ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 227+228 เข้าเมือง/พักโรงเตี๊ยมในเมืองฉางอัน
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 227+228 เข้าเมือง/พักโรงเตี๊ยมในเมืองฉางอัน
บทที่ 227 เข้าเมือง
”ชุ่ยหง เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? กลับไปพักฟื้นเสีย!” เล่ยถิงขมวดคิ้วถาม
”ไม่! ข้าจะไม่กลับไปจนกว่าข้าจะพบสามีของข้า! ฮือ ๆๆๆ!” ชุ่ยหงยังคงร้องไห้
อวิ๋นซิ่วชิงกะพริบตามองเหตุการณ์ตรงหน้า นางเห็นมือของชุ่ยหงถูกพันผ้าไว้ราวกับกีบเท้าหมู นางจึงหันไปถามผูเว่ยชางซึ่งกำลังมองดูชุ่ยหงอย่างไร้อารมณ์ “ผูเว่ยชาง เจ้าทำให้ชุ่ยหงมีสภาพแบบนั้นหรือ?”
อาการของชุ่ยหงดูดีขึ้นมากในเวลานี้
เมื่อคืนที่ผ่านมา ผูเว่ยชางได้หักกระดูกนิ้วมือทั้งหมดของชุ่ยหง และหักกระดูกแขนข้างหนึ่งของชุ่ยหงด้วย
หากอวิ๋นซิ่วชิงเห็นสถานการณ์ที่น่าสังเวชของชุ่ยหงเมื่อคืนนี้ นางคงจะนึกสงสารชุ่ยหงที่โดนผูเว่ยชางเล่นงานเสียจนยับเยิน…
”เมื่อคืนข้าเค้นถามนางว่าเจ้าอยู่ที่ไหน? นางเอาแต่ตอบว่าไม่รู้ ข้ารีบร้อนและโมโหมาก จึงลงโทษนางสักเล็กน้อย” ผูเว่ยชางพูดอย่างใจเย็น
อวิ๋นซิ่วชิงไม่คิดว่าผูเว่ยชางจะเค้นถามชุ่ยหงเพียงเพราะเรื่องของนาง อย่างไรก็ตาม หากชุ่ยหงรู้จริง ๆ ว่าตอนนั้นนางอยู่ที่ไหน ชุ่ยหงก็คงเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้แล้ว!
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกว่าอาการบาดเจ็บของชุ่ยหงเกี่ยวข้องกับนาง นางจึงต้องการช่วยเหลือชุ่ยหง
อวิ๋นซิ่วชิงเดินไปหาเล่ยถิง หลังจากดูแลเล่ยถิงแล้ว นางก็หันไปมองชุ่ยหงที่นั่งอยู่บนพื้น
เมื่อชุ่ยหงเห็นอวิ๋นซิ่วชิง นางก็รู้สึกย่ำแย่และนึกอิจฉาอีกฝ่าย แต่เมื่อนางเห็นผูเว่ยชางยืนอยู่ข้างหลังหญิงสาว ชุ่ยหงก็หดคอของนางลงด้วยความหวาดกลัว
”ชุ่ยหง เจ้าอยากหาสามีจริง ๆ หรือ?” อวิ๋นซิ่วชิงถามเบา ๆ
ชุ่ยหงพยักหน้าด้วยดวงตาสีแดงก่ำจากการร้องไห้อย่างหนัก นางอยากแต่งงานเพราะต้องการแก้แค้น ทว่าแท้จริงแล้ว…นางต้องการอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต แต่แม่ของนางให้ความฝันกับนางเพราะอยากเห็นนางแต่งงานกับสามีที่พึงปรารถนา แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่อ้วนฉุและไม่มีความสะสวย จึงไม่มีใครกล้ามาสู่ขอนาง
เมื่อนางพบผูเว่ยชาง นางก็คิดได้แค่ว่าผู้ชายรูปหล่อคนนี้ต้องเป็นสามีของนางเท่านั้น แต่นางไม่เคยคิดว่าชายหนุ่มรูปหล่อผู้นี้จะโหดร้ายจนเกือบจะฆ่านางได้แล้ว!
”ข้าสามารถให้ใบสั่งยาแก่เจ้าเพื่อทำให้เจ้าผอมลง แล้วหาสามีที่ดีแบบที่เจ้าชอบได้” อวิ๋นซิ่วชิงพูดช้า ๆ
”จริงหรือ?” เมื่อชุ่ยหงได้ยินว่าอีกฝ่ายมีวิธีที่จะทำให้นางผอมลง นางก็มองไปที่อวิ๋นซิ่วชิงด้วยแววตาที่สดใส
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า “มันจะทำให้เจ้าผอมลงอย่างแน่นอน แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้ก็มาหาข้า”
”ตกลง ตกลง โปรดเขียนใบสั่งยาให้ข้า!” ชุ่ยหงพูดอย่างใจร้อน
อวิ๋นซิ่วชิงตอบรับด้วยรอยยิ้มและเข้าไปในห้องของเล่ยถิงเพื่อเขียนใบสั่งยาลดน้ำหนักให้ชุ่ยหง
อวิ๋นซิ่วชิงรู้ว่าความแข็งแกร่งของชุ่ยหงนั้นไม่น้อยเลย และนางได้เรียนรู้จากเล่ยถิงว่าชุ่ยหงเป็นคนที่ออกกำลังกายบ่อย ๆ แต่คนที่ออกกำลังกายบ่อย ๆ ก็ยังคงอ้วนอยู่ จึงมีวิธีเดียวเท่านั้นนั่นคือการดื่มยาระบายไขมันควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย เพียงไม่นาน นางจะต้องผอมลงแน่นอน
อวิ๋นซิ่วชิงให้ใบสั่งยาที่ดีแก่ชุ่ยหง “จำไว้ว่าดื่มสามแก้วทุกวัน กินอาหารเพียงครึ่งมื้อต่อมื้อ จากนั้นก็วิ่งไปรอบ ๆ ภูเขาเฮ่ยเฟิงทุกเช้าและเย็น ในหนึ่งเดือนเจ้าจะผอมลงอย่างแน่นอน แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้ เจ้าก็คงไม่อยากลดน้ำหนักไปตลอดชีวิต”
”ข้าทำได้!” ชุ่ยหงเก็บใบสั่งยาที่อวิ๋นซิ่วชิงมอบให้นางไว้อย่างระมัดระวังและรีบออกไป
หลังจากชุ่ยหงจากไป อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางก็กล่าวคำอำลากับเล่ยถิงซึ่งยังมอบเนื้อให้พวกเขามาด้วย จากนั้นผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิงก็ออกจากฐานที่มั่นเฮ่ยเฟิงด้วยรถม้าของพวกเขา
ความโชคร้ายของอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของการเดินทางที่ผ่านมา ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังของการเดินทาง พวกเขาจึงเดินทางได้อย่างราบรื่นเป็นพิเศษ
สองวันต่อมา พวกเขาก็มาถึงเมืองฉางอันในเวลาเย็น
อวิ๋นซิ่วชิงยืนอยู่ในรถม้าและมองไปยังเมืองฉางอันซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา
ทันใดนั้นนางก็ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า “ผูเว่ยชาง ในที่สุดเราก็มาถึง!”
ผูเว่ยชางยิ้มและพยักหน้า “ใช่ เรามาถึงแล้ว เจ้ารีบนั่งลงเถอะ เราต้องรีบเข้าไปในเมือง ไม่เช่นนั้นเมื่อพระอาทิตย์ตกดินแล้วประตูจะปิดลง”
หลังจากได้ยินคำพูดของผูเว่ยชาง อวิ๋นซิ่วชิงก็รีบนั่งลงบนแคร่และกระตุ้นให้ผูเว่ยชางรีบเข้าไปในเมือง
จากนั้นผูเว่ยชางก็ขับรถม้าเข้าไปในเมือง
เมื่อผูเว่ยชางผ่านประตูเมืองเข้าไป เขาก็หันไปถามอวิ๋นซิ่วชิง
”ชิงเหนียง เรามาหาโรงเตี๊ยมกันก่อน ร้านค้าบางแห่งปิดให้บริการในขณะนี้ ทำไมเราไม่พักผ่อนสักคืนและออกมาในวันพรุ่งนี้ล่ะ?”
…
บทที่ 228 พักโรงเตี๊ยมในเมืองฉางอัน
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกว่าผูเว่ยชางพูดถูก นางจึงพยักหน้าเห็นด้วย
เมืองฉางอันมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก และยังมีโรงเตี๊ยมดี ๆ หลายแห่ง ผูเว่ยชางตามหาโรงเตี๊ยมสองแห่งติดต่อกัน ก่อนจะพบโรงเตี๊ยมหนึ่งแห่งที่ยังเหลืออีกสองห้อง
เขาเข้าไปในโรงเตี๊ยมและชำระเงินมัดจำ หลังจากที่ได้รับหมายเลขห้องมาแล้ว เขาก็เรียกหญิงสาวที่อยู่ในรถม้าออกมา
อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางนำสัมภาระไปที่ห้องพัก ในขณะที่เสี่ยวเอ้อก็ออกมาดึงรถม้าไปไว้ที่สวนหลังบ้าน
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเข้าไปในห้องพัก นางก็โยนสัมภาระของนางลงบนโต๊ะอาหาร แล้วโยนตัวเองลงบนเตียงเพื่อพักผ่อน ในช่วงสองวันที่ผ่านมานางและผูเว่ยชางอาศัยอยู่ในที่โล่งและกินอาหารได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในที่สุดพวกเขาก็สามารถพักผ่อนในที่ดี ๆ ได้เสียที
หลังจากที่ผูเว่ยชางนำสิ่งของของเขากลับเข้าไปในห้อง เขาก็มาที่ห้องของอวิ๋นซิ่วชิง
ประตูห้องของอวิ๋นซิ่วชิงยังเปิดอยู่ ผูเว่ยชางเคาะประตูแล้วเดินเข้าไป
”ชิงเหนียง เจ้าค่อยนอนทีหลัง ตอนนี้ออกไปทานอาหารเย็นกันเถอะ” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตั้งท่าจะหลับ ผูเว่ยชางก็รีบดึงอวิ๋นซิ่วชิงขึ้นมา
อวิ๋นซิ่วชิงยกเปลือกตาขึ้นมองไปที่ผูเว่ยชางพลางขมวดคิ้วและพูดว่า ” อย่ากินอีกเลย ข้าหมดแรงแล้ว ให้ข้านอนสักพักเถอะ”
หลังจากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็หลับตาลง
ผูเว่ยชางหัวเราะ “ชิงเหนียง เจ้าไม่ได้บอกว่าหากเจ้ามาที่เมืองฉางอันแล้วจะกินไก่ย่างหรือ? แล้วตอนนี้เจ้าไม่อยากกินแล้ว?”
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงได้ยินคำว่า ‘ไก่ย่าง’ ดวงตาของนางก็เปิดออกทันที
ก่อนหน้านี้นางและผูเว่ยชางกินแต่เนื้อแห้งและผักมาระหว่างทาง แต่พวกเขาไม่ได้กินไก่เลย นางจึงพูดว่านางต้องกินไก่ย่างให้ได้เมื่อไปถึงเมืองฉางอัน
”ผูเว่ยชาง เจ้าแย่มาก!” อวิ๋นซิ่วชิงลุกขึ้นจากเตียงและจ้องมองผูเว่ยชางอย่างโกรธ ๆ
ผูเว่ยชางมองไปที่รูปร่างเล็ก ๆ ของอวิ๋นซิ่วชิงและหัวเราะ “แล้วปลาตุ๋นอีกตัวล่ะ?”
อวิ๋นซิ่วชิงลุกขึ้นจากเตียงทันทีและผลักผูเว่ยชาง ก่อนจะพูดว่า “รีบไป ๆ!”
ผูเว่ยชางหัวเราะคิกคักและลงไปข้างล่างกับอวิ๋นซิ่วชิง โรงเตี๊ยมแห่งนี้มีสองชั้นพร้อมห้องพักด้านบนและอาหารที่ด้านล่าง
พวกเขาเลือกมุมหนึ่งแล้วนั่งลง สั่งไก่ย่างและปลาตุ๋นพร้อมอาหารจานร้อนสามจาน และข้าวอีกสองชาม
เสี่ยวเอ้อของที่นี่มีความกระตือรือร้นอย่างมากและเข้ามาเพิ่มหม้อชาร้อนให้กับอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชาง จากนั้นก็ไปที่ห้องครัวเพื่อส่งเมนูอาหาร
หลังจากที่ผูเว่ยชางรินน้ำชาให้อวิ๋นซิ่วชิงและตัวเขาเอง พวกเขาก็เริ่มฟังบทสนทนาของโต๊ะถัดไป
อวิ๋นซิ่วชิงดื่มชาและฟังการนินทาของคนอื่นไปพลาง ๆ ได้ความว่าพรุ่งนี้ครอบครัวสกุลไฉ่กำลังเปิดการแข่งขันประลองยุทธ์กันเพื่อคัดเลือกหาคู่แต่งงาน
อวิ๋นซิ่วชิงสนใจเรื่องนี้มาก นางเคยเห็นเรื่องพวกนี้ทางทีวีในยุคปัจจุบันเท่านั้น ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้พบกับเหตุการณ์นี้จริง ๆ
ผูเว่ยชางเห็นว่าหญิงสาวสนใจ เขาก็ยิ้มและพูดว่า “พรุ่งนี้เมื่อเราเลือกแหล่งสินค้าของเราได้แล้ว เราจะไปดูกัน”
”พรุ่งนี้อาจไม่ว่างก็ได้” แม้ว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะสนใจการแข่งขันศิลปะการต่อสู้พวกนั้น แต่นางก็แค่อยากรู้เท่านั้น ไม่อาจเทียบได้กับงานที่จริงจังของนาง
จากนั้นเสี่ยวเอ้อก็มาพร้อมกับอาหาร อวิ๋นซิ่วชิงหยิบตะเกียบขึ้นมาและเริ่มกินจนกระทั่งท้องของนางเต็มแล้วจึงหยุดกิน
หลังจากรับประทานอาหารแล้ว ทั้งสองก็กลับไปที่ห้องพักของพวกเขา
หลังจากกลับไปที่ห้องพัก อวิ๋นซิ่วชิงก็กลัวว่านางจะหลับยาวเหมือนคราวนั้น นางจึงรีบเตือนผูเว่ยชางว่า “ผูเว่ยชาง พรุ่งนี้เจ้าช่วยปลุกข้าแต่เช้าตรู่ด้วย เพื่อที่ข้าจะได้ไม่พลาดเวลาในช่วงเช้า”
ผูเว่ยชางยิ้มและพยักหน้า “ตกลง ข้ารู้แล้ว กลับไปที่ห้องของเจ้าเถอะ แต่อย่าเพิ่งนอน เพราะข้าได้บอกให้เสี่ยวเอ้อนำน้ำร้อนมาให้เจ้า…”