ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 257+258 การพึ่งพาอาศัยกัน/อาหารมังสวิรัติ
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 257+258 การพึ่งพาอาศัยกัน/อาหารมังสวิรัติ
บทที่ 257 การพึ่งพาอาศัยกัน
นายน้อยไฉ่ตอบรับด้วยรอยยิ้ม เขาคิดว่าดูจากท่าทางของอวิ๋นซิ่วชิงแล้ว การพิชิตใจของผูเว่ยชางนั้นยังคงห่างไกล
อวิ๋นซิ่วชิงตื่นขึ้นมาเพราะความหิวโหย นางฝันว่านางนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร มีอาหารทุกชนิดบนโต๊ะ เช่น อุ้งเท้าหมูดอง อุ้งเท้าหมูตุ๋น และไก่ย่าง
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงกำลังจะกิน ปรากฏว่าอาหารทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าพลันหายไป!
อวิ๋นซิ่วชิงกังวลมากจนลืมตาขึ้น แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นมาก็ได้ยินเสียงท้องของนางคำราม
อวิ๋นซิ่วชิงยกมือขึ้นสัมผัสท้องที่หิวโหยของตัวเอง จากนั้นก็สังเกตเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย
ห้องพักทั้งเล็กและมืด เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยนี้ อวิ๋นซิ่วชิง ก็ตื่นตัวทันที
”ผูเว่ยชาง! ผูเว่ยชาง!” อวิ๋นซิ่วชิงไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน พยายามตะโกนเรียกผูเว่ยชาง
ผูเว่ยชางและนายน้อยไฉ่นั่งอยู่ในห้องถัดไป พวกเขากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าอึดอัดใจ
ทันใดนั้นผูเว่ยชางก็ได้ยินเสียงของอวิ๋นซิ่วชิง ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นยืนและเดินออกไปทันที
นายน้อยไฉ่ไม่คาดคิดว่าผูเว่ยชางจะตอบสนองเร็วขนาดนี้ เขาเพิ่งได้ยินเสียงของอวิ๋นซิ่วชิง แต่ผูเว่ยชางนั้นได้ออกไปแล้ว นายน้อยไฉ่คิดว่านี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมผูเว่ยชางจึงล่าสัตว์บนภูเขาได้ตลอดทั้งปี
”ข้าอยู่นี่” ก่อนที่ผูเว่ยชางจะเข้ามาในห้อง เขาก็ส่งเสียงขึ้นมาก่อน
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงของผูเว่ยชาง นางรีบไปที่ประตู
ทันทีที่นางกำลังจะเปิด ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านนอกแล้ว
”ผูเว่ยชาง เจ้าทำอะไรอยู่?!” อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้วถาม
”ข้าเห็นว่าเจ้าหลับอยู่ ข้ากับนายน้อยไฉ่จึงรออยู่ห้องข้าง ๆ เพื่อรอเจ้าตื่น”
เมื่อเขาเห็นสีหน้าอวิ๋นซิ่วชิงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก็รีบไปข้างหน้าและตบหลังนางเพื่อปลอบประโลม
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงได้ยินว่าผูเว่ยชางอยู่ในห้องถัดไป นางก็นึกโล่งใจ “ผูเว่ยชาง ที่นี่คือที่ไหน?”
”เรายังอยู่ในพระวิหาร เจ้าลืมแล้วหรือ? เจ้าหลับไปขณะฟังพระสวด ข้าจึงหาห้องเล็ก ๆ ให้เจ้านอน”
ผูเว่ยชางรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าสีหน้าของนางดูดีขึ้นมาแล้ว
อวิ๋นซิ่วชิงจำฉากที่น่าอับอายของนางได้ นางหลับไปต่อหน้าผู้คนมากมาย แต่นางก็ไม่ได้ตำหนิตัวเอง เพราะนางไม่ได้ตั้งใจที่จะทำเช่นนั้น ตอนนั้นนางเหนื่อยมาก
นอกจากนี้เสียงสวดก็ฟังดูเหมือนเพลงกล่อมเด็ก มันยากนักสำหรับนางที่จะไม่หลับไปเสียก่อน
อวิ๋นซิ่วชิงกระแอมไอเบา ๆ และซ่อนความอับอายของนาง “อะไรนะตอนนี้เป็นเวลาอะไรแล้ว?”
ผูเว่ยชางหัวเราะและพูดว่า “เย็นแล้ว”
”ไม่แปลกใจเลยที่ห้องมืดมาก ข้านอนหลับไปทั้งบ่าย เพราะเมื่อคืนข้าไม่ได้นอนเลย เดาว่าวันนี้ข้าก็คงนอนไม่หลับอีกแล้ว” อวิ๋นซิ่วชิงคร่ำครวญ
”อะไรนะ? เมื่อคืนเจ้าไม่ได้นอนหรือ?” ผูเว่ยชางขมวดคิ้ว
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้าด้วยสีหน้ากังวล ดูเหมือนว่านางจะต้องไปที่ห้องอ่านหนังสืออีกครั้งในคืนนี้
”แม่นางอวิ๋น เจ้าตื่นหรือยัง?” หลังจากรออยู่ในห้องถัดไป ครู่หนึ่งนายน้อยไฉ่ก็เข้ามา เขาคิดว่าอวิ๋นซิ่วชิงต้องพูดอะไรบางอย่างกับผูเว่ยชางชางเป็นการส่วนตัว มันคงไม่ดีสำหรับเขาที่ยังเป็นคนนอกแล้วมาอยู่ฟังด้วย ดังนั้นเขาจึงรออยู่ในห้องถัดไป
”ข้าตื่นขึ้นแล้ว ข้าขอโทษด้วย ทั้ง ๆ ที่ท่านอุตส่าห์พาข้ามาเที่ยววัดจิงเหอ แต่ข้ากลับนอนหลับไปทั้งบ่าย”
อวิ๋นซิ่วชิงอับอายอย่างมาก
นายน้อยไฉ่ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่เป็นไรเลยแม่นางอวิ๋น ข้าได้ยินมาว่าอาหารมังสวิรัติในวัดจิงเหอก็มีรสชาติดีเช่นกัน ทำไมเราไม่ลองไปทานอาหารที่นั่นก่อนกลับล่ะ?”
อวิ๋นซิ่วชิงกำลังหิว เมื่อนางได้ยินว่ามีของกิน ท้องของนางก็ร้องออกมาต่อหน้าทุกคน
และอวิ๋นซิ่วชิงก็ถึงกับหน้าแดงด้วยความอาย
…
บทที่ 258 อาหารมังสวิรัติ
แน่นอนว่านายน้อยไฉ่ได้ยินเสียงท้องร้องของอวิ๋นซิ่วชิงก็หัวเราะออกมา “แม่นางอวิ๋น ไปกันเถอะ”
อวิ๋นซิ่วชิงหัวเราะแห้ง ๆ และผูเว่ยชางก็ติดตามนายน้อยไฉ่ไปที่โรงอาหารเล็ก ๆ ของวัดจิงเหอ ซึ่งเตรียมไว้เป็นพิเศษโดยพระในวัด เพื่อผู้แสวงบุญจากแดนไกล
ทั้งสามคนเลือกโต๊ะมุมหนึ่งแล้วนั่งลง มีคนจำนวนมากในโรงอาหารนี้
หลังจากจ้องมองสักพักอวิ๋นซิ่วชิงก็หันไปหานายน้อยไฉ่และถามว่า “เราไม่ต้องสั่งอาหารหรือ?”
นายน้อยไฉ่ไม่เคยมาวัดจิงเหอ และเขาก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับกฎของที่นี่ “มันไม่จำเป็น ข้าได้ยินคนอื่นพูดว่าพระภิกษุหนุ่มจะนำอาหารมาให้เมื่อถึงเวลา”
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้าแล้วนั่งรอ
หลังจากรอสักครู่หนึ่ง นางก็ไม่สามารถรอได้อีกต่อไป อาจเป็นเพราะวันนี้นางใช้พลังงานมากเกินไปจากการเดินขึ้นบันได นางจึงหิวอย่างมาก
อวิ๋นซิ่วชิงถอนหายใจและแทบจะกินโต๊ะ
ผูเว่ยชางรีบหยิบเนื้อแห้งจากกระเป๋าเสื้อแล้วมอบให้อวิ๋นซิ่วชิง
ทันใดนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็พลันตาสว่างขึ้น ก่อนจะหยิบเนื้อแห้งในมือของผูเว่ยชางแล้วใส่เข้าไปในปาก “ผูเว่ยชาง ทำไมเจ้าถึงยังมีเนื้อแห้งอยู่?”
ผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ไฉ่มาจนถึงทุกวันนี้ ตระกูลไฉ่ใจดีกับพวกเขามาก พวกเขาส่งอาหารจำนวนมากให้กินทุกวันในรูปแบบที่แตกต่างกัน ดังนั้นอาหารที่พวกเขาเตรียมระหว่างทางจึงไม่ดีเท่าอาหารของคฤหาสน์ไฉ่
แต่โชคดีที่ผูเว่ยชางเตรียมการไว้เป็นพิเศษ อย่างเช่นเนื้อแห้งนี้
ผูเว่ยชางคิดว่าบางทีอวิ๋นซิ่วชิงอาจจะหิวในวันหนึ่งระหว่างการเดินทาง และเนื้อแห้งของเขาสามารถบรรเทาความหิวได้
ผูเว่ยชางไม่คิดว่าเนื้อแห้งของเขาจะถูกนำออกมากินเร็วขนาดนี้ “ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าข้ามักจะมีเนื้อแห้งติดตัวเสมอ”
ผูเว่ยชางรู้สึกอายที่จะบอกว่าเขาเก็บเนื้อแห้งไว้กับตัวเพราะอวิ๋นซิ่วชิง ดังนั้นเขาจึงบอกว่ามันเป็นนิสัยของเขาแทน
ฟันของอวิ๋นซิ่วชิงบดเนื้อแห้งทีละนิด เนื้อแห้งมีรสชาติเหมือนเมื่อก่อน มันอร่อยจริง ๆ “ผูเว่ยชางเจ้าเป็นคนดีมาก”
ผูเว่ยชางยิ้ม มีเพียงอวิ๋นซิ่วชิงเท่านั้นที่บอกว่าดี ดังนั้นไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ผูเว่ยชางตัดสินใจว่าเขาจะเก็บเนื้อแห้งไว้กับตัวเสมอ
หากอวิ๋นซิ่วชิงต้องการกิน เขาสามารถมอบให้หญิงสาวได้ทันที
หลังจากที่อวิ๋นซิ่วชิงกินเนื้อแห้งชิ้นหนึ่งแล้ว มันก็ช่วยรองท้องได้มาก
หลังจากระฆังดังขึ้น พระภิกษุหนุ่มก็เริ่มแจกจ่ายอาหารให้ผู้คน แต่ละโต๊ะมีเพียงอาหารสามจานและข้าวสวยหนึ่งชามสำหรับแต่ละคน
อวิ๋นซิ่วชิงเงยหน้าขึ้นมองและเห็นเต้าหู้ถั่วตุ๋น กะหล่ำปลีทอด แคร์รอต และมันฝรั่งผัด “นายน้อยไฉ่ เจ้าได้ยินมาจากไหนว่าอาหารที่นี่ดี?”
นายน้อยไฉ่ไม่ได้คาดหวังว่าอาหารที่นี่จะเรียบง่าย เขาถึงกับอับอาย “ข้าถามเพื่อนของข้าเป็นการส่วนตัวแล้ว และพวกเขาทั้งหมดบอกว่าอาหารมังสวิรัติที่นี่อร่อยมาก”
อวิ๋นซิ่วชิงเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
นางถึงกับพูดอะไรไม่ออก ก่อนจะหยิบเต้าหู้ชิ้นหนึ่งมากิน มันไม่ได้เลวร้ายนัก แต่มันก็ไม่อร่อยเท่าที่ควร…
อวิ๋นซิ่วชิงหันไปหานายน้อยไฉ่ เขากินเยอะมาก ทันใดนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็เข้าใจว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงบอกว่าอาหารมังสวิรัติที่นี่อร่อย…
คนที่เป็นเหมือนนายน้อยไฉ่ล้วนเป็นคนรวย คนรวยกินอาหารอันโอชะจากภูเขาและทะเลทุกวัน เมื่อพวกเขาได้กินอาหารมังสวิรัติบ้างจึงคิดว่ามันอร่อย
”แม่นางอวิ๋น แม้ว่าอาหารเหล่านี้จะดูไม่ดี แต่ก็มีรสชาติดีทีเดียว”
นายน้อยไฉ่พยักหน้าขณะกิน
อวิ๋นซิ่วชิงมองไปที่อาหารแสนอร่อยของนายน้อยไฉ่ และพูดด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ “ใช่ มันอร่อยมาก!”