ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 27 ข้อกังขา
บทที่ 27 ข้อกังขา
อวิ๋นซิ่วชิงมองไปที่แผ่นหลังของผูเว่ยชางและรู้สึกผิดเล็กน้อย
ชายหนุ่มคนนี้คอยอยู่กับนางมาตลอดระหว่างที่นางหาสมุนไพรบนภูเขาลูกนี้ นางได้ทุกอย่าง ทว่าเขากลับไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือเลย
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกเสียใจมาก “ผูเว่ยชาง วันนี้ข้ารบกวนท่านมากเกินไปแล้ว เลยทำให้ท่านไม่ได้อะไรติดมือกลับไปเลย ดังนั้นข้าจะเลี้ยงอาหารตอบแทนท่าน”
ผูเว่ยชางหันมาเหลือบมองหญิงสาว และเมื่อเห็นความจริงใจในดวงตาของนาง เขาก็หัวเราะเบา ๆ “ไม่เป็นไร ข้าวางกับดักไว้บนภูเขา เดี๋ยวก็ได้ของติดไม้ติดมือข้าเหมือนกัน แต่ความคิดของเจ้าก็ดีนะที่จะเลี้ยงมื้อค่ำกับข้า เอาไว้รอจนเจ้าขายโสมได้ก่อนก็แล้วกัน”
หลังจากฟังคำพูดของผูเว่ยชาง อวิ๋นซิ่วชิงก็รู้สึกได้ว่าเขาช่างเป็นคนดี “ได้เลย พรุ่งนี้ไว้หลังจากข้าขายโสมได้แล้ว ข้าจะเลี้ยงอาหารท่าน ผูเว่ยชาง ท่านเป็นคนดีมาก ในอนาคตผู้หญิงคนใดได้แต่งงานกับท่าน ก็คงตายอย่างมีความสุขแล้ว”
เมื่อผูเว่ยชางได้ยินสิ่งที่นางพูด มันก็เหมือนทำให้นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ นั่นทำให้เขารู้สึกสะท้านใจมาก
แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
ผูเว่ยชางพาหญิงสาวไปยังสถานที่ที่เขาวางกับดักเอาไว้ โดยก่อนที่จะไปถึง อวิ๋นซิ่วชิงก็ได้ยินเสียงร้องของสัตว์ดังขึ้น
ผูเว่ยชางเดินเข้ามาและเห็นว่าเขาดักไก่ฟ้ามาได้
“ดูสิ! มันดีมากใช่หรือไม่?” ผูเว่ยชางพูดพร้อมกับดึงไก่ฟ้าออกมาจากกับดัก
“ฝีมือท่านน่าทึ่งมาก!” อวิ๋นซิ่วชิงยื่นมืออ้วนออกมาและยกนิ้วให้เขา
ผูเว่ยชางกระแอมไอเบา ๆ พร้อมกับหน้าแดง “ยังมีกับดักอื่น ๆ อยู่อีก ไปดูกันเถอะ”
ผูเว่ยชางวางกับดักไว้บนภูเขาสิบตำแหน่ง แต่มีเพียงสามตำแหน่งเท่านั้นที่เขาดักจับได้ นั่นคือ ไก่ฟ้าหนึ่งตัว และกระต่ายอีกสองตัว
แม้จะน้อยนิด แต่ก็เพียงพอสำหรับผูเว่ยชางที่จะทำเป็นอาหารได้สองสามวัน
หญิงสาวเดินตามผูเว่ยชางลงมาจากภูเขา เวลานี้ท้องฟ้ามืดลงเล็กน้อย บ้านของชายหนุ่มก็อยู่ที่เชิงเขา
และเมื่อเขามาถึงบ้าน ผูเว่ยชางก็ยืนอยู่ที่ประตูบ้านของตัวเองแล้วโยนกระต่ายในมือให้อวิ๋นซิ่วซิง “รับไปสิ”
อวิ๋นซิ่วชิงที่กำลังคิดจะกลับบ้านเพื่อทอดเห็ดและหน่อไม้เป็นอาหาร ทันใดนั้นกระต่ายก็ตกลงมาในอ้อมแขนของนาง
หญิงสาวหันไปมองและเห็นว่าผูเว่ยชางเข้าบ้านไปแล้ว นางขอบคุณเขาก่อนจะกลับไปพร้อมกับกระต่ายในมือ
คฤหาสน์ของอวิ๋นซิ่วชิงอยู่ห่างจากบ้านของผูเว่ยชางเพียงเล็กน้อย บ้านของผูเว่ยชางอยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน ส่วนคฤหาสน์ของนางอยู่ทางเหนือ
อวิ๋นซิ่วชิงกินหน่อไม้ดิบเป็นอาหารเพียงมื้อเดียวของวันนี้ และนางคิดจะกินข้าวเพียงวันละสองมื้อ
อวิ๋นซิ่วชิงเร่งฝีเท้าของนาง เมื่อนางคิดถึงการกินกระต่ายย่างในตอนกลางคืนโดยที่ไม่รู้เลยว่าชาวบ้านที่นั่งอยู่บนถนนกำลังชี้มาที่นาง
อวิ๋นซิ่วชิงกลับบ้านอย่างราบรื่นตลอดทาง และทันทีที่นางเดินเข้าประตู ก็พบพ่อเฒ่าอวิ๋นนั่งรอนางอยู่บนขั้นบันไดของประตูคฤหาสน์
“ชิงเหนียง ทำไมเจ้ากลับมามืดขนาดนี้” เมื่อเห็นว่าลูกสาวกลับมาถึงบ้านแล้ว พ่อเฒ่าอวิ๋นก็คว้านางมาถามด้วยความเป็นห่วง
“ท่านพ่อ ข้าไม่ได้บอกท่านหรือว่าข้าจะขึ้นภูเขาหาสมุนไพรไปขายในเมืองเพื่อแลกเงิน” อวิ๋นซิ่วชิงรู้ว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นเป็นห่วงนาง ดังนั้นนางจึงหมุนตัวไปรอบ ๆ เพื่อให้ดูของที่ตัวเองหามาได้
หลังจากฟังคำตอบของอวิ๋นซิ่วชิง พ่อเฒ่าอวิ๋นก็สังเกตเห็นกระต่ายและงูอยู่ในมือของนาง เขาก็เชื่อแล้วว่านางขึ้นภูเขาไปหาของขายจริง ๆ
เมื่อเห็นดวงตาที่ยังคงซับซ้อนของพ่อ อวิ๋นซิ่วชิงก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านพ่อ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”
พ่อเฒ่าอวิ๋นส่ายหัวพลางรีบดึงนางเข้าคฤหาสน์ “ไม่เป็นไร ๆ”
อวิ๋นชิ่วซิงคิดว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นยังคงกังวลใจเรื่องอวิ๋นหมิงเซียว ดังนั้นนางจึงชวนท่านพ่อคุยเรื่องของที่นางไปเจอมาในภูเขาอย่างตื่นเต้น “ท่านพ่อ ท่านเดาสิว่าข้าพบอะไรบนภูเขา”
“เจ้าพบอะไร?” พ่อเฒ่าอวิ๋นถามอวิ๋นซิ่วชิงอย่างสงสัย หลังจากดึงอวิ๋นซิ่วชิงกลับไปที่ห้องและเทน้ำร้อนอีกถ้วยให้อวิ๋นซิ่วชิง
”ข้าเจอโสมแล้ว!” อวิ๋นซิ่วชิงพูดแล้ววางงูไว้ข้าง ๆ นางวางตะกร้าลง จากนั้นก็หยิบโสมออกมาอย่างระมัดระวัง
……………………………………………………………………………………………………………………..