อมให้” อวิ๋นซิ่วชิงตอบ
”จริงหรือ?” ฮูหยินหวังถามอย่างตื่นเต้น
”จริง เราแค่ต้องเชื่อมมัน”
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงวินิจฉัยการรักษา นางมักจริงจังอยู่เสมอ ถ้านางสามารถรักษาได้ นางก็จะบอกความจริงว่านางรักษาได้ แต่ถ้าหากเป็นโรคที่นางไม่สามารถรักษาได้ นางก็จะพูดออกไปตรง ๆ ไม่จำเป็นต้องโกหก
…
บทที่ 274 ไม่เชื่อใจ
แม้ว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะพูดอย่างจริงจังว่านางสามารถรักษาข้อมือของช่างไม้หวังได้ แต่ช่างไม้หวังกลับไม่เชื่อ เพราะวันนี้เขาเพิ่งไปโรงหมอแห่งหนึ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด ที่นั่นมีหมอที่น่าเคารพนับถืออยู่ห้าคน
ข้อมือของช่างไม้หวังถูกวินิจฉัยจากหมอทั้งห้าคนที่มีทักษะและฝีมือมาก พวกเขาทั้งหมดต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวว่ามือของเขาไร้ประโยชน์ พวกเขาลองใช้เข็มทิ่มแทงที่ข้อมืออยู่หลายครั้งแต่มันก็ไม่เป็นผล
ทว่าตอนนี้ อยู่ดี ๆ หญิงสาวตัวเล็ก ๆ อย่างอวิ๋นซิ่วชิงกลับบอกว่าข้อมือของเขาสามารถรักษาได้ แล้วจะให้เขาเชื่อได้อย่างไร?!
ช่างไม้หวังส่ายหัวและถอนหายใจ “แม่นาง อย่าพยายามทำเป็นเก่งกล้าเลย ข้ารู้ว่ามือของข้าไม่มีประโยชน์แล้ว อย่าปลอบใจข้าอีกเลย”
”ลุงหวัง ข้าไม่เคยโกหกเรื่องทักษะทางการแพทย์ของข้า หากข้าบอกว่ายังมีความหวังนั่นก็คือมีทางรักษา! นอกจากนี้ระหว่างเราก็ไม่เคยมีความแค้นต่อกัน ข้าจึงไม่จำเป็นต้องโกหก” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างกระวนกระวาย
อวิ๋นซิ่วชิงรู้ว่าช่างไม้หวังยังคงไม่ไว้ใจนาง แต่นางกำลังพูดความจริง นางไม่รู้จริง ๆ ว่าช่างไม้หวังคิดอย่างไร?
อวิ๋นซิ่วชิงทำอะไรไม่ถูก
ส่วนฮูหยินหวังที่ยังกังวลใจก็ชี้ไปที่สามีของนาง และพูดว่า “เจ้าบ้าไปแล้วหรือตาแก่! มีอะไรอยู่ในสมองของเจ้ากัน? เจ้ามีสมองหรือไม่? ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความเกลียดชังต่อเจ้า แล้วนางจะโกหกทำไม เจ้าจะยอมรับสภาพนี้และไม่สามารถแกะสลักไม้ไปได้ตลอดชีวิตงั้นหรือ? สมองของเจ้ามีแต่ขี้เลื่อยหรืออย่างไร?!”
”มือของข้าไร้ประโยชน์ไปแล้ว มันจบแล้ว!” อารมณ์ของช่างไม้หวังในเวลานี้ไม่ค่อยดีนัก และเขาก็ไม่เชื่อคำพูดของใครทั้งสิ้น
อวิ๋นซิ่วชิงเองก็เริ่มโกรธขึ้นมาเล็กน้อย นางลุกขึ้นยืนและพูดว่า “ป้าหวัง ข้าไม่เคยโกหก และไม่เคยทำอะไรที่น่าอับอาย ข้าบอกว่ารักษาได้ก็ย่อมรักษาได้ แต่ผู้อาวุโสหวังไม่เชื่อข้า ดังนั้นข้าจึงไม่มีอะไรที่จะต้องทำอีกแล้ว ลาก่อน!”
หลังจากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางก็พร้อมที่จะจากไป แต่ฮูหยินหวังหยุดพวกเขาไว้และพูดว่า “แม่นาง ได้โปรดอย่าโกรธสามีของข้าเลย ข้าขอโทษแทนเขาด้วย!”
”ข้าไม่ได้โกรธหรอกป้าหวัง แต่ถ้าลุงหวังอยากหายและเต็มใจรักษาเมื่อใด ก็ไปที่ร้านอวิ๋นผูเพื่อตามหาข้าแล้วกัน”
อวิ๋นซิ่วชิงกำลังโกรธ แต่นางก็ต้องการให้ช่างไม้หวังได้รับการรักษาในสักวัน นางจึงทิ้งที่อยู่ร้านของนางไว้ให้ฮูหยินหวัง
”ได้ ข้าจะพยายามหาทางเกลี้ยกล่อมเขา” ฮูหยินหวังซาบซึ้งใจอย่างมาก
”งั้นข้าขอลาก่อน” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวลา
ฮูหยินหวังพยักหน้าและกลับไปที่ห้องทันที
ในฐานะแพทย์ผู้รักษา นางจะโกรธมากที่สุดหากผู้ป่วยไม่ยอมเชื่อฟังนาง
ผูเว่ยชางเดินตามหลังอวิ๋นซิ่วชิงออกมาจากบ้านของช่างไม้หวัง เขารู้ว่าหญิงสาวกำลังโกรธ อวิ๋นซิ่วชิงไม่แม้แต่จะกลัวสุนัขที่กำลังจะกัดนางในตอนนี้ นางเอาแต่เดินตรงไปข้างหน้าด้วยความโกรธจัด ทว่าไม่เห็นแม้แต่รถม้าที่ควรจะต้องจอดอยู่
ผูเว่ยชางรีบเดินตามอวิ๋นซิ่วชิงและกระซิบว่า “ชิงเหนียง รถม้าอยู่อีกด้านหนึ่ง เจ้าอยากเดินกลับหรือ?”
อวิ๋นซิ่วชิงมัวแต่โกรธ ครั้นได้ยินเสียงของผูเว่ยชาง นางจึงหยุดและเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบว่านางอยู่ห่างจากรถม้าไปหลายเมตร
อวิ๋นซิ่วชิงท้อแท้ทันที หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึก นางก็เดินกลับไปที่รถม้าและปีนขึ้นไปบนนั้น
ผูเว่ยชางกำลังพยุงอวิ๋นซิ่วชิงขึ้นรถม้า เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงปลอดภัยดีแล้ว เขาจึงกระโดดขึ้นไปบนแคร่และขับรถม้าออกไป
ผูเว่ยชางหันหลังกลับไปมองอวิ๋นซิ่วชิงซึ่งเงียบไปตั้งแต่ออกมาจากบ้านของช่างไม้หวัง และเอ่ยว่า “อย่าโกรธเลยชิงเหนียง เจ้ามีความสามารถมากกว่าแพทย์ที่มีทักษะในการฟื้นฟู เหยียนเกอเองยังไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้เลย”
”แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรแม้ว่าข้าจะเก่งกว่าเหยียนเกอ? ในเมื่อผู้คนต่างไม่เชื่อใจข้า” อวิ๋นซิ่วชิงพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้
”นั่นเป็นเพราะพวกเขาตาบอด ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผู้ที่ปฏิเสธเจ้าจะต้องมาขอให้เจ้ารักษาพวกเขาแน่นอน”
ผูเว่ยชางตบแขนอวิ๋นซิ่วชิงเบา ๆ และเขาหวังว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง