ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 269+270 ร้านอวิ๋นผู/หาคนทำป้ายร้าน
บทที่ 269 ร้านอวิ๋นผู
”อะไรก็ได้” อวิ๋นซิ่วชิงยังกล่าวต่ออีกว่า “จริง ๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อทั้งสองของเราก็ได้ มันเป็นแค่ชื่อร้าน”
ผูเว่ยชางส่ายหัว เขาและอวิ๋นซิ่วชิงเลือกร้านนี้ ทั้งสองจัดการให้ร้านนี้เป็นที่ที่พวกเขาจะอยู่ในอนาคต จึงต้องมีชื่อที่สามารถเป็นตัวแทนของพวกเขาได้!
ผูเว่ยชางนั้นจริงจัง แต่อวิ๋นซิ่วชิงคิดเพียงว่าชื่อร้านก็เป็นเพียงชื่อร้านไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญใด ๆ ไม่จำเป็นต้องจริงจัง เพียงแค่สุ่มชื่อขึ้นมา คงไม่เกี่ยวอะไรกับการดึงดูดความมั่งคั่งและการทำเงินได้มากมาย!
ทว่าผูเว่ยชางคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่จะรวมชื่อแซ่ของเขากับอวิ๋นซิ่วชิง ผู้คนจะได้เห็นความสัมพันธ์ของเขากับอวิ๋นซิ่วชิงได้ง่ายขึ้น “ชิงเหนียง แล้วถ้าเป็นคำว่า ‘อวิ๋นผู’ ล่ะ?”
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า “ไม่เลวเลย มันเป็นเพียงชื่อแซ่ของเรา ร้านอวิ๋นผูงั้นหรือ เช่นนั้นหลังอาหารเย็น เราจะหาช่างไม้มาแกะสลักแผ่นโลหะเพื่อทำป้าย”
หลังจากตัดสินใจเลือกชื่อร้านแล้ว อาหารก็ยกมาเช่นกัน อวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้กินอาหารปรุงร้อนมาเป็นเวลานานแล้ว และความสนใจของนางก็ถูกดึงออกไปเมื่ออาหารมาถึง
เมื่อผูเว่ยชางนึกถึงแผ่นโลหะป้ายชื่อร้านที่กำลังจะนำไปแขวนอยู่ที่ประตูร้าน ปากของเขาก็ขยับยกขึ้นเรื่อย ๆ และดื่มเครื่องดื่มเล็ก ๆ สองแก้วในระหว่างมื้ออาหาร
หลังอาหารเย็น หลี่ซานเหมาและคนงานที่มาด้วยกันก็กำลังจะกลับไป ผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิงจึงรีบนำอาหารแห้งมาให้เขาเพื่อให้เขากินระหว่างทาง
หลี่ซานเหมารู้สึกเกรงใจมากจึงพูดว่า “ท่านทั้งสองเป็นห่วงพวกเรามากเกินไป เราทุกคนมีอาหารแห้งอยู่แล้ว”
”ไม่เป็นไร นี่เป็นเพียงสินน้ำใจเล็กน้อย ขอบคุณที่ทำงานหนักให้เราระหว่างทาง และทำให้เราสามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย” อวิ๋นซิ่วชิงยืนอยู่ข้างผูเว่ยชางและยิ้มออกมา
ในขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงและหลี่ซานเหมากำลังพูดคุยกัน ผูเว่ยชางได้ใส่เหรียญทองแดงไว้ในมือของหลี่ซานเหมา
หลี่ซานเหมายังคงคุยกับอวิ๋นซิ่วชิงอยู่ กว่าเขาจะรู้สึกตัวก็มีเหรียญทองแดงอยู่ในมือแล้ว
หลี่ซานเหมาตั้งใจจะคืนเหรียญให้อวิ๋นซิ่วชิง “แม่นางอวิ๋น คุณชายผู เราได้รับอาหารแห้งที่ท่านส่งมาให้เราแล้ว เราจะเก็บเงินของท่านได้อย่างไร? นอกจากนี้เมื่อเรามา นายน้อยไฉ่ได้มอบมันให้กับเราแล้ว”
”รับไปเถอะ พวกเจ้าสมควรได้รับมัน” ผูเว่ยชางกล่าว
”นอกจากนี้ นายน้อยไฉ่ยังให้เงินเจ้าแค่ตอนขามาเท่านั้น นี่คือเงินขากลับของเจ้า รับไว้และรักษาไว้ให้ดี อย่าปฏิเสธ หากเจ้าปฏิเสธอีกครั้งเจ้าอาจไม่สามารถออกจากประตูเมืองก่อนมืดได้” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวยิ้ม ๆ
หลังจากได้ยินสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงพูด หลี่ซานเหมาก็ถือเหรียญไว้ในมือ เขาไม่รู้ว่าจะเอามันไปหรือคืนให้อวิ๋นซิ่วชิงดี?
ผูเว่ยชางมองท่าทางที่ทำอะไรไม่ถูกของหลี่ซานเหมาพลางยิ้ม และใส่เหรียญในมือของหลี่ซานเหมาลงในเสื้อของอีกฝ่าย “รีบไปเถอะ มันมืดแล้ว”
หลี่ซานเหมาออกเดินทางตลอดทั้งปี เขาไม่ค่อยเห็นคนที่มีน้ำใจล้นเหลือกับพวกเขาเหมือนอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชาง หลี่ซานเหมาตาแดงก่ำด้วยความตื้นตัน
”อืม อย่าตะลึง ถ้าเจ้ามัวแต่ตะลึงต่อไปมันจะมืดเสียก่อนนะ” ผูเว่ยชางยิ้มและตบไหล่หลี่ซานเหมา
หลี่ซานเหมาพยักหน้าและพูดอย่างจริงจังว่า “คุณชายผู แม่นางอวิ๋น ถ้าต่อไปพวกท่านต้องการความช่วยเหลือ อย่าลังเลที่จะมาหาข้า ข้าจะพยายามช่วยพวกท่าน”
”ดี เราจะจำคำพูดของเจ้าไว้” ผูเว่ยชางที่เคยชินกับการตลบตะแลงสองหน้าในชนชั้นสูง ตอนนี้เมื่อเห็นความจริงใจของคนธรรมดา เขาก็รู้สึกสบายใจและเต็มใจที่จะเป็นเพื่อนกับคนธรรมดาเหล่านี้
หลังจากนั้น ผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิงได้ส่งหลี่ซานเหมาพร้อมผู้ติดตามของเขาออกจากเมืองเป็นการส่วนตัว ก่อนจะกลับไปที่ร้าน
ระหว่างทางกลับไปที่ร้าน ทั้งสองก็ได้พูดคุยกัน
”ผูเว่ยชาง เทียนต้าจวงและเทียนเอ๋อจวงเองก็ได้ช่วยเรามามาก เราควรขอบคุณพวกเขาด้วย”
ผูเว่ยชางเห็นด้วย “ใช่ สองพี่น้องคู่นี้ซื่อสัตย์มาก พวกเขาดูแลร้านค้าของเราและขุดห้องใต้ดินให้เรา เราต้องขอบคุณพวกเขาจริง ๆ แล้วเราจะให้ค่าจ้างแก่พวกเขาเพิ่มดีหรือไม่?”
…
บทที่ 270 หาคนทำป้ายร้าน
การให้เงินดีกว่าการให้สิ่งของ เพราะเงินสามารถช่วยเหลือผู้คนที่มีครอบครัว หรือสามารถนำไปซื้อของบางอย่างได้…
”เราจะให้รางวัลพิเศษแก่พวกเขา ถ้าเราให้ค่าจ้างสองครั้ง พวกเขาคงจะไม่ยอมรับมันอย่างแน่นอน”
ผูเว่ยชางเองก็คิดอย่างนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะต้องแก้ตัวใหม่ มิฉะนั้นสองพี่น้องจวงก็จะไม่รับเงินของพวกเขาอีก
เทียนต้าจวงและเทียนเอ๋อจวงอยู่ในร้าน ตั้งแต่อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางออกไปส่งหลี่ซานเหมา พวกเขาก็คอยเฝ้าประตูร้านให้คนทั้งคู่
เมื่อก่อนไม่มีอะไรในร้าน พวกเขาจึงไม่กลัวขโมย แต่ตอนนี้ในห้องใต้ดินมีผักเป็นจำนวนมาก แม้ว่ามันจะไม่แพงสำหรับคนธรรมดา แต่ก็ไม่สามารถละเลยได้ จึงต้องมีคนคอยเฝ้าพวกมัน
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางเข้ามาในร้าน เทียนต้าจวงและเทียนเอ๋อจวงก็ยืนขึ้นด้วยรอยยิ้ม “แม่นางอวิ๋น คุณชายผู เมื่อพวกเจ้ากลับมาแล้ว เราก็ควรกลับไป”
”เดี๋ยวก่อน ๆ!” จากนั้นผูเว่ยชางก็หยิบเหรียญทองแดงสองเหรียญออกมา และเตรียมให้เทียนต้าจวงและเทียนเอ๋อจวง
เทียนต้าจวงซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เห็นเหรียญที่ผูเว่ยชางชางหยิบออกมาอย่างรวดเร็ว เขาเดาว่าผูเว่ยชางคงกำลังจะมอบให้กับเขาและน้องชาย ซึ่งพวกเขาจะไม่มีทางรับเงินมาแน่
เนื่องจากก่อนที่ผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิงจะเดินทางไป ทั้งสองคนได้ให้เงินพวกเขาไว้แล้ว อีกทั้งหญิงสาวยังได้รักษาลูกชายของเอ๋อจวงโดยไม่คิดเงินอีกด้วย
เทียนต้าจวงฉลาดกว่าเทียนเอ๋อจวง เมื่อเขารู้ความคิดของผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิง เขาก็รีบพาเทียนเอ๋อจวงออกไปทันที
ก่อนจากไปเขาก็พูดกับชายหญิงทั้งสองว่า “แม่นางอวิ๋น คุณชายผู พวกข้าขอลาก่อน”
ผูเว่ยชางเพิ่งจะหยิบเหรียญออกมา เขายังไม่ทันได้เอ่ยอะไรและเตรียมที่จะมอบมันให้กับเทียนต้าจวงและเทียนเอ๋อจวง แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองอีกทีก็ไม่มีวี่แววของสองพี่น้องแล้ว ได้ยินเพียงคำพูดทิ้งท้ายของเทียนต้าจวงเท่านั้น
”สองพี่น้องคู่นี้เร็วมาก” ผูเว่ยชางทำอะไรไม่ถูก
อวิ๋นซิ่วชิงหัวเราะคิกคัก นางไม่สามารถหยุดหัวเราะได้ “เอาไว้ข้าจะให้มันกับพวกเขาเมื่อพบกันคราวหน้า”
”ก็คงจะต้องทำอย่างนั้น” ผูเว่ยชางยิ้ม และเก็บเหรียญทองแดงกลับเข้าไปในแขนเสื้อของเขา
หลังจากเทียนต้าจวงและเทียนเอ๋อจวงจากไป อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางก็ปิดร้าน และเตรียมไปหาช่างไม้สลักแผ่นโลหะทำป้ายชื่อร้าน
อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางโชคดี เพราะทันทีที่พวกเขาออกไป พวกเขาก็ได้พบกับหยาหลางที่เคยช่วยพวกเขาหาซื้อร้านค้า และยังเคยหาสองพี่น้องจวงมาขุดห้องใต้ดินให้
เมื่อหยาหลางเห็นอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชาง เขาก็พูดขึ้นว่า “แม่นางอวิ๋นคุณชายผู พวกท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ข้ามาที่ร้านเมื่อไม่กี่วันก่อน ต้าจวงบอกข้าว่าท่านมีธุระต้องไปทำ”
”ข้าเพิ่งกลับมาวันนี้ เจ้าทานอาหารเย็นหรือยัง?” อวิ๋นซิ่วชิงถามด้วยรอยยิ้ม
”ข้าเพิ่งทานมา และกำลังออกมาดูว่ามีงานอะไรทำบ้างไหม?” หยาหลางไม่อายที่จะบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังจากแลกเปลี่ยนคำทักทายกับหยาหลางแล้ว ผูเว่ยชางก็ถามหยาหลางเกี่ยวกับช่างไม้ “พี่ชาย เจ้ารู้ไหมว่าใครเป็นช่างไม้ที่นี่? ข้าต้องการหาช่างไม้ที่สามารถแกะสลักได้อย่างรวดเร็วและมีผลงานดี”
”มีสิ ช่างไม้ในเมืองมีงานฝีมือที่ดีที่สุด ครอบครัวหวังอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของเมือง เมื่อเจ้าไปถึงทางใต้ของเมืองก็ไม่จำเป็นต้องมองหามาก เพราะพวกเจ้าจะได้กลิ่นไม้ทันที” หยาหลางเดินไปรอบ ๆ เมืองทั้งวันย่อมรู้ว่าใครทำอะไรที่ไหน
”ขอบคุณมากพี่ชาย” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวอย่างสุภาพ
”ด้วยความยินดี เจ้าต้องการคนนำทางไหม? หรือข้าจะพาเจ้าไปที่นั่นดี”
หยาหลางกลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางจะไม่คุ้นเคยกับถนนในเมือง และสถานที่แห่งนี้ยังอยู่ไกลจากบ้านของช่างไม้หวังเล็กน้อย เขากลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางจะหลงทางอีกครั้ง
”ไม่ ไม่เป็นไร เมื่อไปถึงทางใต้ ข้าจะทำตามที่ท่านบอก ท่านไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับพวกเรา” ผูเว่ยชางยิ้มและปฏิเสธ เขาเคยมาที่เมืองนี้หลายครั้ง และเขาคุ้นเคยกับที่นี่ดี